เครียด...ปฏิปักษ์ความงาม

     นอกจากความเครียดจะเป็นบ่อนทำลายสุขภาพกายและใจแล้ว ที่สำคัญยังเป็นตัวฉุดดึงความงามให้เสื่อมโทรมก่อนวัยอันควรอีกด้วย มาดูกันว่าเครียดทำให้เสียโฉมได้อย่างไรบ้าง

ผิวเสียหาย
     ระบบการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกายก็เหมือนกับตัวโดมิโนที่เรียงต่อกัน เมื่อตัวหนึ่งล้ม แรงปะทะก็ทำให้ตัวต่อ ๆ ไปต้องล้มตามไปด้วย ดังนั้นเมื่อร่างกายปั่นป่วนจากความเครียด ชั้นผิวหนังที่ทำหน้าที่ควบคุมความชุ่มชื้น ผลิตสารเคลือบผิว(ซีบรัม) และขับของเสียออกทางรูขุมขนจึงทำหน้าที่บกพร่อง บวกกับการนอนหลับไม่เพียงพอ และท้องผูก จึงก่อให้เกิดปัญหาผิวพรรณตามมามากมาย ดังนี้
     สิวขึ้น - สิวที่ไม่ใช่ "สิวสาว" หรือสิวที่เกิดจากการแพ้สารบางอย่าง อาจมีสาเหตุมาจากฮอร์โมนไม่สมดุล  ทางแก้ ลดผลิตภัณฑ์อาหารที่ทำจากนมและอาหารที่มีไขมันมาก ให้ความสำคัญกับการทำความสะอาดร่างกายเพราะแบคทีเรียอาจทำให้สิวอักเสบลุกลาม ซึ่งไม่ควรเน้นเฉพาะใบหน้าเท่านั้น สิวอาจเกิดที่แผ่นหลัง ลำคอ และแผ่นอกได้ด้วย ใช้สบู่อ่อน ๆ ที่มีความเป็นกลาง ครีมที่ใช้ควรอ่อนโยนต่อผิว อาจมีสารต่อต้านการเกิดสิวหรือสารบำรุงผิวด้วยก็ได้แต่ควรทดสอบการแพ้ก่อนทุกครั้ง
ผู้หญิงมักจะมีสิวขึ้นก่อนมีประจำเดือน ซึ่งเป็นธรรมชาติของร่างกายไม่ต้องวิตกกังวลมาก ปฏิบัติตัวตามปรกติค่ะ
     ผิวแห้งง่าย - ความสามารถในการผลิตมอยส์เจอไรเซอร์ธรรมชาติหรือซีบรัมลดลง ทำให้เซลล์ผิวหนังแห้งและหยาบ ผิวเหี่ยวย่น เกิดริ้วรอยก่อนวัย ซีดเซียว หมองคล้ำได้ง่าย ริมฝีปากแห้งลอก  ทางแก้ บำรุงผิวและริมฝีปากด้วยครีม โลชั่น ลิปสติกที่มีส่วนผสมของมอยส์เจอไรเซอร์เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว และวิตามินอี ช่วยซ่อมแซมผิวเสียให้กลับมาดีดังเดิม
      ผิวแพ้ง่าย - มีลักษณะเป็นผื่นแดง แพ้สิ่งต่าง ๆ ได้ง่าย เช่น ฝุ่นละออง แสงแดด น้ำประปา(มีคลอรีนผสมอยู่) ฯลฯ บ้างเป็นตุ่มน้ำใสเม็ดเล็ก บ้างอักเสบพุพอง มีอาการของโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง ได้แก่ เริม ขยุ้มตีนหมา ขยุ้มตีนแมว งูสวัด ซึ่งเป็นผลมาจากภูมิคุ้มกันของร่างกายน้อยลงเพราะความเครียดนั่นเอง  ทางแก้ ใช้ครีมหรือบาล์มที่มีตัวยาแก้แพ้และฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังก่อน ไม่ควรซื้อยาทาเอง รักษาความสะอาดผิวหนังอย่างเคร่งครัด
     เกิดถุงใต้ตา - รวมไปถึงผิวใต้ตาคล้ำ เกิดริ้วรอยรอบดวงตา นัยตาไม่สดใส ซึ่งเป็นผลมาจากการพักผ่อนไม่เพียงพอ  ทางแก้ ใช้ครีมที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากแตงกวา ดอกคาโมมายล์ วิตามินเอและอี วางถุงชาหรือแตงกวาหั่นขวางบนดวงตาสักครู่ หรือแก้ปัญหาง่าย ๆ โดยให้เวลากับการนอนหลับมากขึ้น

