ภูมิปัญญาเกี่ยวกับความเชื่อทางศาสนา

 ภูมิปัญญาไทย ตรงกับศัพท์ภาษาอังกฤษว่า Wisdom หมายถึง ความรู้ความสามารถ วิธีการผลงานที่คนไทยได้ค้นคว้า รวบรวม และจัดเป็นความรู้ ถ่ายทอด ปรับปรุง จากคนรุ่นหนึ่งมาสู่คนอีกรุ่นหนึ่ง จนเกิดผลิตผลที่ดี งดงาม มีคุณค่า มีประโยชน์ สามารถนำมาแก้ปัญหาและพัฒนาวิถีชีวิตได้แต่ละหมู่บ้าน แต่ละชุมชนไทย ล้วนมีการทำมาหากินที่สอดคล้องกับภูมิประเทศ มีผู้นำที่มีความรู้ มีฝีมือทางช่าง สามารถคิดประดิษฐ์ ตัดสินใจแก้ปัญหาของชาวบ้านได้ ผู้นำเหล่านี้ เรียกว่า ปราชญ์ชาวบ้าน หรือผู้ทรงภูมิปัญญาไทย

ความเชื่อของคนไทย 

 ความเชื่อเป็นสิ่งที่ติดตัวมากับมนุษย์ทุกคน ความเชื่อเกิดจากความรู้สึกความเข้าใจของบุคคลนั้นๆ ซึ่งอาจจะเชื่อถูกต้องตามหลักเหตุผลหรือผิดจากหลักเหตุผลก็ได้ ความเชื่อของคนไทยโบราณมีมากมายหลายอย่าง ความเชื่อนี่เองที่เป็นต้นเหตุของการเกิดประเพณีและหลักปฏิบัติต่างมากมาย ของสังคมไทยในปัจจุบัน

ความเชื่อที่ยกมาดังต่อไปนี้เป็นความเชื่อของคนไทยโบราณ ที่เกี่ยวกับเรื่องโชค สิ่งชั่วร้าย ลักษณะของบุคคล การทำนายเหตุการณ์ต่างที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งพอที่จะอธิบายให้เข้าใจได้โดยการยึดปากฎการณ์หรือวัตถุสิ่งแวดล้อมที่มี ลักษณะต่างๆ เป็นตัวชี้บอกเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นที่จะเป็นไปตามมติความเชื่อนั้นๆ ดังนี้

1. ผึ้งทำรังในบ้าน มีโชค

ความเชื่อเรื่องผึ้งทำรังในบ้านนั้นคนโบราณถือว่าจะมีโชคลาภ

โดยธรรมชาติแล้ว ผึ้งมักนิยมทำรังตามต้นไม้ใหญ่ที่ขึ้นหนาแน่น และอยู่ในที่ สงบไม่พลุกพล่าน แต่เมื่อใดที่ผึ้งมาทำรังในบ้านจะเป็นชายคาบ้าน ใต้หลังคาบ้าน บางบ้าน มีผึ้งมาทำรังถึงห้องน้ำก็มี ท่านว่าไว้ว่าอย่าไปไล่หรือทำลายเด็ดขาด จะทำให้เกิดความหายนะขึ้นกับครอบ ครัวเรือนนั้น เพราะผึ้งเป็นสัตว์นำโชค ให้ปล่อยผึ้งทำรังต่อไป

เชื่อกันว่า ยิ่งรังใหญ่มาก เท่าใด ก็จะมีโชคลาภมากขึ้นเท่านั้น และควรจุดธูปเทียนบูชา รวมทั้งดอกไม้ เพื่อความเป็น สิริมงคลด้วย ซึ่งความเชื่อนี้เป็นความเชื่อคนไทยโบราณที่เชื่อสืบๆ กันมาจนถึงปัจจุบัน

2. ห้ามใส่ชุดดำเยี่ยมคนป่วย

ความเชื่อเรื่องการสวมใส่ชุดสีดำไปเยี่ยมคนป่วยเป็นอีกความเชื่อหนึ่งที่ฝังใจคนไทยมาตลอด

ชุดสีดำเป็นสีที่คนโบราณถือนักถือหนาว่าเป็นสีแห่งความทุกข์โศก ใช้ใส่เฉพาะงานศพเท่านั้น หรือหากจะใช้แต่งกายสีดำ ก็ไม่ควรเป็นสีดำทั้งชุด ควรเป็นครึ่งท่องใส่ผสมกับสีอื่นๆ

