• user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:b881b3822f6d3f00c3f21fa5fa6addde' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '<!--paging_filter--><p>\n  \n</p>\n<p align=\"center\">\n<img border=\"0\" align=\"textTop\" width=\"150\" src=\"/files/u10327/7.jpg\" height=\"150\" style=\"width: 188px; height: 154px\" />\n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #800000\">การสื่อสารข้อมูลและเครือข่ายคอมพิวเตอร์</span> <br />\n           เทคโนโลยีคมนาคมและการสื่อสารนำมาประยุกต์ใช้เพื่อพัฒนาและปรับปรุงการดำเนินงานทางธุรกิจโดยมีวัตถุประสงค์หลัก 4 ประการดังนี้ <br />\n          1.  เพื่อการสื่อสารทางธุรกิจที่ดีขึ้น <br />\n          2.  เพื่อให้การดำเนินงานมีประสิทธิภาพสูงขึ้น <br />\n          3.  เพื่อการกระจายข้อมูลที่ดีขึ้น <br />\n          4.  เพื่อการจัดการกระบวนการธุรกิจที่สะดวกขึ้น   <br />\n   <span style=\"color: #800000\">   องค์ประกอบของการสื่อสาร <br />\n</span><span style=\"color: #ffcc00\">          1.  ผู้ส่งข้อมูล (Sender) ทำหน้าที่ส่งข้อมูล <br />\n          2.  ผู้รับข้อมูล (Receiver) ทำหน้าที่รับข้อมูล <br />\n          3.  ข้อมูล (Data) ข้อมูลที่ผู้ส่งข้อมูลต้องการส่งไปยังผู้รับข้อมูล          </span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #ffcc00\">          4.  สื่อนำข้อมูล (Medium) ทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการขนถ่ายข้อมูล <br />\n          </span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #ffcc00\">           5.  โปรโตคอล (Protocol) วิธีการสื่อสารที่ตกลง กันระหว่าง ผู้ส่งข้อมูล กับ ผู้รับข้อมูล</span>  <br />\n \n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #800000\">การใช้เทคโนโลยีการสื่อสาร</span>          <br />\n           <span style=\"color: #00ff00\">ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Mail : E-mail)</span> การใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์         \n</p>\n<p>\n           <span style=\"color: #00ff00\">โทรสาร (Facsimile หรือ Fax)</span>เป็นการส่งข้อมูล \n</p>\n<p>\n           <span style=\"color: #00ff00\">วอยซ์เมล (Voice Mail)</span>เป็นการส่งข้อความเป็นเสียงพูดให้กลายเป็นข้อความอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบเครือข่ายการสื่อสารข้อความ<br />\n           <span style=\"color: #00ff00\">การประชุมทางไกลอิเล็กทรอนิกส์ (Video Conferencing)</span>                <br />\n          เป็นการสื่อสารข้อมูลโดยการส่งภาพและเสียงจากฝ่ายหนึ่งไปยังอีกฝ่ายหนึ่ง ในการใช้ Video Conferencing จะต้องมีอุปกรณ์สำหรับการบันทึกภาพและอุปกรณ์บันทึกเสียง\n</p>\n<p>\n           <span style=\"color: #00ff00\">การระบุตำแหน่งด้วยดาวเทียม(Global Positioning Systems : GPSs)</span>                <br />\n          เป็นระบบที่ใช้วิเคราะห์และระบุตำแหน่งของคน สัตว์ หรือสิ่งของที่เป็นเป้าหมายของระบบ\n</p>\n<p>\n   <span style=\"color: #00ff00\">       กรุ๊ปแวร์(groupware)</span>                <br />\n           เป็นโปรแกรมประยุกต์ที่ช่วยสนับสนุนการทำงานของกลุ่มบุคคลให้สามารถทำงานร่วมกัน\n</p>\n<p>\n          <span style=\"color: #00ff00\">การโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์(Electronic Fund Transfer : EFT)</span>                <br />\n          ปัจจุบันผู้ใช้สามารถชำระค่าสินค้าและบริการโดยการโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์จากบัญชีธนาคารที่ให้บริการโอนเงินอัตโนมัติ         \n</p>\n<p>\n           <span style=\"color: #00ff00\">การแลกเปลี่ยนข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์(Electronic