วัดน่าเที่ยวจังหวัดแพร่
ในอำเภอเมือง จังหวัดแพร่ วัดสำคัญ ๆ ของคนเมืองแป้มีอยู่หลายวัด เช่น วัดหลวง เป็นวัดแรกของจังหวัด วัดพระธาตุช่อแฮ วัดคู่บ้านคู่เมือง และเป็นพระธาตุประจำปีเกิดของคนปีขาล สร้างขึ้นสมัยพระมหาธรรมราชาธิราช (ลิไท) วัดจอมสวรรค์ วัดไทยใหญ่ที่สร้างแบบสถาปัตยกรรมพม่า วัดพระนอนเหนือ มีพระอุโบสถแบบเชียงแสน ไม่มีหน้าต่าง และวัดพระบาทมิ่งเมืองวรวิหาร มีพระคู่บ้านคู่เมืองจังหวัดคือ พระพุทธโกศัยศิริชัยมหาศากยมุนี
เลยไปทางอำเภอเด่นชัย (24 กิโลเมตรจากอำเภอเมือง) และอำเภอลอง (40 กิโลเมตรจากอำเภอเมือง) ก็มีวัดสำคัญตั้งอยู่
ที่จะพูดถึงคือวัดพระธาตุสุโทนมงคลคีรี ห่างจากเด่นชัย 3 กิโลเมตร สวยงามในเรื่องสถาปัตยกรรมล้านนา ผสมผสานกับการจำลองรูปแบบวัดในภาคเหนือและพม่า ลาว จีน
ส่วนที่วัดเด่นชัย มีพระพุทธรูปทองสัมฤทธิ์ ศิลปะสมัยเชียงแสน ประดิษฐานในอุโบสถ มีชื่อว่าหลวงพ่อแสนแซ่ ที่มาของชื่อมาจากการหล่อพระพุทธรูปเป็นชิ้น ๆ แล้วมาประกอบกันโดยใช้สลักหรือที่เรียกว่าแซ่สอดไว้ให้มั่นคงเพื่อง่ายต่อการเคลื่อนย้าย
อีกวัดหนึ่งที่โดดเด่นในอำเภอเด่นชัยคือ วัดไทรย้อย เนื่องจากเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธองค์ดำนาลันทา พระพุทธรูปปางมารวิชัย องค์จำลองจากนาลันทา รัฐพิหาร ประเทศอินเดีย เล่ากันว่าหลวงพ่อดำนาลันทา สร้างเมื่อสมัยพระเจ้าเทวาปาล พ.ศ.1353-1393 เป็นพระพุทธรูปองค์เดียวเท่านั้นที่รอดพ้นจากการทำลายของคนศาสนาอื่น
ถ้าได้มีโอกาสเดินทางไปอำเภอลอง วัดที่มีชื่อเสียงที่สุดเห็นจะเป็นวัดศรีดอนคำ หรือวัดพระธาตุศรีดอนคำ หรือที่ชาวบ้านเรียกว่าวัดห้วยอ้อ ห่างจากอำเภอเมืองประมาณ 45 กิโลเมตร ภายในวัดมีโบราณวัตถุสำคัญ คือ พระธาตุห้วยอ้อ ศิลปะแบบเชียงแสน
ฝั่งตรงข้ามเป็นอาคารไม้สักจัดแสดงศิลปวัตถุโบราณ หีบพระธรรมโบราณ พระไม้แกะสลักกว่า 1,000 องค์ และเป็นที่ประดิษฐานองค์พระเจ้าพร้าโต้ (องค์ที่ 1) ศิลปะล้านนา เป็นพระพุทธรูปไม้สักทอง ปางมารวิชัย ที่แกะสลักด้วยพร้าโต้หรือมีดโต้
อีกด้านหนึ่งของวัดแขวนระฆังที่ทำจากซากระเบิดสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งเป็นหนึ่งในซากระเบิด 3 ลูกที่เครื่องบินฝ่ายสัมพันธมิตรตั้งใจทิ้งทำลายสะพานรถไฟข้ามแม่น้ำยม (สะพานรถไฟห้วยแม่ต้า) เพื่อสกัดกั้นทหารญี่ปุ่นที่จะเดินทางไปเชียงใหม่และข้ามไปพม่า
ตำนานที่กล่าวขานถึงเมืองแพร่แห่ระเบิด มาจากการที่ชาวบ้านยกขบวนกันออกมาดูและแห่ต้อนรับรถบรรทุกเกวียนที่ชาวบ้านขุดระเบิดขึ้นมาได้ เพื่อยกให้เป็นสมบัติของวัด ลูกแรกอยู่ที่วัดแม่ลานเหนือ ตำบลห้วยอ้อ อำเภอลอง ลูกที่สองอยู่ที่วัดศรีดอนคำ และลูกที่สามอยู่ที่วัดนาตุ้ม ตำบลบ่อเหล็กลอง อำเภอลอง
ไม่รู้ว่าคนที่เก็บซากระเบิดยังมีชีวิตอยู่หรือเปล่า จึงไม่ได้สอบถามว่าตอนที่ไปเจอไม่รู้สึกกลัวหรืออย่างไร เพราะปีที่ถวายซากระเบิดให้วัดใช้ทำระฆังตรงกับปี 2516 ห่างจากช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 (2485-2488) แค่ 30 ปี
ดูอย่างเขมรสิ ฝังระเบิดไว้ไม่รู้เท่าไหร่ เสียงตูมตามไม่ยักจะหมด