ชุดสีดำจึงไม่นิยมใส่เข้าไปในงานมงคลต่างๆ เช่นงานวันเกิด งาน แต่งงาน หรือแม้กระทั่งไป เยี่ยมผู้ป่วยก็เหมือนกัน เท่ากับว่า เป็นการแช่งหรือ เดาเหตุการณ์ล่วงหน้าให้ผู้ป่วยนั้นตายเร็วขึ้น ทำให้จิตใจผู้ป่วยหดหู่และหมด กำลังใจ เกิดอาการทรุดลงได้ง่ายจึงไม่ให้ใช้สีดำ ควรเป็นสีที่สดใสและแสดงใบหน้าที่สดชื่นอีกด้วย

3. ตัวเงินตัวทองคลานเข้าบ้าน

บ้านใดที่มีต้นไม้มากๆนั้น จะมีที่ที่ตัวเงินตัวทองมักจะปรากฎให้เห็น ตามที่ดังกล่าว มักจะไม่คลานในที่โล่งแจ้ง และก็หาแหล่งที่มาไม่พบอีกด้วยว่ามาจากที่ใด เพราะในหมู่บ้านกลางเมืองก็ยังมีปรากฎให้เห็นบ้าง

ลักษณะตัวเงินตัวทอง บางคนว่าคล้ายจระเข้ แต่มีหางยาวมาก มีขนาดตั้งแต่ตัวเล็กๆ เท่าจิ้งเหลนจนไปถึงตัวโดมากๆเท่ากับลูกจระเข้เลยทีเดียว

ปกติตัวเงินตัวทองนี้จะไม่ทำร้ายใคร แต่คนไทยโบราณท่านว่าเป็นตัว อัปมงคลอยู่ดี จึงมีชื่อเรียกเสียเพราะแก้เคล็ด หากบ้านใดมีเข้ามาให้เห็น ท่านว่า ให้พูดแต่สิ่งดีๆ ไม่ให้ไล่ บางท่านก็ให้หาดอกไม้ธูปเทียนจุดบอกเล่า ให้กลายเป็นการนำเอาสิ่งดีๆ เข้ามาในบ้าน ข้อนี้ก็ถือเป็นความเชื่ออีกอย่างหนึ่งของคนไทยโบราณ

4. ห้ามปลูกต้นไม้ที่วัดปลูก

เชื่อกันว่า ต้นไม้ที่ขึ้นตามวัดหรือนำไปปลูกที่วัด เป็นของสูงและสมควรอยู่ในวัดเท่านั้น ไม่ควรนำมาปลูกที่บ้าน จะทำให้บ้านนั้นตกอับ ไม่เจริญ เท่ากับเอาของสูงมาวางไม่ถูกที่

หากเกิดขึ้นเองโดยที่ไม่ได้นำมาปลูก ก็ให้ถอนออกเสีย หากจะให้ดี ก็ให้นำไปไว้ที่วัดเสีย ต้นไม้ดังกล่าวอันได้แก่ ต้นโพธิ์ ต้นหวาย ต้นโมกข์ ต้นไทร ต้นนนทรีย์ ต้นตะเคียน เป็นต้น

แต่ทั้งนี้จะรวมถึงต้นไม้ที่ไม่เป็นสิริมงคลด้วย เช่น ต้นโศก ต้นระกำ ต้นยางที่มักนำมาทำโรงศพ ต้นสำโรงที่ดอกมีกลิ่นเหม็น ซึ่งเหล่านี้ดูไม่เป็นสิริมงคล จึงไม่นิยม นำมาปลูกในบริเวณบ้านกัน

5. มีกลิ่นธูป หมายถึงวิญญาณ

ในยามวิกาลเสียงเงียบสงัด เมื่อใดได้กลิ่นธูปลอยมา โดยที่ไม่มีใครจุดธูปในบริเวณนั้นๆ เลย คนโบราณเชื่อกันว่า เป็นวิญญาณของญาติสนิทภายในครอบครัวมาหาจะเป็นเพราะคิดถึง ห่วงใยกันหรือด้วยเหตุใดก็ตาม

ท่านให้คนที่ได้กลิ่นธูปนั้น จุดธูป 1 ดอก บอกเล่าให้ไปที่สงบๆ อย่ากังวลสิ่งใดที่จะทำให้วิญญาณไม่สงบสุขเลยบางคนอาจ ขอพรจากวิญญาณญาติสนิทนั้นให้ปกปักรักษา และให้โชคลาภด้วย

แต่หากไม่มีญาติสนิทในระยะนั้นเสียชีวิต ก็เชื่อกันว่า อาจจะเป็นวิญญาณพเนจรทั่วไป ก็ให้จุดธูปเช่นเดียวกันบอกเล่าว่า อย่ามารบกวนให้กลัว ให้ไปที่ชอบที่สงบ และนิยมใส่บาตรแผ่ส่วนกุศลให้ในวันรุ่งขึ้นด้วย