Data Interchange : EDI)</span>                <br />\n          เป็นระบบแลกเปลี่ยนข้อมูลเชิงทางอิเล็กทรอนิกส์ระหว่างองค์การ \n</p>\n<p>\n          <span style=\"color: #00ff00\"> การระบุลักษณะของวัตถุด้วยคลื่นความถี่วิทยุ(RFID) <br />\n</span>          เป็นระบบระบุลักษณะของวัตถุด้วยคลื่นความถี่วิทยุ ปัจจุบันมีการนำ RFID ไปประยุกต์ใช้งานหลากหลายประเภท\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #800000\">ชนิดของสัญญาณข้อมูล</span> <br />\n         <span style=\"color: #800080\"> 1.  สัญญาณแอนะล็อก(Analog Signal)</span>                <br />\n          เป็นสัญญาณแบบต่อเนื่อง มีลักษณะเป็นคลื่นไซน์ (Sine Wave) โดยที่แต่ละคลื่นจะมีความถี่และความเข้มของสัญญาณที่ต่างกัน \n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #800080\">          2.  สัญญาณดิจิทัล(Digital Signal)</span>                <br />\n          สัญญาณดิจิทัลเป็นสัญญาณแบบไม่ต่อเนื่อง รูปสัญญาณของสัญญาณมีความเปลี่ยนแปลงที่ไม่ปะติดปะต่ออย่างสัญญาณแอนะล็อก ในการสื่อสารด้วยสัญญาณดิจิทัล ข้อมูลในคอมพิวเตอร์ซึ่งเป็นเลขฐานสอง (0และ1) \n</p>\n<p>\n   <span style=\"color: #800080\">       โมเด็ม(Modem)</span> เป็นอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่แปลงสัญญาณดิจิทัลจากเครื่องคอมพิวเตอร์ให้เป็นสัญญาณแอนะล็อก ความเร็วในการสื่อสารข้อมูลของโมเด็มวันเป็นบิตต่อวินาที (bit per second หรือ bps) ความเร็วของโมเด็มโดยทั่วไปมีความเร็วเป็น 56 กิโลบิตต่อวินาที  <br />\n<span style=\"color: #800000\">ทิศทางการส่งข้อมูล(Transmission Mode) สามารถจำแนกทิศทางการส่งข้อมูลได้ 3 รูปแบบ <br />\n</span>       <span style=\"color: #800080\">   1.  การส่งข้อมูลแบบทิศทางเดียว (Simplex Transmission) <br />\n          2.  การส่งข้อมูลแบบสองทิศทางสลับกัน (Half-Duplex Transmission) <br />\n          3.  การส่งข้อมูลแบบสองทิศทางพร้อมกัน (Full-Duplex Transmission)  <br />\n</span><span style=\"color: #800000\">ตัวกลางการสื่อสาร</span> <br />\n   <span style=\"color: #00ccff\">       1.  สื่อนำข้อมูลแบบมีสาย(Wired Media)  สื่อข้อมูลแบบมีสายที่นิยมใช้มี 3 ชนิดดังนี้ <br />\n               -  สายคู่บิดเกลียว (Twisted-Pair Cable)                <br />\n                  สายคู่บิดเกลียว เป็นสายสัญญาณนำข้อมูลไฟฟ้า สายแต่ละเส้นมีลักษณะคล้ายสายไฟทั่วไป จำนวนสายจะมีเป็นคู่                 </span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #00ccff\">               -  สายโคแอกเชียล (Coaxial Cable)                <br />\n           สายโคแอกเชียล เป็นสายสัญญาณนำข้อมูลไฟฟ้า มีความถี่ในการส่งข้อมูลประมาณ 100 MHz ถึง500 MHz สายโคแอกเชียลมีความมเร็วในการส่งข้อมูล                </span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #00ccff\">               -  สายใยแก้วนำแสง(Optical Fiber Cable)                <br />\n          สายสัญญาณทำจากใยแก้วหรือสารนำแสงหุ้มด้วยวัสดุป้องกันแสง มีความเร็วในการส่งสูงกับความเร็วแสง สามารถใช้ในการส่งข้อมูลที่มีความถี่สูงได้ สัญญาณที่ส่งผ่านสายใยแก้วนำแสง</span> \n</p>\n<p>\n   <span style=\"color: #cc99ff\">       2.  