• user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:8f1d0d5c003fb47b722446a2bdb888cc' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '<!--paging_filter--><p><span id=\"ctl00_ContentPlaceHolder1_RptArticle_ctl00_Label1\"> <strong><span style=\"color: #800080\">อาหารเสริมสวย</span></strong> </span></p>\n<p>\n<img src=\"http://www.healthandcuisine.com/hc_images/hc47/47_h_beauty1.jpg\" align=\"right\" border=\"0\" />   ในอดีต เราคงคุ้นเคยกับผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อสุขภาพจำพวกวิตามินต่างๆ น้ำมันปลา หรือสารสกัดจากธรรมชาติอื่นๆ ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยบำรุงร่างกายให้แข็งแรง แต่ในปัจจุบัน อาหารเสริมได้เกิดขึ้นเพื่อเข้ามาแก้ปัญหาความงามในจุดต่างๆ เช่น ฝ้า กระ ปัญหาสีผิว ริ้วรอยหรือจุดด่างดำ ฯลฯ ด้วยการสังเคราะห์สารเคมีหรือนำสารสกัดจากธรรมชาติที่เชื่อว่ามีผลในทางบวกต่อปัญหานั้นๆ มาอยู่ในรูปของอาหารเสริม</p>\n<p>   สารส่วนใหญ่ที่ผสมอยู่ในอาหารเสริมแต่ละชนิดมักจะคล้ายคลึงหรือใกล้เคียงกัน อาจแตกต่างกันบ้างด้วยกลไกทางการตลาดและ &quot;เทรนด์&quot; ที่เป็นตัวกำหนดว่า สารไหนมาแรงและเป็นที่นิยม </p>\n<p><span style=\"color: #cc66ff\">กลูตาไธโอน (Glutathione)</span><br />\n- เป็นสารสกัดที่ได้มาจากปลา เนื้อ  แอสพารากัส อะโวคาโด และวอลนัท<br />\n- ทำให้สีผิวสม่ำเสมอ จุดด่างดำดูจางลง และทำให้ผิวขาวขึ้น<br />\n- คุณสมบัติของสาร Detoxification ที่มีอยู่จะเปลี่ยนสารพิษต่างๆ ที่ตกค้างอยู่ในร่างกายและขับถ่ายทิ้ง<br />\n- ช่วยเร่งประสิทธิภาพการทำงานของวิตามิน C และ E ให้ดูดซึมได้ดีขึ้น <br />\n- ไม่พบว่ามีผลข้างเคียงใดๆ ต่อผู้ใช้<br />\n- ขนาดที่ควรรับประทานอยู่ที่ 500-1000 มิลลิกรัมต่อวัน\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #cc66ff\">โคเอนไซม์คิวเทน (Coenzyme Q10) <br />\n</span>- ช่วยลดการเสื่อมสภาพของเซลล์ผิว ลดการเกิดริ้วรอย ป้องกันผิวหนังอักเสบจากแสงแดด และช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้เซลล์ผิวทำให้ผิวยืดหยุ่นแข็งแรง<br />\n- พบมากในอาหารทะเล เครื่องในสัตว์ เนื้อสัตว์ รำข้าว ผลิตภัณฑ์จากถั่ว น้ำมันถั่วเหลือง บรอคโคลี่ เป็นต้น<br />\n- ถูกดูดซึมได้ดีหากรับประทานพร้อมกับอาหารที่มีไขมัน<br />\n- ปริมาณที่แนะนำคือ 30 มิลลิกรัมต่อวัน\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #cc66ff\">เปลือกสนสกัด (Pine Bark)</span> <br />\n- ช่วยทำให้ผิวขาว ใส และลดปฏิกิริยาการเพิ่มเม็ดสีของผิวหนังเมื่อถูกแดด รวมทั้งลดขนาดและความเข้มของฝ้าโดยไม่มีผลข้างเคียงกับผิวบริเวณอื่น<br />\n- ไม่มีปฎิกิริยากับยา สมุนไพรและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารตัวอื่นๆ<br />\n- ปริมาณที่ควรรับประทานนั้นอยู่ที่ 20-25 มิลลิกรัมต่อวัน\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #cc66ff\">สารสกัดจากเมล็ดองุ่น (Grape Seed Extract) <br />\n</span>- ชะลอการเสื่อมสภาพของเซลล์ผิว และป้องกันผิวจากรังสีอุลตร้าไวโอเล็ต  