พระวิสุทธิกษัตรีย์
พระวิสุทธิกษัตรีย์
พระวิสุทธิกษัตรีย์ พระนามเดิมว่า พระสวัสดิราชธิดา พระองค์สืบเชื้อสายจาก 2 พระราชวงศ์
กล่าวคือ ทรงสืบเชื้อสายแห่งราชวงศ์สุพรรณภูมิผ่านทางสมเด็จพระราชบิดา (สมเด็จพระมหาจักรพรรดิ)
พระมหากษัตริย์กรุงศรีอยุธยา และเชื้อสายทางราชวงศ์พระร่วงเจ้า สุโขทัยศรีสัชนาลัยผ่านทางสมเด็จพระราชมารดา (สมเด็จพระสุริโยทัย)
พระนางได้อภิเษกสมรสกับขุนพิเรนทรเทพ เจ้านายฝ่ายพระร่วง
ภายหลังได้รับการสถาปนาขึ้นเป็น พระมหาธรรมราชา
รั้งตำแหน่งเจ้าผู้ครองเมืองพิษณุโลกและได้รับการสถาปนาขึ้นเป็น พระวิสุทธิกษัตรีย์
รั้งตำแหน่งพระอัครมเหสีแห่งเมืองพิษณุโลก พระนางทรงเป็นพระราชมารดาของ
พระสุพรรณกัลยา(องค์ทอง) พระนเรศวร (องค์ดำ) และ พระเอกาทศรถ (องค์ขาว)
แม้พระนางจะกินตำแหน่งสูงศักดิ์ถึงพระอัครมเหสี แต่ความทุกข์โทมนัสในใจนั้นแสนสาหัส
ยากที่ผู้ใดจะรับรู้ หลังจากสูญเสียพระราชมารดา สมเด็จพระสุริโยทัย และ พระน้องนางเธอ
สมเด็จพระบรมดิลก ในสงครามพระเจ้าหงสาวดีตะเบ็งชะเวตี้แล้ว
พระเจ้าหงสาวดีบุเรงนองเสวยราชได้ยกกองทัพมาตีหัวเมืองฝ่ายเหนือ
ตั้งแต่เมืองตาก สุโขทัย ศรีสัชนาลัย กำแพงเพชร จนกระทั่งเมืองพิษณุโลกโดยได้ล้อมเมืองพิษณุโลกไว้ได้ทุกด้าน
อาณาประชาราษฎรเดือดร้อนหนีภัยสงครามมาอยู่ในเมืองเกิดการขาดแคลนเสบียงอาหารอย่างหนักเนื่องจากข้าศึกล้อมเมืองไว้ทุกด้านไม่สามารถทำนาได้
ประกอบทั้งกองทัพจากกรุงศรีอยุธยาซึ่งเป็นเมืองข้างฝ่ายพระราชบิดาติดแต่จะตกแต่งพระนครรับข้าศึกอย่างเดียวไม่คิดจะยกกองทัพมาขึ้นช่วย
กลับปล่อยให้พระนางกับพระมหาธรรมราชา ตั้งรับศึกพม่าแต่เพียงลำพัง โดยไม่คิดถึงความสัมพันธ์พ่อลูกแม้แต่น้อย
สุดท้ายพระมหาธรรมราชาเห็นว่าบ้านเมืองขาดเสบียงอาหารประกอบทั้งทหารหาญที่ส่งไปรบก็ล้มตายลงเป็นอันมากฯลฯ
เป็นการยากยิ่งที่จะรักษาเมืองพิษณุโลกจากข้าศึกซึ่งล้อมเมืองไว้ทุกด้านได้ จึงยอมเป็นไมตรีกับพระเจ้ากรุงหงสาวดี
โดยส่งตัวพระองค์ดำ พระนเรศวร ไปเป็นตัวประกันที่กรุงหงสาวดี
กาลต่อมาเมื่อพระเจ้ากรุงศรีสัตนาคนหุตล้านช้าง พระเจ้าไชยเชษฐาธิราช
