(ขอบคุณรูปภาพจากhttp://www.bsnnews.com/news/index.php?NewsID=3457)

ผู้บริโภค        

    หมายถึง  ผู้ซื้อ  ผู้ได้รับบริการจากผู้ประกอบธุรกิจ  หรือผู้ซึ่งได้รับการเสนอหรือชักชวนจากผู้ประกอบธุรกิจ  เพื่อให้ซื้อสินค้าหรือรับบริการและหมายความรวมถึงผู้ใช้สินค้า  หรือผู้ได้รับบริการจากผู้ประกอบธุรกิจโดยชอบ  แม้มิได้เป็นผู้เสียค่าตอบแทนก็ตาม 
       

     “ผู้บริโภคคือพระราชา”  เป็นคำกล่าวที่ให้ความสำคัญแก่ผู้บริโภค  เพราะผู้ประกอบธุรกิจจะอยู่ได้ก็ต้องอาศัยผู้บริโภค  แต่ในสังคมปัจจุบัน  ผู้บริโภคมักถูกเอารัดเอาเปรียบด้วยวิธีการต่าง  ๆ  โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการใช้กลยุทธ์ทางการตลาดที่ขาดคุณธรรมและความรับผิดชอบ สิทธิ 5 ประการของผู้บริโภค      

พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค  พ.ศ. 2522  และแก้ไขเพิ่มเติม  (ฉบับที่  2)  พ.ศ. 2541  ได้บัญญัติให้ความคุ้มครองผู้บริโภคไว้  5  ประการ  ดังนี้

 1.  สิทธิที่จะได้รับข่าวสารรวมทั้งคำพรรณนาคุณภาพที่ถูกต้องและเพียงพอเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการ        

      ผู้บริโภคมีสิทธิที่จะได้รับการโฆษณาหรือการแสดงฉลากตามความเป็นจริง  ผู้ประกอบธุรกิจจะปิดบังไม่ได้  เพื่อให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อสินค้าได้ถูกต้อง 
 

2.  สิทธิที่จะมีอิสระในการเลือกซื้อสินค้าและบริการ     ผู้บริโภคมีสิทธิที่จะเลือกซื้อสินค้า   หรือรับบริการโดยความสมัครใจ  ปราศจากผู้ชักจูงที่ไม่เป็นธรรม

 3.  สิทธิที่จะได้รับความปลอดภัยจากการใช้สินค้าหรือบริการ        

       ผู้บริโภคมีสิทธิที่จะได้รับสินค้าหรือบริการที่ปลอดภัย  มีสภาพและคุณภาพมาตรฐาน   ไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิต

4.  สิทธิที่จะได้รับความเป็นธรรมจากการทำสัญญา         

       ผู้บริโภคมีสิทธิที่จะได้รับข้อสัญญาโดยไม่ถูกเอารัดเอาเปรียบจากผู้ประกอบธุรกิจ

5.  สิทธิที่จะได้รับการพิจารณาและชดเชยความเสียหาย                ผู้บริโภคมีสิทธิที่จะได้รับการคุ้มครองและชดใช้ค่าเสียหายเมื่อถูกละเมิดสิทธิจากข้อ 1,2 3 และ 4  ดังกล่าว ประมวลกฎหมายอาญาเกี่ยวกับอาหารตามพระราชบัญญัติอาหาร  พ.ศ.  2522  มีบัญญัติเกี่ยวกับอาหารไว้  ดังนี้   
     1.  การปลอมปนอาหารที่มีลักษณะน่าจะเป็นเหตุให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ ผู้ปลอมปน  จะได้รับโทษจำคุกไม่เกิน  3  ปี  หรือปรับไม่เกิน  6,000  บาท  หรือทั้งจำทั้งปรับ
     2.  การเอาของมีพิษหรือสิ่งที่น่าจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพ  เจือลงในอาหารหรือน้ำเพื่อการบริโภค  จะได้รับโทษจำคุกตั้งแต่  6  เดือน  ถึง  10  ปี  และปรับตั้งแต่  2,000  บาท 
ถึง  20,000  บาท  ข้อบัญญัตินี้กำหนดโทษสูงขึ้นเพราะผู้กระทำมีเจตนา  แต่เหตุการณ์ลักษณะนี้ก็เกิดขึ้นได้เสมอ การที่มีผู้ฝ่าฝืนกฎหมายจึงมีการกำหนดเพิ่มเติมให้เกิดความเป็นธรรมในสังคมไทย  คือ  ถ้าการกระทำตามข้อ  1  และ  2  เป็นเหตุให้
1. บุคคลถึงแก่ความตาย  ผู้กระทำจะได้รับโทษจำคุกตั้งแต่  5  ปี  ถึง  10  ปี  และปรับตั้งแต่  10,000  บาท  ถึง  40,000  บาท
2.  บุคคลได้รับอันตรายสาหัส  ผู้กระทำจะได้รับโทษจำคุกตั้งแต่  1  ปี  ถึง   10  ปี และปรับตั้งแต่   10,000  บาท  ถึง  40,000  บาท
3.  เป็นอันตรายแก่ชีวิตผู้อื่น  แต่เนื่องจากเป็นการกระทำโดยประมาทจะได้รับโทษจำคุกไม่เกิน  1  ปี  หรือปรับไม่เกิน  20,000  บาท  หรือทั้งจำทั้งปรับ