• user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:0e23ea82b43a1a1951c8b36058dfb781' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '<!--paging_filter--><p align=\"center\">\n<img src=\"/files/u40980/2_0.jpg\" height=\"271\" width=\"600\" />\n</p>\n<p>\n<span style=\"font-family: MS Sans Serif\"><b>ลักษณะเด่นของภาษาไทย <br />\n1. เป็นคำภาษาโดด</b> มีคำใช้โดยอิสระ ไม่ต้องเปลี่ยนรูปเพื่อบอก เพศ,พจน์,กาล </span><span style=\"font-family: MS Sans Serif\">เช่น พ่อ,แม่,เขย,ลุง,พระ เป็นคำแสดงเพศในตัว ฝูง,กอง,เดียว,เหล่า,เด็กๆ เป็นคำแสดงพจน์(จำนวน)ในตัว กำลัง,จะ,แล้ว,เพิ่ง,เมื่อวาน เป็นคำแสดงกาล(เวลา)ในตัว<br />\n</span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"font-family: MS Sans Serif\"><b>2.</b> <b>คำไทยแท้ส่วนมากมีพยางค์เดียว</b> เป็นคำที่มีความหมายสมบูรณ์ในตัว เข้าใจได้ทันที เช่น แมว,กบ,แม่,นอน,สวย,พ่อ,นา<br />\n</span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"font-family: MS Sans Serif\"><b>3.</b> <b>สะกดตามมาตราตัวสะกด</b>ทั้ง 8 มาตรา และไม่มีคำใช้ทัณฑฆาต หรือตัวการันต์ เช่น มาตราแม่กก สะกดด้วย ก: ปาก,มาก,นัก,จัก,บอก<br />\nมาตราแม่กด สะกดด้วย ด: ปาด,ลด,สอด,ปิด,จุด<br />\nมาตราแม่กบ สะกดด้วย บ: รบ,พบ,จับ,สิบ,งบ<br />\nมาตราแม่กง สะกดด้วย ง: ลง,ราง,พุ่ง,ว่าง,รอง,<br />\nมาตราแม่กน สะกดด้วย น: ฝัน,ปีน,กิน,ตน,นอน<br />\nมาตราแม่กม สะกดด้วย ม: นม,ตูม,นิ่ม,ขม,ซ้อม<br />\nมาตราแม่เกย สะกดด้วย ย: ย้าย,เฉย,รวย,หาย,สวย<br />\nมาตราแม่เกอว สะกดด้วย ว: ดาว,เลว,ชาว,ทิว,กิ่ว<br />\n</span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"font-family: MS Sans Serif\"><b>4. มีเสียงวรรณยุกต์</b>ทำให้ระดับเสียงต่างกัน,มีคำใช้กันมากขึ้น ,เกิดความไพเราะดังเสียงดนตรีและสามารถเลียนเสียงธรรมชาติได้อย่างไกล้เคียง เช่น โฮ่งๆ,กุ๊กๆ,เจี๊ยบๆ,ฉ่าๆ,ตุ้มๆ, วรรณยุกต์สร้างคำเลียนเสียงธรรมชาติได้อย่างใกล้เคียง<br />\nนอง,น่อง,น้อง ;ไร,ไร่,ไร้ วรรณยุกต์ทำให้มีเสียงต่างกัน<br />\n</span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"font-family: MS Sans Serif\"><b>5. การสร้างคำ</b> ภาษาไทยมีการยืมคำภาษาต่างประเทศมาใช้และมีการสร้างคำใหม่โดยการประสมคำ,ซ้ำคำ,ซ้อนคำ,การสมาส-สนธิ ฯลฯ เช่น พ่อมด,แม่น้ำ,วิ่งราว คือการนำคำไทยมาประสมกับคำไทย<br />\n</span><span style=\"font-family: MS Sans Serif\">รางชอล์ก,เพลงเชียร์,ของฟรี, คือการนำคำไทยมาประสมกับคำในภาษาอังกฤษ<br />\nมนุษย์+ศาสตร์ = มนุษยศาสตร์ ,ศิลป์+กรรม = ศิลปกรรม คือการนำคำจาก<br />\nภาษาสันสกฤตสมาสกับคำภาษาสันสกฤต<br />\nราช + โอวาท = ราโชวาท ,อิฏฐ + อารมณ์ = อิฏฐารมณ์ คือการนำคำจากภาษา<br />\nบาลีสนธิกับคำภาษาบาลี<br />\n</span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"font-family: MS Sans Serif\"><b>6. การเรียงคำในประโยค</b> ภาษาไทยเรียงเป็นประโยคแบบ ประธาน + กริยา + กรรม (ฉันกินไก่) ส่วนคำขยายจะเรียงไว้หลังที่ถูกขยายเสมอ เว้นแต่บอกปริมาณบางคำจะวางไว้ข้างหน้าหรือข้างหลังที่ถูกขยายก็ได้ เช่น เธอวิ่งช้า,ฉันเขียนสวย คำขยายอยู่หลังคำถูกขยายมากคนมากความ,มีหลายเรื่องที่อยากบอก คำบอกปริมาณอยู่หลังคำที่ถูกขยายเดินคนเดียวล้มคนเดียว,เรือนสามน้ำสี่ คำบอกจำนวนอยู่หลังคำที่ถูกขยายส่วนคำขยายกริยา และมีกรรมมารับ คำขยายจะอยู่หลังกรรม เ</span><span style=\"font-family: MS Sans Serif\">ช่น ฉันอ่านหนังสือมากมาย<br />\n</span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"font-family: MS Sans Serif\"><b>7. มีลักษณนาม <br />\n</b>            ก. คำลักษณนามจะอยู่ข้างหลังคำวิเศษณ์บอกจำนวนนับเช่น ฉันรักแมวทั้ง 10 ตัว เข้าได้รับบ้าน 1 หลัง ที่ดิน 2 แปลงเป็นมรดก*ถ้าใช้คำว่า &quot;เดียว&quot; เป็นจำนวนนับ คำลักษณนามจะอยู่หน้าคำว่าเดียว เช่น ขวดเดียวก็เกินพอ<br />\nข. คำลักษณนามตามหลังคำนามเพื่อลักษณะของนามนั้น เช่น ปลาตัวใหญ่นี้แพงมาก, ที่ดินแปลงนี้สวยจริง ๆ ,เทียนเล่มแดงหายไปไหน<br />\n</span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"font-family: MS Sans Serif\"><b>8. ภาษาไทยมีการแบ่งวรรคตอนเป็นจังหวะ</b> การเขียนภาษาไททยจำเป็นต้องแบ่งวรรคตอน ส่วนการพูดภาษาไทยก็จำเป็นต้องเว้นจังหวะให้ภฃถูกต้อง เพื่อความชัดเจนของข้อความที่จะพูดและเขียนนั้น เช่น ยานี้กินแล้วแข็งแรง ไม่มีโรคภัยเบียดเบียน หมายความว่า ยานี้กินแล้วดี ยานี้กินแล้วแข็ง แรงไม่มีโรค โรคภัยเบียดเบียน หมายความว่า ยานี้กินแล้วไม่ดี<br />\n</span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"font-family: MS Sans Serif\"><b>9. ภาษาไทยมีคำเลือกใช้ตามกาละเทศะ</b> การเลือกใช้คำให้ถูกต้องเหมาะสมกับบุคคลแสดงถึงลักษณะของวัฒนธรรมทางภาษา สังคมไทยเป็นสังคมที่นับถืออาวุโส ทั้งคุณวุฒิ วัยวุฒิ ชาาติวุฒิ จึงมีคำใช้ตามฐานะของบุคคลเพื่อแสดงถึงความยกย่องกันและกัน ภาษาจึงมี &quot;คำราชาศัพท์&quot; ใช้ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของภาษาไทย</span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #000000\"><b>พยัญชนะไทย<br />\n</b>พยัญชนะในภาษาไทยมี <b>21 เสียง 44 รูป</b> พยัญชนะที่<b>เลิกใช้</b>ไปแล้วคือ<b> ฃ</b> และ <b>ฅ</b> </span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #000000\"><b>รูปพยัญชนะ</b> : ก