รวมทั้งลดอาการแพ้จากสภาพแวดล้อมและเครื่องสำอาง<br />\n- ควรรับประทานในปริมาณที่ 20-60 มิลลิกรัมต่อวัน\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #cc66ff\">สารสกัดจากชาเขียว (Green Tea Extract)</span> <br />\n- ช่วยลดและชะลอการเกิดริ้วรอย <br />\n- สามารถลดอัตราการเกิดมะเร็งในอวัยวะต่าง ๆ ได้ดี<br />\n- ขนาดรับประทานที่แนะนำอยู่ที่ 300-1,000 มิลลิกรัมต่อวัน\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #cc66ff\">ไลโคพิน (Lycopene)</span> <br />\n- พบมากในผักและผลไม้บางชนิด เช่น แอพรีคอต เกรฟฟรุ๊ต แตงกวา มะเขือเทศ และแตงโม<br />\n- มีประสิทธิภาพในการต้านอนุมูลอิสระ และชะลอความชราสูงกว่าเบตาแคโรทีนถึง 2 เท่าและให้สารอาหารได้มากกว่ากว่าวิตามินอีถึง 1000 เท่า\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #cc66ff\">น้ำมันสกัดจากดอกอีฟนิ่งพริมโรส (Evening Primrose Oil) <br />\n</span>- ป้องกันการสูญเสียน้ำของเซลล์ผิวหนัง ให้ผิวคงความชุ่มชื่น สดใส เปล่งปลั่ง ปรับสภาพผิวที่แห้งกร้านให้ดูนุ่มขึ้น ลดริ้วรอยและความหมองคล้ำของผิวพรรณ ลดการเกิดสิวอุดตัน ตลอดจนช่วยรักษาอาการผิดปกติทางผิวหนัง เช่น ผิวหนังแห้ง รวมถึงอาการผมร่วง มีรังแค และเล็บเปราะได้<br />\n- อาจเกิดอาการข้างเคียงได้ เช่น อาการคลื่นไส้ ท้องอืดเฟ้อ ปวดศีรษะ อาการผื่นแพ้ และอาการลมชักกำเริบ ฯลฯ จึงควรรับประทานผลิตภัณฑ์พร้อมๆ กับการรับประทานอาหารเพราะสามารถลดอาการข้างเคียงที่เกิดขึ้นได้\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #cc66ff\">บริเวอร์ยีสต์ (Brewer\'s Yeast)</span> <br />\n- อุดมไปด้วย Biotin หรือวิตามิน B ชนิดหนึ่งซึ่งช่วยให้เล็บที่เปราะแข็งแรงขึ้น และช่วยบำรุงสุขภาพผม และยังมีสรรพคุณในเรื่องการรักษาสิวได้ผลดี รวมทั้งมีประสิทธิภาพในการชะลอความชรา<br />\n- ขนาดรับประทานที่แนะนำอยู่ที่ 200 มิลลิกรัมต่อวัน<br />\n- บริเวอร์มีผลต่อตัวยาอื่น การใช้จึงควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ผู้ที่เป็นโรคกระดูกพรุน โรคเก๊าท์หรือมีระบบภูมิคุ้มกันเสียหายอย่างรุนแรงควรหลีกเลี่ยง ทั้งนี้ บริเวอร์ยีสต์ยังมีผลข้างเคียงกับผู้ที่ร่างกายแพ้ต่อการสัมผัสได้ง่าย คืออาจก่อให้เกิดอาการไมเกรน ปวดหัว บางครั้งอาจมีอาการผื่นคัน อาการบวมน้ำ หรือเป็นหัดได้<br />\n- การใช้ครั้งแรกอาจก่อให้เกิดแก๊สในลำไส้ ดังนั้นจึงควรเริ่มใช้แต่น้อยก่อน จากนั้นจึงค่อยๆ เพิ่มขึ้นจนถึงระดับที่แนะนำ หากมีอาการคลื่นเหียนอาเจียน ควรหยุดใช้ทันทีและรีบปรึกษาแพทย์</p>\n<p><img src=\"http://www.healthandcuisine.com/hc_images/hc47/47_h_beauty2.jpg\" align=\"left\" border=\"0\" />  สารสกัดเหล่านี้มีทั้งในรูปของสารสกัดบริสุทธิ์และรูปของอาหารเสริมที่มีจุดมุ่งหมายเฉพาะด้าน เช่น เพื่อให้ผิวขาว ลดกระและฝ้า ลดริ้วรอยหรือให้ผิวพรรณผ่องใส ซึ่งบนฉลากผลิตภัณฑ์ไม่สามารถบอกสรรพคุณนั้นๆ ได้ เพราะกฎหมายกำหนดไว้ สังเกตได้จากกล่องอาหารเสริมทุกกล่อง จะระบุว่า &quot;การได้รับปริมาณอาหารที่จำเป็นนั้น ควรได้รับจากสารอาหารให้ครบ 5 