ฉบับที่10
ฉบับที่ 10 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2517
เป็นรัฐธรรมนูญฉบับหนึ่งที่ได้ชื่อว่าเป็นประชาธิปไตยมากที่สุด เพราะว่ามีบทบัญญัติที่เปลี่ยนแปลงไปในทางก้าวหน้าและเป็นแบบเสรีนิยมมากขึ้นในหลายเรื่องด้วยกัน เริ่มต้น ในหมวด 1 บททั่วไป ได้มีบทบัญญัติห้ามมิให้มีการนิรโทษกรรมแก่ผู้กระทำการล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ หรือ รัฐธรรมนูญ และหมวด 2 พระมหากษัตริย์ ได้บัญญัติขึ้นเป็นครั้งแรกว่า ในการสืบราชสันตติวงศ์นั้น ในกรณีที่ไม่มีพระราชโอรส รัฐสภาอาจให้ความเห็นชอบในการให้พระราชธิดาสืบราชสันตติวงศ์ได้ นอกจากนั้น ยังได้มีบทบัญญัติอันเป็นการเพิ่มหลักประกันในเรื่องสิทธิเสรีภาพ และประโยชน์ของประชาชนไว้มากกว่ารัฐธรรมนูญทุกฉบับที่ผ่านๆ มาก่อนหน้านั้น
ตลอดจนรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ก็ถูกร่างขึ้นภายหลังเกิดเหตุการณ์ วันมหาวิปโยค ที่ซึ่งรู้จักกันในนามสั้นๆ ว่า 14 ตุลา อีกด้วย อันสืบเนื่องมาจากการที่มีกลุ่มบุคคลไม่พอใจที่รัฐบาลของจอมพลถนอม กิตติขจร ใช้เวลาร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่นานเกินไป ทั้งๆ ที่เคยร่างรัฐธรรมนูญมาครั้งหนึ่งแล้ว กลุ่มบุคคลดังกล่าว ประกอบด้วยผู้นำนิสิต นักศึกษา และปัญญาชนทั่วไป เริ่มรณรงค์เรียกร้องให้รัฐบาลประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่โดยเร็ว ปรากฏว่า รัฐบาลกลับตอบโต้ต่อการเรียกร้องดังกล่าว โดยการจับกุมกลุ่มผู้เรียกร้องรัฐธรรมนูญ จำนวน 13 คน โดยตั้งข้อหาว่าเป็นการทำลายความสงบเรียบร้อยภายในประเทศ และมีการกระทำอันเป็นคอมมิวนิสต์ รวมทั้งใช้อำนาจตามมาตรา 17 แห่งรัฐธรรมนูญ ฉบับที่ 9 ควบคุมผู้ต้องหาดังกล่าวในระหว่างการสอบสวนโดยไม่มีกำหนด ทำให้ศูนย์กลางนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย ต้องออกมาเคลื่อนไหวให้รัฐบาลปล่อยตัวผู้ต้องหาทั้งหมด โดยไม่มีเงื่อนไข และขอให้รัฐบาลประกาศใช้รัฐธรรมนูญใหม่ภายใน 1 ปีด้วย แต่รัฐบาลก็ไม่ยอมปฏิบัติตามข้อเรียกร้อง นักเรียน นิสิต นักศึกษา และประชาชน จึงได้เดินทางมาชุมชนกัน ณ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จำนวนเรือนแสน วันที่ 13 ตุลาคม 2516 ในตอนบ่ายๆ ฝูงชนก็ได้เดินขบวนออกจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ผ่านถนนราชดำเนินไปชุมนุมอยู่ที่บริเวณพระบรมรูปทรงม้า จนกระทั่ง ช่วงเช้ามืดของวันที่ 14 ตุลาคม 2516 กลุ่มผู้ชุมนุมจำนวนหนึ่ง ก็เกิดไปปะทะกับกองกำลังของเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างรุนแรงที่ข้างพระตำหนักจิตรลดา เหตุการณ์ลุกลามใหญ่โต จนในที่สุด ก็นำไปสู่การจราจลครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์ไทย โดยมีผู้เสียชีวิตนับร้อย และบาดเจ็บอีกเป็นจำนวนมาก ขณะที่สถานที่ราชการต่างๆ อันเป็นสัญลักษณ์ของอำนาจเผด็จการ ก็ได้ถูกประชาชนเผาทำลายไปหลายแห่งด้วยเช่นกัน
เหตุการณ์ วันมหาวิปโยค
ที่มา http://www.oldpdn.com/thai/showfeature.php?FeatureID=0000000639
ที่มา http://lordodinos.spaces.live.com/blog/cns!C42541ED9386519F!2519.entry ที่มา http://chantrawong.blogspot.com/2008/10/14-2516.html
ในที่สุด จอมพลถนอม ก็ได้ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และเดินทางออกนอกประเทศพร้อมกับคณะทรราชย์ ต่อมาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้นาย สัญญา ธรรมศักดิ์ ดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรี ด้วยพระองค์เอง เพื่อบริหารประเทศชาติในยามคับขัน หลังจากนั้น นายสัญญา จึงได้ประกาศให้สัญญากับประชาชนว่า จะเร่งร่างรัฐธรรมนูญให้แล้วเสร็จภายใน 6 เดือน และจะจัดให้มีการเลือกตั้งผู้แทนราษฎรในประเทศโดยเร็ว
รัฐบาลของท่านอาจารย์สัญญา ได้แต่งตั้งคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งประกอบด้วยกรรมการจำนวน 18 คน โดยคณะกรรมการชุดนี้ ได้นำเอารัฐธรรมนูญฉบับ พ.ศ. 2492 มาเป็นแนวทางในการร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ รวมทั้งได้รับฟังความคิดเห็นของประชาชนอย่างกว้างขวาง ผลคือว่า คณะกรรมการใช้เวลายกร่างรัฐธรรมนูญนี้ จนแล้วเสร็จได้ ภายใน 3 เดือน และจึงนำเสนอคณะรัฐมนตรีให้พิจารณาปรับปรุงแก้ไข แต่คณะรัฐมนตรีก็แก้ไขเพียงเล็กน้อย ก่อนที่จะส่งให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาลงมติให้ความเห็นชอบ และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงลงพระปรมาภิไธยประกาศใช้เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2517 จำนวน 238 มาตรา
นายสัญญา ธรรมศักดิ์
รัฐธรรมนูญฉบับนี้ ได้รับการแก้ไขเพิ่มเติม 1 ครั้ง เมื่อ พ.ศ. 2518 ในเรื่องการรับสนองพระบรมราชโองการแต่งตั้งวุฒิสมาชิก จากเดิมให้ประธานองคมนตรี เป็นผู้รับสนองฯ เปลี่ยนมาเป็นนายกรัฐมนตรีรัฐธรรมนูญฉบับนี้ มีการแก้ไขเพิ่มเติมเพียงครั้งเดียว และมีระยะเวลาการใช้เพียง 2 ปี ก็ถูก "ฉีกทิ้ง" โดยประกาศของ "คณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน" ซึ่งมี พล.ร.อ. สงัด ชลออยู่ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นหัวหน้าคณะฯ เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2519