ผมถูกทำลาย
     เส้นผมและหนังศีรษะก็เป็นอวัยวะที่อ่อนไหวต่อการเปลี่ยนแปลงของร่างกายได้ง่ายเช่นเดียวกับผิว อย่างที่บอกว่าความเครียดเป็นปฏิกิริยาลูกโซ่ เมื่อระบบดูดซึมอาหารมีปัญหา สารอาหารที่จะไปหล่อเลี้ยงเส้นผมก็น้อยลงด้วย ทำให้สร้างโปรตีนเคอราตีน (Keratin) ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของเส้นผมได้น้อยลง เส้นผมเกิดใหม่ไม่สมบูรณ์ รากผมอ่อนแอ ความเครียดส่งผลต่อสุขภาพผมอย่างมหาศาลดังนี้
      ผมลีบแบนและแห้งแตกปลาย - เพราะขาดแคลนสารอาหารและ "เวลา" สำหรับการดูแลเอาใจใส่(เรียกว่าเครียดจนไม่อยากทำอะไร)  ทางแก้ บำรุงด้วยครีมที่มีส่วนผสมของมอยส์เจอไรเซอร์ หรือหมักด้วยน้ำมันธรรมชาติ เช่น น้ำมันมะพร้าว น้ำมันงา เป็นประจำ เล็มผมที่แตกปลายออก
     รังแค - หนังศีรษะก็จัดเป็นผิวหนังชนิดหนึ่ง ความเครียดทำให้หนังศีรษะแห้งและหลุดลอกจนเกิดเป็นรังแค สร้างความรำคาญ รวมทั้งเสียบุคลิกภาพด้วย  ทางแก้ ใช้แชมพูที่มีคุณสมบัติช่วยขจัดรังแค หมักผมด้วยน้ำมันเพื่อให้ความชุ่มชื้นต่อหนังศีรษะ หรือนำผลมะกรูดไปย่างไฟพออุ่น บีบเอาน้ำชโลมให้ให้ทั่วหนังศีรษะ ทิ้งไว้สักครู่แล้วสระผมตามปรกติ ช่วยลดปัญหารังแคมารังควาญได้
     ผมมัน - อีกกรณีหนึ่ง ความเครียดอาจทำให้ต่อมไขมันใต้หนังศีรษะทำงานผิดปรกติ ขับไขมันออกมามากเกินไปทำให้ผมมันเหนียวเหนอะหนะ เป็นที่สะสมฝุ่นละอองและเชื้อโรคได้ง่าย  ทางแก้ แชมพูและครีมนวดที่ช่วยลดความมันของเส้นผมช่วยได้ค่ะ
     ผมหลุดร่วงง่าย - เมื่อรากผมไม่แข็งแรงก็ง่ายต่อการหลุดร่วง ซึ่งถ้ามากขึ้นเรื่อย ๆ ก็จะทำให้ผมบางลงและศีรษะล้านได้  ทางแก้ ภาวะผมร่วงนี้ไม่ได้เป็นในชั่วข้ามคืน ต้องหมั่นสังเกตและบำรุงหนังศีรษะอยู่เสมอ ควรนวดศีรษะเพื่อให้เลือดหมุนเวียน กระตุ้นรากผมให้แข็งแรงยิ่งขึ้น

กายและใจทรุดโทรม
     ไม่เพียงแต่ผมและผิวเท่านั้น ความเครียดยังส่งผลต่อร่างกายโดยรวม ซึ่งกระทบกระเทือนต่อสุขภาพและความงามได้อย่างไม่ต้องสงสัย
     เล็บแห้งแตก - ผมและเล็บมีโครงสร้างคล้าย ๆ กันรวมทั้งต้องการสารอาหารชนิดเดียวกันด้วย ดังนั้นความเครียดจึงเป็นสาเหตุทำให้ผิวเล็บแห้ง เปราะ แตกหักได้ง่าย เซลล์เกิดใหม่เจริญเติบโตได้ไม่ดีพอ เล็บที่งอกใหม่จึงเป็นคลื่นหยัก ไม่เรียบสวย  ทางแก้ บำรุงมือและเล็บด้วยครีมที่อุดมด้วยมอยส์เจอไรเซอร์หรือน้ำมันก่อนนอนเป็นประจำ นวดบริเวณโคนเล็บเพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ช่วงนี้ควรงดทาเล็บเพราะแอลกอฮอล์อาจทำให้เล็บแห้งยิ่งขึ้น
     อ้วนขึ้น - ความเครียดมีผลต่อความอยากอาหารอย่างมาก บางคนยิ่งเครียดก็ยิ่งหิว กินทุกอย่างที่ขวางหน้า ทำให้  น้ำหนักเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนกลายเป็นโรคอ้วนในที่สุด นอกจากนี้ความเครียดยังมีผลต่อการเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือด ระบบเมตาบอลิซึมแปรปรวน เป็นปัจจัยที่ทำให้อ้วนขึ้นได้  ทางแก้ ควบคุมพฤติกรรมการกินให้อยู่ในเกณฑ์ปรกติ และออกกำลังกายเพื่อเผาผลาญไขมันส่วนเกิน
     อารมณ์บูดบึ้ง - อารมณ์เครียดจากจิตใจที่ส่งผ่านออกทางสีหน้ามึนตึง วิตกกังวล แววตาไม่สดใส คิ้วขมวด หน้าผากย่นยับ ไร้รอยยิ้มบนใบหน้า ฯลฯ ไม่ทำให้ผู้หญิงคนไหนดูดีได้เลย แถมยังทำให้คนรอบข้างพลอยอึดอัดและเครียดไปด้วย  ทางแก้ ไม่ใช่การปั้นหน้าฝืนความรู้สึกเพื่อให้ตัวเองดูดีขึ้น แต่ต้องแก้ไขที่สาเหตุคือขจัดความเครียดออกไป ซึ่งถ้าทำได้คุณก็จะสามารถแก้ปัญหาความงามทุกข้อที่กล่าวมาทั้งหมดได้นั่นเอง