การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
1. | การศึกษา |
|
2. | ธุรกิจพาณิชย์และสำนักงาน | |
3. | อุตสาหกรรมและการผลิต | |
4. | สาธารณสุขและการแพทย์ | |
5. | การสื่อสารและโทรคมนาคม | |
6. | หน่วยงานราชการต่างๆ | |
7. | ความมั่นคงของชาติและทางทหาร | |
8. | บันเทิง | |
9 | วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี |
Æ การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในสาขาการศึกษา
1. การเรียนรู้แบบออนไลน์ (E-learning)
เป็นการเรียนรู้ด้วยตัวเองผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์อินเทอร์เน็ต (Internet) หรืออินทราเน็ต (Intranet) ผู้เรียนจะได้เรียนตามความสามารถและความสนใจของตน โดยเนื้อหาของบทเรียนจะถูกส่งไปยังผู้เรียนผ่านเว็บเบราว์เซอร์(Web Browser) โดยผู้เรียน ผู้สอน และเพื่อนร่วมชั้นเรียนทุกคน สามารถติดต่อ ปรึกษา แลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างกันได้เช่นเดียวกับการเรียนในชั้นเรียนปกติ โดยอาศัยเครื่องมือการติดต่อสื่อสารที่ทันสมัยสำหรับทุกคนที่สามารถเรียนรู้ได้ทุกเวลา และทุกสถานที่ (Learn for all : anyone, anywhere and anytime) ซึ่งการให้บริการการเรียนแบบออนไลน์ มีองค์ประกอบที่สำคัญ 4 ส่วน แต่ละส่วนได้รับการออกแบบเป็นอย่างดี เมื่อนำมาประกอบเข้าด้วยกัน แล้วระบบทั้งหมดจะต้องทำงานประสานกันได้อย่างลงตัว ดังนี้ 1) เนื้อหาของบทเรียน ประกอบด้วย ข้อความ รูปภาพ เสียง วิดีโอและมัลติมีเดียอื่นๆ 2) ระบบบริหารการเรียน ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลาง กำหนดลำดับของเนื้อหาในบทเรียน เราเรียกระบบนี้ว่า ระบบบริหารการเรียน (E-Learning Management System : LMS) ดังนั้น ระบบบริหารการเรียนจึงเป็นส่วนที่เอื้ออำนวยให้ผู้เรียนได้ศึกษาเรียนรู้ได้ด้วยตนเองจนจบหลักสูตร 3) การติดต่อสื่อสาร นำรูปแบบการติดต่อสื่อสารแบบ 2 ทาง มาใช้ประกอบในการเรียน โดยเครื่องมือที่ใช้ในการติดต่อสื่อสารอาจแบ่งได้เป็น 2 ประเภทคือ ประเภท Real-time ได้แก่ Chat (message, voice), White board/Text slide, Real-time Annotations, Interactive poll, Conferencing และอื่นๆ ส่วนอีกแบบคือ ประเภท Non real-time ได้แก่ Web-board, E-mail
2.บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน (Computer Assisted Instruction - CAI)
บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนจะเสนอสารสนเทศที่ได้ผ่านกระบวนการสร้าง และพิจารณามาเป็นอย่างดี โดยมีเนื้อหาวิชาหรือสารสนเทศ แบบฝึกหัด การทดสอบ และการให้ข้อมูลป้อนกลับให้ผู้เรียนได้ตอบสนองต่อบทเรียนได้ตามระดับความสามารถของตนเอง เนื้อหาวิชาที่นำเสนอจะอยู่ในรูปมัลติมีเดีย ซึ่งประกอบด้วย อักษร รูปภาพ เสียง และหรือ ทั้งภาพและเสียง โดยมีจุดมุ่งหมายนำผู้เรียนไปสู่การเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งอาศัยการสอนที่มีการวางโปรแกรมไว้ล่วงหน้า เป็นการให้ผู้เรียนมีโอกาสเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง และมีผลย้อนกลับทันทีและเรียนรู้ไปทีละขั้นตอนอย่างเหมาะสม ตามความต้องการและความสามารถของตน
3.วีดิทัศน์ตามอัธยาศัย (Video on Demand - VOD)
การจัดการฐานข้อมูลต้องอาศัยโปรแกรมที่ทำหน้าที่ ในการกำหนดลักษณะข้อมูลที่จะเก็บไว้ในฐานข้อมูล อำนวยความสะดวกในการบันทึกข้อมูลลงในฐานข้อมูล กำหนดผู้ที่ได้รับอนุญาตให้ใช้ฐานข้อมูลได้ พร้อมกับกำหนดด้วยว่าให้ใช้ได้แบบใด เช่น ให้อ่านข้อมูลได้อย่างเดียวหรือให้แก้ไขข้อมูลได้ด้วย นอกจากนั้นยังอำนวยความสะดวกในการค้นหาข้อมูล การแก้ไขปรับปรุงข้อมูล ตลอดจนการจัดทำข้อมูลสำรองด้วย โดยอาศัยโปรแกรมที่เรียกว่า ระบบการจัดการฐานข้อมูล(Database Management System: DBMS) ซึ่งโปรแกรมที่ได้รับความนิยมในการจัดการฐานข้อมูล ได้แก่ Microsoft Access, Oracle, Informix, dBase, FoxPro, และ Paradox เป็นต้น
หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถอ่านได้ทางอินเทอร์เน็ต สำหรับเครื่องมือที่จำเป็นต้องมีในการอ่านหนังสือประเภทนี้ก็คือ ฮาร์ดแวร์ประเภทเครื่องคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์พกพาอื่นๆ พร้อมทั้งติดตั้งระบบปฏิบัติการหรือซอฟต์แวร์ที่ใช้อ่านข้อความต่างๆ ตัวอย่างเช่น ออแกไนเซอร์แบบพกพา พีดีเอ เป็นต้น ส่วนการดึงข้อมูล E-books ซึ่งจะอยู่บนเว็บไซต์ที่ให้บริการทางด้านนี้มาอ่าน ก็จะใช้วิธีการดาวน์โหลดผ่านทางอินเทอร์เน็ตเป็นส่วนใหญ่ ลักษณะไฟล์ของ E-books หากนักเขียนหรือสำนักพิมพ์ต้องการสร้าง E-books จะสามารถเลือกได้สี่รูปแบบ คือ Hyper Text Markup Language (HTML), Portable Document Format (PDF), Peanut Markup Language (PML) และ Extensive Markup Language (XML)