สื่อนำข้อมูลแบบไร้สาย(Wireless Media) การสื่อสารข้อมูลแบบไร้สาย จะใช้อากาศเป็นตัวกลางของการสื่อสาร เช่น <br />\n                - แสงอินฟราเรด (Infrared)  เป็นการสื่อสารข้อมูลโดยใช้แสงอินฟราเรดเป็นสื่อกลาง  </span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #cc99ff\">                -  สัญญาณวิทยุ (Radio Wave)  เป็นสื่อนำข้อมูลแบบไร้สาย (Wireless Media) ที่มีการส่งข้อมูลเป็นสัญญาณคลื่อนวิทยุไปในอากาศไปยังตัวรับสัญญาณ <br />\n                -  ไมโครเวฟภาคพื้นดิน (Terrestrial Microwave) เป็นการสื่อสารไรสายอีกประเภทหนึ่ง การสื่อสารประเภทนี้จะมีเสาส่งสัญญาณไมโครเวฟที่อยู่ห่างๆ กัน ทำการส่งข้อมูลไปในอากาศไปยังเสารับข้อมูล <br />\n                -  การสื่อสารผ่านดาวเทียม (Satellite Communication)  เป็นการสื่อสารจากพื้นโลกที่มีการส่งสัญญาณข้อมูลไปยังดาวเทียม โดยดาวเทียมจะทำหน้าที่เป็นสถานีทวนสัญญาณ เพื่อจัดส่งสัญญาณต่อไปยังสถานีภาพพื้นดินอื่นๆ ระยะทางจะโลกถึงดาวเทียมประมาณ 22,000 ไมล์  <br />\nหลักเกณฑ์การพิจารณาเลือกสื่อนำข้อมูล <br />\n          1.  ราคา <br />\n          2.  ความเร็ว <br />\n          3.  ระยะทาง <br />\n          4.  สัญญาณรบกวนที่อาจจะเกิดขึ้น <br />\n          5.  ความปลอดภัยของข้อมูล  <br />\nมาตรฐานเครื่อข่ายไร้สาย (Wireless Networking Protocols) <br />\n          1. บลูทูธ (Bluetooth) <br />\n          2. ไวไฟ (Wi-Fi) <br />\n          3. ไว-แมกซ์ (Wi-MAX)</span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #0000ff\">คำถาม </span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #0000ff\">         1.นักเรียนคิดว่าการสื่อข้อมูล ในปัจจุบันมีความสำคัญและประโยชน์อย่างไร </span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #0000ff\"><span style=\"color: #000000\">          มีความสำคัญ คือ  ทำให้การดำเนินชีวิตปัจจุบันสามารถดำเนินไปในทางที่สะดวกสบายเเละเหมาะกับวัยเเละยุคของเราในปัจจุบันเเทบทุกด้าน</span> </span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #0000ff\">         2.การสื่อสารข้อมูลต้องมีองค์ประกอบพื้นฐานและเกี่ยวข้องกับข่าวสารประเภทใด </span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #0000ff\">       <span style=\"color: #000000\">   1.  ผู้ส่งข้อมูล (Sender)</span>  <br />\n</span>          2.  ผู้รับข้อมูล (Receiver)  <br />\n          3.  ข้อมูล (Data)  <br />\n          4.  สื่อนำข้อมูล (Medium)  <br />\n          5.  โปรโตคอล (Protocol)\n</p>\n<p>\n       <span style=\"color: #0000ff\">   3.การสื่อสารข้อมูลมีรูปแบบ/ทิศทางการสื่อสารอย่างไร มีอุปกรณ์เครื่องมือใด</span> <br />\n          1.  การส่งข้อมูลแบบทิศทางเดียว (Simplex Transmission) <br />\n          2.  การส่งข้อมูลแบบสองทิศทางสลับกัน (Half-Duplex Transmission) <br />\n          3.  การส่งข้อมูลแบบสองทิศทางพร้อมกัน (Full-Duplex Transmission) \n</p>\n<p>\n     <span style=\"color: #0000ff\">     4.นักเรียนคิดว่าการสื่อสารข้อมูลมีโทษอย่างไร <br />\n</span><span style=\"color: #0000ff\">          </span><span style=\"color: #000000\">การหลอกหลวง<br />\n          การโจรกรรมทางเงิน</span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #0000ff\">          5.บลูทูธ (Bluetooth)  ไวไฟ(WiFi)  ไว-แมกซ์ (Wi-max) มีลักษณะอย่างไรมีการใช้อย่างไร</span> <br />\n                                   Bluetooth คือ ระบบสื่อสารของอุปกรณ์อิเล็คโทรนิคแบบสองทาง ด้วยคลื่นวิทยุระยะสั้น (Short-Range Radio Links) โดยปราศจากการใช้สายเคเบิ้ล หรือ สายสัญญาณเชื่อมต่อ และไม่จำเป็นจะต้องใช้การเดินทางแบบเส้นตรงเหมือนกับอินฟราเรด ซึ่งถือว่าเพิ่มความสะดวกมากกว่าการเชื่อมต่อแบบอินฟราเรด ที่ใช้ในการเชื่อมต่อระหว่างโทรศัพท์มือถือ กับอุปกรณ์ ในโทรศัพท์เคลื่อนที่รุ่นก่อน ๆ และในการวิจัย ไม่ได้มุ่งเฉพาะการส่งข้อมูลเพียงอย่างเดียว แต่ยังศึกษาถึงการส่งข้อมูลที่เป็นเสียง เพื่อใช้สำหรับ Headset บนโทรศัพท์มือถือด้วย\n</p>\n<p>\n  แก้ไขเพิ่มเติม : สัญญลักษณ์ของอุปกรณ์นี้คือตัวอักษรรูน (rune) ที่นำตัวหน้าของกษัตริย์ Harald Bluetooth มาวางซ้อนกัน ตัว H ถูกแทนด้วยสัญลักษณ์กากบาทที่มีขีดพาดกลางตามแนวตั้ง หรือตัว Hagalaz ในอักษรรูน ส่วนตัว B ถูกแทนด้วยตัว Bekano