หมู่&quot; เพราะอาหารเสริมไม่ใช่สิ่งจำเป็น</p>\n<p>  ก่อนตัดสินใจเลือกใช้อาหารเสริมชนิดใด ควรรู้ความต้องการของตนเองเสียก่อน เพื่อจะได้พิจารณาสารที่เป็นส่วนประกอบในอาหารเสริมได้อย่างเหมาะสมหลายคนเข้าใจว่า ยิ่งมีสารมากตัวเท่าไหร่ยิ่งดี ประสิทธิภาพยิ่งสูง  ทั้งๆ ที่บางครั้ง เราไม่ได้จำเป็นต้องใช้สารตัวนั้นเลย แถมยิ่งมีสารมากตัว ราคาก็ย่อมมากขึ้นด้วย</p>\n<p>  ที่สำคัญ ในทุกๆ ผลิตภัณฑ์จะระบุปริมาณของสารแต่ละชนิดที่ผสมอยู่ การมีปริมาณสารที่มากหรือน้อยเกินไป ย่อมเกิดผลเสียทั้งนั้น</p>\n<p>  ถ้าคุณต้องการเลือกบริโภคอาหารตามธรรมชาติเพื่อให้ได้รับสารเหล่านั้นแทนการกินในรูปอาหารเสริม ก็สามารถทำได้ เพียงแต่ต้องรับประทานในปริมาณที่มากกว่าเพราะตัวสารสกัดนั้นได้ดึงเอาเฉพาะสารที่ต้องการเพื่อความสะดวกเป็นสำคัญ  แต่มีข้อดีก็ย่อมมีข้อเสีย เพราะในกรรมวิธีการสกัดเอาสารนั้นๆ ออกมา จำเป็นต้องใช้ตัวทำละลาย ซึ่งหากผู้ผลิตไม่มีความชำนาญเพียงพอ อาจพบปัญหาการตกค้างของตัวทำละลายที่ย่อมส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคอย่างเราๆ ดังนั้นจึงควรเลือกซื้อผลิตภัณฑ์อาหารเสริมจากบริษัทผู้ผลิตที่ต้องมีความน่าเชื่อถือและไว้ใจได้ </p>\n<p>  อีกทั้งต้องปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนพิจารณาเลือกซื้อ เพราะอาหารเสริมบางตัวอาจมีผลหักล้างกัน เช่น หากเรารับประทานไคโตซานเพื่อดักจับไขมันในผลิตภัณฑ์อาหารเสริมลดความอ้วน แต่ต้องการน้ำมันอีฟนิ่งพริมโรสออยส์เพื่อเพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิว เจ้าไคโตซานก็จะดักจับน้ำมันอีฟนิ่งไว้เพราะถือเป็นไขมันชนิดหนึ่ง หรืออย่างผลิตภัณฑ์บางชนิดที่อาจมีผลข้างเคียง เช่น คอนลาเจนที่จะทำให้ร่างกายบวมน้ำ คนที่ท้วมจึงไม่ควรรับประทานเพราะจะยิ่งทำให้ดูน้ำหนักมากขึ้นไปอีก</p>\n<p>  สิ่งที่ต้องพึงปฏิบัติคือการปฏิบัติตามคำเตือนบนฉลาก โดยเฉพาะวิธีใช้ ซึ่งเราควรปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เพื่อให้อาหารเสริมมีประสิทธิภาพได้อย่างที่ควรจะเป็น </p>\n<p>  ธรรมชาติของอาหารเสริมทุกชนิดที่ควรเข้าใจให้ถูกต้องคือ เมื่อเรารับประทานอาหารเสริมชนิดนั้นๆ ไปได้สักประมาณ 2 เดือน ควรหยุดประมาณครึ่งถึงหนึ่งเดือนเพื่อให้ร่างกายได้กำจัดส่วนเกินออกไป โดยอาจจะรับประทานวันเว้นวันเพื่อไม่ให้ร่างกายต้องปรับมากเกินไป จากนั้นจึงกลับไปใช้ใหม่ในปริมาณเท่าเดิม </p>\n<p>  การแพ้อาหารเสริม  ข้อสังเกตง่ายๆ ที่บ่งว่าเกิดอาการแพ้คือ ขึ้นผื่น มีอาการบวม หรือความผิดปกติอื่นๆ ที่เกิดขึ้น หากเกิดอาการเหล่านี้ อันดับแรกให้กลับมายังร้านที่ซื้อผลิตภัณฑ์ เพื่อสอบถามว่ามีคนเกิดอาการเหมือนเราไหมเพราะถ้ามีเป็นจำนวนมาก ก็น่าจะแสดงว่าเป็นเรื่องของผลข้างเคียงมากกว่าอาการแพ้ แต่ส่วนใหญ่ อาการแพ้อาหารเสริมมักไม่ค่อยรุนแรง เพียงแค่หยุดรับประทานอาการก็จะหายไป<span style=\"color: #cc66ff\"> </span>\n</p>\n<p></p>\n', created = 1715786696, expire = 1715873096, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:8f1d0d5c003fb47b722446a2bdb888cc' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.