5.ห้องสมุดอิเล็กทรอนิกส์ (E-library)
บริการงานห้องสมุดระบบอัตโนมัติ เช่น 1) ระบบที่สามารถให้บริการและตรวจสอบได้ 2) ระบบบริการยืม - คืน ทรัพยากรด้วยแถบรหัสบาร์โค้ด 3) ระบบบริการสืบค้นข้อมูลทรัพยากร 4) ระบบตรวจเช็คสถิติการใช้บริการห้องสมุด 5) ระบบตรวจเช็คสถิติการยืม - คืนทรัพยากร 6) การสำรวจทรัพยากรประจำปี 7) การพิมพ์บาร์โค้ดทรัพยากรและสมาชิก
Æ การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในสาขาธุรกิจ พาณิชย์และสำนักงาน
1.E-commerce: Electronic Commerce
E-commerce หรือการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง การทำธุรกรรรมในเชิงธุรกิจทุกประเภทที่กระทำผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งรวมทั้งการซื้อขาย การแลกเปลี่ยนสินค้าและกิจกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น การโฆษณา การประชาสัมพันธ์ การส่งสินค้า การชำระเงิน และการบริการด้านข้อมูล เป็นต้น E-commerce นั้นสามารถให้บริการที่สะดวก รวดเร็ว และไม่จำกัดขอบเขตของผู้ใช้บริการและระยะเวลาทำการของหน่วยงาน สื่ออิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง สื่อที่ใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เป็นเครื่องมือหลัก ในการปฏิบัติงานและติดต่อสื่อสารข้อมูล ใน E-commerce สื่ออิเล็กทรอนิกส์ของเรา ได้แก่ สื่อโทรทัศน์ สื่อเคเบิลทีวี เครื่องโทรสาร โทรศัพท์พื้นฐาน โทรศัพท์เคลื่อนที่ เครื่อง ATM ระบบการชำระเงินและโอนเงินอัตโนมัติ รวมทั้งเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
2.E-business
E-business เป็นธุรกิจเชิงอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีขอบเขตที่กว้างกว่า E-commerce เนื่องจากเป็นการพิจารณาถึงองค์ประกอบทุกส่วนของการดำเนินธุรกิจ มิได้พิจารณาเพียงเฉพาะกิจกรรมการซื้อ-ขายเท่านั้น เป็นการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ทางธุรกิจผนวกกับเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อดำเนินธุรกรรมต่าง ๆ และปรับปรุงธุรกิจให้มีความเป็นระบบ สามารถดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยเพิ่มศักยภาพของธุรกิจด้วยการดำเนินธุรกิจให้กลายเป็นรูปแบบ Online และครอบคลุมได้ทั่วโลก
การแลกเปลี่ยนข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ EDI เป็นเทคโนโลยีที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการรับ - ส่งเอกสารจากหน่วยงานหนึ่งไปยังอีกหน่วยงานหนึ่งโดยส่งผ่านเครือข่าย เช่น โทรศัพท์ สายเคเบิล ดาวเทียม เป็นต้น แทนการส่งเอกสารโดยพนักงานส่งสารหรือไปรษณีย์ ระบบ EDI จะต้องใช้รูปแบบของเอกสารที่เป็นมาตรฐานเพื่อให้หน่วยงานทางธุรกิจหรือองค์กรต่างๆ สามารถสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพสำหรับมาตรฐานของ EDI ในประเทศไทยถูกกำหนดโดยกรมศุลกากร ซึ่งเป็นหน่วยงานแรกที่นำระบบนี้มาใช้งาน คือ มาตรฐาน EDIFACT (Electronic Data Interchange for Administration, Commerce and Transport) ตัวอย่างของเอกสารที่นำมาใช้แลกเปลี่ยนข้อมูลด้วยระบบ EDI เช่น ใบสั่งซื้อสินค้า ใบเสนอราคา ใบกำกับสินค้า ใบเสร็จรับเงิน ใบกำกับภาษี เป็นต้น
ประโยชน์ของการใช้ระบบ EDI •ลดค่าใช้จ่ายด้านการจัดส่งเอกสาร •ลดเวลาทำงานในการป้อนข้อมูล ทำให้ข้อมูลมีความถูกต้อง และลดข้อผิดพลาดจากการป้อนข้อมูลที่ซ้ำซ้อน •เพิ่มความรวดเร็วในการติดต่อสื่อสาร •ลดค่าใช้จ่ายและภาระงานด้านเอกสาร •แก้ปัญหาอุปสรรคทางภูมิศาสตร์และเวลา
ปัจจุบันสำนักงานจำนวนมากได้นำเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาประยุกต์ใช้อย่างแพร่หลาย เพื่อให้งานบังเกิดผลในด้านบวก อาทิ ความสะดวกรวดเร็ว ความถูกต้อง และสามารถทำสำเนาได้เป็นจำนวนมาก เป็นต้น อุปกรณ์เทคโนโลยีสารสนเทศที่นำมาใช้ได้แก่ เครื่องพิมพ์ดีดอิเล็กทรอนิกส์ โทรศัพท์ เทเลเท็กซ์ เครื่องเขียนตามคำบอกอัตโนมัติ (Dictating Machines) เครื่องอ่านและบันทึกวัสดุย่อส่วน เครื่องถ่ายเอกสารแบบหน่วยความจำ เครื่องโทรสาร ฯลฯ อุปกรณ์เหล่านี้ นำไปประยุกต์ใช้กับงานสำนักงาน ดังนั้นการนำเทคโนโลยีเหล่านี้มาใช้ในระบบสำนักงาน จึงเรียกว่า ระบบสำนักงานอัตโนมัติ ซึ่งเทคโนโลยีดังที่กล่าวมานำไปประยุกต์ใช้กับงานสำนักงานได้ในหลายลักษณะ เช่น งานจัดเตรียมเอกสาร งานกระจายเอกสาร งานจัดเก็บและค้นคืนเอกสาร งานจัดเตรียมสารสนเทศในลักษณะภาพ งานสื่อสารสนเทศด้วยเสียง งานสื่อสารสารสนเทศด้วยภาพและเสียง เป็นต้น
