ความสำคัญของเรื่อง

ในการเรียนภาษาไทยของนักเรียนที่ใช้ภาษาถิ่น  มักจะมีปัญหาในเรื่องการฟัง  นักเรียนไม่เข้าใจความหมายของคำที่นักเรียนได้ยิน  การพูดภาษาไทยออกเสียงไม่ชัดเจนหรือออกเสียงคำในภาษาไทยไม่ได้   การอ่านภาษาไทยนักเรียนอ่านคำภาษาไทยไม่ออก  อ่านไม่คล่อง  การเขียน  เขียนคำภาษาไทยไม่ถูกต้อง  นักเรียนมักจะเขียนคำภาษาไทยจากการออกเสียงของตนเองทำให้เขียนคำผิด  ซึ่งจะเป็นปัญหาในการเรียนในวิชาอื่นๆ  เมื่อนักเรียนไม่รู้ไม่เข้าใจภาษาไทยแล้วก็จะทำให้เกิดการสื่อสารกันไม่ถูกต้อง  สื่อสารกันไม่เข้าใจ  ทำให้เกิดการขาดความสนใจที่จะฝึกฝนหรือไม่ตั้งใจเรียน
แนวทางในการพัฒนา
1.  ศึกษาหลักสูตรสถานศึกษาและวิเคราะห์หลักสูตรเพื่อนำมาจัดทำเป็นหน่วยการเรียนรู้  การเขียนแผนการสอนให้สอดคล้องกับสภาพของนักเรียน
2.  ศึกษาคำศัพท์ภาษาไทยพื้นฐานชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ที่นักเรียนควรเรียนรู้ เป็นคำที่นักเรียนนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน
3.  เลือกคำศัพท์ภาษาไทยพื้นฐานที่นักเรียนควรรู้จักมาจำนวน 200 คำ  เพื่อนำมาใช้ในการจัดการเรียนการสอนให้นักเรียนได้เรียนรู้ตามหลักสูตร
4.  นำคำศัพท์  จำนวน 200 คำ  มาแต่งเป็นคำคล้องจองง่ายๆ วรรคละ 4 คำ บทละ  16 คำ  โดยใช้คำพื้นฐานที่คัดเลือกมาให้มีสัมผัสนอก  สัมผัสใน และสอดแทรกรูปภาพสีประกอบ  บทกลอน เพื่อจะได้จดจำง่ายขึ้นและมีความเพลิดเพลินในการอ่าน
5.  นำคำศัพท์ที่แต่งเป็นคำคล้องจองมาจัดทำเป็นรูปเล่ม  แจกให้นักเรียนคนละ 1 เล่ม
6.  ให้นักเรียนนำแบบฝึกไปฝึกอ่านที่บ้าน เวลาพัก หรือยามว่าง
7.  ครูทดสอบการอ่านของนักเรียนแต่ละคน เพื่อแยกกลุ่มนักเรียนที่อ่านได้คล่อง อ่านได้ และอ่านไม่ได้
8.  ครูให้นักเรียนคนที่อ่านได้คล่องจับคู่กับนักเรียนคนที่อ่านไม่ได้  ให้ช่วยกันฝึกอ่านจนสามารถอ่านได้
9.  เมื่อนักเรียนสามารถอ่านได้แล้ว ให้นักเรียนฝึกเขียน จนสามารถเขียนได้ถูกต้อง  โดยใช้เวลาในการฝึกเล่มละ 2 สัปดาห์
10.  ครูทดสอบนักเรียนเพื่อประเมินผลการอ่านและการเขียน

ความต้องการที่จะแก้ไขปรับปรุง
1.  ฝึกการฟัง พูด อ่าน เขียน
2.  ให้นักเรียนได้ฝึกทำแบบฝึกอ่าน-เขียน คำคล้องจองเป็นเรื่องสั้นๆ มีภาพประกอบ
3.  ให้นักเรียนได้นำแบบฝึกอ่าน-เขียน คำคล้องจองในชั่งโมงรักการอ่านและในเวลาที่นักเรียนว่างจากการเรียน  
4.  ให้นักเรียนที่สามารถอ่านได้ช่วยกันสอนเพื่อคนที่อ่านไม่ได้  แบบเพื่อนช่วยเพื่อน