ข ฅ ค ฅ ฆ ง จ ฉ ช ซ ฌ ญ ฎ ฏ ฐ ฑ ฒ ณ ด ต ถ ท ธ น บ ป ผ ฝ พ ฟ ภ ม ย ร ล ว ศ ษ ส ห ฬ อ ฮ</span>\n</p>\n<p>\n<b>สระในภาษาไทย<br />\n</b>สระในภาษาไทย มี <b>24 เสียง 21 รูป<br />\n</b>เสียงสระ : อะ อา อิ อี อุ อู เอะ เอ แอะ แอ เออะ เออ โอะ โอ เอาะ ออ อัวะ อัว เอียะเอีย เอือะ เอือ\n</p>\n<p>\n*นอกจากนี้ยังมี<b>สระเกิน</b>คือ อำ ไอ ใอ เอา ฤ ฤๅ ฦ ฦๅ\n</p>\n<p>\n<b>วรรณยุกต์<br />\n</b>วรรณยุกต์ในภาษาไทยมี<b> 5 เสียง</b> 4 รูป คือ 1. เสียงสามัญ 2. เสียงเอก 3. เสียงโท 4. เสียงตรี 5. เสียงจัตวา\n</p>\n<p>\nทั้งนี้กลุ่ม<b>อักษรสูง 11 ตัว</b> <b>อักษรต่ำ 24 ตัว</b> ผันวรรณยุกต์ได้ 3 เสียง ส่วน<b>อักษรกลาง 9 ตัว</b>ผันได้ครบทั้ง 5 เสียง \n</p>\n<div align=\"center\">\n<a href=\"/node/86493\"><img src=\"/files/u40980/1_5.jpg\" height=\"41\" width=\"125\" /></a><span style=\"color: #ffffff\"><span style=\"color: #ffffff\">11</span></span><a href=\"/node/87966\"><img src=\"/files/u40980/1_1.jpg\" height=\"41\" width=\"125\" /><span style=\"color: #ffffff\"><span style=\"color: #ffffff\">11</span></span></a><a href=\"/node/87974\"><img src=\"/files/u40980/1.jpg\" height=\"41\" width=\"125\" /></a>\n</div>\n<div align=\"center\">\n<span style=\"color: #ffffff\"><span style=\"color: #ffffff\">11111 </span></span>\n</div>\n<div align=\"center\">\n<a href=\"/node/87968\"><img src=\"/files/u40980/1_0.jpg\" height=\"41\" width=\"125\" /></a><span style=\"color: #ffffff\"><span style=\"color: #ffffff\">11</span></span><a href=\"/node/87939\"><img src=\"/files/u40980/1_3.jpg\" height=\"41\" width=\"125\" /><span style=\"color: #ffffff\"><span style=\"color: #ffffff\">11</span></span></a><a href=\"/node/87921\"><img src=\"/files/u40980/1_2.jpg\" height=\"42\" width=\"126\" /></a>\n</div>\n<div align=\"center\">\n<span style=\"color: #ffffff\"><span style=\"color: #ffffff\">1111</span></span>\n</div>\n<div align=\"center\">\n<a href=\"/node/87972\"><img src=\"/files/u40980/1_6.jpg\" height=\"40\" width=\"124\" /></a> <span style=\"color: #ffffff\">11</span><a href=\"/node/92337\"><img src=\"/files/u40980/1_9.jpg\" height=\"42\" width=\"126\" /></a>\n<p style=\"color: white\">\n&nbsp;\n</p>\n</div>\n', created = 1715764437, expire = 1715850837, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:0e23ea82b43a1a1951c8b36058dfb781' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.

