• user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:027f72c78e93f88e42bd31cc92f1ba88' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '<!--paging_filter--><p>\n&nbsp;\n</p>\n<p align=\"center\">\n<img height=\"76\" width=\"220\" src=\"/files/u43694/p3_0.gif\" border=\"0\" />\n</p>\n<p align=\"center\">\nนายพลเยอรมันเล่าให้ฟังอย่างน่าคิด ใน หนังสือคนไทยในกองทัพนาซี ของ พ.อ. วิชา ว่า เป็นเพราะเยอรมันขาดศูนย์น้ำหนักในการรบ ทำอะไรเปะปะไปหมด ไล่ตั้งแต่ สร้างเครื่องบินขับไล่หลายแบบมากเกินไป เครื่องไอพ่น(mb262 สองเครื่องยนต์ )ก็หลายแบบ เครื่องใบพัดก็หลายแบบ(bf109,fw190,bf110 ในขณะที่อังกฤษเน้นไปที่spitfire เพียงแบบเดียว ส่วน bf110 นี่หนักมากครับ เป็นเครื่องขับไล่ที่ต้องมีเครื่องขับไล่ bf109 คุ้มกัน) ใช้เชื้อเพลิงหลายแบบ ซ่อมบำรุงหลายโรง หลายเครื่องจักร ต้องสำรองอะไหล่เยอะ(นอกเรื่องนิดทอ.ไทยแบบใหม่ถ้าจะซื้อ jas39 ไม่ถึงโหล แต่ต้องสร้างโรงซ่อม สำรองอะไหล่ สร้างช่างสร้างนักบินอีกหลายโหล เพื่อเครื่องบินโหลเดียว ก่อนจะเปลี่ยนยุคไปใช้เทคโนโลยีสเตลท์ ก็จะเข้าอีหรอบเดียวกันครับ) ทำให้ไม่มีเครื่องบินพอที่จะต่อต้านเครื่องทิ้งระเบิดสัมพันธมิตรได้ รวมทั้งการเปิดแนวรบสะเปะสะปะ เยอรมันส่อแววแพ้ตั้งแต่\n</p>\n<p align=\"center\">\n<strong>1.บุกแอฟริกาเหนืออย่างไร้สาระ</strong> จะว่าเพื่อน้ำมัน เยอรมันก็ไม่มีกองเรือที่ใหญ่พอจะลำเลียงน้ำมันฝ่ากองเรืออังกฤษกลับยุโรป(รถถังรอมเมลยังต้องส่งบำรุงด้วยเรือดำน้ำเลยครับ) จะว่าตัดเส้นทางลำเลียง อังกฤษก็แล่นเรืออ้อมแหลมกู๊ดโฮปได้ การบุกแอฟริกาเหนือทำให้กองทัพเยอรมัน ต้องกระจายกำลังโดยไม่เกิดประโยชน์ใดๆต่อเยอรมัน แต่กลับผลาญทรัพยากรที่มีจำกัดของเยอรมันให้หมดไปอย่างรวดเร็ว ตอนที่นายพลมอนโกเมอรี่ยึด ที่มั่นสุดท้ายเยอรมันได้นั้น พบรถถังสภาพดีมากมายแต่ไม่มีน้ำมันวิ่ง ซึ่ง รถถังอังกฤษไม่ใช่คู่ต่อสู้ของรถถังแพนเซอร์ของเยอรมันแต่อย่างใด\n</p>\n<p align=\"center\">\n<strong>2.การจมของเรือบิสมาร์คและการล่มสลายของกองทัพเรือเยอรมัน</strong> ก็มีสาเหตุมาจากเพื่ออำพรางการบุกเกาะครีต(เกาะครีตอยู่ครึ่งทางระหว่างกรีซและอียิปต์ ปาเลสไตน์)ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน คำสั่งออกทะเลของบิสมาร์คเกิดขึ้นเพื่อบีบบังคับให้กองเรืออังกฤษละความสนใจจากเกาะครีต ในขณะนั้นเรือบิสมาร์ค(เรือที่แข็งแกร่งที่สุดในยุคนั้น โดนยิงด้วยปืนใหญ่พันกว่านัดถึงจะจม ในขณะที่เรือฮูด ซึ่งเป็นเรือธงของอังกฤษโดน บิสมาร์คยิงเพียงไม่กี่ชุดก็จมในเวลาไม่กี่ชั่วโมงครับ)ต้องออกทะเลอย่างโดดเดียวโดยที่เรือคู่แฝด คือเทอร์ปิต ยังฝึกในทะเลบอลติค ซึ่งหากบิสมาร์ค ออกทะเลเหนือพร้อมเรือเทอร์ปิต ไกเซอร์เนาว์ ชาร์นฮอส ไม่แน่ว่า ฝ่ายพ่ายแพ้อาจเป็นกองเรืออังกฤษก็ได้\n</p>\n<p align=\"center\">\n<strong>3.