ผู้หญิงกับการดูแลสุขภาพ

 อาหารเสริมสวย

   ในอดีต เราคงคุ้นเคยกับผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อสุขภาพจำพวกวิตามินต่างๆ น้ำมันปลา หรือสารสกัดจากธรรมชาติอื่นๆ ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยบำรุงร่างกายให้แข็งแรง แต่ในปัจจุบัน อาหารเสริมได้เกิดขึ้นเพื่อเข้ามาแก้ปัญหาความงามในจุดต่างๆ เช่น ฝ้า กระ ปัญหาสีผิว ริ้วรอยหรือจุดด่างดำ ฯลฯ ด้วยการสังเคราะห์สารเคมีหรือนำสารสกัดจากธรรมชาติที่เชื่อว่ามีผลในทางบวกต่อปัญหานั้นๆ มาอยู่ในรูปของอาหารเสริม

   สารส่วนใหญ่ที่ผสมอยู่ในอาหารเสริมแต่ละชนิดมักจะคล้ายคลึงหรือใกล้เคียงกัน อาจแตกต่างกันบ้างด้วยกลไกทางการตลาดและ "เทรนด์" ที่เป็นตัวกำหนดว่า สารไหนมาแรงและเป็นที่นิยม

กลูตาไธโอน (Glutathione)
- เป็นสารสกัดที่ได้มาจากปลา เนื้อ  แอสพารากัส อะโวคาโด และวอลนัท
- ทำให้สีผิวสม่ำเสมอ จุดด่างดำดูจางลง และทำให้ผิวขาวขึ้น
- คุณสมบัติของสาร Detoxification ที่มีอยู่จะเปลี่ยนสารพิษต่างๆ ที่ตกค้างอยู่ในร่างกายและขับถ่ายทิ้ง
- ช่วยเร่งประสิทธิภาพการทำงานของวิตามิน C และ E ให้ดูดซึมได้ดีขึ้น
- ไม่พบว่ามีผลข้างเคียงใดๆ ต่อผู้ใช้
- ขนาดที่ควรรับประทานอยู่ที่ 500-1000 มิลลิกรัมต่อวัน