ลักษณะคำไทย

ลักษณะเด่นของภาษาไทย
1. เป็นคำภาษาโดด
มีคำใช้โดยอิสระ ไม่ต้องเปลี่ยนรูปเพื่อบอก เพศ,พจน์,กาล
เช่น พ่อ,แม่,เขย,ลุง,พระ เป็นคำแสดงเพศในตัว ฝูง,กอง,เดียว,เหล่า,เด็กๆ เป็นคำแสดงพจน์(จำนวน)ในตัว กำลัง,จะ,แล้ว,เพิ่ง,เมื่อวาน เป็นคำแสดงกาล(เวลา)ในตัว

2. คำไทยแท้ส่วนมากมีพยางค์เดียว เป็นคำที่มีความหมายสมบูรณ์ในตัว เข้าใจได้ทันที เช่น แมว,กบ,แม่,นอน,สวย,พ่อ,นา

3. สะกดตามมาตราตัวสะกดทั้ง 8 มาตรา และไม่มีคำใช้ทัณฑฆาต หรือตัวการันต์ เช่น มาตราแม่กก สะกดด้วย ก: ปาก,มาก,นัก,จัก,บอก
มาตราแม่กด สะกดด้วย ด: ปาด,ลด,สอด,ปิด,จุด
มาตราแม่กบ สะกดด้วย บ: รบ,พบ,จับ,สิบ,งบ
มาตราแม่กง สะกดด้วย ง: ลง,ราง,พุ่ง,ว่าง,รอง,
มาตราแม่กน สะกดด้วย น: ฝัน,ปีน,กิน,ตน,นอน
มาตราแม่กม สะกดด้วย ม: นม,ตูม,นิ่ม,ขม,ซ้อม
มาตราแม่เกย สะกดด้วย ย: ย้าย,เฉย,รวย,หาย,สวย
มาตราแม่เกอว สะกดด้วย ว: ดาว,เลว,ชาว,ทิว,กิ่ว

4. มีเสียงวรรณยุกต์ทำให้ระดับเสียงต่างกัน,มีคำใช้กันมากขึ้น ,เกิดความไพเราะดังเสียงดนตรีและสามารถเลียนเสียงธรรมชาติได้อย่างไกล้เคียง เช่น โฮ่งๆ,กุ๊กๆ,เจี๊ยบๆ,ฉ่าๆ,ตุ้มๆ, วรรณยุกต์สร้างคำเลียนเสียงธรรมชาติได้อย่างใกล้เคียง
นอง,น่อง,น้อง ;ไร,ไร่,ไร้ วรรณยุกต์ทำให้มีเสียงต่างกัน

5. การสร้างคำ ภาษาไทยมีการยืมคำภาษาต่างประเทศมาใช้และมีการสร้างคำใหม่โดยการประสมคำ,ซ้ำคำ,ซ้อนคำ,การสมาส-สนธิ ฯลฯ เช่น พ่อมด,แม่น้ำ,วิ่งราว คือการนำคำไทยมาประสมกับคำไทย
รางชอล์ก,เพลงเชียร์,ของฟรี, คือการนำคำไทยมาประสมกับคำในภาษาอังกฤษ
มนุษย์+ศาสตร์ = มนุษยศาสตร์ ,ศิลป์+กรรม = ศิลปกรรม คือการนำคำจาก
ภาษาสันสกฤตสมาสกับคำภาษาสันสกฤต
ราช + โอวาท = ราโชวาท ,อิฏฐ + อารมณ์ = อิฏฐารมณ์ คือการนำคำจากภาษา
บาลีสนธิกับคำภาษาบาลี

6. การเรียงคำในประโยค ภาษาไทยเรียงเป็นประโยคแบบ ประธาน + กริยา + กรรม (ฉันกินไก่) ส่วนคำขยายจะเรียงไว้หลังที่ถูกขยายเสมอ เว้นแต่บอกปริมาณบางคำจะวางไว้ข้างหน้าหรือข้างหลังที่ถูกขยายก็ได้ เช่น เธอวิ่งช้า,ฉันเขียนสวย คำขยายอยู่หลังคำถูกขยายมากคนมากความ,มีหลายเรื่องที่อยากบอก คำบอกปริมาณอยู่หลังคำที่ถูกขยายเดินคนเดียวล้มคนเดียว,เรือนสามน้ำสี่ คำบอกจำนวนอยู่หลังคำที่ถูกขยายส่วนคำขยายกริยา และมีกรรมมารับ คำขยายจะอยู่หลังกรรม เช่น ฉันอ่านหนังสือมากมาย

7. มีลักษณนาม
            ก. คำลักษณนามจะอยู่ข้างหลังคำวิเศษณ์บอกจำนวนนับเช่น ฉันรักแมวทั้ง 10 ตัว เข้าได้รับบ้าน 1 หลัง ที่ดิน 2 แปลงเป็นมรดก*ถ้าใช้คำว่า "เดียว" เป็นจำนวนนับ คำลักษณนามจะอยู่หน้าคำว่าเดียว เช่น ขวดเดียวก็เกินพอ
ข. คำลักษณนามตามหลังคำนามเพื่อลักษณะของนามนั้น เช่น ปลาตัวใหญ่นี้แพงมาก, ที่ดินแปลงนี้สวยจริง ๆ ,เทียนเล่มแดงหายไปไหน

