Say Hi!!! "Phylum Annelida" ~
Home Introduce 5 Kingdom Reference Who Am I ?
สัตว์ในไฟลัมนี้มีลำตัวแบ่งเป็นปล้องอย่างแท้จริง (Segmentation) ภายในจะมีเยื่อบาง ๆ (Septum) มากั้นระหว่างปล้อง มีประมาณ 12,0000 ชนิด ดำรงชีวิตอยู่ในทะเล น้ำจืด และอยู่บนบกในดินที่ชื้นแฉะ
มีลักษณะสำคัญ ดังนี้
1. มีลำตัวยาวร่างกายแบ่งเป็นปล้องทั้งภายในและภายนอก
2. ร่างกายประกอบด้วยเนื้อเยื่อ 3 ชั้น
3. ผนังลำตัวปกคลุมด้วยสารคิวทิเคิลบางๆ มีต่อมสร้างน้ำเมือกทำให้ผิวหนังชุ่มชื้นอยู่เสมอ เป็นประโยชน์ในการแลกเปลี่ยนแก๊สที่ผิวหนัง
4. มีรยางค์ยื่นออกไปจากลำตัวมีลักษณะเป็นแผ่นที่ขาคล้ายใบพายเรียกว่า พาราโพเดีย (Parapodia) พบในแม่เพรียง มีลักษณะเป็นเดือย (Setate) ยื่นออกจากลำตัวแต่ละปล้องเพื่อช่วยในการเคลื่อนที่ และขุดรูซึ่งพบในไส้เดือนดินส่วนปลิงน้ำจืดและทากจะไม่มีเดือยและพาราโพเดียม
5. มีระบบทางเดินอาหารสมบูรณ์ คือมีปากและทวารหนักอยู่คนละข้างของลำตัว
6. มีระบบหมุนเวียนเลือดโลหิตเป็นระบบปิด (Closed cirulatory system) มีเส้นเลือดทอดไปตามยาวของลำตัว และมีเส้นเลือดแดงแขนงส่งเลือดไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เลือดมีสีแดงเนื่องจากมีฮีโมโกลบิน (Hemoglobin) อยู่ในน้ำเลือดส่วนเซลล์เม็ดเลือดจะไม่มีฮีโมโกลบินจึงไม่มีสี ซึ่งแตกต่าง จากเลือดของคน ..ซึ่งมีสีแดงเนื่องจากเซลล์เม็ดเลือดมีฮีโมโกลบิน
7. มีอวัยวะขับถ่าย เรียกว่า เนฟริเดีย (Nephridia) โดยมีปล้องละ 1 คู่ มีหน้าที่ขับถ่ายของเสียออกจากช่องลำตัวและกระแสเลือด แล้วปล่อยออกนอกร่างกายทางรูขับถ่าย ....(Nephridiopore) ด้านข้างของปล้อง
8. ผนังลำตัวประกอบด้วยกล้ามเนื้อตามขวาง (Circular muscle) และกล้ามเนื้อตามยาว (Long muscle)
9. ระบบประสาท ประกอบด้วยปมประสาท 1 คู่ อยู่ทางด้านหัวทำหน้าที่คล้ายสมอง และมีเส้นประสาทวงแหวนล้อมรอบหลอดอาหาร ซึ่งจะเชื่อมต่อกับเส้นประสาทด้านท้อง ..(Ventral never cord) ที่ทอดไปตามความยาวของลำตัวและแต่ละปล้องจะมีปมประสาทและแขนงตามขวางจากเส้นประสาทด้านท้องไปยังอวัยวะต่าง .เพื่อควบคุมงานของกล้ามเนื้อทำให้สามารถเคลื่อนที่ได้เร็ว นอกจากนี้สัตว์บางชนิดจะมีอวัยวะรับสัมผัสเกี่ยวกับกลิ่นและแสงด้วย
