ฉบับที่17
5. สภาร่างรัฐธรรมนูญ พระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้ง
5.1 มีจำนวน 100 คน คัดเลือกมาจากสมัชชาแห่งชาติ
5.2 ประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ เป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการแต่งตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ
5.3 มีหน้าที่จัดทำร่างรัฐธรรมนูญให้แล้วเสร็จภายใน 180 วัน นับตั้งแต่วันเปิดประชุมสภาร่างรัฐธรรมนูญครั้งแรก
5.4 ร่างรัฐธรรมนูญที่จัดทำเสร็จแล้ว ให้เผยแพร่ให้ประชาชนทราบ และจัดให้มีการออกเสียงประชามติว่าเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบ โดยต้องจัดให้มีการออกเสียงประชามติในช่วงวันที่ 15-30 นับจากวันเผยแพร่ และวันออกเสียงประชามติ ต้องเป็นวันเดียวกันทั่วประเทศ
5.5 ในการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญ ให้สภาร่างรัฐธรรมนูญแต่งตั้งคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญขึ้น 1 คณะ ประกอบด้วยบุคคลที่สภาเลือกจำนวน 25 คน และอีก 10 คน ตามคำแนะนำของประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ
5.6 เมื่อคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญจัดทำร่างรัฐธรรมนูญเสร็จแล้ว ให้จัดทำคำชี้แจงว่าร่างรัฐธรรมนูญมีความแตกต่างจากรัฐธรรมนูญ 2540 ในเรื่องใด พร้อมเหตุผลในการแก้ไขไปยังสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ องค์กร และคณะบุคคล(รวม 12 องค์กรตามมาตรา 26) เพื่อพิจารณาและเสนอความคิดเห็น นอกจากนี้ให้เผยแพร่ร่างรัฐธรรมนูญ และเอกสารคำชี้แจงให้ประชาชนทั่วไปทราบ รวมทั้งส่งเสริมและจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน ประกอบด้วย
5.7 ให้คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญดำเนินการยกร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ เฉพาะที่จำเป็นเพื่อประโยชน์ในการจัดให้มีการเลือกตั้งให้แล้วเสร็จภายใน 45 วัน นับแต่วันที่สภาร่างรัฐธรรมนูญพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแล้วเสร็จ ต่อจากนั้นให้นำเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อพิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 45 วัน
5.8 ห้ามกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือดำรงตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภา ภายใน 2 ปี นับแต่วันที่พ้นจากตำแหน่งกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ
5.9 ในการออกเสียงประชามติ หากเสียงข้างมากเห็นชอบให้นำร่างรัฐธรรมนูญมาใช้บังคับ ให้ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ นำร่างรัฐธรรมนูญขึ้นทูลเกล้าเพื่อทรงลงพระปรมาภิไธย
5.10 กรณีที่สภาร่างรัฐธรรมนูญจัดทำร่างรัฐธรรมนูญไม่แล้วเสร็จภายใน 180 วัน หรือสภาร่างรัฐธรรมนูญไม่เห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญตามที่คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญเสนอ หรือเสียงข้างมากของการออกเสียงประชามติไม่เห็นชอบให้ใช้ร่างรัฐธรรมนูญ ให้สภาร่างรัฐธรรมนูญสิ้นสุดลง
5.11 เมื่อมีกรณีตามข้อ 5.9 ให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติประชุมร่วมกับคณะรัฐมนตรี เพื่อพิจารณานำรัฐธรรมนูญฉบับใดฉบับหนึ่งที่เคยใช้บังคับมาแล้ว มาปรับปรุงให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน นับแต่วันออกเสียงประชามติไม่เห็นชอบ โดยให้นายกรัฐมนตรีเป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
5.12 เมื่อมีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญ และได้จัดทำร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ เกี่ยวกับการเลือกตั้งเสร็จสิ้นแล้ว ให้สภาร่างรัฐธรรมนูญสิ้นสุดลง
6. คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.)
6.1 มีหน้าที่ในการรักษาความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงแห่งชาติ
6.2 ประกอบด้วยบุคคลตามประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ฉบับที่ 24 ลงวันที่ 29 กันยายน 2549 โดยประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ อาจแต่งตั้งสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ เพิ่มขึ้นได้อีกไม่เกิน 15 คน
7. คณะตุลาการรัฐธรรมนูญ
7.1 ปฏิบัติหน้าที่ตามที่เป็นอำนาจหน้าที่ของศาลรัฐธรรมนูญ ที่มีอยู่ก่อนวันที่ 19 กันยายน 2549 โดยให้สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ทำหน้าที่ทางธุรการ
7.2 ประกอบด้วย ประธานศาลฎีกาเป็นประธาน ประธานศาลปกครองสูงสุดเป็นรองประธาน ผู้พิพากษาศาลฎีกาซึ่งได้รับเลือกโดยที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา จำนวน 5 คน และตุลาการในศาลปกครองสูงสุด ซึ่งได้รับเลือกโดยที่ประชุมใหญ่ศาลปกครองสูงสุด จำนวน 2 คน ประกอบเป็นคณะตุลาการรัฐธรรมนูญ
- « แรก
- ‹ หน้าก่อน
- 1
- 2