แต่งพระราชสาสน์ไปยังพระมหาจักรพรรดิ กรุงศรีอยุธยา เพื่อสู่ขอพระน้องนางเธอ พระเทพกษัตรีย์
ไปเป็นอัครมเหสีแห่งกรุงล้านช้างจะได้เป็นสุวรรณปฐพีกับกรุงศรีอยุธยา ข้างฝ่ายพระเจ้าหงสาวดีบุเรงนอง
เมื่อทราบเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น จึงให้พระมหาธรรมราชา แต่งทัพชิงตัวพระเทพกษัตรีย์ไปให้พระเจ้าบุเรงนอง
ทางพระเทพกษัตรีย์นั้นไม่ได้มีความยินดีที่จะเป็นชายาของพระเจ้าบุเรงนองจึงได้ปลิดชีพองค์เอง ณ กรุงหงสาวดี
นำความโศกเศร้าพระทัยมาถึงพระวิสุทธิกษัตรีย์อย่างที่สุด ทรงตัดพ้อถึงตัวเองเสมอว่าส่งตัวพระน้องนางไปสิ้นพระชนม์
เวลาต่อมากองทัพพระเจ้าล้านช้างได้ยกทัพมาตีเมืองพิษณุโลก พระมหาธรรมราชาแต่งสาสน์ไปยังอยุธยาเพื่อขอให้มาช่วยรบ
พระมหาจักรพรรดิได้ให้พระมหินทร์ พระอนุชาธิราชของพระนาง นำกองทัพมาช่วยแต่พอมาเมืองพิษณุโลก
กับเห็นความสำคัญของสายพระโลหิตในพระพี่นางข้นน้อยกว่าข้าศึก กลับลำยกทัพสนับสนุนกับพระเจ้าล้านช้างตีเมืองพิษณุโลก
พระมหาธรรมราชาจึงหันไปขอกำลังสนับสนุนพระเจ้าบุเรงนองแทน พระเจ้าบุเรงนองได้ให้ยกกองทัพพม่ามาช่วยขับไล่ทัพพระเจ้าล้านช้างจนหนีแตกพ่าย
สิ้นรัชกาลสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ
พระเจ้าหงสาวดีบุเรงนองได้กรีฑาทัพหลวงหมายจะมาเอากรุงศรีอยุธยาและได้ให้พระมหาธรรมราชายกทัพหัวเมืองเหนือมาร่วมทัพด้วย
พระนางในฐานะอัครมเหสีเมืองพิษณุโลกนั้นมีความทุกข์ในพระทัยเหนือผู้ใด ครั้นจะยกทัพเอาชัยเหนือเมืองพระราชบิดาก็จะเป็นการอกกัญญูภาพ
ครั้นจะไม่ให้พระราชสวามียกทัพไปร่วมบ้านเมืองก็จักเดือดร้อน ในที่สุดทัพพระเจ้าบุเรงนองก็ทำศึกมีชัยเหนือกรุงศรีอยุธยา เป็นเหตุให้ต้องนำตัวพระมหินทราธิราช
พระอนุชาไปเป็นตัวประกันยังกรุงหงสาวดี แล้วสถาปนาพระมหาธรรมราชาขึ้นเป็นเจ้าเหนือหัวกรุงศรีอยุธยาแทน
พระนางจึงได้ย้ายมากินตำแหน่งพระอัครมเหสีแห่งกรุงศรีอยุธยา ครั้นสิ้นรัชกาลพระเจ้าบุเรงนองแล้วพระเจ้าหงสาวดีนันทบุเรงเมืองประเทศราชต่างก็ได้แข็งเมือง
จากพระนเรศวรประกาศอิสรภาพ ณ เมืองแครงแล้วก็ได้เทครัวเชลยศึกครั้งเสียกรุงที่อยู่กรุงหงสาวดี กลับกรุงศรีอยุธยา พระเจ้าหงสาวดีนันทบุเรง
ย้อนกลับ