เยอรมันไม่เร่งเผด็จศึกอังกฤษ </strong>ในขณะที่อเมริกายังไม่สามารถตั้งตัวได้ หากเยอรมันทุ่มเทกำลังทั้งหมดถล่มจนอังกฤษถูกยึดหรือหมดสภาพทางการรบ (ตอนที่เยอรมันละความสนใจจากอังกฤษไปบุกรัสเซียนั้น อังกฤษเหลือเครื่องบินspitfire ไม่กี่ร้อยลำแล้วถ้าเยอรมันยืดสงครามที่เกาะบริเตนใหญ่ออกไปอีกไม่กี่เดือน ผลสงครามคงจะเปลี่ยนไป)อเมริกาจะไม่สามารถอาศัยอังกฤษเป็นเรือบรรทุกเครื่องบินที่ไม่มีวันจมในยุโรปครับ\n</p>\n<p align=\"center\">\n<strong>4. การบุกรัสเซียโดยไม่เร่งเผด็จศึกแตกหักในแต่ละจุด</strong> ในขณะที่แนวต้านรัสเซียด้านโปแลนด์แตก และต้องถอยร่นจนถึงเซนต์ปีเตอร์เบิร์กนั้น เยอรมันไม่รวบรวมกำลังตีเซนต์ปีเตอร์เบิร์กและมอสโคว์(ทำลายแนวป้องกันมอสโคว์ได้2ชั้นแล้ว เหลือแนวชั้นในเท่านั้นแต่กองทัพเยอรมันประมาทแบ่งกำลังบุกลงใต้เสียก่อน)ให้แตก แต่กลับทำสงครามสะเปะสะปะอีกครั้งโดยการมุ่งลงใต้ยึดเมือง สตาลินกราดจนกองทัพที่6 ต้องถูกล้อมตายและถูกจับประมาณ 3-6 แสนคน(ตัวเลขไม่แน่นอน) แต่การสูญเสียกองทัพที่6 นั้นเยอรมันไม่ได้ตัดสินใจผิดพลาดแต่อย่างใด เพราะหากกองทัพที่6 ถอนจากสตาลินกราด ทหารเยอรมันอีกล้านคนในคอเคซัสจะไม่สามารถถอนกำลังได้ทัน การบุกรัสเซียผิดพลาดที่ไม่ทุ่มกำลังยึดมอสโคว์ให้ได้เท่านั้นเหตุเพราะประมาทคู่ต่อสู้คิดว่าอย่างไรเสียรัสเซียก็ต้องแพ้\n</p>\n<p align=\"center\">\n<strong><u>สรุป</u></strong> เยอรมันแพ้เพราะประมาทศัตรู หลงลำพองใจในตนเองเกินไป คนเก่งๆสู้กับศัตรู สามคนก็พอไหว แต่นี่ อเมริกา อังกฤษ รัสเซีย มีกำลังพลและทรัพยากรมากกว่าเยอรมันหลายสิบเท่าครับ ในตอนต้นสงครามเยอรมันมีทหารที่มีประสิทธิภาพ ประมาณ2 ล้านคน สูญเสียไปในแอฟริกาเหนือ และรัสเซีย เหลือประมาณ7 แสนคนตอนท้ายสงคราม และต้องรับศึก2 ด้านจาก กองทัพรัสเซียที่มีประมาณ3 ล้านคน และ พันธมิตรอังกฤษ อเมริกา อีก ล้านกว่าคน ซึ่งหาก เยอรมันไม่สูญเสียกำลังพลในแอฟริกาเหนือและรัสเซีย จะไม่มีพวกอีวานที่ไหนกล้าเหยียบแผ่นดินเยอรมันอย่างแน่นอน\n</p>\n<p align=\"center\">\nตัวอย่างของการรวมศูนย์กำลังการรบที่ดีก็คือ ในตอนต้นรัตนโกสินทร์ที่กองทัพไทยซึ่งมีกำลังน้อยกว่าแต่เป็นกองทัพที่มีประสิทธิภาพ ใช้หลักการยุทธสมัยใหม่ เคลื่อนที่เร็ว กระทัดรัด ประสิทธิภาพสูง มาตั้งแต่สมัยกองทัพพระเจ้าตากสินมหาราช เป็นกองทัพที่เล็กแต่มีประสิทธิภาพเอาชนะศัตรูที่กระจัดกระจายจนได้ชัยชนะก็คือ สงคราม 9 ทัพ ในตอนต้นรัตนโกสินท์ ในสงครามครั้งนั้น เอาแม่ทัพคนไหนมารบก็ชนะไทยได้ไม่ยาก ยกเว้น พระเจ้าปดุงคนเดียวเท่านั้นที่แบ่งกำลัง 2-3 แสนเป็นกองทัพ 9 กองทัพมาให้ รัชกาลที่1 ใช้กำลังที่รวบรวมได้ไม่กี่หมื่น ไล่ตีแตกทีละกองทัพครับ\n</p>\n<p align=\"center\">\n&nbsp;\n</p>\n<p align=\"center\">\n <a href=\"/node/83541\"><img height=\"51\" width=\"120\" src=\"/files/u43694/home.jpg\" border=\"0\" /></a>\n</p>\n<p align=\"center\">\n&nbsp;\n</p>\n', created = 1718617697, expire = 1718704097, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:027f72c78e93f88e42bd31cc92f1ba88' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.