10. การหายใจ ส่วนใหญ่จะหายใจทางผิวหนังบางชนิดจะหายใจโดยใช้เหงือก
11. การสืบพันธุ์ สัตว์ในไฟลัมนี้ส่วนใหญ่จะมีสองเพศในตัวเดียวกัน แต่บางชนิดจะแยกเพศ การสืบพันธุ์เป็นแบบอาศัยเพศโดยผสมข้ามตัวเนื่องจากไข่และอสุจิสุกไม่พร้อมกันไข่ได้รับการปฏิสนธิแล้วจะมาเจริญเติบโตภายนอกตัวแม่ถ้าเป็นสัตว์ที่อาศัยอยู่ในน้ำทะเล ..เช่น แม่เพรียง การเจริญเติบโตเป็นตัวเต็มวัยต้องผ่านระยะตัวอ่อนที่เรียกว่า โทรโคฟอร์ (Trochophore) ส่วนพวกที่อาศัยอยู่ในน้ำจืดหรือบนบก เช่น ปลิงน้ำจืด และไส้เดือนดินและสร้างถุงฟักไข่ (Cocoon) เมื่อถุงปล่อยออกจากร่างกายหล่นตามพื้นที่อาศัยอยู่ ไข่จะฟักอยู่ในถุง และเจริญเติบโตเป็นตัวเต็มวัยโดยไม่ผ่านระยะตัวอ่อนโทรโคฟอร์
การจัดจำแนกหมวดหมู่ จำแนกออกได้ 2 ชั้น ดังนี้
1. ชั้นโพลีคีตา (Class Polychaeta) สัตว์ในชั้นนี้ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในน้ำทะเล ลำตัวมีลักษณะเป็นปล้องมีแผ่นขาหรือพาราโพเดียมยื่นออกมาสองข้างลำตัว มีแต่เดือยเกือบทุกปล้องใช้สำหรับเคลื่อนที่ ส่วนหัวเห็นไม่ชัดเจน ไม่มีหนวดมีผิวหนังชุ่มชื้น เป็นสัตว์ที่มีสองเพศ อยู่ภายในตัวเดียวกัน แต่ผสมแบบข้ามตัว ไข่เมื่อเกิดการปฏิสนธิ แล้วจะหลุดออกมาอยู่ในถุงฟักลง สู่พื้นดิน ฟักเป็นตัวเต็มวัยโดยไม่ผ่านระยะโทรคอฟอร์ ตัวอย่างสัตว์ในชั้นนี้ได้แก่ ไส้เดือนดิน (Lumbricus terresteis)
2.ชั้นไฮรูดิเนีย (Class Hirudinea) เป้นสัตวืที่อาศัยอยู่บนบกและในน้ำจืดและน้ำทะเล มีลำตัวแบนในแนวบน-ล่าง มีปล้องชัดเจน ไม่มีพาราโพเดียมและเดือย ส่วนหัวเห็นไม่ชัดเจนไม่มีหนวด มีปุ่มโดเกาะอยู่ที่หัว (Anterior sucker) 1 ปุ่ม และด้านท้าย (Posterior sucker) อีก 1 ปุ่ม ปุ่มสำหรับเกาะตัวให้อาศัย และช่วยในการเคลื่อนที่ เป็นสัตว์ที่มี 2 เพศในตัวเดียวกัน การผสมเป็นแบบผสมข้ามตัว ไข่เมื่อปฏิสนธิแล้วจะหลุดออกมาอยู่ในถุงฟักตกลงพื้นดินเจริญเป็นตัวเต็มวัยโดยไม่ผ่านระยะตัวอ่อนโทรคอฟอร์ ดำรงชีวิตแบบปรสิตเกาะตัวให้อาศัยเพื่อดูดเลือด สัตว์ในชั้นนี้ได้แก่ ปลิงน้ำจืด (Hirudo medicinalis) และทาก (Haemadipsa)
ที่มาของข้อมูล http://www.eschool.su.ac.th/school12/M4_2546/4-1/1_018/title%209.html