บริเวณประเทศไทยมีประวัติการเกิดแผ่นดินไหว
บริเวณ ประเทศไทยมีประวัติการเกิดแผ่นดินไหวมาแต่ในอดีต
พงศาวดารโยนกกล่าวว่า อาณาจักรโยนกซึ่งเป็นอาณาจักรที่มีความเจริญรุ่งเรืองมาตั้งแต่สมัยพุทธกาล
ได้เกิดแผ่นดินไหวหลายครั้ง ครั้งที่รุนแรงที่สุดทำให้อาณาจักรถึงกับล่มสลาย อาณาจักรโยนกนี้ตั้งอยู่บริเวณละติจูด
๒๐.๒๕ องศาเหนือ และลองจิจูด ๑๐๐.๐๘ องศาตะวันออก อยู่ในเขตอำเภอเชียงแสน
จังหวัดเชียงราย ในปัจจุบัน โดยพงศาวดารโยนกได้บันทึกการเกิดแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงที่สุด
ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันเสาร์ เดือน ๗ แรม ๗ ค่ำ พ.ศ. ๑๐๐๓ เวลากลางคืน ว่า
“...สุริยอาทิตย์ก็ตกไปแล้ว ก็ได้ยินเสียง เหมือนตั้งแผ่นดินดังสนั่นหวั่นไหวประดุจว่าเวียงโยนกนครหลวงที่นี้จัก
เกลื่อนจักพังไปนั้นแล แล้วก็หายไปครั้งหนึ่ง ครั้นถึงมัชฌิมยามก็ดังซ้ำเข้ามาเป็นคำรบสอง
แล้วก็หายนั้นแล ถึงปัจฉิมยามก็ซ้ำดังมาอีกเป็นคำรบสาม หนที่สามนี้ดังยิ่งกว่าทุกครั้งทุกคราวที่ได้ยินมาแล้ว
กาลนั้นเวียงโยนกนครหลวงที่นั้นก็ยุบจมลง เกิดเป็นหนองอันใหญ่ ยามนั้นคนทั้งหลายอันมีในเวียงที่นั้น
มีพระมหากษัตริย์เป็นประธาน ก็วินาศฉิบหายตกไปในน้ำที่นั้นสิ้น...”
ปัจจุบันบริเวณที่ตั้งอาณาจักรโยนกได้กลายเป็นหนองน้ำในอำเภอเชียงแสน
ในศิลาจารึกของอาณาจักรสุโขทัยได้บันทึกเหตุการณ์แผ่นดินไหวไว้ ๒ ครั้ง
พงศาวดารของกรุงศรีอยุธยาได้มีการบันทึกเหตุการณ์แผ่นดินไหวไว้ ๗ ครั้ง
และพงศาวดารของเชียงใหม่ได้บันทึกเหตุการณ์แผ่นดินไหวไว้ ๔ ครั้ง แผ่นดินไหวครั้งสำคัญที่เชียงใหม่ใน
พ.ศ. ๒๐๘๘ ได้ทำให้ส่วนยอดของเจดีย์ที่วัดเจดีย์หลวงหักโค่นลงมา ซึ่งเจดีย์องค์นั้นแต่เดิมสูงถึง
๘๖ เมตร หลังจากส่วนยอดได้หักโค่นลงมา จึงเหลือความสูงเพียง ๕๐ เมตร