สาเหตุที่แพ้

 

นายพลเยอรมันเล่าให้ฟังอย่างน่าคิด ใน หนังสือคนไทยในกองทัพนาซี ของ พ.อ. วิชา ว่า เป็นเพราะเยอรมันขาดศูนย์น้ำหนักในการรบ ทำอะไรเปะปะไปหมด ไล่ตั้งแต่ สร้างเครื่องบินขับไล่หลายแบบมากเกินไป เครื่องไอพ่น(mb262 สองเครื่องยนต์ )ก็หลายแบบ เครื่องใบพัดก็หลายแบบ(bf109,fw190,bf110 ในขณะที่อังกฤษเน้นไปที่spitfire เพียงแบบเดียว ส่วน bf110 นี่หนักมากครับ เป็นเครื่องขับไล่ที่ต้องมีเครื่องขับไล่ bf109 คุ้มกัน) ใช้เชื้อเพลิงหลายแบบ ซ่อมบำรุงหลายโรง หลายเครื่องจักร ต้องสำรองอะไหล่เยอะ(นอกเรื่องนิดทอ.ไทยแบบใหม่ถ้าจะซื้อ jas39 ไม่ถึงโหล แต่ต้องสร้างโรงซ่อม สำรองอะไหล่ สร้างช่างสร้างนักบินอีกหลายโหล เพื่อเครื่องบินโหลเดียว ก่อนจะเปลี่ยนยุคไปใช้เทคโนโลยีสเตลท์ ก็จะเข้าอีหรอบเดียวกันครับ) ทำให้ไม่มีเครื่องบินพอที่จะต่อต้านเครื่องทิ้งระเบิดสัมพันธมิตรได้ รวมทั้งการเปิดแนวรบสะเปะสะปะ เยอรมันส่อแววแพ้ตั้งแต่

