ตอนที่ ๑๒ ท้าวทุษยันต์และศกุนตลาได้ครองสุขตลอดชีวิต
ระหว่างเดินทางกลางอากาศ ท้าวทุษยันต์เห็นภูเขาลูกหนึ่งจึงถามมาตุลีว่า
" นี่เขาอะไรรึ ท่านมาตุลี? "
มาตุลีตอบว่า
" นี่คือเขาเหมกูฏ ที่อยู่ของพระกศปเทพบิครและพระอทิติแม่เจ้า "
ทุษยันต์ตรัส
" เราควรจะไปเข้าเฝ้านมัสการนะ "
มาตุลีเห็นด้วยว่า
" ก็ดีเหมือนกัน "
ขณะนั้น พระกศปเทพบิดร และอทิติเทพมารดากำลังนั่งสนทนาอยู่บนเตียงกับบริวารทั้งหลาย มีเทวดา ๒ องค์ ฤๅษี ๒ ตน พราหมณ์ ๒ คน มนุษย์ ๒ คน นก ๒ ตัว ลิง ๒ ตัว และยักษ์ ๒ ตน เมื่อท้าวทุษยันต์ และมาตุลีไปถึงก็เข้าไปก้มกราบองค์พระเทพบิดรและองค์เทพมารดา ด้วยความจงรักภักดี องค์พระบิดรแองค์พระเทพมารดา เห็นท้าวทุษยันต์ก็ทรงรักใคร่เอ็นดู
องค์พระเทพบิดรตรัสชมเชยท้าวทุษยันต์ว่า
" ดูกรทุษยันต์ ! ข้าได้ยินว่าลูกของข้าบอกเล่าเรื่องราวของท่านให้ข้าฟัง ว่าท่านช่วยปราบยักษ์ที่กำเริบเสิบสานจนราบคาบ ข้าฟังแล้วก็พลอยยินดียิ่งนัก เธอมีความชอบมาก ข้าขอตอบแทนด้วยหญิงงามทรามสวาท ที่มีสิริโฉมงดงามไม่มีใครสู้ได้เลย "
แล้วตรัสให้อทิติเทพมารดาไปตามแก้วกัลยาผู้เลอโฉมมาเพื่อประทานเป็นรางวัลความชอบแก่ท้าวทุษยันต์ พระอทิติเทพ มารดาเข้าไปข้างในแล้วจูงนางศกุนตลาพร้อมด้วยเด็กน้อย ๑ คน ออกมา พลันที่ศกุนตลากับท้าวทุษยันต์มองหน้ากัน ต่างฝ่ายต่างก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง แล้วศกุนตลาก็เดินเข้าไปหาท้าวทุษยันต์ ทั้งสองยิ้มให้กันด้วยยินดี
พระกศปเทพบิดรตรัสถามว่า
" เป็นไง ราชา ! นางคนนี้ท่านพอใจไหม ? "
ท้าวทุษยันต์กราบทูลว่า
" พระเจ้าข้า พระกรุณาแห่งเทพบิดร เปรียบเหมือนมหาสาครใหญ่กว้างลึกซึ้งหาที่สุดมิได้ ข้าพระองค์นี้ชั่วช้าเสียเหลือใจ เมื่อพบนางจึงไม่รู้จัก จนเห็นแหวนให้แทนรักจึ่งได้หายความเคลือบแคลง "
พระกศปเทพบิดร ตรัสว่า
" นั่นเป็นเพราะอำนาจสาปแช่งของพระฤๅษีทุรวาสแต่ตอนนี้ เธอสิ้นเคราะห์หมดทุกข์แล้ว จงยินดีปรีดา จงรับมเหสีนี้ไปครองสุขกันในเมืองหัสดินปุระเถิด "