ประวัติสถานที่ “วัดยานนาวา”
ภาพเปรียบเทียบวัดยานนาวาก่อนการบูรณะปฏิสังขรณ์และหลังการบูรณะปฏิสังขรณ์
ที่มา : http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/315/22315/images/Yanawa/IMG_5058.jpg
http://www.komchadluek.net/media/img/size1/2009/05/14/5j8gagickbdd5a675eab9.jpg
วัดยานนาวา
มาถึงวัดยานนาวากันแล้วค่ะ วัดยานนาวาเป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ สังกัดมหานิกาย ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ติดถนนเจริญกรุง เขตยานนาวา กรุงเทพมหานคร เป็นวัดโบราณ มีมาตั้งแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยา เดิมชื่อ "วัดคอกควาย" เนื่องจากมีชาวทวายมาลงหลักปักฐานอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก และชาวทวายจะนำกระบือที่เลี้ยงไว้มาทำการซื้อขายแลกเปลี่ยนกัน หมู่บ้านบริเวณนั้นจึงได้ชื่อเรียกกันต่อมาว่า "บ้านคอกควาย"
ในสมัยกรุงธนบุรีได้รับการยกฐานะวัดคอกควายขึ้นเป็นพระอารามหลวง เรียกชื่อใหม่ว่า "วัดคอกกระบือ" ต่อมารัชกาลที่ ๑ ทรงสร้างพระอุโบสถใหม่ ครั้นถึงรัชกาลที่ ๓ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ปฏิสังขรณ์และสร้างเรือสำเภาพระเจดีย์แทนพระสถูปเจดีย์ทั่วไป ทรงรำลึกถึงคติธรรมทางพระพุทธศาสนาซึ่งปรากฏเรื่องราวใน เวสสันดรชาดกกัณฑ์กุมาร ตอนพระเวสสันดรตรัสเรียกสองกุมารขึ้นจากสระบัวเพื่อพระราชทานให้ชูชก พระเวสสันดรทรงกล่าวเป็นคาถาอุปมาว่า พระบารมีทานทั้งหลายทั้งปวงที่ทรงบำเพ็ญนั้นเปรียบเรือสำเภาใหญ่ที่พามนุษยชาติข้ามโอฆะสงสารไปสู่พระนิพพาน
ประกอบกับทรงมีพระราชดำริว่า ขณะนั้นเรือสำเภาจีนที่เดินทางค้าขายทางทะเลกำลังจะหมดสมัย เพราะเริ่มมีเรือกำปั่นต่อแบบฝรั่งเข้ามาแทนที่ อนุชนรุ่นหลังคงจะรู้จักแต่เพียงชื่อ “สำเภาจีน” ด้วยพระราชดำริอันลึกซึ้งรอบคอบและกว้างไกลเช่นนี้จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้สร้างเจดีย์มีฐานเป็นเป็นเรือสำเภาจีน ขนาดเท่าและลักษณะเหมือนของจริงทุกประการ แล้วโปรดพระราชทานนามวัดว่า "วัดญาณนาวาราม" มีความหมายว่า ญาณอันเป็นพาหนะดุจดั่งสำเภาข้ามโอฆะสงสาร ต่อมาภายหลังชื่อจึงได้เปลี่ยนมาเป็น “วัดยานนาวา” ที่มีความหมายใกล้เคียงกับชื่อเดิม คือ วัดอันมีพาหนะดุจสำเภาในการที่จะนำพาเวไนยสัตว์ให้ข้ามพ้นโอฆะสงสาร
ต่อมารูป พระสำเภาเจดีย์วัดยานนาวาได้กลายมาเป็นต้นแบบในการสร้าง พระสำเภากระจาดใหญ่ ในงานพระราชพิธีเทศน์มหาชาติ ในสมัยรัชกาลที่ ๔ และรัชกาลที่ ๕ ที่จัดขึ้นที่หน้าพระที่นั่งสุทไธสวรรย์ มาตั้งแต่บัดนั้น
สิ่งที่น่าสนใจในวัดยานนาวา
พ.ศ.๒๕๒๕ ช่วงครบรอบ ๒๐๐ ปี ของการสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ กรมศิปากร ได้ส่งเจ้าหน้าที่มาสำรวจศิลปะโบราณวัตถุในย่านยานนาวา และสาทรหลังจากนั้นได้ขอขึ้นทะเบียนอนุรักษ์ศิลปะโบราณวัตถุในพระอารามวัดยานนาวา จำนวน ๔ รายการ ในปี ๒๕๒๖ ประกอบด้วย
สำเภาวัดยานนาวา
ที่มา : http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/956/2956/images/140China60th/08_China60th.jpg
๑.พระสำเภาเจดีย์ ซึ่งถือได้ว่าเป็นศิลปะโบราณของชาติ และของพระพุทธศาสนาโดยสำเภายานนาวานี้มีความยาววัดจาดหงอนข้างบนถึงท้ายบาหลี ๒๑ วา ๒ ศอก ความยาวส่วนล่างวัดที่พื้นดิน ๑๘ วา ๑ ศอกเศษ ส่วนกว้างตอนกลางลำ ๔ วา ๓ ศอก ส่วนสูงตอนกลางลำ ๒ วา ๓ ศอก มีพระเจดีย์องค์ใหญ่และเล็กอยู่ในลำสำเภารวม ๒ องค์ ที่ห้องบาหลีมีรูปหล่อของพระเวสสันดรกับพระกัญหาชาลีประดิษฐานอยู่ ซึ่งสืบเนื่องมาจากเนื้อความในมหาชาติคำหลวง ที่พระเวสสันดรโน้มน้าวใจโอรสธิดา ให้อุทิศตนเพื่อร่วมกับพระบิดาสร้างมหากุศล อันจักเป็นเสมือนเรือสำเภาใหญ่พามนุษยชาติข้ามโอฆสงสารไปสู่พระนิพพาน
พระแท่นที่ประทับของรัชกาลที่ ๓
๒.พระแท่นที่ประทับ ของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวที่พระองค์ทรงใช้ในระหว่างการคุมการก่อสร้างพระสำเภาเจดีย์
๓.เก๋งจีน ภายในมีการประดิษฐานสิ่งศักสิทธิ์หลายอย่าง เช่นหลวงพ่อโสธร เจ้าแม่กวนอิม
บานประตูพระอุโบสถ
ที่มา : http://www.komchadluek.net/media/img/size1/2009/05/14/gbe9ij8jeiikb9bb79cbg.jpg
๔.พระอุโบสถ ซึ่งสร้างในสมัยรัชกาลที่ ๑ ด้านหลังบานประตูมีภาพจิตรกรรมสำคัญที่รัชกาลที่ ๓ ทรงโปรดเกล้าฯ ให้วาดขึ้น คือรูปกระทงใหญ่ตามแบบที่ทำในพระราชพิธีลอยพระประทีป และโถยาคูตามแบบอย่างที่ทำเลี้ยงพระในพระราชพิธีสารทในรัชสมัยของพระองค์