การผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมตะวันออกและตะวันตก
Origami Dog (Little Terrier) - Cachorro de Origami (Little Terrier) Origami kangaroo - Canguru de origami
Origami Pig - Porco de Origami (Quentin Trollip) Origami Christmas Tree (Pine Tree) - Árvore de Natal
Origami Pín de María (Fernando Gilgado) Origami Fireworks (Yami Yamauchi)
การพับปลาวาฬ การพับปู การพับฉลาม การพับฉลาม การพับแมวน้ำ
การพับเครื่องหมายดอลล่า การพับโยดา การพับช้าง การพับมังกร
ประโยชน์ของโอริกามิ คุณค่าแห่งกระดาษ วิวัฒนาการของโอริกามิ วัตถุดิบที่ใช้ทำการพับโอริกามิ ประวัติการพับโอริกามิ Origami
ช่วงปลายทศวรรษที่ 19 มีการจัดสัมมนาหัวข้อเรื่อง "ORIGAMI" ที่กรุงปารีส จึงได้เกิดการผสมผสานวิธีการพับกระดาษของทางฝั่งตะวันออก และฝั่งตะวันตก โดยตัวแทนทางฝั่งตะวันตกได้แก่ "Ligia Montoya" และ "Adolfo Cerceda" ส่วนทางฝั่งตะวันออกมี "Isao Honda" และ "Akira Yoshizawa" โดยทั่งสองฝ่ายได้มีการประชุมร่วมกันหลายครั้ง ซึ่งได้สรุปความแตกต่างกันระหว่างแบบตะวันตกกับตะวันออกก็คือ ทางฝั่งตะวันตกจะสื่อว่า Origami เป็นรูปแบบการพับกระดาษแบบเรียบง่าย และต้องมาจากกระดาษสี่เหลี่ยมขาวๆ 1 แผ่น ส่วนทางฝั่งตะวันออกจะบอกว่า Origami เป็นรูปแบบการพับกระดาษที่สวยงาม มีสีสันหลากหลาย ยิ่งโดดเด่น ยิ่งสวย
Akira Yoshizawa เป็นผู้สร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นในศิลปะการพับกระดาษ เขาได้พัฒนารูปแบบใหม่ๆของการพับกระดาษมากกว่า 50,000 ชิ้นงาน เพื่อให้เป็นรูปแบบที่แน่นอนและถูกต้อง เขาได้ทำหนังสือรวบรวมงานของเขา(ซึ่งอาจใช้เวลามากกว่า 2,000 ปี) ถึงจะเสร็จ
ต่อมา Origami ได้ถูกใช้เป็นสื่อการสอนด้านการศึกษาคณิตศาสตร์ และด้านวิทยาศาสตร์ ด้านเรขาคณิตต่างๆ Robert Harbin ได้นำการพับกระดาษโลกตะวันตกมาประยุกต์ใช้ในการแสดงมายากลของเขา เขาได้รวบรวมงานทั้งหมดและตีพิมพ์ลงในหนังสือที่ชื่อ "Paper Margin" จากนั้นรูปแบบการดีไซน์หลายๆอันก็ได้ปรากฎในหนังสือหลายๆเล่ม
ปัจจุบัน Origami รูปแบบต่างๆได้มีให้เห็นบ่อยๆตามหนังสือ นิตยสาร กระดาษห่อ หรือแม้กระทั่งการ์ดอวยพรในงานต่างๆ โดยทั่วไปแล้ว Origami จะต้องไม่มีการใช้กาว, การฉีก, การตัด, การตกแต่งอื่นๆนอกจากกระดาษ 1 แผ่นเท่านั้น และกระดาษนั้นต้องเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสอย่างสมบูรณ์(Perfect)