เครื่องแขวนไทย
เนื้อหาเพื่อเรียนรู้เรื่อง เครื่องแขวนไทย
เครื่องแขวนดอกไม้สดเป็นงานศิลป์ที่มีมาตั้งแต่สมัยอยุธยา แต่งานศิลปะ แขนงนี้ก็ต้องเสื่อมถอยไปเมื่อคราวเสียกรุงเป็นครั้งที่ 2 จากนั้นจึง
เริ่มถูกฟื้นฟูอีกครั้งเมื่อเริ่มสร้างกรุงรัตนโกสินทร์ บุคคลสำคัญในวงการช่างดอกไม้ในยุคนั้น คือ เจ้าจอมมารดาตานี ธิดาเจ้าพระยาอรรคมหาเสนา (บุนนาค)
เจ้าจอมในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ผู้มีฝีมือเชิงช่างดอกไม้ ซึ่งนอกจากจะถวายงานในด้านที่ตนถนัดแล้ว ท่านยังได้ฝึกหัด
และถ่ายทอดวิชาแก่พระธิดาและพระนัดดา ของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าฉัตร กรมหมื่นสุรินทรรักษ์ ให้เป็นช่างดอกไม้สืบวิชาต่อมาจนกระทั่งรัชสมัย
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าอยู่หัวรูปแบบของเครื่องแขวนดอกไม้สด ได้รับการพัฒนามาตามยุคสมัย โดยเฉพาะช่วงที่ประเทศของเรามีการติดต่อ
ค้าขายกับชาวต่างชาติมากขึ้น รูปแบบวัฒนธรรมที่มาพร้อมกับชาวต่างชาติก็ส่งอิทธิพลต่อชาวสยามในยุคนั้นอยู่ไม่น้อย ทำให้เครื่องแขวนดอกไม้สด
เริ่มมีการปรับรูปแบบให้เข้ากับสมันนิยมมากขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เช่น แบบของโคมจีน แบบโคมไฟแบบยุโรป เป็นต้น เครื่องพวงดอกไม้แขวน
จึงมาการผสมทางวัฒนธรรมเป็นด้วยราชสำนัก” อันเนื่องมาจากในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีสมาชิกในพระราชวงศ์เป็นฝ่ายใน
จำนวนมาก ซึ่งแต่ละตำหนักก็จะมีบาทบริจาริกา (ข้ารับใช้) คอยถวายงาน ใน พระบรมมหาราชวังจึงเป็นเสมือนชุมชนอีกชุมชนหนึ่งก็ว่าได้
เจ้านายฝ่ายในก็มุ่งที่จะประดิษฐ์งานดอกไม้ไปถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อถวายเป็นพุทธบูชาแด่พระแก้วมรกต
หรือประดับตามพระที่นั่งองค์ต่างๆ ข้าราชสำนักบางทาน พอออกจากวัง ก็นำวิชาเหล่านี้ติดตัวไปทำให้งานดอกไม้สด ไม่ได้อยู่ในวังหลวงอีกต่อไป
ในภาพ หม่อมศรีพรหมมา กำลังร้อยมาลัย
ที่มาของภาพ : http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2009/09/K8354834/K8354834-13.jpg
จากอดีตจนถึงปัจจุบัน ภูมิปัญญาในวิชาเชิงช่างของไทยล้วนมีบ่อเกิดมาจากราชสำนัก เรียกได้ว่า “ความเจริญรุ่งเรืองของงานช่างไทย
มีบ่อเกิดจากในจวบจนรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว งานประดิษฐ์ดอกไม้สดได้รับความนิยมและเจริญอย่างสูงสุด
ดังจะเห็นได้จาก เมื่อมีพระราชพิธีต่างๆ ก็จะมีการจัดประกวดฝีมือทำเครื่องแขวนกันเป็นกิจจะลักษณะเครื่องเเขวนบางขนิดเช่นระย้า
พวงเเก้วได้ ไอเดียมาจากการทำเลียนเเบบ โคมไฟระย้า โคมเเก้วเจียระไน โดยเฉพาะอย่างยิ่งพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมาวดี
ศรีรัตนราชธิดา กรมหลวงสมรรัตนสิริเชษฐ์ พระเชษฐภคินีในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าอยู่หัว ทรงมีพระปรีชาในการดิษฐ์
เครื่องแขวนดอกไม้สดเป็นอย่างยิ่ง เมื่อมีงานสำคัญก็จะทรงประดิษฐ์ดอกไม้ไปประดับตามงานนั้นๆ
พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมาวดี ศรีรัตนราชธิดากรมหลวงสมรรัตนสิริเชษฐ์
พระเชษฐภคินีในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าอยู่หัว
ที่มาของภาพ : http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2009/09/K8354834/K8354834-16.jpg
เครื่องแขวนแบบ ตาข่ายหน้าช้าง
ที่มาของภาพ : http://www.manager.co.th/asp-bin/ShowImage.aspx?ID=1213552&Width=276&Height=400
สันนิฐานว่า เป็นเครื่องแขวนที่คิดขึ้นมาเป็นแบบแรก เพราะโครงสร้างเป็นแบบเส้นตรงเส้นเดียว ไม่สลับซับซ้อน นอกจากใช้แขวนประดับสถานที่แล้ว
ยังใช้คลุมหน้าผากช้างสำคัญเวลาเข้าพิธี เช่น พิธีถวายช้างสำคัญ หรือสมโภชช้าง เป็นต้น
เครื่องแขวนแบบ กลิ่นตะแคง
ที่มาของภาพ : http://www.manager.co.th/asp-bin/ShowImage.aspx?ID=1213541&Width=276&Height=400
ลักษณะคล้ายดาวหกแฉกหรือรูปหกเหลี่ยม ตกแต่งอุบะตามมุม นิยมร้อยทั้งดอกรักและดอกพุดใช้แขวนประดับสถานที่ เพื่อเพิ่มความสวยงามสดชื่น
ประดิษฐ์สีสันได้ตามความเหมาะสม
เครื่องแขวนแบบ วิมานแท่น
ลักษณะเป็นกรอบสี่เหลี่ยมสองชั้น คล้ายช่องหน้าต่าง มีตาข่ายหน้าช้าง เป็นรูปสี่เหลี่ยมหน้าจั่วอยู่ส่วนบนตรงมุมของกรอบสี่เหลี่ยมมีดอกเย็บแบบทัด
ทั้ง 4 มุม ใช้สีสันสดใสให้เด่นสะดุดตา วิมานแท่นบางท่านเรียกว่า ช่องวิมาน
เครื่องแขวนแบบ วิมานพระอินทร์
ที่มาของภาพ : http://www.weloveshopping.com/template/tem/layout_showpic.php?url=client/000035/malaithai/KK0002.jpg,,,
ใช้ประดับประตูหน้าต่าง ประดิษฐ์เพิ่มเติมจากตาข่ายหน้าช้าง ระหว่างจั่วบนและจั่วล่างจะเป็นกรอบสี่เหลี่ยมผืนผ้าคล้ายช่องหน้าต่าง ตรงกลางหน้าจั่ว
อาจติดแบบพระอินทร์ และติดแบบกระหนกบนจั่วล่าง หรืออาจจะไม่ติดแบบเลยก็ได้