ความหมายปริศนาคำทาย
ความหมาย ที่มา ลักษณะของปริศนาคำทาย
ความหมาย ปริศนาคำทาย คือถ้อยคำที่เป็นคำถามพูดขึ้นเพื่อใช้สำหรับทาย ทดสอบความรู้ ความรอบคอบ
มักใช้ถ้อยคำคล้องจอง ปริศนาคำทาย เป็นทั้งวรรณกรรมมุขปาฐะและไม่ใช่มุขปาฐะ
เช่นปริศนา ท่าทาง ปริศนาอักษรไขว้ ปริศนาภาพ นิทานปริศนา เป็นต้น สมัยโบราณนิยมเล่นปริศนาคำทายหลังเวลาอาหารเย็นหรือตอนหัวค่ำ
หรือเล่นเมื่อมีคนมาชุมนุมกัน เช่น งานบวชนาค โกนจุก ตรุษสงกรานต์ คนไทยนิยมเล่นปริศนาคำทายทุกท้องถิ่น
ลักษณะการเล่น ใช้เล่นตั้งแต่สองคนขึ้นไปไม่จำกัดเวลาและสถานที่ การถามให้ตอบหาก ผู้ตอบตอบไม่ได้ จะมีการบอกใบ้
หากใบ้แล้วยังตอบไม่ได้ ถ้าต้องการทราบคำตอบต้องยอมแพ้ในการยอมจะมีกติกาให้ปฏิบัติตาม เช่น เขกเข่า ให้ดื่มน้ำหรือกินอาหารจนอิ่ม
ยอมเป็นทาส ซึ่งผู้ยอมแพ้ถือว่าเป็นการเสียหน้า ทั้งนี้เป็นการเน้นให้คิด ให้ใช้สติปัญญา จะไม่ยอมง่าย ๆ
จึงถือว่าเป็นวรรณกรรมที่ส่งเสริมการใช้ความคิดสติปัญญา ปริศนาคำทายของภาคกลางขึ้นต้นด้วย อะไรเอ่ย
ภาคเหนือขึ้นต้นด้วย อะหยังหวา อันหยังเอ๊าะ ภาคอีสานขึ้นต้นด้วย แม่นหยัง อิหยัง ภาคใต้ขึ้นต้นด้วย ไอ้ไหรหา ไอ้ไหรเหอ การั่ย ไหโฉ้
ที่มา ปริศนาคำทาย มีที่มาจากสิ่งต่าง ๆ ดังนี้
1. มาจากสภาพแวดล้อมใกล้ตัว
- อะไรเอ่ย ก้อนสี่เหลี่ยมน้ำเต็มเปี่ยม ไม่มีปลา ? (น้ำแข็ง)
- อะไรเอ่ย คิดไม่ออก เอานิ้วตอกก็คิดได้ ? (เครื่องคิดเลข)
2. มาจากธรรมชาติ
- ไอ้ไหรหา เช้ามาเย็นกลับ (ดวงอาทิตย์)
- อะไรเอ่ย มาจากเมืองแขก ตีไม่แตก ฟันไม่เข้า (เงา)
3. มาจากการเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติ
- ต้นเท่านิ้วก้อย พระนั่งห้าร้อยไม่หัก (พริกขี้หนู)
- ยามน้อยนุ่งเตี่ยวเขียว เฒ่ามานุ่งเตี่ยวแดง (พริก)
- เมื่อเด็กนุ่งผ้า โตขึ้นมาแก้เปลือย (หน่อไม้)
4. มาจากความคิดเปรียบเทียบ
- อะไรเอ่ยสูงเทียมฟ้าต่ำกว่าหญ้านิดเดียว (ภูเขา)
- อะไรเอ่ย ยิ่งต่อยิ่งสั้น ยิ่งบั่นยิ่งยาว (บุหรี่จุดไฟ , ถนน)
5. มาจากเครื่องมือในการประกอบอาชีพ
- หัวสองหัว ตั๋วมีตั๋วเดียว (ไม้คานพร้อมสาแหรก 2 ข้าง)
ลักษณะของปริศนาคำทาย
1. มักใช้คำคล้องจองเพื่อจดจำง่าย แสดงความเป็นคนเจ้าบทเจ้ากลอน ของคนไทย เช่น
- ต้นเท่าขา ใบวาเดียว (ต้นกล้วย)
- ต้นเท่าครก ใบปรกดิน (ตะไคร้)
2. มักใช้การเปรียบเทียบเพื่อให้คนตอบได้ นึกภาพสิ่งนั้นได้ เช่น
- ฤดูแล้งเข้าถ้ำ ฤดูน้ำเที่ยวจร ไว้ผมเหมือนมอญ นามกรว่ากระไร?
- อะไรเอ่ยหน้าดำ ฟันขาว เหมือนชาวนิโกร ตะโก้ก็ไม่ใช่ (ขนมเปียกปูน)
3. มักเป็นข้อความทำนองการใช้จิตวิทยาจูงใจให้คนตอบ
- ต้นสามเหลี่ยม ใบเทียมดอก ใครทายออก ได้เมียงาม (กก)
- ยิบ ๆ เหมือนไข่ปูนา ใครไม่มีปัญญา ไขไม่ออกเอย (ตัวหนังสือ)
4. มักใช้ข้อความที่มีความหมายเป็นสองแง่สองมุมเหมือนอนาจาร แต่เรื่องที่ทายไม่ใช่เรื่องหยาบโลน
เป็นเพียงการเพิ่มความสนุกสนานของ ผู้ใหญ่ที่มีอารมณ์ขันในเรื่องเพศของคนไทย นับเป็นความเฉลียวฉลาด ของการคิด เช่น
- อะไรเอ่ย นารีมีรู พลอยสีชมพู อยู่ในรูนารี (ต่างหู)
- อะไรเอ่ย เปิดผ้าเห็นขน แกะขนเห็นเม็ด แกะเม็ดเห็นรู (ข้าวโพด)