เป็นระบบการปรึกษาระหว่างโรงพยาบาลกับโรงพยาบาล (One to One) ซึ่งจะสามารถใช้งานพร้อมๆ กันได้ เช่น ในขณะที่โรงพยาบาลที่ 1 ปรึกษากับโรงพยาบาล ที่ 2 อยู่ โรงพยาบาลที่ 3 สามารถขอคำปรึกษาจากโรงพยาบาลที่ 4 และโรงพยาบาลที่ 5 สามารถขอคำปรึกษาจาก โรงพยาบาลที่ 6 ได้ ระบบการปรึกษาแพทย์ทางไกล ประกอบด้วยระบบย่อยๆ 3 ระบบดังนี้คือ
1) ระบบ Teleradiology เป็นระบบการรับส่งภาพ X-Ray โดยผ่านการ
ScanFilm จาก High Resolution Scanner เพื่อเก็บลงใน File ของ
เครื่องคอมพิวเตอร์ก่อนที่จะมีการส่ง File ดังกล่าวไปยังโรงพยาบาลที่จะ
ให้คำปรึกษา
2) ระบบ Telecardiology เป็นระบบการรับส่งคลื่นหัวใจ (ECG) และเสียง
ปอด เสียงหัวใจ โดยผ่านอุปกรณ์เชื่อมต่อมายังอุปกรณ์
คอมพิวเตอร์
3) ระบบ Telepathology เป็นระบบรับส่งภาพจากกล้องจุลทรรศน์
(Microscope) ซึ่งอาจจะเป็นภาพเนื้อเยื่อ หรือภาพใดๆ ก็ได้จากกล้อง
จุลทรรศน์ทั้งชนิด Monocular และ Binocular ระบบนี้เป็นอุปกรณ์เชื่อม
ต่อกับกล้องจุลทรรศน์ซึ่งมีอยู่ทั่วไปในโรงพยาบาลต่างๆ อยู่แล้ว
ระบบเชื่อมเครือข่ายข้อมูลเป็นระบบการใช้งานเชื่อมต่อจากโรงพยาบาลต่างๆ ซึ่งเป็นจุดติดตั้งของโครงการฯ มายังสำนักเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อให้สามารถใช้บริการทางด้านเครือข่ายข้อมูลต่างๆ คือระบบ Internet ระบบ CD-ROM Server ระบบ ฐานข้อมูลกระทรวงสาธารณสุข
ส่วนระะบบ CD-ROM Server เป็นระบบที่ให้บริการฐานข้อมูลทางการแพทย์จำนวน 5 ฐานข้อมูล ได้แก่ ฐานข้อมูล Medline Standard ฐานข้อมูล Drugs and Pharmacology ฐานข้อมูล Nursing ฐานข้อมูล Health Planning และฐานข้อมูล Excerpta Medica จำนวน 3 modules ได้แก่ Cardiology, Gestro Intestinal, Nephrology
Æ การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในสาขาการสื่อสารและโทรคมนาคม
การประยุกต์ใช้ในงานประเภทนี้ได้แก่ การบริการโทรศัพท์ โทรศัพท์เคลื่อนที่ วิทยุ โทรทัศน์ เคเบิลทีวี การค้นคืนสารสนเทศระบบออนไลน์ ดาวเทียม และโครงข่ายบริการสื่อสารร่วมระบบดิจิทัล (ISDN) เป็นต้น ซึ่งในที่นี้จะกล่าวถึงเทคโนโลยีสารสนเทศด้านการสื่อสารข้อมูล และโทรคมนาคมที่น่าสนใจ ได้แก่เทคโนโลยีต่างๆ ดังนี้ ดาวเทียม (Satellite) เป็นสิ่งที่มนุษย์เป็นผู้ประดิษฐ์ขึ้น แล้วส่งไปโคจรรอบโลก รอบดาวเคราะห์ต่างๆ ดาวฤกษ์ต่างๆ หรือเพื่อให้ท่องเที่ยวไปในอวกาศและจักรวาลตามวิถีที่ได้มีการกำหนดไว้ก่อน ดาวเทียม จำแนกได้หลายประเภทซึ่งขึ้นกับลักษณะการใช้งานเช่น ดาวเทียมวิทยาศาสตร์ (Scientific Satellite) ผลิตขึ้นมาเพื่อใช้ในงานค้นคว้าวิจัยทางด้านวิทยาศาสตร์ ดาวเทียมการทหาร (Military Satellite) แบ่งเป็นประเภทย่อยได้ เช่น ดาวเทียมจารกรรม ดาวเทียมเตือนภัยล่วงหน้า ดาวเทียมต่อต้านจรวด และดาวเทียมจู่โจมหรือระดมยิง เป็นต้น ดาวเทียมนำทาง (Navigational Satellite) ดาวเทียมประเภทนี้ใช้ประโยชน์มากในเรือดำน้ำ การวางแผนเส้นทางเดินเรือและเส้นทางการบิน ดาวเทียมสำรวจทรัพยากรบนผิวโลกและในมหาสมุทร (Earth and Ocean Resources Satellite) มีจุดประสงค์เพื่อใช้ศึกษาธรณีวิทยา พืชพรรณ ตลอดจนมหาสมุทร และดาวเทียมโทรคมนาคม (Telecommunication Satellite) ใช้ในกิจการการสื่อสารในระดับโลก ระดับภูมิภาคและระดับประเทศ ด้านโทรคมนาคม
โครงข่ายบริการสื่อสารร่วมระบบดิจิทัล (Integrated Service Digital Netwonk- ISDN) ระบบ ISDN หรือที่เรียกว่า Integrated Service Digital Netwonk ซึ่งเป็นระบบที่องค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย นำมาใช้เพื่อให้บริการส่งข้อมูลในลักษณะโครงข่าย ISDN โดยเป็นโครงข่ายโทรคมนคมความเร็วสูงในระบบดิจิทัลที่สามารถส่งทั้งสัญญาณ เสียง และข้อมูลต่างๆ ร่วมไปในสายเส้นเดียวกัน และสามารถเชื่อมต่อกับโครงข่ายโทรศัพท์ในปัจจุบัน (PSTN) รวมทั้งการเชื่อมต่อกับโครงข่ายส่วนบุคคลอื่น (Private Network) เพื่อติดต่อกับผู้ใช้บริการรายอื่นได้ทั่วประเทศ
โครงข่ายบริการสื่อสารร่วมระบบดิจิทัล (Integrated Service Digital Netwonk- ISDN) ระบบ ISDN หรือที่เรียกว่า Integrated Service Digital Netwonk ซึ่งเป็นระบบที่องค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทยนำมาใช้เพื่อให้บริการส่งข้อมูลในลักษณะโครงข่าย ISDN โดยเป็นโครงข่ายโทรคมนคมความเร็วสูงในระบบดิจิทัลที่สามารถส่งทั้งสัญญาณ เสียง และข้อมูลต่างๆ ร่วมไปในสายเส้นเดียวกัน และสามารถเชื่อมต่อกับโครงข่ายโทรศัพท์ในปัจจุบัน (PSTN) รวมทั้งการเชื่อมต่อกับโครงข่ายส่วนบุคคลอื่น (Private Network) เพื่อติดต่อกับผู้ใช้บริการรายอื่นได้ทั่วประเทศ
เนื่องจากระบบ ISDN เป็นแบบดิจิทัลทั้งหมด ตลอดปลายทาง ไม่ต้องมีการแปลงสัญญาณ ทำให้ความเพี้ยนของสัญญาณมีน้อยมาก ตลอดจนสิ่งรบกวน(Noise) ก็จะลดน้อยลงด้วยทำให้ข้อมูลข่าวสารที่รับส่งในโครงข่าย ISDN มีความถูกต้อง ไว้วางใจได้สูงกว่าระบบเดิม ความเร็วในการรับส่ง 64 Kbps ต่อวงจร ทำให้สามารถรับส่งสัญญาณเสียง ข้อมูล ภาพ ตัวอักษร ในปริมาณมากและรวดเร็วขึ้นกว่าเดิม
