ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ความรุนแรงในปี 2547 เป็นต้นมา การศึกษาได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก โรงเรียนหลายแห่งถูกเผา ผู้บริหารโรงเรียนและครูถูกลอบทำร้ายเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ความวิตกกังวลในความไม่ปลอดภัย ครูขาดขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ การนิเทศศึกษาไม่สามารถดำเนินได้ทั่วถึง ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อการเรียนการสอนทั้งสิ้น ทำให้คุณภาพการศึกษาของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ตกต่ำเมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่นๆ โดยวัดได้จากผลการประเมินคุณภาพการศึกษาของสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.) ในการประเมินรอบที่ผ่านมาโดยในโครงการปฏิรูปเพื่อพัฒนาการศึกษา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ผู้บริหารและครูในกลุ่มตัวอย่างได้รับการอบรมเพื่อปฏิรูปการเรียนรู้จากวิทยากรส่วนกลางทั้ง 4 ประเด็นคือ การจัดการความรู้เพื่อที่จะแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างกันเอง การบริหารโรงเรียนเป็นฐานสำหรับผู้บริหารที่จะสนับสนุนการปฏิรูปการเรียนรู้ของครู สำหรับครูดำเนินการเพื่อการปฏิรูปการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ และประเด็นสุดท้ายก็คือการประกันคุณภาพภายใน โรงเรียนที่เป็นกลุ่มตัวอย่างได้ดำเนินการโดยเฉพาะในปัจจุบันดำเนินการมาถึงขั้นที่ประธานเครือข่ายวิจัยได้สรุปกิจกรรมของประธานที่สนับสนุนส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้ ผู้บริหารได้เขียนเล่าประสบการณ์ในการบริหารที่สนับสนุนและส่งเสริมให้ครูได้ปฏิรูปการเรียนรู้ในแต่ละโรงเรียน ได้คัดเลือกครูที่ได้ทำการปฏิรูปการเรียนรู้โรงเรียนละ 3 คน เพื่อเป็นแกนนำในการปฏิรูปการเรียนรู้ต่อไป ซึ่งข้อมูลเหล่านี้พร้อมที่จะนำไปสู่การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างโรงเรียนอุปสรรคของการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ที่สำคัญก็คือความไม่ปลอดภัยในการเดินทาง เพราะการเดินทางในแต่ละครั้งต้องระมัดระวังและเสี่ยงภัยค่อนข้างมาก เพื่อให้การวิจัยเกิดความยั่งยืน มูลนิธิฯ จึงแสวงหานวัตกรรมใหม่ๆ ที่มีความพร้อมและมีศักยภาพในการส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพการศึกษาและ พบว่า weblog เป็นนวัตกรรมที่พัฒนาในช่วง 2-3 ปีทีผ่านมาอย่างรวดเร็วมากและเป็นประโยชน์ในการเรียนรู้ โดย www.gotoknow.org ให้นิยามประโยชน์ของ weblog ดังนี้1. คลังความรู้ มีความรู้มากมายให้ค้นหา ให้อ่านตามความสนใจ2. คลังมิตรภาพ เกิดการปฏิสัมพันธ์กันทั้งทางออนไลน์และออฟไลน์จนกลายเป็นมิตรภาพดีๆ3. คลังแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ แสดงความคิดเห็นและต่อยอดความรู้ออกไป4. คลังแห่งความสุข เป็นที่ระบายความเครียด ช่วยให้ผ่อนคลาย และเพิ่มความสุขในชีวิต5. คลังข้อมูล ใช้เก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการทำงานของสมาชิก ที่สำคัญช่วยให้เจ้าของข้อมูลสามารถดึงข้อมูลออกมาใช้ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว6. คลังเพื่อการฝึกฝน เป็นแหล่งฝึกฝนระบบการคิด ทักษะการเขียน และความสามารถด้านการถ่ายทอดข้อมูลความรู้ต่างๆ และยังเป็นแหล่งฝึกทักษะการใช้คอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ตได้เป็นอย่างดีอีกด้วย7. คลัง KM ที่แห่งนี้เป็นสถานที่ที่มีผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการความรู้ (KM) มากมาย อีกทั้งสามารถค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับการจัดการความรู้ (KM) ได้ง่ายเพียงแค่คลิก8. คลังประชาสัมพันธ์และกิจกรรมงานบุญ เป็นแหล่งประชาสัมพันธ์กิจกรรมดีๆ เพื่อสร้างสรรค์สังคมมากมาย9. คลังแห่งองค์กรต่างๆ บางองค์กรเลือกเว็บไซต์ GotoKnow.org เป็นเครื่องมือเพื่อติดต่อสื่อสารระหว่างกัน10. คลังเพื่อนช่วยเพื่อน เมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันทั้งทางออนไลน์และออฟไลน์ จนเกิดความไว้เนื้อเชื่อใจกัน พบว่าเกิดกระบวนการเพื่อนช่วยเพื่อน ทั้งทางออนไลน์และออฟไลน์ เช่นช่วยสอนวิธีการใช้งานบล็อก11. คลังความรู้ฝังลึก อย่างที่กล่าวไปแล้วว่า ที่นี่เป็นคลังความรู้ มีสารประโยชน์ต่างๆ มากมายให้เลือกอ่าน และที่สำคัญความรู้ส่วนใหญ่นั้นเป็นความรู้ฝังลึกที่ซ่อนอยู่ในตัวคนทุกคนนั่นเอง ที่นี่จึงกลายเป็นคลังความรู้ฝังลึกที่ใหญ่มาก และถ้าหากสามารถสกัดความรู้ฝังลึกเหล่านี้ให้กลายเป็นความรู้ชัดแจ้งได้ ที่นี่จะกลายเป็นคลังแก่นความรู้ได้ต่อไปทั้ง 11 ข้อ เป็นประโยชน์ที่เกิดจากการสกัดข้อมูลออกมาจากบันทึกจำนวนมาก และแน่นอนว่าประโยชน์ของบล็อกไม่ได้มีเพียงเท่านี้ ยังมีอีกมากมายหลากหลายข้อ ขึ้นอยู่กับผู้ใช้ว่าสามารถนำบล็อกไปใช้ให้เกิดประโยชน์ได้มากน้อยเพียงใดนั่นเอง” -----------------------------------