ภาพพจน์ คือ คำหรือกลุ่มคำที่สร้างขึ้นจากกลวิธีในการใช้คำ ทำให้เกิดภาพที่แจ่มชัดและลึกซึ้งขึ้นในใจของผู้อ่านและผู้ฟัง การสร้างภาพพจน์เป็นศิลปะอย่างหนึ่งของการแต่งคำประพันธ์ ซึ่งผู้แต่งใช้กลวิธีการเปรียบเทียบคมคายในลักษณะต่างๆ ดังนี้ 1. อุปมา ได้แก่ การเปรียบเทียบสิ่งที่เหมือนกันหรือคล้ายกันโดยมีบุพบทหรือคำสันธานเชื่อม เช่น เหมือน เปรียบ ดุจ ดัง ประดุจ เพียง เฉก ราว ปาน ประหนึ่ง เหมือนดั่ง ประเล่ห์ ฯลฯ ตัวอย่าง “ฉุกใจได้คิดสิการแล้ว ดังดวงแก้วตกต้องแผ่นผา ร้าวระยำช้ำจิตเจ็บอุรา ประหนึ่งว่าจะวายชีวี” “โอ้ว่าดวงใจอยู่ไกลลิบ เหลือจะหยิบมาชมภิรมย์ขวัญ เหมือนดวงดาววาววาวอยู่ไกลครัน ชิดสวรรค์สุดเอื้อมมาเชยชม” 2. อุปลักษณ์ คือ การเปรียบเทียบที่กล่าวถึงอีกสิ่งหนึ่งโดยไม่ต้องมีคำเชื่อม มักใช้กิริยา “เป็น” หรือ “คือ” นำหน้า ตัวอย่าง “น้ำคือมรกตแลกมล เกิดแกมโฉมกล” คือปัทมราชมณี” “นานาประเทศล้วน นับถือ ผู้ที่รู้หนังสือ แต่งได้ ใครเกลียดอักษรคือ คนป่า ใครเยาะกระวีไซร้ แน่แท้คนดง” “ฤๅแม่เป็นมณีดวง เนตรด้วย” “โกรธคืออัคคี จ่อใจ” “ลมพัดคือพาต้อง ตรากทรวง” “ชีวิตคือการต่อสู้ ศัตรูคือยากำลัง” “เพลินฟังวังเวงเพลงเรไร พิณพาทย์ไพรกล่อมขับสำหรับดง” 3. อติพจน์ หรือ อธิพจน์ คือการกล่าวเกินจริง หรือเปรียบเทียบเกินความจริง แต่ทำให้เห็นภาพพจน์เด่นชัด ตัวอย่าง “ตราบขุนคีรีข้น ขาดสลาย แลแม่ รักบ่หายตราบหาย หกฟ้า สุริยจันทรขจาย จากโลก ไปฤๅ ไฟแล่นล้างสี่หล้า ห่อนล้างอาลัย” “เรียมร่ำน้ำเนตรถ้วม ถึงพรหม พาเทพเจ้าตกจม จ่อมม้วย พระสุเมรุเปื่อยเป็นตม ทบท่าว ลงนา หากอกนิษฐ์พรหมฉ้วย พี่ไว้จึงคง” “อายุยืนหมื่นเท่าเสาศิลา อยู่คู่ฟ้าดินได้ดังใจปอง” 4. สัญลักษณ์ คือ การให้สิ่งหนึ่งแทนอีกสิ่งหนึ่งที่มีคุณสมบัติหรือลักษณะบางประการร่วมกันทำให้เกิดความเข้าใจได้กว้างขว้าง ลึกซึ้ง โดยไม่ต้องใช้คำอธิบาย สัญลักษณ์ แทน หงส์ คนชั้นสูง กา คนชั้นต่ำ แก้ว ของมีค่า ความดีงาม สุนัขจิ้งจอก คนเจ้าเล่ห์ สีดำ ความตาย ความมืด ความชั่ว สีขาว ความดี ความบริสุทธิ์ ความงาม ตัวอย่าง “อันน้ำตาลหวานไว้ข้างมด มดจะอดได้หรือน้องตรึกตรองดู” น้ำตาล = ผู้หญิงสาว มด = ผู้ชาย “กาลวงว่าหงส์ให้ปลงใจ ด้วยไม่ได้ดูหงอนแต่ก่อนมา” กา = คนชั้นต่ำ หงส์ = คนชั้นสูง 5. สัทพจน์ คือ การใช้คำเลียนเสียงธรรมชาติ เลียนเสียงสัตว์ เสียงดนตรี ฯลฯ ตัวอย่าง “ต้อยตะริดติดตี่ เจ้าพี่เอ๋ย จะละเลยเร่ร่อนไปนอนไหน แอ้อี๋อ่อยสร้อยฟ้าสุมาลัย แม้นเด็ดได้แล้วไม่ร้างให้ห่างเชย” “ครืนครืน ใช่ฟ้าร้อง เรียมครวญ หึ่งหึ่ง ใช่ลมหวน พี่ไห้” “ตะแล้กแต้กแต้ก จะแหลกแล้วจ้า กระด้งรีบมาเถอะรับข้าวไป” 6. บุคลาธิษฐาน หรือ บุคคลวัต คือ การกล่าวสมมติให้สิ่งต่างๆ มีกิริยาอาการอย่างมนุษย์ หรือเปรียบเทียบโดยนำเอาสิ่งที่เป็นนามธรรมมาแปลงเป็นรูปธรรม ตัวอย่าง “เสียงซากอิฐปูนสะอื้น สะเทือนพื้นพสุธาไหว” “เมื่อฟ้าหลั่งน้ำตา หมู่เมฆาพาหัวร่อ แผ่นดินร่วมยั่วล้อ ลมรุมด่าว่าซ้ำเติม” “เมขลาเหาะลอยล่อแก้วอยู่แวววับ รามสูรขยับแสงสายมณี แวววาบวาวสว่าง อสูรขว้างขวานประการอยู่ เปรี้ยงๆเสียงสนั่นลั่นโลกวิจลจลาจล” “ลมระเริงลู่หวิวพลิ้วระลอก สัพยอกยอดไม้ไปลิ่วล่อง” 7. ปฏิพากย์ คือ การกล่าวคำเปรียบเทียบในเชิงขัดแย้ง ตัวอย่าง “หลั่งน้ำตาสะอื้นอย่างชื่นบาน” “เป็นความมืดที่เวิ้งว้างสว่างไสว” “เกิดแล้วก่อน ล่อแล้วเร้น เย็นแล้วร้อน” “ยิ่งเย็นเยียบยิ่งเดือดมิรู้ดับ” “ความขมขื่นอันชื่นหวาน” “ถึงห่างไกลแต่ก็ใกล้ในคุณธรรม” 8. นาฏการ คือ แสดงการเคลื่อนไหวของสิ่งต่างๆ ทั้งที่มีชีวิตและไม่มีชีวิต เช่น ตัวอย่าง “นกยางเลียบเหยียบปลานขาหยิก เอาปากจิกบินฮือขึ้นเวหา” 9. อวพจน์ คือ กล่าวถึงสิ่งที่น้อยกว่าความเป็นจริง เช่น ตัวอย่าง “หมู่วิหคโผบินไปในนภา ชั่วพริบตาล่องลอยหายในสาย”ลม 10. นามนัย คือ ใช้ชื่อส่วนประกอบที่เด่นของสิ่งหนึ่งแทนสิ่งนั้นๆ ทั้งหมด เช่น ตัวอย่าง “ว่านครรามินทร์ ผลัดแผ่นดินเปลี่ยนราช เยียววิวาทชิงฉัตร” 11. อุปมานิทัศน์ คือ การใช้เรื่องราว หรือ นิทานขนาดสั้นหรือขนาดยาวประกอบ เช่น หมูเห็นสีหราชท้า ชวนรบ กูสี่ตีนพบ ท่านไซร้ อย่ากลัวท่านอย่าหลบ หลีกจาก กูนา ท่านสี่ตีนอย่าได้ วากเว้นวางหนี สีหราชร้องว่าโอ้ พาลหมู ทรชาติครั้นเห็นกู เกลียดใกล้ ฤๅมึงใคร่รบดนู มึงนาศ เองนา กูเกลียดมึงกูให้ พ่ายแพ้ภัยตัว (โคลงโลกนิติ) 12. อลังการ เป็นคำที่ใช้ในวรรณคดีสันสกฤต แปลว่า การประดับ การตกแต่ง เครื่องประดับ เครื่องตกแต่ง อลังการในบทประพันธ์ จึงหมายถึงสิ่งที่ช่วยเสริมความงามและความไพเราะให้แก่บทประพันธ์หนึ่งๆ อาจจะเป็นการใช้คำ ภาพพจน์ บทเปรียบเทียบและอื่นๆ คำประพันธ์ประเภทกาวฺย หรือ มหากาวฺย ถือว่าพรรณนาโวหารและบทอุปมาอุปไมยเป็นอลังการที่สำคัญที่สุดกวีพยายามประกวดประชันกันอย่างเต็มที่ ใช้คำอย่างวิจิตรบรรจง พรรณนาภาพต่างๆ อย่างละเอียดลออ และสรรหาบทอุปมาอุปไมยที่แปลกๆใหม่ๆ และน่าสนใจ เพื่อดึงดูดใจผู้อ่านให้เกิดความประทับใจและซาบซึ้งในงานของตน
สร้างโดย:
ว่าที่ร้อยตรีสามารถ อรุณวรรณ
แหล่งอ้างอิง:
เอกสารประกอบการเรียน รายวิชาภาษาไทยพื้นฐาน ม.4 โรงเรียนศีลาจารพิพัฒน์