1.บุกแอฟริกาเหนืออย่างไร้สาระ จะว่าเพื่อน้ำมัน เยอรมันก็ไม่มีกองเรือที่ใหญ่พอจะลำเลียงน้ำมันฝ่ากองเรืออังกฤษกลับยุโรป(รถถังรอมเมลยังต้องส่งบำรุงด้วยเรือดำน้ำเลยครับ) จะว่าตัดเส้นทางลำเลียง อังกฤษก็แล่นเรืออ้อมแหลมกู๊ดโฮปได้ การบุกแอฟริกาเหนือทำให้กองทัพเยอรมัน ต้องกระจายกำลังโดยไม่เกิดประโยชน์ใดๆต่อเยอรมัน แต่กลับผลาญทรัพยากรที่มีจำกัดของเยอรมันให้หมดไปอย่างรวดเร็ว ตอนที่นายพลมอนโกเมอรี่ยึด ที่มั่นสุดท้ายเยอรมันได้นั้น พบรถถังสภาพดีมากมายแต่ไม่มีน้ำมันวิ่ง ซึ่ง รถถังอังกฤษไม่ใช่คู่ต่อสู้ของรถถังแพนเซอร์ของเยอรมันแต่อย่างใด

2.การจมของเรือบิสมาร์คและการล่มสลายของกองทัพเรือเยอรมัน ก็มีสาเหตุมาจากเพื่ออำพรางการบุกเกาะครีต(เกาะครีตอยู่ครึ่งทางระหว่างกรีซและอียิปต์ ปาเลสไตน์)ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน คำสั่งออกทะเลของบิสมาร์คเกิดขึ้นเพื่อบีบบังคับให้กองเรืออังกฤษละความสนใจจากเกาะครีต ในขณะนั้นเรือบิสมาร์ค(เรือที่แข็งแกร่งที่สุดในยุคนั้น โดนยิงด้วยปืนใหญ่พันกว่านัดถึงจะจม ในขณะที่เรือฮูด ซึ่งเป็นเรือธงของอังกฤษโดน บิสมาร์คยิงเพียงไม่กี่ชุดก็จมในเวลาไม่กี่ชั่วโมงครับ)ต้องออกทะเลอย่างโดดเดียวโดยที่เรือคู่แฝด คือเทอร์ปิต ยังฝึกในทะเลบอลติค ซึ่งหากบิสมาร์ค ออกทะเลเหนือพร้อมเรือเทอร์ปิต ไกเซอร์เนาว์ ชาร์นฮอส ไม่แน่ว่า ฝ่ายพ่ายแพ้อาจเป็นกองเรืออังกฤษก็ได้

3.เยอรมันไม่เร่งเผด็จศึกอังกฤษ ในขณะที่อเมริกายังไม่สามารถตั้งตัวได้ หากเยอรมันทุ่มเทกำลังทั้งหมดถล่มจนอังกฤษถูกยึดหรือหมดสภาพทางการรบ (ตอนที่เยอรมันละความสนใจจากอังกฤษไปบุกรัสเซียนั้น อังกฤษเหลือเครื่องบินspitfire ไม่กี่ร้อยลำแล้วถ้าเยอรมันยืดสงครามที่เกาะบริเตนใหญ่ออกไปอีกไม่กี่เดือน ผลสงครามคงจะเปลี่ยนไป)อเมริกาจะไม่สามารถอาศัยอังกฤษเป็นเรือบรรทุกเครื่องบินที่ไม่มีวันจมในยุโรปครับ

4. การบุกรัสเซียโดยไม่เร่งเผด็จศึกแตกหักในแต่ละจุด ในขณะที่แนวต้านรัสเซียด้านโปแลนด์แตก และต้องถอยร่นจนถึงเซนต์ปีเตอร์เบิร์กนั้น เยอรมันไม่รวบรวมกำลังตีเซนต์ปีเตอร์เบิร์กและมอสโคว์(ทำลายแนวป้องกันมอสโคว์ได้2ชั้นแล้ว เหลือแนวชั้นในเท่านั้นแต่กองทัพเยอรมันประมาทแบ่งกำลังบุกลงใต้เสียก่อน)ให้แตก แต่กลับทำสงครามสะเปะสะปะอีกครั้งโดยการมุ่งลงใต้ยึดเมือง สตาลินกราดจนกองทัพที่6 ต้องถูกล้อมตายและถูกจับประมาณ 3-6 แสนคน(ตัวเลขไม่แน่นอน) แต่การสูญเสียกองทัพที่6 นั้นเยอรมันไม่ได้ตัดสินใจผิดพลาดแต่อย่างใด เพราะหากกองทัพที่6 ถอนจากสตาลินกราด ทหารเยอรมันอีกล้านคนในคอเคซัสจะไม่สามารถถอนกำลังได้ทัน การบุกรัสเซียผิดพลาดที่ไม่ทุ่มกำลังยึดมอสโคว์ให้ได้เท่านั้นเหตุเพราะประมาทคู่ต่อสู้คิดว่าอย่างไรเสียรัสเซียก็ต้องแพ้