ซึ่งคล้ายตัว B เดิมอยู่แล้ว  เมื่อนำสัญลักษณ์ทั้งสองตัวมาซ้อนกันจึงได้ โลโกของ bluetooth ที่เราเห็นกันอยู่ทุกวันนี้<br />\n<a href=\"http://th.88db.com/th/Knowledge/Knowledge_Detail.page?kid=7813\">http://th.88db.com/th/Knowledge/Knowledge_Detail.page?kid=7813</a>\n</p>\n<p>\n                                      WIFI คือ  องค์กรหนึ่ง ที่ทดสอบผลิตภัณฑ์ Wireless Lan หรือระบบ Network แบบไร้สาย ภายใต้เทคโนโลยีการสื่อสาร ภายใต้มาตราฐาน IEEE 802.11 ว่าอุปกรณ์ทุกตัวซึ่งต่างยี่ห้อกันนั้นมันสามารถติดต่อสื่อสารกันได้โดยไม่มีปัญหา หากว่าอุปกรณ์ตัวนั้นมันผ่านตามมาตราฐานเขาก็จะปั๊ม ตรา Wi-Fi certified ซึ่งเป็นอันรู้กันว่าอุปกรณ์ชิ้นนั้นสามารถติดต่อสื่อสารกับอุปกรณ์ตัวอื่นที่มีตรา Wi-Fi  certified นี้ได้เช่นกัน แต่ทำไปทำมามันกลายเป็นคำศัพท์สำหรับ อุปกรณ์ Lan ไร้สาย ไปโดยปริยาย จนบางคนก็เรียกกันติดปาก\n</p>\n<p>\nเช่น Notebook ตัวนี้ หรือ PDA ตัวนี้มันมี Wi-Fi  ด้วยหละ ! นั่นก็หมายความว่า อุปกรณ์ชิ้นนั้น มันสามารถติดต่อสื่อสารกับเครื่องตัวอื่นในระบบ Network แบบไร้สายได้ โดยอยู่ภายใต้ มาตราฐานเทคโนโลยี <br />\n<a href=\"http://www.tlcthai.com/webboard/view_topic.php?table_id=1&amp;cate_id=5&amp;post_id=210\">http://www.tlcthai.com/webboard/view_topic.php?table_id=1&amp;cate_id=5&amp;post_id=210</a>\n</p>\n<p>\n                                      ไวแมกซ์ (WiMAX เป็นชื่อย่อของ Worldwide Interoperability for Microwave Access) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีบรอดแบนด์ไร้สายความเร็วสูงที่ถูกพัฒนาขึ้นมาบนมาตรฐาน IEEE 802.16 ซึ่งก็ได้พัฒนามาตรฐาน IEEE 802.16e ขึ้นโดยได้การอนุมัติออกมาเมื่อเดือนมกราคม 2004 โดยสถาบันวิศวกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ (IEEE: Institute of Electrical and Electronics Engineers) ซึ่งมีรัศมีทำการที่ 30 ไมล์ (ประมาณ 50 กิโลเมตร) หมายความว่า ไวแมกซ์ สามารถให้บริการครอบคลุมพื้นที่กว้างกว่าระบบไครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ 3G มากถึง 10 เท่า ยิ่งกว่านั้นยังมีอัตราความเร็วในการส่งผ่านข้อมูลสูงสุดถึง 75 เมกะบิตต่อวินาที (Mbps) ซึ่งเร็วกว่า 3G ถึง 30 เท่า  มาตรฐาน IEEE 802.16e หรือ ไวแมกซ์ มีความสามารถในการส่งกระจายสัญญาณในลักษณะจากจุดเดียวไปยังหลายจุด (Point-to-multipoint) ได้พร้อมๆ กัน โดยมีความสามารถรองรับการทำงานในแบบ Non-Line-of-Sight ได้ สามารถทำงานได้แม้กระทั่งมีสิ่งกีดขวาง (ต้นไม้ อาคาร) ได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้ ไวแมกซ์ สามารถช่วยให้ผู้ที่ใช้งานสามารถขยายเครือข่ายเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้กว้างขวางด้วยรัศมีทำการถึง 31 ไมล์ (ประมาณ 48 กิโลเมตร) และมีอัตราความเร็วในการรับส่งข้อมูลสูงสุดถึง 75 Mbps มาตรฐาน IEEE 802.16e นี้ใช้งานอยู่บนคลื่นไมโครเวฟที่ความถี่ระหว่าง 2-11 กิกะเฮรตซ์ (GHz) และยังสามารถใช้งานร่วมกับอุปกรณ์มาตรฐานชนิดอื่นๆ ที่ออกมาก่อนหน้านี้ได้เป็นอย่างดี<br />\n<a href=\"http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%84%E0%B8%A7%E0%B9%81%E0%B8%A1%E0%B8%81%E0%B8%8B%E0%B9%8C\">http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%84%E0%B8%A7%E0%B9%81%E0%B8%A1%E0%B8%81%E0%B8%8B%E0%B9%8C</a>  \n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<div style=\"text-align: center\">\n<img border=\"0\" width=\"150\" src=\"/files/u10327/31980_20418.gif\" height=\"150\" />\n</div>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n', created = 1715971118, expire = 1716057518, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:b881b3822f6d3f00c3f21fa5fa6addde' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.

