user warning: Duplicate entry '536306482' for key 'PRIMARY'
query: INSERT INTO accesslog (title, path, url, hostname, uid, sid, timer, timestamp) values('การแบ่งเซลล์หน้าแรกส่งประกวด', 'node/82140', '', '18.188.18.90', 0, '7eca8b038b884d11aee967a69dd3816a', 201, 1716021312) in /home/tgv/htdocs/modules/statistics/statistics.module on line 63.
อาการไม่ลุกเดินและอาการหกล้ม ผู้ป่วยสูงอายุจำนวนไม่น้อยที่ญาตินำมาพบแพทย์ด้วยอาการที่ไม่จำเพาะเจาะจง เช่น อาการหกล้ม ไม่ลุกเดิน ซึม พูดจาสับสน ไม่รับประทานอาหาร หรืออุจจาระปัสสาวะราด ในอดีต มักคิดว่าอาการต่างๆดังกล่าวเกิดจาก "โรคชรา" หรือเป็นสิ่งที่ไม่สามารถแก้ไขให้กลับคืนได้ ทำให้ไม่มีการสืบค้นเพื่อหาพยาธิสภาพต้นตอที่แท้จริง จึงควรรีบพาไปปรึกษาแพทย์ตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อประเมินความเจ็บป่วยซึ่งอาจแก้ไขให้กลับคืนสู่สภาพเดิมได้ หากผู้ป่วยสูงอายุมีอาการไม่ลุกเดินอยู่นานเกินไปโดยไม่ได้รับการแก้ไข ก็จะมีภาวะแทรกซ้อนอื่นๆตามมาอีกมากมาย จนกระทั่งถึงแก่ชีวิตในที่สุด
แนวทางการป้องกันการหกล้ม อาจทำได้ดังต่อไปนี้
- ติดตั้งหลอดไฟบริเวณมุมมืดที่เดินผ่านบ่อยๆ โดยปุ่มสวิตช์อยู่ใกล้มือเอื้อม
- มีอุปกรณ์เครื่องเรือนบริเวณที่อยู่เท่าที่จำเป็น และต้องแข็งแรงมั่นคงอยู่สูงจากพื้น มองเห็นได้ง่าย ไม่ย้ายที่บ่อยๆ
- เตียงนอน เก้าอี้ และโถส้วมมีความสูงพอเหมาะ ไม่สูงหรือเตี้ยเกินไป
- ทางเดินและบันไดควรมีราวจับตลอด และมีระยะขั้นบันไดที่สม่ำเสมอ
- พื้นห้องควรสม่ำเสมอและเป็นวัสดุที่ไม่ลื่น โดยเฉพาะในห้องน้ำ บริเวณจุดเชื่อมต่อระหว่างห้องควรอยู่ในระดับเดียวกันไม่ควร มีธรณีประตู สิ่งของเกะกะ เช่น พรมเช็ดเท้า
- หลีกเลี่ยงการที่จะมีสัตว์เลี้ยง เช่น สุนัข แมว ในบริเวณที่อยู่อาศัย
|
|
ภาวะกระดูกพรุน ภาวะกระดูกพรุนเป็นภาวะที่มีการเปลี่ยนแปลงของเนื้อกระดูก ทำให้มีความหนาแน่นลดลง รวมทั้งโครงสร้างที่เปราะหักได้ง่าย ซึ่งปกติมวลเนื้อกระดูกของร่างกายมนุษย์จะมีความหนาแน่นสูงสุดอยู่ในช่วงวัยหนุ่มสาวจนถึงอายุประมาณ ๓๐ ปี จากนั้นจะมีปัจจัยต่างๆที่ทำให้มวลเนื้อกระดูกลดลง ได้แก่ อายุเพิ่มมากขึ้น การหมดประจำเดือน เนื่องจากฮอร์โมนเอสโทรเจนที่ลดลง โรคภัยไข้เจ็บต่างๆ รวมทั้งการได้รับยาบางชนิดที่ทำให้กระดูกบางลง และการที่ไม่เคลื่อนไหวร่างกายเป็นเวลานานๆ
การป้องกัน