สรุป เยอรมันแพ้เพราะประมาทศัตรู หลงลำพองใจในตนเองเกินไป คนเก่งๆสู้กับศัตรู สามคนก็พอไหว แต่นี่ อเมริกา อังกฤษ รัสเซีย มีกำลังพลและทรัพยากรมากกว่าเยอรมันหลายสิบเท่าครับ ในตอนต้นสงครามเยอรมันมีทหารที่มีประสิทธิภาพ ประมาณ2 ล้านคน สูญเสียไปในแอฟริกาเหนือ และรัสเซีย เหลือประมาณ7 แสนคนตอนท้ายสงคราม และต้องรับศึก2 ด้านจาก กองทัพรัสเซียที่มีประมาณ3 ล้านคน และ พันธมิตรอังกฤษ อเมริกา อีก ล้านกว่าคน ซึ่งหาก เยอรมันไม่สูญเสียกำลังพลในแอฟริกาเหนือและรัสเซีย จะไม่มีพวกอีวานที่ไหนกล้าเหยียบแผ่นดินเยอรมันอย่างแน่นอน

ตัวอย่างของการรวมศูนย์กำลังการรบที่ดีก็คือ ในตอนต้นรัตนโกสินทร์ที่กองทัพไทยซึ่งมีกำลังน้อยกว่าแต่เป็นกองทัพที่มีประสิทธิภาพ ใช้หลักการยุทธสมัยใหม่ เคลื่อนที่เร็ว กระทัดรัด ประสิทธิภาพสูง มาตั้งแต่สมัยกองทัพพระเจ้าตากสินมหาราช เป็นกองทัพที่เล็กแต่มีประสิทธิภาพเอาชนะศัตรูที่กระจัดกระจายจนได้ชัยชนะก็คือ สงคราม 9 ทัพ ในตอนต้นรัตนโกสินท์ ในสงครามครั้งนั้น เอาแม่ทัพคนไหนมารบก็ชนะไทยได้ไม่ยาก ยกเว้น พระเจ้าปดุงคนเดียวเท่านั้นที่แบ่งกำลัง 2-3 แสนเป็นกองทัพ 9 กองทัพมาให้ รัชกาลที่1 ใช้กำลังที่รวบรวมได้ไม่กี่หมื่น ไล่ตีแตกทีละกองทัพครับ

 

 

 

สร้างโดย: 
นางสาวกัญฐินีภรณ์ ประถมด้วง และ นางสาวสิริลักษณ์ ธิติสิริเวช

มหาวิทยาลัยศรีปทุม ผู้ใหญ่ใจดี
 

 ช่วยด้วยครับ
นักเรียนที่สร้างบล็อก กรุณาอย่า
คัดลอกข้อมูลจากเว็บอื่นทั้งหมด
ควรนำมาจากหลายๆ เว็บ แล้ววิเคราะห์ สังเคราะห์ และเขียนขึ้นใหม่
หากคัดลอกทั้งหมด จะถูกดำเนินคดี
ตามกฎหมายจากเจ้าของลิขสิทธิ์
มีโทษทั้งจำคุกและปรับในอัตราสูง

ช่วยกันนะครับ 
ไทยกู๊ดวิวจะได้อยู่นานๆ 
ไม่ถูกปิดเสียก่อน

ขอขอบคุณในความร่วมมือครับ

อ่านรายละเอียด

ด่วน...... ขณะนี้
พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 
มีผลบังคับใช้แล้ว 
ขอให้นักเรียนและคุณครูที่ใช้งาน
เว็บ thaigoodview ในการส่งการบ้าน
ระมัดระวังการละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย
อ่านรายละเอียดที่นี่ครับ

 

สมาชิกที่ออนไลน์

ขณะนี้มี สมาชิก 0 คน และ ผู้เยี่ยมชม 596 คน กำลังออนไลน์