การสื่อสารข้อมูลและเครื่อข่ายคอมพิวเตอร์

  

 

การสื่อสารข้อมูลและเครือข่ายคอมพิวเตอร์
           เทคโนโลยีคมนาคมและการสื่อสารนำมาประยุกต์ใช้เพื่อพัฒนาและปรับปรุงการดำเนินงานทางธุรกิจโดยมีวัตถุประสงค์หลัก 4 ประการดังนี้
          1.  เพื่อการสื่อสารทางธุรกิจที่ดีขึ้น
          2.  เพื่อให้การดำเนินงานมีประสิทธิภาพสูงขึ้น
          3.  เพื่อการกระจายข้อมูลที่ดีขึ้น
          4.  เพื่อการจัดการกระบวนการธุรกิจที่สะดวกขึ้น  
      องค์ประกอบของการสื่อสาร
          1.  ผู้ส่งข้อมูล (Sender) ทำหน้าที่ส่งข้อมูล 
          2.  ผู้รับข้อมูล (Receiver) ทำหน้าที่รับข้อมูล 
          3.  ข้อมูล (Data) ข้อมูลที่ผู้ส่งข้อมูลต้องการส่งไปยังผู้รับข้อมูล         

          4.  สื่อนำข้อมูล (Medium) ทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการขนถ่ายข้อมูล
         

           5.  โปรโตคอล (Protocol) วิธีการสื่อสารที่ตกลง กันระหว่าง ผู้ส่งข้อมูล กับ ผู้รับข้อมูล 
 

การใช้เทคโนโลยีการสื่อสาร          
           ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Mail : E-mail) การใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์         

           โทรสาร (Facsimile หรือ Fax)เป็นการส่งข้อมูล 

           วอยซ์เมล (Voice Mail)เป็นการส่งข้อความเป็นเสียงพูดให้กลายเป็นข้อความอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบเครือข่ายการสื่อสารข้อความ
           การประชุมทางไกลอิเล็กทรอนิกส์ (Video Conferencing)               
          เป็นการสื่อสารข้อมูลโดยการส่งภาพและเสียงจากฝ่ายหนึ่งไปยังอีกฝ่ายหนึ่ง ในการใช้ Video Conferencing จะต้องมีอุปกรณ์สำหรับการบันทึกภาพและอุปกรณ์บันทึกเสียง

           การระบุตำแหน่งด้วยดาวเทียม(Global Positioning Systems : GPSs)               
          เป็นระบบที่ใช้วิเคราะห์และระบุตำแหน่งของคน สัตว์ หรือสิ่งของที่เป็นเป้าหมายของระบบ

          กรุ๊ปแวร์(groupware)               
           เป็นโปรแกรมประยุกต์ที่ช่วยสนับสนุนการทำงานของกลุ่มบุคคลให้สามารถทำงานร่วมกัน

          การโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์(Electronic Fund Transfer : EFT)               
          ปัจจุบันผู้ใช้สามารถชำระค่าสินค้าและบริการโดยการโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์จากบัญชีธนาคารที่ให้บริการโอนเงินอัตโนมัติ         

           การแลกเปลี่ยนข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์(Electronic Data Interchange : EDI)               
          เป็นระบบแลกเปลี่ยนข้อมูลเชิงทางอิเล็กทรอนิกส์ระหว่างองค์การ 

           การระบุลักษณะของวัตถุด้วยคลื่นความถี่วิทยุ(RFID)
          เป็นระบบระบุลักษณะของวัตถุด้วยคลื่นความถี่วิทยุ ปัจจุบันมีการนำ RFID ไปประยุกต์ใช้งานหลากหลายประเภท