6. คนหัวล้านมักเจ้าชู้และเจ้าเล่ห์

ความเชื่อหรือคำกล่าวนี้ได้ต้นแบบมาจากขุนช้างในวรรณคดีนั่นเอง

ขุนช้างเป็นคน เจ้าชู้ ชอบหญิงสาวที่มีรูปงาม จุดเด่นของเรื่องในวรรณคดี มีการแย่งหญิงสาวอันเป็นคนรักของขุนแผน โดนขุนช้างใช้เล่ห์ทุกวิถีทาง เพื่อหลอกให้คนรักของขุนแผนมาอยู่กับตน จึงถูกมองว่า ผู้ที่มีลักษณะเช่นเดียวกับขุนช้างคือ หัวล้าน มีรูปร่างอ้วน ท้วม ขาวนั้น จะต้องมีนิสัยเช่นเดียวกับขุนช้างเสมอไปแต่ขุนช้างก็เป็นคนร่ำรวยมาก ดังนั้นก็เป็นเรื่องที่แปลกว่า คนหัวล้านก็มักจะรวยเสียทุกคนเหมือนขุนช้างอีกด้วยซิ

7. ห้ามตัดผมวันพุธ

การห้ามตัดผมวันพุธ เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ห้ามกันนักห้ามกันหนาเชื่อกันว่า ตัดผมวันพุทธจะทำให้เกิดอัปมงคลกับชีวิตทีเดียว จะเห็นได้ว่า ร้านตัดผมมักจะปิดร้านในวันพุธกัน

บ้างก็อ้างว่า ตัดผมในวันพุธหัวกุดท้ายเน่า ซึ่งจะไม่ดีแก่ผู้ที่ตัดผมในวันนี้ การตัดผมนั้นมีทั้งวันที่เป็นอัปมงคลและวันมงคลดังนี้

ตัดผม วันอาทิตย์ จะมีอายุยืน
ตัดผม วันจันทร์ จะมีแต่โชคลาภ
ตัดผม วันอังคาร ศัตรูจะทำร้ายใส่โทษ
ตัดผม วันพุธ ไม่ดี จะเกิดเป็นปากเป็นเสียงกับผู้อื่นได้ง่าย
ตัดผม วันพฤหัสบดี ดียิ่งนัก เทวดารักษา เป็นสิริสวัสดิ์กับตัวท่าน
ตัดผม วันศุกร์ ดีนัก มักจะมีโชคลาภ
ตัดผม วันเสาร์ ดียิ่งนัก คิดการทำสิ่งใดจะได้ดั่งสมประสงค์

8. ดูดวงจากต้นว่าน

คนที่ทำอาชีพค้าขาย หรือนักธุรกิจติดต่อกับผู้คน เพื่อการค้าต่างๆ คนโบราณ โดยเฉพาะในสมัยก่อน นิยมปลูกต้นว่านต่างๆชนิดแล้วแต่ และดูดวงชะตาตัวเองจากการ เจริญเติบโตของต้นว่านนั้นๆว่า เติบโตงอกงามขึ้นหรือไม่ ชีวิตกำลังรุ่งเรืองและยิ่งต้น ว่านนั้นออกดอกออกผล ก็จะยิ่งทำให้ดวงชะตาพุ่งสูงมาก ท่านรีบจุดธูปขอพรให้ดวง ชะตาคงอยู่เช่นนั้น

แต่หากต้นว่านที่ปลูก อยู่ๆเกิดหักงอ หรือเหี่ยวแห้งลงทุกวันๆ หรือ ปลูกมานานแล้วก็ไม่เกิดดอกออกผลเสียที ท่านให้เชื่อว่า ดวงกำลังตก การค้าขายก็กำลังแย่ ให้รีบทำบุญทำทาน หรือหาทางแก้ไขปรับปรุงการค้า หรือธุรกิจนั้นเสีย พร้อมกับบำรุงดูแลต้นว่านนั้นด้วย

9. มือชนกันขณะกินข้าว จะมีแขกมาเยือน

ในสมัยโบราณ คนไทยไม่มีการติดต่อสื่อสารที่สะดวกเหมือนปัจจุบัน โทรศัพท์ก็ยังไม่มีใคร รู้จักนัก เพราะฉะนั้นเวลาจะนัดหมายกับใครรู้จักนัก เพราะฉะนั้นเวลาจะนัดหมายกับใครสักคนก็เป็นไปได้ยาก จะต้องพบกันแล้วนัดหมายในครั้งต่อไปกันเลย

แต่คนโบราณใช้วิธีการสังเกตความเป็นไปได้ว่า ในขณะที่นั่งล้อมวงรับประทานอาหารกันนั้น หากมี 2 คนในวงเอื้อมมือไปหยิบอาหารพร้อมกัน และชนกันที่กลางสำรับอาหาร เชื่อว่าจะต้องมีแขกมาเยือนกันถึงเรือนชานอย่างแน่นอน ไม่วันนี้ก็เป็นพรุ่งนี้ ก็จะมีการเตรียมข้าวปลาอาหารรอต้อนรับ และก็เป็นเช่นนี้ทุกครั้งไป