สำหรับการบริการของระบบ ISDN ในปัจจุบันที่เพิ่มขึ้นนอกจากการส่งข้อมูลเสียงแล้ว ยังบริการข้อมูลอื่นๆ อีก อาทิ ระบบโทรศัพท์แบบใหม่ซึ่งสามารถแสดงหมายเลขโทรศัพท์ ชื่อ ตลอดจนที่อยู่ของผู้ที่เรียกมา และระบบโทรศัพท์ที่สามารถเชื่อมโยงกับคอมพิวเตอร์ ทำให้สามารถแสดงข้อมูลของผู้ที่เรียกเข้ามาได้ นอกจากนี้ระบบ ISDN ยังช่วยให้มีการติดต่อเพื่อพูดคุยพร้อมกันหลายๆ สายได้ อีกทั้งมี
1. ระบบไปรษณีย์เสียง (voice mail)
กล่าวคือ หากผู้ที่โทรเรียกไปพบว่าสายไม่ว่างหรือไม่มีผู้รับก็อาจจะทิ้งข้อความไว้ และเมื่อผู้รับเข้าสู่ระบบ ข้อความที่ฝากไว้ก็จะถูกถ่ายทอดให้แก่ผู้นั้นได้ทันที นอกจากนี้ยังมีการบริการให้แก่โรงแรมต่างๆ ในการปลุกผู้เข้าพักโดยอัตโนมัติอีกด้วย
2. โทรสาร (Facsimile)
โทรสารหรือแฟ็กซ์ (Fax) เป็นวิวัฒนาการด้านอุปกรณ์การสื่อสารข้อมูล ประดิษฐ์ขึ้นเพื่อส่งผ่านสารสนเทศจากต้นแหล่งไปยังผู้รับปลายทาง โดยใช้ความเร็วในการส่งข้อมูลสูง ระบบการทำงานของเครื่องโทรสารเป็นกระบวนการที่เครื่องส่งฉายแสงไปที่เอกสาร รูปถ่าย ภาพเขียน หรือสัญลักษณ์ต่างๆ อันเป็นต้นฉบับ เพื่อเปลี่ยนภาพหรืออักษรเป็นสัญญาณไฟฟ้า แล้วส่งไปตามช่องทางคมนาคมต่างๆ อาทิ ไมโครเวฟ สายโทรศัพท์ เครื่องส่งวิทยุ เมื่อเครื่องรับปลายทางได้รับสัญญาณดังกล่าว ก็จะเปลี่ยนสัญญาณนั้นให้ปรากฏเป็นภาพหรือข้อความตรงตามต้นฉบับ
3. โทรภาพสาร (Teletext)
โทรภาพสารหรือเทเลเท็กซ์เป็นระบบรับ-ส่งสารสนเทศผ่านคลื่นวิทยุโทรทัศน์ ส่งออกอากาศได้ในเวลาเดียวกันกับที่มีการออกอากาศรายการโทรทัศน์ตามปรกติ สารสนเทศจะถูกส่งออกอากาศเป็นหน้าๆ เหมือนหน้าหนังสือทั่วไป ผู้ชมสามารถใช้การควบคุมระยะไกล (Remote Control) เรียกสารสนเทศนั้นออกมาดูได้ตามต้องการ หรือเลือกดูเฉพาะข้อความที่ต้องการและหยุดดูได้นานตามต้องการ ไม่ต้องรอดูตั้งแต่หน้าแรก และยังสามารถรับชมรายการโทรทัศน์ได้ตามปกติ ผู้ที่มีเครื่องรับธรรมดาจะรับสารสนเทศทางเทเลเท็กซ์ได้ด้วยการติดตั้งแผ่นวงจรพิเศษ กับเครื่องรับโทรทัศน์
4. ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic mail : E-mail)
ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์เป็นทางเลือกขั้นต้น ในการให้บริการจดหมายทางไปรษณีย์โดยอัตโนมัติ แนวความคิดเกี่ยวกับไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ครอบคลุมถึงเรื่อง Broad Spectrum ด้วย กล่าวคือสารจะถูกแปลงเป็นสัญญาณไฟฟ้าแล้วจึงถูกส่งออกไป ดังนั้น กระบวนการของระบบจึงเป็นลักษณะเดียวกับระบบโทรสาร ข้อมูลนำเข้าและข้อมูลผลลัพธ์จากระบบไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ อาจปรากฏในรูปของ Video Terminal, Word Processor, โทรสาร, Data Terminal Computer Vision และระบบการสื่อสารด้วยเสียง การส่งไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์จำเป็นต้องอาศัยข่ายงานโทรคมนาคม ไปรษณีย์ อิเล็คทรอนิกส์ที่มีข้อความสำคัญและประสงค์การส่งอย่างรวดเร็ว อาจกระทำได้โดยส่งผ่านออกไปในรูปแบบข้อมูลคอมพิวเตอร์ ผ่านข่ายงานข้อมูลที่เรียกว่า Computerize Switching System
5. การประชุมทางไกล (Teleconference)
เป็นรูปแบบการสื่อสารหรือการประชุมระหว่างคนหลายๆ คน โดยไม่ต้องอยู่ต่อหน้ากัน และใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าเป็นกลไกสำคัญในการสื่อสาร การประชุมทางไกลมี 3 วิธีการ คือ
1) การประชุมทางไกลด้วยเสียงและภาพ
2) การประชุมทางไกลด้วยเสียง
3) การประชุมทางไกลด้วยคอมพิวเตอร์ จะใช้คอมพิวเตอร์ส่งสาระของ
การประชุมระหว่างกันผ่านระบบออนไลน์
Æ การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในหน่วยงานราชการต่างๆ สำนักบริการเทคโนโลยีสารสนเทศภาครัฐ (Government Information Technology Services - GITS) ลักษณะงานของสำนักบริการเทคโนโลยีสารสนเทศภาครัฐ จะให้บริการเครือข่ายสารสนเทศภาครัฐ (Government Information Network) เพื่อตอบสนองการบริหารงานสำหรับหน่วยงานของภาครัฐอย่างปลอดภัย และมีประสิทธิภาพสูง ส่งเสริมหน่วยงานภาครัฐให้มีการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการดำเนินงาน อันนำไปสู่การเป็น E-government และเป็นศูนย์กลางส่งเสริมให้เกิดระบบการเชื่อมโยงข่าวสารระหว่างภาครัฐและประชาชน สำนักงานอัตโนมัติ (Office Automation - OA) สำนักงานอัตโนมัติที่หน่วยงานของรัฐจัดทำขึ้นมีชื่อว่า IT Model Office เป็นโครงการนำร่องที่จัดทำขึ้นเพื่อพัฒนาระบบเครือข่ายพื้นฐานของภาครัฐ ในรูปของสำนักงานอัตโนมัติ เช่น งานสารบรรณ งานจัดทำเอกสารและจัดส่งทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ งานแฟ้มเอกสาร งานบันทึกการนัดหมายผู้บริหาร ซึ่งระบบงานที่สำคัญมีดังนี้คือ 1. ระบบนำเสนอข้อมูลข่าวสารสำหรับผู้บริหาร 2. ระบบจดหมายอิเล็กทรอนิกส์แบบปลอดภัย ได้มีการนำเทคโนโลยีลายเซ็นต์ดิจิทัล (Digital signature) เข้ามาช่วยในการยืนยันผู้ส่งและยืนยันความแท้จริงของอีเมล อินเทอร์เน็ตตำบล เป็นการวางระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตให้ตำบลต่างๆ ทั่วประเทศสามารถเข้าใช้อินเทอร์เน็ตได้อย่างมีประสิทธิภาพ อันจะเป็นประโยชน์อย่างมากในด้านต่างๆ เช่น หน่วยงานของรัฐ และองค์กรต่างๆ สามารถมีส่วนร่วมในการจัดทำและใช้ประโยชน์จากระบบอินเทอร์เน็ตตำบล โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หน่วยงานที่อยู่ ณ ตำบลและใกล้ชิดกับประชาชน ก็จะมีความสำคัญและความรับผิดชอบในการจัดทำ ตรวจสอบและปรับปรุงข้อมูล รวมทั้งให้บริการแก่กลุ่มชนต่างๆ การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศด้านสรรพกร เนื่องจากกรมสรรพากรทำหน้าที่เป็นเหมือนแหล่งรายได้ของรัฐบาล รายได้จากการจัดเก็บภาษีของกรมสรรพากรมีมากถึง 60 เปอร์เซ็นต์ของรายได้รวมของประเทศ ดังนั้นรัฐบาลจำต้องให้ความสำคัญกับระบบการจัดเก็บ ข้อมูลและประวัติของผู้เสียภาษีอย่างต่อเนื่องนอกจากนี้ สภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ยังต้องการข้อมูลเพื่อนำไปวิเคราะห์เพื่อทำ Macro Model หรือแบบจำลองทางเศรษฐศาสตร์ให้กับประเทศอีกด้วย ปัจจุบันกรมสรรพกรได้จัดทำโครงการ E-revenue ซึ่งเป็นบริการเสียภาษีออนไลน์ นอกจากนี้ยังให้ข้อมูลข่าวสารที่มีประโยชน์ด้านการพาณิชย์ มีบริการโปรแกรมประการยื่นแบบ บริการแบบพิมพ์ บริการยื่นแบบผ่านอินเทอร์เน็ต เป็นต้น ซึ่งอำนวยความสะดวก รวดเร็ว มากยิ่งขึ้นต่อประชาชนผู้ใช้บริการ
การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ สำหรับงานทะเบียนของวิทยาลัยพยาบาลวิทยาลัยพยาบาล เป็นสถาบันการศึกษาสังกัดกระทรวงสาธารณสุข มีหน้าที่จัดการศึกษาอบรมส่งเสริม การศึกษา พัฒนาระบบสารสนเทศสำหรับงานทะเบียนของวิทยาลัยจะช่วยให้การดำเนินงานระบบงานทะเบียนนักศึกษา และการประมวลผลของวิทยาลัยมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น ฐานข้อมูลออกแบบด้วยวิธีนอร์มอลไลเซชัน(Normalization) และถูกพัฒนาบนระบบการจัดการฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ชื่อ ออราเคิล(Oracle) บนระบบปฏิบัติการวินโดวส์ NT ซึ่งสนับสนุนการทำงานแบบผู้ใช้หลายคน และการทำงานแบบหลายคน
วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี เป็นสถาบันทางการศึกษาสังกัดสถาบันพระบรมราชชนก สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข มีหน้าที่ผลิตและพัฒนาบุคลากร รวมทั้งจัดการศึกษาตามแผนการผลิตบุคคลากรทางการพยาบาลศาสตร์ หลักสูตรพยาบาลศาสตร์ระดับต้น หลักสูตรพยาบาลศาสตร์บัณฑิต (ต่อเนื่อง) และหลักสูตรการ อบรมระยะสั้น เช่น หลักสูตรการสอนการพยาบาลในคลีนิก (ภาคปฏิบัติ) หลักสูตรพยาบาลเฉพาะทาง เป็นต้น
วิทยาลัยพยาบาลได้รับการพัฒนาทั้งเชิงบริหารและวิชาการให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของสังคมและเทคโนโลยี โดยเฉพาะการจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งวิทยาลัยได้รับการสนับสนุนงบประมาณในการจัดซื้อ Hardware ระบบเครือข่ายจากกระทรวงสาธารณสุข แต่ยังพบว่ายังใช้ประโยชน์ไม่ได้เต็มที่ โดยเฉพาะขาดการจัดสร้างฐานข้อมูลที่ใช้ร่วมกันภายในวิทยาลัย และภายในเขต
ระบบงานทะเบียนเป็นกลไกที่ช่วยในการดำเนินการจัดการศึกษาในสถานศึกษาทุกหลักสูตร มีหลายวิชาที่ นักศึกษาต้องฝึกงาน ผู้วิจัยจึงได้กำหนดแนวทางในการพัฒนาระบบสารสนเทศสำหรับงานทะเบียนภายในวิทยาลัย และการฝึกงานนักศึกษาที่ใช้ร่วมกันภายในเขตของวิทยาลัยพยาบาลบนระบบเครือข่าย(Lan) และถูกพัฒนาบนระบบการจัดการฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ชื่อ ออราเคิล(Oracle) ในลักษณะของไคลเอ็น/เซิร์ฟเวอร์ เพื่อช่วยในการจัดเก็บข้อมูล ประมวลผลข้อมูลและรายงานผล