โคเอนไซม์คิวเทน (Coenzyme Q10)
- ช่วยลดการเสื่อมสภาพของเซลล์ผิว ลดการเกิดริ้วรอย ป้องกันผิวหนังอักเสบจากแสงแดด และช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้เซลล์ผิวทำให้ผิวยืดหยุ่นแข็งแรง
- พบมากในอาหารทะเล เครื่องในสัตว์ เนื้อสัตว์ รำข้าว ผลิตภัณฑ์จากถั่ว น้ำมันถั่วเหลือง บรอคโคลี่ เป็นต้น
- ถูกดูดซึมได้ดีหากรับประทานพร้อมกับอาหารที่มีไขมัน
- ปริมาณที่แนะนำคือ 30 มิลลิกรัมต่อวัน

เปลือกสนสกัด (Pine Bark)
- ช่วยทำให้ผิวขาว ใส และลดปฏิกิริยาการเพิ่มเม็ดสีของผิวหนังเมื่อถูกแดด รวมทั้งลดขนาดและความเข้มของฝ้าโดยไม่มีผลข้างเคียงกับผิวบริเวณอื่น
- ไม่มีปฎิกิริยากับยา สมุนไพรและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารตัวอื่นๆ
- ปริมาณที่ควรรับประทานนั้นอยู่ที่ 20-25 มิลลิกรัมต่อวัน

สารสกัดจากเมล็ดองุ่น (Grape Seed Extract)
- ชะลอการเสื่อมสภาพของเซลล์ผิว และป้องกันผิวจากรังสีอุลตร้าไวโอเล็ต  รวมทั้งลดอาการแพ้จากสภาพแวดล้อมและเครื่องสำอาง
- ควรรับประทานในปริมาณที่ 20-60 มิลลิกรัมต่อวัน

สารสกัดจากชาเขียว (Green Tea Extract)
- ช่วยลดและชะลอการเกิดริ้วรอย
- สามารถลดอัตราการเกิดมะเร็งในอวัยวะต่าง ๆ ได้ดี
- ขนาดรับประทานที่แนะนำอยู่ที่ 300-1,000 มิลลิกรัมต่อวัน

ไลโคพิน (Lycopene)
- พบมากในผักและผลไม้บางชนิด เช่น แอพรีคอต เกรฟฟรุ๊ต แตงกวา มะเขือเทศ และแตงโม
- มีประสิทธิภาพในการต้านอนุมูลอิสระ และชะลอความชราสูงกว่าเบตาแคโรทีนถึง 2 เท่าและให้สารอาหารได้มากกว่ากว่าวิตามินอีถึง 1000 เท่า

น้ำมันสกัดจากดอกอีฟนิ่งพริมโรส (Evening Primrose Oil)
- ป้องกันการสูญเสียน้ำของเซลล์ผิวหนัง ให้ผิวคงความชุ่มชื่น สดใส เปล่งปลั่ง ปรับสภาพผิวที่แห้งกร้านให้ดูนุ่มขึ้น ลดริ้วรอยและความหมองคล้ำของผิวพรรณ ลดการเกิดสิวอุดตัน ตลอดจนช่วยรักษาอาการผิดปกติทางผิวหนัง เช่น ผิวหนังแห้ง รวมถึงอาการผมร่วง มีรังแค และเล็บเปราะได้
- อาจเกิดอาการข้างเคียงได้ เช่น อาการคลื่นไส้ ท้องอืดเฟ้อ ปวดศีรษะ อาการผื่นแพ้ และอาการลมชักกำเริบ ฯลฯ จึงควรรับประทานผลิตภัณฑ์พร้อมๆ กับการรับประทานอาหารเพราะสามารถลดอาการข้างเคียงที่เกิดขึ้นได้