8. ภาษาไทยมีการแบ่งวรรคตอนเป็นจังหวะ การเขียนภาษาไททยจำเป็นต้องแบ่งวรรคตอน ส่วนการพูดภาษาไทยก็จำเป็นต้องเว้นจังหวะให้ภฃถูกต้อง เพื่อความชัดเจนของข้อความที่จะพูดและเขียนนั้น เช่น ยานี้กินแล้วแข็งแรง ไม่มีโรคภัยเบียดเบียน หมายความว่า ยานี้กินแล้วดี ยานี้กินแล้วแข็ง แรงไม่มีโรค โรคภัยเบียดเบียน หมายความว่า ยานี้กินแล้วไม่ดี

9. ภาษาไทยมีคำเลือกใช้ตามกาละเทศะ การเลือกใช้คำให้ถูกต้องเหมาะสมกับบุคคลแสดงถึงลักษณะของวัฒนธรรมทางภาษา สังคมไทยเป็นสังคมที่นับถืออาวุโส ทั้งคุณวุฒิ วัยวุฒิ ชาาติวุฒิ จึงมีคำใช้ตามฐานะของบุคคลเพื่อแสดงถึงความยกย่องกันและกัน ภาษาจึงมี "คำราชาศัพท์" ใช้ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของภาษาไทย

พยัญชนะไทย
พยัญชนะในภาษาไทยมี 21 เสียง 44 รูป พยัญชนะที่เลิกใช้ไปแล้วคือ และ

รูปพยัญชนะ : ก ข ฅ ค ฅ ฆ ง จ ฉ ช ซ ฌ ญ ฎ ฏ ฐ ฑ ฒ ณ ด ต ถ ท ธ น บ ป ผ ฝ พ ฟ ภ ม ย ร ล ว ศ ษ ส ห ฬ อ ฮ

สระในภาษาไทย
สระในภาษาไทย มี 24 เสียง 21 รูป
เสียงสระ : อะ อา อิ อี อุ อู เอะ เอ แอะ แอ เออะ เออ โอะ โอ เอาะ ออ อัวะ อัว เอียะเอีย เอือะ เอือ

*นอกจากนี้ยังมีสระเกินคือ อำ ไอ ใอ เอา ฤ ฤๅ ฦ ฦๅ

วรรณยุกต์
วรรณยุกต์ในภาษาไทยมี 5 เสียง 4 รูป คือ 1. เสียงสามัญ 2. เสียงเอก 3. เสียงโท 4. เสียงตรี 5. เสียงจัตวา

ทั้งนี้กลุ่มอักษรสูง 11 ตัว อักษรต่ำ 24 ตัว ผันวรรณยุกต์ได้ 3 เสียง ส่วนอักษรกลาง 9 ตัวผันได้ครบทั้ง 5 เสียง 

1111
11111
1111
1111
11

 

สร้างโดย: 
นางสาวศรีสวาสดิ์ บุนนาค และ นางสาวพิชามญชุ์ วรรโณทยาน

มหาวิทยาลัยศรีปทุม ผู้ใหญ่ใจดี
 

 ช่วยด้วยครับ
นักเรียนที่สร้างบล็อก กรุณาอย่า
คัดลอกข้อมูลจากเว็บอื่นทั้งหมด
ควรนำมาจากหลายๆ เว็บ แล้ววิเคราะห์ สังเคราะห์ และเขียนขึ้นใหม่
หากคัดลอกทั้งหมด จะถูกดำเนินคดี
ตามกฎหมายจากเจ้าของลิขสิทธิ์
มีโทษทั้งจำคุกและปรับในอัตราสูง

ช่วยกันนะครับ 
ไทยกู๊ดวิวจะได้อยู่นานๆ 
ไม่ถูกปิดเสียก่อน

ขอขอบคุณในความร่วมมือครับ

อ่านรายละเอียด

ด่วน...... ขณะนี้
พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 
มีผลบังคับใช้แล้ว 
ขอให้นักเรียนและคุณครูที่ใช้งาน
เว็บ thaigoodview ในการส่งการบ้าน
ระมัดระวังการละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย
อ่านรายละเอียดที่นี่ครับ

 

สมาชิกที่ออนไลน์

ขณะนี้มี สมาชิก 0 คน และ ผู้เยี่ยมชม 345 คน กำลังออนไลน์