ขจัดความซ้ำซ้อนในการส่งนักศึกษาเข้าฝึกงานในสถานที่ฝึกงานตามความต้องการของวิทยาลัยพยาบาล และสถาบันต้นสังกัด ประโยชน์ที่ได้จากการนำไอทีมาประยุกต์ใช้ในราชการ นอกจากจะทำให้ระบบการเก็บภาษี และระบบจัดการฐานข้อมูลดีขึ้น ยังทำให้เราสามารถเรียกติดตามหนี้สินจากประวัติการจ่ายภาษีที่ผิดปกติได้อีกด้วย ประโยชน์ที่ได้รับจากการ DB2 Universal Database ทำให้ข้อมูลที่มีความถูกต้องแม่นยำ และรวดเร็วเหมาะสำหรับการประมวลผลเพื่อประโยชน์ในการตัดสินใจ การทำเครือข่ายออนไลน์โดยใช้ภาษาจาวาในการเขียนแอพพลิเคชัน เพื่อใช้ในกรมสรรพากร ถือเป็นการมองการณ์ไกล นอกจากจะทำให้ผู้ใช้งานได้ง่าย (User Friendly) นอกเหนือจากแอพพลิเคชันที่เขียนขึ้นมาใหม่แล้ว ยังมีการแชร์ข้อมูลผ่านบราวเซอร์ เรียกว่าเป็นการทำ E-Business Application ประเภทหนึ่ง เพราะนอกจากจะแชร์ข้อมูลผ่านบราวเซอร์แล้ว ในอนาคตเราจะสามารถเรียกยอดการเก็บภาษีเป็นรายวันออนไลน์ได้อีกด้วย การทำงานแบบแชร์ข้อมูลระหว่างคนในองค์กร ถือเป็นอินทราเน็ตประเภทหนึ่งซึ่งช่วยลดต้นทุน และสะดวกในการจัดเก็บที่ต่างไปจากระบบแฟ้มเอกสารแบบเก่าที่สำคัญฐานข้อมูลที่จัดเก็บใน DB2 Universal Database สามารถนำมาวิเคราะห์เพื่อช่วยในขั้นตอนการตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาด Æ การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในสาขาด้านความมั่นคงของชาติและทางทหาร 1. ด้านกฎหมายและการปกครอง ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศสรุปคดีทุกคดีว่าใครฟ้องใคร เรื่องอะไร ศาลชั้นต้นศาลอุทธรณ์ ศาลฎีกา ตัดสินว่าอย่างไร เข้าคอมพิวเตอร์ทั้งหมด หลังจากนั้นคอมพิวเตอร์ก็จะช่วยงานได้หลายอย่าง เช่น ต้องการทราบว่ารัฐธรรมนูญฉบับไหนเหมือนหรือแตกต่างกับฉบับไหนมากน้อยเท่าใด ก็ให้คอมพิวเตอร์ค้นหา และวิเคราะห์เปรียบเทียบพิมพ์ลงได้ หรือต้องการทราบว่าคดีแบบไหนเคยมีฟ้องร้องแล้วศาลตัดสินอย่างไร ก็ใช้คอมพิวเตอร์ช่วยหาให้ก็จะได้คำตอบภายในเวลาไม่กี่นาที 2. ด้านรัฐสภา เทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามามีบทบาทสำคัญต่อการสนับสนุน และการดำเนินบทบาทด้านการพัฒนาประชาธิปไตยเป็นอย่างมากต่องานรัฐสภา ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านนิติบัญญัติ ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ รัฐสภาได้มีการปรับปรุงระบบงานใหม่ พร้อมดึงเอาคอมพิวเตอร์เข้ามาใช้ในกิจการงานสภา ศึกษาวิเคราะห์ระบบงานรัฐสภาทั้งหมดและจัดตั้งศูนย์คอมพิวเตอร์ ขึ้นมากำกับดูแลงานด้านคอมพิวเตอร์ พร้อมพัฒนาฐานข้อมูลรัฐสภาขึ้นระหว่างปีพ.ศ. 2535-2540 3. ด้านการทหารและกองบัญชาการทหารสูงสุด การนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาประยุกต์ใช้ในด้านการทหารแบ่งเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ ด้านการสื่อสาร และภูมิศาสตร์ •มีการนำดาวเทียมทหารมาใช้เพื่อกิจการด้านความมั่นคงทางทหาร เพราะสามารถส่งข้อมูลข่าวสารซึ่งเป็นความลับเกี่ยวกับความมั่นคงของชาติ โดยเฉพาะด้านการทหารซึ่งไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้ •การถ่ายภาพภูมิศาสตร์ จำลองลักษณะภูมิศาสตร์ในภูมิภาคต่าง ๆ ของประเทศ เพื่อความสะดวก ในการจัดทำยุทธภูมิและการวางแผนป้องกันประเทศ การถ่ายภาพภูมิศาสตร์และใช้เทคโนโลยีหาพิกัดภูมิศาสตร์และจัดเก็บข้อมูล (www.vtt.fi/tte/projects/WAMPPI/results.text.html) 4. ด้านอาวุธ และอุปกรณ์การรักษาความมั่นคงของประเทศ •ได้นำเทคโนโลยีมาใช้ในการประดิษฐ์อาวุธที่ทันสมัย สามารถกำหนดพิกัดการยิงโดยเครื่องคอมพิวเตอร์ในการคำนวณระยะทาง และวิถีการตกของระเบิดได้อย่างถูกต้องและแม่นยำ •ทางด้านการทหารได้นำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้กับเครื่องตรวจจับ อาวุธสงคราม รวมถึงเครื่องบินที่รุกล้ำเข้ามาใน เขตน่านฟ้าของประเทศไทย •มีการนำคอมพิวเตอร์มาใช้ในการจัดเก็บข้อมูลด้านความปลอดภัย เกี่ยวกับข้อมูลผู้ไม่ประสงค์ดี มาสร้างเป็น แบบจำลองการป้องกันประเทศ Æ การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในสาขาบันเทิง ยุคของสังคมสารสนเทศที่มีลักษณะการใช้นวัตกรรมเทคโนโลยี และเทคโนโลยีสารสนเทศ จึงทำให้เกิด อีซีนีม่า (E-cinema) กิจกรรมต่างๆ สำหรับสมาชิกที่เข้ามาใช้ อีซีนีม่า คือ เปิดออนไลน์ บุ๊คกิ้งมีการเปิดให้จองตั๋วและเลือกที่นั่งทางเว็บไซต์ ลูกค้าสามารถจ่ายเงินในเว็บได้เลยโดยผ่านบัตรเครดิต ธุรกิจด้านอีซีนีม่านี้นับได้ว่ามีประโยชน์มหาศาล เพราะทางเจ้าของกิจการได้มีการบอกข่าวสารบางอย่างที่ลูกค้าไม่รู้ทุกอย่างรวมอยู่ในเว็บ ซึ่งมีความสำคัญอย่างมากในเชิงธุรกิจ ทั้งได้รับการตอบรับสูงจากลูกค้า ของการเปิดจองทั้งระบบ ซึ่งปัจจุบันบริการทั้ง ระบบโทรศัพท์และระบบออนไลน์ ทิศทางการพัฒนาธุรกิจเอ็นเตอร์เทนเมนต์ท่ามกลางภาวะการแข่งขันนับเป็นตัวกำหนดกรอบการทำงานและเป้าหมายการตลาดได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะท่ามกลางกระแสเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว มีอิทธิพลอย่างสูงต่อธุรกิจในปัจจุบัน นับเป็นกระแสสำคัญที่จะย้ำภาพความเป็น Trend Setting ภายใต้เว็บเอ็นเตอร์เทนเมนต์ www.majorcineplex.comโลกทุกวันนี้เป็นโลกของเทคโนโลยี และโลกของ it จึงทำให้มีคอนเซ็บของ อีซีนีม่าขึ้นมา อีซีนีมาของเมอเจอร์ซีนีเพล็กซ์ บิซีเนส โมเดลของเมเจอร์ ซินีเพล็กซ์ แบ่งออกเป็น 5 กลุ่มหลักๆ กลุ่มแรก คือ ซีนีมาบิซิเนส มีการลงทุนในทรัพย์สินซึ่งเป็นที่ดินและเจ้าของตึก โดยเฉพาะที่รัชโยธิน มีมูลค่า 1500 ล้านบาท กลุ่มที่สอง รีเทลบิซิเนส ทำหน้าที่ดูแลและบริหารพื้นที่ร้านค้าปลีกที่มาเช่าภายในสถานที่ กลุ่มที่สาม เป็นธุรกิจโบว์ลิงซึ่งซื้อเครื่องและอุปกรณ์เข้ามาดำเนินการและบริหารเอง กลุ่มที่สี่ ธุรกิจไอแม็กซ์ กลุ่มที่ห้า เอ็นเตอร์เทนเทนต์บิซิเนส ประกอบด้วย ซิมูเลเตอร์ เกม ผับ ร้านอาหาร เช่น พรีวิว เมโทรคาเฟ่ และธุรกิจตัวสุดท้ายคือ อีบิซีเนส เริ่มทำตัวเว็บประมาณ พฤศจิกายน 2542 พร้อมเปิดเว็บไซต์ www.majorcimeplex.com ขึ้นมาซึ่งเป็นอีก บิซีเนสที่เราต้องการดูแล กิจกรรมที่ผ่านมา คือ เปิดออนไลน์ บุ๊คกิ้งมีการเปิดให้จองตั๋วและเลือกที่นั่งทางเว็บไซต์ ลูกค้าสามารถจ่ายเงินในเว็บได้เลยโดยผ่านบัตรเครดิต นับตั้งแต่เปิดเว็บไซต์และให้จองตั๋วออนไลน์ ประมาณ 7-8 เดือน ถือว่าได้ประโยชน์มหาศาล เพราะทางกลุ่มได้มีการบอกข่าวสารบางอย่างที่ลูกค้าไม่รู้ทุกอย่างรวมอยู่ในเว็บ ซึ่งมีความสำคัญอย่างมากในเชิงธุรกิจ ทั้งได้รับการตอบรับสูงจากลูกค้าเฉลี่ยวันละ 400-500 คน ครั้งหนึ่ง คือกลุ่มคนดูที่เป็นวัยรุ่น อีกครั้งเป็นกลุ่มคนทำงาน คิดเป็น 10 % ของการเปิดจองทั้งระบบ ซึ่งปัจจุบันบริการทั้งระบบโทรศัพท์และระบบออนไลน์ www.majorcineplex.com เพื่อความบันเทิงที่สมบูรณ์แบบ สำหรับเป้าหมายของการจัดทำคือ ต้องการพัฒนาให้เป็นเว็บเอ็นเตอร์เทนเมนต์ที่สมบูรณ์แบบ เนื่องจากความได้เปรียบในการมีพื้นฐานของตัวคอร์โปรดักส์ รองรับการดำเนินการของเว็บไซด์ทั้งโรงภาพยนต์ โบว์ลิง ไอแม็กซ์ และร้านค้าเป็นส่วนสนับสนุนสำคัญต่อการพัฒนาสู่ความเป็นเว็บเอ็นเตอร์เทนเมนต์ที่สมบูรณ์แบบที่สุด ภายในเว็บไซต์ www.majorcineplex.com ประกอบด้วยข่าวสารข้อมูลโดยแบ่งออกมาเป็นหมวดตาม รายละเอียด เช่น รายละเอียดของหนัง โปรแกรมหนัง หนังที่เข้าฉาย รายชื่อหนังท็อปเท็น ทั้งในสหรัฐอเมริกาและประเทศไทย หรือแม้แต่หนังที่จะเข้าฉายในปีนี้ทั้งปี เรื่องย่อของหนัง รูปภาพ เว็บมีความเคลื่อนไหวค่อนข้างมาก เพราะมีทีมอัพเดตเว็บทุกวัน ข้อมูลที่เกี่ยวข้องทุกอย่างจะลิงค์มาจากหลายแหล่ง และปัจจุบันจะมีการส่งอีเมล์ไปยังสมาชิกทั้ง 20,000 คน ทุกวันอาทิตย์ ว่ามีอะไรบ้างและมีหนังอะไรเข้าบ้าง รายงานความเคลื่อนไหวตลอด ภายใต้การพัฒนาของทีมงานประมาณ 4-5 คน ซึ่งดูแลด้านนี้โดยเฉพาะ และในอนาคตจะมีบริการจองตั๋วหนังผ่านเว็บสามารถเลือกที่นั่งได้ รวมทั้งปรับโฉมระบบโรงหนังทั้งระบบภาพและเสียงสู่ดิจิตอลซึ่งทำให้ภาพมีความคมชัดกว่าในปัจจุบัน Æ การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในสาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กลุ่มนักวิทยาสตร์และวิศวกรที่ต้องการศึกษาพฤติกรรมบางอย่างของสิ่งมีชีวต รวมถึงสิ่งแวดล้อมต่างๆ เช่นศึกษาการกระจายถิ่นที่อยู่ของนก การกระจายของแบคทีเรีย การสร้างอาณาจักรของมด ผึ้ง ชีวิตความเป็นอยู่ของ สัตว์ป่าต่างๆ การพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน ตลอดจนระบบนิเวศวิทยา ความสนใจในการจำลองความเป็นอยู่ของ สิ่งมีชีวิตได้มีมานานแล้ว เริ่มตั้งแต่ครั้ง จอห์น พอยเมน ผู้เป็นนักคณิตศาสตร์ เสนอแนวคิดการทำให้เครื่องจักรทำงานโดยอัตโนมัติภายใต้โปรแกรม ซึ่งเป็นรากฐานของเครื่องคอมพิวเตอร์ จนถึงปัจจุบันเกมแห่งชีวิตจึงเกิดขึ้น ในปี คศ 1970 มาร์ตินการ์ดเนอร์ และจอห์น ฮอร์ตัน สองนักคณิตศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ บริษัท อังกฤษ ได้เสนอแนวความคิดในเรื่องเกมแห่งชีวิต (Game of live) ในหนังสือ Scientific American ผลปรากฏว่า เกมนี้ได้เป็นที่รู้จัก และแพร่หลายทั่วโลกอย่างรวดเร็ว เกมแห่งชีวิตที่นำเสนอนั้นเป็นการสมมุติอาณาจักรที่มีชีวิต อาศัยอยู่เป็นกลุ่มเหมือนกระดานหมากรุก แต่ละเซลจะประกอบด้วยสิ่งที่มีชีวิตที่อาศัยอยู่โดยแต่ละเซลมีเซลข้างเคียงอยู่ทั้งสิน 8 เซล ในเกมแห่งชีวิตที่แพร่หลายได้วางกฏเกณฑ์ของการจำลองไว้ 3 ข้อโดยมีเงื่อนไขดังนี้ 1. การอยู่รอด ทุกๆ เซลจะมีชีวิตต่อไปอีกถ้าหากมีเพื่อนบ้านข้างเคียงอยู่สอง หรือสามเซล การดำรงชีวิตอยู่ต่อไปอีกหนึ่ง ช่วงเวลาหนึ่งก็ต้องอาศัยเพื่อน (เพื่อนข้างเคียงมีจำนวนพอเหมาะ 2-3 เซลมีอาหารแบ่งกันได้) 2. การตายทุกๆ เซลจะตายจากหรือหายไป ถ้าหากว่ามีเพื่อนข้างเดียวอยู่ 4 เซล หรือมากกว่า 4 เซล กรณีนี้อาจหมายถึง แย่งอาหารกันกินเลยตาย หรือหากเซลที่มีชีวิตใดมีเพื่อนเพียงตัวเดียวหรือไม่มีเลยจะเหงาตาย 3. การเกิด เซลที่ว่างเปล่า จะเกิดเป็นเซลชีวิตได้ ต้องมีเพื่อน บ้านที่มีชีวิตอยู่ 3 เซลการเปลี่ยนสถานะของเซลสิ่งมีชีวิตนี้จะเปลี่ยนทุกๆ ช่วงเวลา