ชนิดของสัญญาณข้อมูล
          1.  สัญญาณแอนะล็อก(Analog Signal)               
          เป็นสัญญาณแบบต่อเนื่อง มีลักษณะเป็นคลื่นไซน์ (Sine Wave) โดยที่แต่ละคลื่นจะมีความถี่และความเข้มของสัญญาณที่ต่างกัน 

          2.  สัญญาณดิจิทัล(Digital Signal)               
          สัญญาณดิจิทัลเป็นสัญญาณแบบไม่ต่อเนื่อง รูปสัญญาณของสัญญาณมีความเปลี่ยนแปลงที่ไม่ปะติดปะต่ออย่างสัญญาณแอนะล็อก ในการสื่อสารด้วยสัญญาณดิจิทัล ข้อมูลในคอมพิวเตอร์ซึ่งเป็นเลขฐานสอง (0และ1) 

          โมเด็ม(Modem) เป็นอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่แปลงสัญญาณดิจิทัลจากเครื่องคอมพิวเตอร์ให้เป็นสัญญาณแอนะล็อก ความเร็วในการสื่อสารข้อมูลของโมเด็มวันเป็นบิตต่อวินาที (bit per second หรือ bps) ความเร็วของโมเด็มโดยทั่วไปมีความเร็วเป็น 56 กิโลบิตต่อวินาที 
ทิศทางการส่งข้อมูล(Transmission Mode) สามารถจำแนกทิศทางการส่งข้อมูลได้ 3 รูปแบบ
          1.  การส่งข้อมูลแบบทิศทางเดียว (Simplex Transmission)
          2.  การส่งข้อมูลแบบสองทิศทางสลับกัน (Half-Duplex Transmission)
          3.  การส่งข้อมูลแบบสองทิศทางพร้อมกัน (Full-Duplex Transmission) 
ตัวกลางการสื่อสาร
          1.  สื่อนำข้อมูลแบบมีสาย(Wired Media)  สื่อข้อมูลแบบมีสายที่นิยมใช้มี 3 ชนิดดังนี้
               -  สายคู่บิดเกลียว (Twisted-Pair Cable)               
                  สายคู่บิดเกลียว เป็นสายสัญญาณนำข้อมูลไฟฟ้า สายแต่ละเส้นมีลักษณะคล้ายสายไฟทั่วไป จำนวนสายจะมีเป็นคู่                

               -  สายโคแอกเชียล (Coaxial Cable)               
           สายโคแอกเชียล เป็นสายสัญญาณนำข้อมูลไฟฟ้า มีความถี่ในการส่งข้อมูลประมาณ 100 MHz ถึง500 MHz สายโคแอกเชียลมีความมเร็วในการส่งข้อมูล               

               -  สายใยแก้วนำแสง(Optical Fiber Cable)               
          สายสัญญาณทำจากใยแก้วหรือสารนำแสงหุ้มด้วยวัสดุป้องกันแสง มีความเร็วในการส่งสูงกับความเร็วแสง สามารถใช้ในการส่งข้อมูลที่มีความถี่สูงได้ สัญญาณที่ส่งผ่านสายใยแก้วนำแสง
 

          2.  สื่อนำข้อมูลแบบไร้สาย(Wireless Media) การสื่อสารข้อมูลแบบไร้สาย จะใช้อากาศเป็นตัวกลางของการสื่อสาร เช่น
                - แสงอินฟราเรด (Infrared)  เป็นการสื่อสารข้อมูลโดยใช้แสงอินฟราเรดเป็นสื่อกลาง 

                -  สัญญาณวิทยุ (Radio Wave)  เป็นสื่อนำข้อมูลแบบไร้สาย (Wireless Media) ที่มีการส่งข้อมูลเป็นสัญญาณคลื่อนวิทยุไปในอากาศไปยังตัวรับสัญญาณ
                -  ไมโครเวฟภาคพื้นดิน (Terrestrial Microwave) เป็นการสื่อสารไรสายอีกประเภทหนึ่ง การสื่อสารประเภทนี้จะมีเสาส่งสัญญาณไมโครเวฟที่อยู่ห่างๆ กัน ทำการส่งข้อมูลไปในอากาศไปยังเสารับข้อมูล
                -  การสื่อสารผ่านดาวเทียม (Satellite Communication)  เป็นการสื่อสารจากพื้นโลกที่มีการส่งสัญญาณข้อมูลไปยังดาวเทียม โดยดาวเทียมจะทำหน้าที่เป็นสถานีทวนสัญญาณ เพื่อจัดส่งสัญญาณต่อไปยังสถานีภาพพื้นดินอื่นๆ ระยะทางจะโลกถึงดาวเทียมประมาณ 22,000 ไมล์ 
หลักเกณฑ์การพิจารณาเลือกสื่อนำข้อมูล
          1.  ราคา
          2.  ความเร็ว
          3.  ระยะทาง
          4.  สัญญาณรบกวนที่อาจจะเกิดขึ้น
          5.  ความปลอดภัยของข้อมูล 
มาตรฐานเครื่อข่ายไร้สาย (Wireless Networking Protocols)
          1. บลูทูธ (Bluetooth)
          2. ไวไฟ (Wi-Fi)
          3. ไว-แมกซ์ (Wi-MAX)