10. ตาเขม่น

เรื่องตาเขม่น คนไทยโบราณมีความเชื่อว่าจะมีเหตุการณ์อย่างใดอย่างหนึ่งเกิด ขึ้น ตามความเป็นจริงแล้วเขม่นได้หลายส่วนของ ร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นริมฝีปาก แขน ขา หรือแม้กระทั่งตา ดังนั้นการเขม่นตาจะแบ่งออก เป็น 3 ช่วงคือ

(1) หากเขม่นตาในช่วงเช้า - บ่าย
คนโบราณกล่าวไว้ว่า หากเป็นข้างขวาจะมีโชค ลาภ ได้รับข่าวดี เรียกว่าจะสมหวังในเรื่องใดเรื่องหนึ่งที่คอย และหากเขม่นที่ตาซ้าย ท่านว่าจะมีเคราะห์ โชคร้ายผิดหวังเรื่องใดเรื่องหนึ่งอย่างแน่นอน เช่น มีการทะเลาะกัน เกิดขึ้น หรือจะต้องสูญเสียของรักบางอย่างไป

(2) หากเขม่นตาในช่วงเย็น - กลางคืน
ถ้าเขม่นตาไม่ว่าจะเป็นข้างซ้ายหรือข้างขวา ในช่วงเวลาเย็นถือว่ามีโชคมีลาภ จะได้พบญาติสนิทมิตรรักเดินทางมาหา แต่ถ้าเป็นในช่วงกลางคืน การเขม่นตาขวาจะได้ดี จะมีเคราะห์มีเหตุร้ายเกิด ขึ้น ตรงกันข้าม

(3) ถ้าหากเขม่นตาซ้ายจะมีโชคลาภจากเพื่อน จะสมหวังสิ่งที่รอคอย เรียกว่า
ขวาร้าย-ซ้ายดี

การเขม่นตานี้ เชื่อกันว่า เป็นลางบอกเหตุที่แม่นยำมาก ท่านให้ถือเวลาที่จะเกิดเหตุไม่ดีและร้ายภายใน 3 วันอย่างแน่นอน

11. คนหลายเสียงคบไม่ได้

คนทั่วไปตามปกติแล้ว หากไม่มีเสียงธรรมดาแล้ว ก็อาจจะมีเสียงแหลมเล็ก หรือทุ้มใหญ่ไปเลย

คนโบราณกล่าวไว้ว่า หากคนใดมีหลายเสียงในขณะที่พูดคุยตามปกตินั้น เป็นคนคบยาก เพราะเท่ากับว่า หาความแน่นอนอะไรไม่ได้ แม้แต่เสียงของตัวเองยังบังคับให้อยู่ในระดับเดียวกันไม่ได้เลย ขณะพูดคุย เดี๋ยวทำเสียงสูง เสียงต่ำ เสียงใหญ่ เสียงเล็กไปเรื่อย

แต่คนในลักษณะนี้หายาก และในเมื่อหายาก ก็ดูจะยิ่งเพิ่มความขลังให้ ความเชื่อนี้แม่นยิ่งขึ้นไปอีก ถ้าเจอก็ให้ห่างๆ ไว้เป็นดี ความเชื่อนี้ก็เป็นอีกความเชื่อของคนไทยโบราณจนถึงปัจจุบัน

 

มหาวิทยาลัยศรีปทุม ผู้ใหญ่ใจดี
 

 ช่วยด้วยครับ
นักเรียนที่สร้างบล็อก กรุณาอย่า
คัดลอกข้อมูลจากเว็บอื่นทั้งหมด
ควรนำมาจากหลายๆ เว็บ แล้ววิเคราะห์ สังเคราะห์ และเขียนขึ้นใหม่
หากคัดลอกทั้งหมด จะถูกดำเนินคดี
ตามกฎหมายจากเจ้าของลิขสิทธิ์
มีโทษทั้งจำคุกและปรับในอัตราสูง

ช่วยกันนะครับ 
ไทยกู๊ดวิวจะได้อยู่นานๆ 
ไม่ถูกปิดเสียก่อน

ขอขอบคุณในความร่วมมือครับ

อ่านรายละเอียด

ด่วน...... ขณะนี้
พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 
มีผลบังคับใช้แล้ว 
ขอให้นักเรียนและคุณครูที่ใช้งาน
เว็บ thaigoodview ในการส่งการบ้าน
ระมัดระวังการละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย
อ่านรายละเอียดที่นี่ครับ

 

สมาชิกที่ออนไลน์

ขณะนี้มี สมาชิก 0 คน และ ผู้เยี่ยมชม 282 คน กำลังออนไลน์