บริเวอร์ยีสต์ (Brewer's Yeast)
- อุดมไปด้วย Biotin หรือวิตามิน B ชนิดหนึ่งซึ่งช่วยให้เล็บที่เปราะแข็งแรงขึ้น และช่วยบำรุงสุขภาพผม และยังมีสรรพคุณในเรื่องการรักษาสิวได้ผลดี รวมทั้งมีประสิทธิภาพในการชะลอความชรา
- ขนาดรับประทานที่แนะนำอยู่ที่ 200 มิลลิกรัมต่อวัน
- บริเวอร์มีผลต่อตัวยาอื่น การใช้จึงควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ผู้ที่เป็นโรคกระดูกพรุน โรคเก๊าท์หรือมีระบบภูมิคุ้มกันเสียหายอย่างรุนแรงควรหลีกเลี่ยง ทั้งนี้ บริเวอร์ยีสต์ยังมีผลข้างเคียงกับผู้ที่ร่างกายแพ้ต่อการสัมผัสได้ง่าย คืออาจก่อให้เกิดอาการไมเกรน ปวดหัว บางครั้งอาจมีอาการผื่นคัน อาการบวมน้ำ หรือเป็นหัดได้
- การใช้ครั้งแรกอาจก่อให้เกิดแก๊สในลำไส้ ดังนั้นจึงควรเริ่มใช้แต่น้อยก่อน จากนั้นจึงค่อยๆ เพิ่มขึ้นจนถึงระดับที่แนะนำ หากมีอาการคลื่นเหียนอาเจียน ควรหยุดใช้ทันทีและรีบปรึกษาแพทย์

  สารสกัดเหล่านี้มีทั้งในรูปของสารสกัดบริสุทธิ์และรูปของอาหารเสริมที่มีจุดมุ่งหมายเฉพาะด้าน เช่น เพื่อให้ผิวขาว ลดกระและฝ้า ลดริ้วรอยหรือให้ผิวพรรณผ่องใส ซึ่งบนฉลากผลิตภัณฑ์ไม่สามารถบอกสรรพคุณนั้นๆ ได้ เพราะกฎหมายกำหนดไว้ สังเกตได้จากกล่องอาหารเสริมทุกกล่อง จะระบุว่า "การได้รับปริมาณอาหารที่จำเป็นนั้น ควรได้รับจากสารอาหารให้ครบ 5 หมู่" เพราะอาหารเสริมไม่ใช่สิ่งจำเป็น

  ก่อนตัดสินใจเลือกใช้อาหารเสริมชนิดใด ควรรู้ความต้องการของตนเองเสียก่อน เพื่อจะได้พิจารณาสารที่เป็นส่วนประกอบในอาหารเสริมได้อย่างเหมาะสมหลายคนเข้าใจว่า ยิ่งมีสารมากตัวเท่าไหร่ยิ่งดี ประสิทธิภาพยิ่งสูง  ทั้งๆ ที่บางครั้ง เราไม่ได้จำเป็นต้องใช้สารตัวนั้นเลย แถมยิ่งมีสารมากตัว ราคาก็ย่อมมากขึ้นด้วย

  ที่สำคัญ ในทุกๆ ผลิตภัณฑ์จะระบุปริมาณของสารแต่ละชนิดที่ผสมอยู่ การมีปริมาณสารที่มากหรือน้อยเกินไป ย่อมเกิดผลเสียทั้งนั้น

  ถ้าคุณต้องการเลือกบริโภคอาหารตามธรรมชาติเพื่อให้ได้รับสารเหล่านั้นแทนการกินในรูปอาหารเสริม ก็สามารถทำได้ เพียงแต่ต้องรับประทานในปริมาณที่มากกว่าเพราะตัวสารสกัดนั้นได้ดึงเอาเฉพาะสารที่ต้องการเพื่อความสะดวกเป็นสำคัญ  แต่มีข้อดีก็ย่อมมีข้อเสีย เพราะในกรรมวิธีการสกัดเอาสารนั้นๆ ออกมา จำเป็นต้องใช้ตัวทำละลาย ซึ่งหากผู้ผลิตไม่มีความชำนาญเพียงพอ อาจพบปัญหาการตกค้างของตัวทำละลายที่ย่อมส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคอย่างเราๆ ดังนั้นจึงควรเลือกซื้อผลิตภัณฑ์อาหารเสริมจากบริษัทผู้ผลิตที่ต้องมีความน่าเชื่อถือและไว้ใจได้