คำถาม

         1.นักเรียนคิดว่าการสื่อข้อมูล ในปัจจุบันมีความสำคัญและประโยชน์อย่างไร

          มีความสำคัญ คือ  ทำให้การดำเนินชีวิตปัจจุบันสามารถดำเนินไปในทางที่สะดวกสบายเเละเหมาะกับวัยเเละยุคของเราในปัจจุบันเเทบทุกด้าน

         2.การสื่อสารข้อมูลต้องมีองค์ประกอบพื้นฐานและเกี่ยวข้องกับข่าวสารประเภทใด

          1.  ผู้ส่งข้อมูล (Sender)  
          2.  ผู้รับข้อมูล (Receiver)  
          3.  ข้อมูล (Data)  
          4.  สื่อนำข้อมูล (Medium)  
          5.  โปรโตคอล (Protocol)

          3.การสื่อสารข้อมูลมีรูปแบบ/ทิศทางการสื่อสารอย่างไร มีอุปกรณ์เครื่องมือใด 
          1.  การส่งข้อมูลแบบทิศทางเดียว (Simplex Transmission)
          2.  การส่งข้อมูลแบบสองทิศทางสลับกัน (Half-Duplex Transmission)
          3.  การส่งข้อมูลแบบสองทิศทางพร้อมกัน (Full-Duplex Transmission) 

          4.นักเรียนคิดว่าการสื่อสารข้อมูลมีโทษอย่างไร 
          การหลอกหลวง
          การโจรกรรมทางเงิน

          5.บลูทูธ (Bluetooth)  ไวไฟ(WiFi)  ไว-แมกซ์ (Wi-max) มีลักษณะอย่างไรมีการใช้อย่างไร 
                                   Bluetooth คือ ระบบสื่อสารของอุปกรณ์อิเล็คโทรนิคแบบสองทาง ด้วยคลื่นวิทยุระยะสั้น (Short-Range Radio Links) โดยปราศจากการใช้สายเคเบิ้ล หรือ สายสัญญาณเชื่อมต่อ และไม่จำเป็นจะต้องใช้การเดินทางแบบเส้นตรงเหมือนกับอินฟราเรด ซึ่งถือว่าเพิ่มความสะดวกมากกว่าการเชื่อมต่อแบบอินฟราเรด ที่ใช้ในการเชื่อมต่อระหว่างโทรศัพท์มือถือ กับอุปกรณ์ ในโทรศัพท์เคลื่อนที่รุ่นก่อน ๆ และในการวิจัย ไม่ได้มุ่งเฉพาะการส่งข้อมูลเพียงอย่างเดียว แต่ยังศึกษาถึงการส่งข้อมูลที่เป็นเสียง เพื่อใช้สำหรับ Headset บนโทรศัพท์มือถือด้วย

  แก้ไขเพิ่มเติม : สัญญลักษณ์ของอุปกรณ์นี้คือตัวอักษรรูน (rune) ที่นำตัวหน้าของกษัตริย์ Harald Bluetooth มาวางซ้อนกัน ตัว H ถูกแทนด้วยสัญลักษณ์กากบาทที่มีขีดพาดกลางตามแนวตั้ง หรือตัว Hagalaz ในอักษรรูน ส่วนตัว B ถูกแทนด้วยตัว Bekano ซึ่งคล้ายตัว B เดิมอยู่แล้ว  เมื่อนำสัญลักษณ์ทั้งสองตัวมาซ้อนกันจึงได้ โลโกของ bluetooth ที่เราเห็นกันอยู่ทุกวันนี้
http://th.88db.com/th/Knowledge/Knowledge_Detail.page?kid=7813

                                      WIFI คือ  องค์กรหนึ่ง ที่ทดสอบผลิตภัณฑ์ Wireless Lan หรือระบบ Network แบบไร้สาย ภายใต้เทคโนโลยีการสื่อสาร ภายใต้มาตราฐาน IEEE 802.11 ว่าอุปกรณ์ทุกตัวซึ่งต่างยี่ห้อกันนั้นมันสามารถติดต่อสื่อสารกันได้โดยไม่มีปัญหา หากว่าอุปกรณ์ตัวนั้นมันผ่านตามมาตราฐานเขาก็จะปั๊ม ตรา Wi-Fi certified ซึ่งเป็นอันรู้กันว่าอุปกรณ์ชิ้นนั้นสามารถติดต่อสื่อสารกับอุปกรณ์ตัวอื่นที่มีตรา Wi-Fi  certified นี้ได้เช่นกัน แต่ทำไปทำมามันกลายเป็นคำศัพท์สำหรับ อุปกรณ์ Lan ไร้สาย ไปโดยปริยาย จนบางคนก็เรียกกันติดปาก

