http://news.nipa.co.th/image/manager/img500/12752_552000015767601.JPEG

" เลคเชอร์ (lecture) " กับ " การเรียน " ถือเป็นของคู่กัน 

หากฟังอย่างเดียวแต่ไม่จด ผลคือ น้อยมากที่จะจำเนื้อหาได้หมด และอาจตกหล่นประเด็นสำคัญไป  

ดังนั้นการจดบันทึกจึงสำคัญ และเป็นประโยชน์เพื่อใช้ทบทวนภายหลัง

http://courtneyphillips.files.wordpress.com/2007/08/reading-for-dummies-cartoon.jpg

    # เทคนิคจดเลคเชอร์ .....     

        1) เตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม เช่น สมุด ควรใช้ 1 เล่ม ต่อ 1 วิชา เพื่อแยกเป็นสัดส่วน ป้องกันการสับสน ปากกา อาจใช้หลายสีไว้จดแยกสาระสำคัญของประเด็นต่างๆ

        2) ไม่ควรจดทุกคำพูด แต่ควรฟังให้เข้าใจก่อน จากนั้นจับใจความสำคัญแล้วค่อยบันทึกเป็นความเข้าใจของตัวเอง มี ข้อสังเกต! ว่า การจดเกือบทุกคำพูดของอาจารย์ เมื่อกลับมาทบทวน หลายคนจะไม่เข้าใจ เพราะไม่ได้ทำความเข้าใจตามไปด้วย มุ่งอยู่กับการเขียนอย่างเดียว ทำให้ไม่รู้ที่มาที่ไป

        3) ใช้คำย่อ-สัญลักษณ์เข้าช่วย ทำให้จดเร็วขึ้น อาจกำหนดตัวอักษรขึ้นเอง (แต่คนจดต้องเข้าใจด้วยว่าหมายถึงอะไร) ส่วนใหญ่นิยมใช้จากคำขึ้นต้นของคำนั้นๆ รวมทั้งอักษรย่อที่เป็นมาตรฐาน

        4) หากจดสาระสำคัญไม่ทัน ควรทำเครื่องหมายไว้ และบันทึกตามในประเด็นที่อาจารย์กำลังอธิบาย แล้วค่อยถามทีหลัง หากมัวพะวงจะทำให้จดไม่ทันทั้งหมด

        5) ถามอาจารย์เมื่อไม่เข้าใจ อย่าปล่อยให้ผ่านไป เพราะเนื้อหาส่วนใหญ่มักบูรณาการเกี่ยวเนื่องกันหมด หากไม่เข้าใจจุดหนึ่งจะทำให้งงกับส่วนอื่นตามไปด้วย และเมื่อได้คำอธิบายแล้ว อย่าลืมหมายเหตุไว้ เวลาทบทวนจะได้เน้นย้ำเป็นพิเศษ

      ** ที่สำคัญ !!! เลคเชอร์แล้วต้องกลับไปทำความเข้าใจอย่างสม่ำเสมอ  เพื่อความฟิตสำหรับการสอบเทอมนี้กัน