  อีกทั้งต้องปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนพิจารณาเลือกซื้อ เพราะอาหารเสริมบางตัวอาจมีผลหักล้างกัน เช่น หากเรารับประทานไคโตซานเพื่อดักจับไขมันในผลิตภัณฑ์อาหารเสริมลดความอ้วน แต่ต้องการน้ำมันอีฟนิ่งพริมโรสออยส์เพื่อเพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิว เจ้าไคโตซานก็จะดักจับน้ำมันอีฟนิ่งไว้เพราะถือเป็นไขมันชนิดหนึ่ง หรืออย่างผลิตภัณฑ์บางชนิดที่อาจมีผลข้างเคียง เช่น คอนลาเจนที่จะทำให้ร่างกายบวมน้ำ คนที่ท้วมจึงไม่ควรรับประทานเพราะจะยิ่งทำให้ดูน้ำหนักมากขึ้นไปอีก

  สิ่งที่ต้องพึงปฏิบัติคือการปฏิบัติตามคำเตือนบนฉลาก โดยเฉพาะวิธีใช้ ซึ่งเราควรปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เพื่อให้อาหารเสริมมีประสิทธิภาพได้อย่างที่ควรจะเป็น

  ธรรมชาติของอาหารเสริมทุกชนิดที่ควรเข้าใจให้ถูกต้องคือ เมื่อเรารับประทานอาหารเสริมชนิดนั้นๆ ไปได้สักประมาณ 2 เดือน ควรหยุดประมาณครึ่งถึงหนึ่งเดือนเพื่อให้ร่างกายได้กำจัดส่วนเกินออกไป โดยอาจจะรับประทานวันเว้นวันเพื่อไม่ให้ร่างกายต้องปรับมากเกินไป จากนั้นจึงกลับไปใช้ใหม่ในปริมาณเท่าเดิม

  การแพ้อาหารเสริม  ข้อสังเกตง่ายๆ ที่บ่งว่าเกิดอาการแพ้คือ ขึ้นผื่น มีอาการบวม หรือความผิดปกติอื่นๆ ที่เกิดขึ้น หากเกิดอาการเหล่านี้ อันดับแรกให้กลับมายังร้านที่ซื้อผลิตภัณฑ์ เพื่อสอบถามว่ามีคนเกิดอาการเหมือนเราไหมเพราะถ้ามีเป็นจำนวนมาก ก็น่าจะแสดงว่าเป็นเรื่องของผลข้างเคียงมากกว่าอาการแพ้ แต่ส่วนใหญ่ อาการแพ้อาหารเสริมมักไม่ค่อยรุนแรง เพียงแค่หยุดรับประทานอาการก็จะหายไป 

สร้างโดย: 
successfull

มหาวิทยาลัยศรีปทุม ผู้ใหญ่ใจดี
 

 ช่วยด้วยครับ
นักเรียนที่สร้างบล็อก กรุณาอย่า
คัดลอกข้อมูลจากเว็บอื่นทั้งหมด
ควรนำมาจากหลายๆ เว็บ แล้ววิเคราะห์ สังเคราะห์ และเขียนขึ้นใหม่
หากคัดลอกทั้งหมด จะถูกดำเนินคดี
ตามกฎหมายจากเจ้าของลิขสิทธิ์
มีโทษทั้งจำคุกและปรับในอัตราสูง

ช่วยกันนะครับ 
ไทยกู๊ดวิวจะได้อยู่นานๆ 
ไม่ถูกปิดเสียก่อน

ขอขอบคุณในความร่วมมือครับ

อ่านรายละเอียด

ด่วน...... ขณะนี้
พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 
มีผลบังคับใช้แล้ว 
ขอให้นักเรียนและคุณครูที่ใช้งาน
เว็บ thaigoodview ในการส่งการบ้าน
ระมัดระวังการละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย
อ่านรายละเอียดที่นี่ครับ

 

สมาชิกที่ออนไลน์

ขณะนี้มี สมาชิก 0 คน และ ผู้เยี่ยมชม 395 คน กำลังออนไลน์