ดังนั้นเมื่อเขียนเป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ และใช้เซลเป็นจุดบนจอภาพก็จะได้ภาพของความเป็นอยู่ของสิ่งมีชีวิต ดังตัวอย่างการเปลี่ยนแปลงในช่วงเวลาหนึ่ง แสดงให้เห็น ในการเริ่มต้นเกมแห่งชีวิตคอมพิวเตอร์ จะทำการสร้างเซลที่มีชีวิตแบบสุ่มหรือแบบกำหนดให้ จากนั้นคอมพิวเตอร์จะทำการสร้างให้ตามกฎเกณฑ์ สามข้อดังที่ได้กล่าวแล้ว จากกฏทั้ง 3 ข้อทำให้บางเซลต้องตายไปและ บางเซลเกิดขึ้นมาใหม่การเกิด และการตายทำให้ได้รูปร่างของสิ่งมีชีวิตบนหน้าจอที่คล้ายภาพศิลปที่เปลี่ยนแปลง ตลอดเวลา จากการพัฒนาเกมแห่งชีวิตสองมิติซึ่งเป็นภาพพื้นๆ ก็มีผู้พัฒนาให้เป็นเกมสามมิติ คาร์เตอร์เบย์ นักคอมพิวเตอร์แห่งมหาวิทยาลัยคาโรไลนา ได้สร้างเกมแห่งชีวิต 3 มิติ ทำให้มีเซลอยู่ข้างเคียงได้ถึง 26 เซล แทนที่จะเป็น 8 เซล อัลกอริธึมก็ยุ่งยากขึ้น จากนั้นก็มีผู้สนใจพัฒนาต่ออีกเช่น เดวิด เจฟเฟอลิน แห่ง UCLA ได้จำลองชีวิตของมด และอาหารมดด้วย อัลกอริทึมเฉพาะ เพื่อจำลองการเจริญเติบโตของมดและให้ชื่อโปรแกรมว่า Ants Simlift สามารถจำลองสิ่งมีชีวิต สามารถสร้างสิ่งแวดล้อมต่างๆ เพื่อให้ชีวิตดำรงอยู่ได้ เช่นสร้างสัตว์ต่างๆ ที่ทั้งสัตว์กินพืช กินเนื้อ กินเม็ดผลไม้ เพื่อการอยู่รอดสัตว์ เหล่านั้นจะรักษาสมดุลระหว่างกัน สรุป ในสนามแข่งขันแห่งเทคโนโลยีสารสนเทศที่ทันสมัย ทุกหน่วยงานต่างพัฒนาความรวดเร็วและแม่นยำทางด้านข้อมูลข่าวสารของตนเพื่อชัยชนะ ความสำเร็จของหน่วยงานจึงมีความผูกพันกับเทคโนโลยีที่ตนมีอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แม้จะต้องทุ่มงบประมาณเพื่อการพัฒนาระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นเรื่องที่จำเป็นที่หลีกเลี่ยงได้ยาก เพราะด้วยเหตุผลในการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ด้วยข้อจำกัดทางด้านการเงินและงบประมาณ ต้องรู้จักนำอุปกรณ์ที่เหมาะสมมาประยุกต์ใช้งาน จะก่อให้เกิดผลดีได้อย่างคาดไม่ถึง ทำให้การทำงานเป็นไปในลักษณะอัตโนมัติ ระบบเครือข่ายสื่อสารข้อมูลก็ถูกนำไปใช้งานอย่างแพร่หลาย เนื่องจากต้องการทำงานเป็นกลุ่มและมีการกระจายข่าวสารไปในแต่ละส่วนขององค์กร หรือให้บุคคลภายนอกได้ทราบข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริหารต่างๆ
การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ สำหรับงานทะเบียนของวิทยาลัยพยาบาลวิทยาลัยพยาบาล เป็นสถาบันการศึกษาสังกัดกระทรวงสาธารณสุข มีหน้าที่จัดการศึกษาอบรมส่งเสริม การศึกษา พัฒนาระบบสารสนเทศสำหรับงานทะเบียนของวิทยาลัยจะช่วยให้การดำเนินงานระบบงานทะเบียนนักศึกษา และการประมวลผลของวิทยาลัยมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น ฐานข้อมูลออกแบบด้วยวิธีนอร์มอลไลเซชัน(Normalization) และถูกพัฒนาบนระบบการจัดการฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ชื่อ ออราเคิล(Oracle) บนระบบปฏิบัติการวินโดวส์ NT ซึ่งสนับสนุนการทำงานแบบผู้ใช้หลายคน และการทำงานแบบหลายคน
วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี เป็นสถาบันทางการศึกษาสังกัดสถาบันพระบรมราชชนก สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข มีหน้าที่ผลิตและพัฒนาบุคลากร รวมทั้งจัดการศึกษาตามแผนการผลิตบุคคลากรทางการพยาบาลศาสตร์ หลักสูตรพยาบาลศาสตร์ระดับต้น หลักสูตรพยาบาลศาสตร์บัณฑิต (ต่อเนื่อง) และหลักสูตรการ อบรมระยะสั้น เช่น หลักสูตรการสอนการพยาบาลในคลีนิก (ภาคปฏิบัติ) หลักสูตรพยาบาลเฉพาะทาง เป็นต้น
วิทยาลัยพยาบาลได้รับการพัฒนาทั้งเชิงบริหารและวิชาการให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของสังคมและเทคโนโลยี โดยเฉพาะการจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งวิทยาลัยได้รับการสนับสนุนงบประมาณในการจัดซื้อ Hardware ระบบเครือข่ายจากกระทรวงสาธารณสุข แต่ยังพบว่ายังใช้ประโยชน์ไม่ได้เต็มที่ โดยเฉพาะขาดการจัดสร้างฐานข้อมูลที่ใช้ร่วมกันภายในวิทยาลัย และภายในเขต
ระบบงานทะเบียนเป็นกลไกที่ช่วยในการดำเนินการจัดการศึกษาในสถานศึกษาทุกหลักสูตร มีหลายวิชาที่ นักศึกษาต้องฝึกงาน ผู้วิจัยจึงได้กำหนดแนวทางในการพัฒนาระบบสารสนเทศสำหรับงานทะเบียนภายในวิทยาลัย และการฝึกงานนักศึกษาที่ใช้ร่วมกันภายในเขตของวิทยาลัยพยาบาลบนระบบเครือข่าย(Lan) และถูกพัฒนาบนระบบการจัดการฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ชื่อ ออราเคิล(Oracle) ในลักษณะของไคลเอ็น/เซิร์ฟเวอร์ เพื่อช่วยในการจัดเก็บข้อมูล ประมวลผลข้อมูลและรายงานผล
ขจัดความซ้ำซ้อนในการส่งนักศึกษาเข้าฝึกงานในสถานที่ฝึกงานตามความต้องการของวิทยาลัยพยาบาล และสถาบันต้นสังกัด
แหล่งอ้างอิง:
http://dusithost.dusit.ac.th/~librarian/it107/C8.htm