เช่น Notebook ตัวนี้ หรือ PDA ตัวนี้มันมี Wi-Fi  ด้วยหละ ! นั่นก็หมายความว่า อุปกรณ์ชิ้นนั้น มันสามารถติดต่อสื่อสารกับเครื่องตัวอื่นในระบบ Network แบบไร้สายได้ โดยอยู่ภายใต้ มาตราฐานเทคโนโลยี 
http://www.tlcthai.com/webboard/view_topic.php?table_id=1&cate_id=5&post_id=210

                                      ไวแมกซ์ (WiMAX เป็นชื่อย่อของ Worldwide Interoperability for Microwave Access) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีบรอดแบนด์ไร้สายความเร็วสูงที่ถูกพัฒนาขึ้นมาบนมาตรฐาน IEEE 802.16 ซึ่งก็ได้พัฒนามาตรฐาน IEEE 802.16e ขึ้นโดยได้การอนุมัติออกมาเมื่อเดือนมกราคม 2004 โดยสถาบันวิศวกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ (IEEE: Institute of Electrical and Electronics Engineers) ซึ่งมีรัศมีทำการที่ 30 ไมล์ (ประมาณ 50 กิโลเมตร) หมายความว่า ไวแมกซ์ สามารถให้บริการครอบคลุมพื้นที่กว้างกว่าระบบไครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ 3G มากถึง 10 เท่า ยิ่งกว่านั้นยังมีอัตราความเร็วในการส่งผ่านข้อมูลสูงสุดถึง 75 เมกะบิตต่อวินาที (Mbps) ซึ่งเร็วกว่า 3G ถึง 30 เท่า  มาตรฐาน IEEE 802.16e หรือ ไวแมกซ์ มีความสามารถในการส่งกระจายสัญญาณในลักษณะจากจุดเดียวไปยังหลายจุด (Point-to-multipoint) ได้พร้อมๆ กัน โดยมีความสามารถรองรับการทำงานในแบบ Non-Line-of-Sight ได้ สามารถทำงานได้แม้กระทั่งมีสิ่งกีดขวาง (ต้นไม้ อาคาร) ได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้ ไวแมกซ์ สามารถช่วยให้ผู้ที่ใช้งานสามารถขยายเครือข่ายเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้กว้างขวางด้วยรัศมีทำการถึง 31 ไมล์ (ประมาณ 48 กิโลเมตร) และมีอัตราความเร็วในการรับส่งข้อมูลสูงสุดถึง 75 Mbps มาตรฐาน IEEE 802.16e นี้ใช้งานอยู่บนคลื่นไมโครเวฟที่ความถี่ระหว่าง 2-11 กิกะเฮรตซ์ (GHz) และยังสามารถใช้งานร่วมกับอุปกรณ์มาตรฐานชนิดอื่นๆ ที่ออกมาก่อนหน้านี้ได้เป็นอย่างดี
http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%84%E0%B8%A7%E0%B9%81%E0%B8%A1%E0%B8%81%E0%B8%8B%E0%B9%8C  

 

 

 

มหาวิทยาลัยศรีปทุม ผู้ใหญ่ใจดี
 

 ช่วยด้วยครับ
นักเรียนที่สร้างบล็อก กรุณาอย่า
คัดลอกข้อมูลจากเว็บอื่นทั้งหมด
ควรนำมาจากหลายๆ เว็บ แล้ววิเคราะห์ สังเคราะห์ และเขียนขึ้นใหม่
หากคัดลอกทั้งหมด จะถูกดำเนินคดี
ตามกฎหมายจากเจ้าของลิขสิทธิ์
มีโทษทั้งจำคุกและปรับในอัตราสูง

ช่วยกันนะครับ 
ไทยกู๊ดวิวจะได้อยู่นานๆ 
ไม่ถูกปิดเสียก่อน

ขอขอบคุณในความร่วมมือครับ

อ่านรายละเอียด

ด่วน...... ขณะนี้
พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 
มีผลบังคับใช้แล้ว 
ขอให้นักเรียนและคุณครูที่ใช้งาน
เว็บ thaigoodview ในการส่งการบ้าน
ระมัดระวังการละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย
อ่านรายละเอียดที่นี่ครับ

 

สมาชิกที่ออนไลน์

ขณะนี้มี สมาชิก 0 คน และ ผู้เยี่ยมชม 347 คน กำลังออนไลน์