เนื้อเรื่อง
1.  ทดสอบการอ่านเพื่อแยกกลุ่มนักเรียนที่อ่านได้คล่อง อ่านได้และอ่านไม่ได้
2.  จับคู่นักเรียนที่อ่านได้คล่องนักเรียนที่อ่านไม่ได้ โดยชี้แจงเหตุผลให้นักเรียนเข้าใจ
3.  แจกหนังสือแบบฝึกอ่านคำคล้องจองให้นักเรียนไว้ฝึกอ่านคนละ 1 เล่ม
4.  ครูอ่านให้ฟัง  พร้อมอธิบายความหมายของคำแต่และคำ  ให้นักเรียนฝึกแจกลูกคำในการอ่านแต่ละคำ
5.  ให้นักเรียนฝึกอ่านโดยคนที่อ่านได้ช่วยคนที่อ่านไม่ได้ จนสามารถอ่านได้

การวางแผนการทำงานและกระบวนการดำเนินงาน
1.  ทดสอบการอ่านของนักเรียนเพื่อแยกกลุ่มที่อ่านได้คล่อง  กลุ่มที่อ่านได้ไม่คล่องและกลุ่มที่อ่านไม่ได้
2.  จัดนักเรียนเป็นคู่ คนอ่านได้กับคนที่อ่านไม่ได้
3.  ให้นักเรียนศึกษาแบบฝึกอ่าน-เขียน คำคล้องจอง
4.  ทดสอบการอ่าน-เขียน  เป็นรายบุคคล
5.  นำผลการทดสอบมาปรับปรุงแก้ไข

สรุป
 ผลที่เกิดขึ้น
1.  นักเรียนชอบอ่านแบบฝึกการอ่าน-เขียน คำคล้องจอง
2.  นักเรียนสามารถอ่านแบบฝึกและจำได้ดี
3.  นักเรียนเข้าใจความหมายของคำศัพท์ได้ดี
4.  นักเรียนอ่าน-เขียนได้ดีขึ้น
5.  นักเรียนมีความสุข  สนุกสนานกับการอ่านแบบฝึกหัด

 สรุปบทเรียนที่ได้
1.  นักเรียนสามารถอ่านคำภาษาไทยได้มากขึ้น  เข้าใจความหมายของคำได้มากขึ้น
2.  นักเรียนมีความสนุกสนานเพลิดเพลินกับการฝึกอ่าน-เขียน จากบทร้อยกรองง่าย
3.  นักเรียนสนใจแบบฝึกอ่าน-เขียน  คำคล้องจอง ในช่วงเวลาว่างและหลักเลิกเรียน

ประโยชน์ที่ได้รับ
1.  ครูมีความภาคภูมิใจในความรู้ที่เกิดขึ้นกับนักเรียน
2.  นักเรียนมีความรู้ภาษาไทยมากขึ้น  มีทักษะในการฟัง พูด อ่าน เขียนได้ดียิ่งขึ้น
3.  ครูผู้สอนภาษาไทยสามารถนำแบบฝึกการอ่าน-เขียน คำคล้องจอง  ไปใช้ในการฝึกนักเรียนที่มีปัญหาด้านการอ่านไม่ออก  เขียนไม่ได้  เพื่อช่วยให้นักเรียนได้มีพัฒนาด้านการอ่าน-การเขียนได้ดีขึ้น

*****************************************

เจ้าตู่แสนรู้      อยู่แต่ในบ้าน
หน้าตาชื่นบาน     ชอบแทะกระดูก

กระติกน้ำแข็ง      สีแดงสดใส
แม่ซื้อมาใหม่      ราคาถูกถูก

กระท้อนผลใหญ่      ปลูกไว้ในสวน
เนื้อในขาวนวล        คุณพ่อคนปลูก

ผลงานของ นายมิตร  คล้ายฉิม  ตำแหน่งครู วิทยฐานะ ชำนาญการ  โรงเรียนบ้านเบญญา (บุญชอบ  สาครินทร์) หมู่ 2 ต.ตาเซะ อ.เมือง จ.ยะลา  9500   สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษายะลาเขต 1