- ออกกำลังกายเป็นกิจวัตรโดยเฉพาะ กลางแจ้งช่วงที่มีแดดอ่อน เช่น เวลาเช้าหรือเย็น
- เมื่อมีการเจ็บป่วยไม่ว่าจากสาเหตุใด ควรรีบทำกายภาพบำบัด หรือเคลื่อนไหว ส่วนต่างๆของร่างกายให้เร็วที่สุดเท่าที่สภาพร่างกายจะเอื้ออำนวย
- รับประทานอาหารที่มีแคลเซียมสูง เช่น ปลากระป๋อง นมพร่องไขมันเนย ผักผลไม้ เต้าหู้
- งดการดื่มสุรา กาแฟ รวมทั้งงดการสูบบุหรี่ อาหารเค็ม หรืออาหารที่มีเกลือฟอสเฟตสูง
- ไม่ควรซื้อยารับประทานเอง เช่น ยาลูกกลอน เพราะมักมีสารสเตียรอยด์ผสมอยู่
- พยายามให้กระดูกสันหลังตั้งตรงขณะที่อยู่ในอิริยาบถต่างๆ หลีกเลี่ยงการก้ม การโก้งโค้ง
|
|
โรคหัวใจและระบบไหลเวียนโลหิต โรคหัวใจและระบบไหลเวียนโลหิต เป็นสาเหตุการตายอันดับต้นๆของผู้สูงอายุ ได้แก่ โรคหลอดเลือดหัวใจอุดตัน โรคหัวใจวาย โรคความดันโลหิตสูง ปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคที่สามารถป้องกันได้ ได้แก่
- ความดันโลหิตสูง การวัดความดันโลหิตเป็นวิธีการตรวจคัดกรองที่ถูก และมีประสิทธิภาพสูงสุดในการป้องกันโรค
- ภาวะไขมันในเลือดสูง การตรวจระดับคอเลสเทอรอล (Cholesterol) ในเลือดจึงควรทำเพราะการลดระดับคอเลสเทอรอล การเพิ่มระดับ high-density lipoprotein สามารถป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจได้
- โรคเบาหวาน ความชุกของโรคนี้ เพิ่มขึ้นตามอายุ โรคเบาหวานเป็นสาเหตุ การตายอันดับที่ ๓ และ ๔ ในผู้สูงอายุกลุ่มอายุ ๖๐ - ๗๔ ปี และ ๗๕ ปีขึ้นไปตามลำดับ การตรวจระดับน้ำตาลกลูโคสในเลือดหลังจากอดอาหารอย่างน้อย ๘ ชั่วโมงจึงควรทำ โดยเฉพาะผู้ที่อ้วน
- การสูบบุหรี่ (อ่านในหัวข้อการไม่สูบบุหรี่)
|
|
โรคข้อเสื่อม โรคข้อเสื่อมเป็นโรคข้อเรื้อรังที่พบได้บ่อยที่สุดในผู้สูงอายุ ตำแหน่งที่พบบ่อยที่สุด คือ ข้อนิ้วมือ รองลงมาคือข้อเข่า โรคข้อเข่าเสื่อมพบว่าเกิดขึ้นมากถึงร้อยละ ๓๕ ผู้ป่วยโรคข้อเข่าเสื่อมต้องทนทุกข์ทรมานกับอาการปวดเข่า เข่าบวมอักเสบเป็นๆหายๆ ข้อเข่ายึด ก่อให้เกิดการสูญเสียความสามารถของการใช้เข่าในชีวิตประจำวัน
การป้องกันโรคข้อเสื่อม
- การหลีกเลี่ยงจากความอ้วน
- การใช้งานข้อเข่าอย่างถูกวิธี เช่น ไม่นั่งยองๆ หรือนั่งพับเพียบเป็นเวลานานๆ ควรหลีกเลี่ยงการขึ้นลงบันไดโดยไม่จำเป็น
- การออกกำลังเพื่อเพิ่มกำลังกล้ามเนื้อรอบเข่า ช่วยลดอาการปวด และเพิ่มความสามารถทางกาย เช่น การยกขาขึ้นตรงในแนวราบ ออกกำลังแบบแอโรบิก
|
แหล่งอ้างอิง:
http://guru.sanook.com/enc_preview.php?id=2461&source_location=2