tense น่ารู้
tense คืออะไร?
คนที่ยังไม่ค่อยเข้าใจในภาษาอังกฤษดีนัก อาจยังไม่สามารถตอบคำถามนี้ได้ แต่ตรงกันข้ามกับผู้ที่เข้าใจในภาษาอังกฤษอย่างถ่องเเท้ จะบอกได้อย่างชัดเจอนเลย tense เป็นหัวใจสำคัญของไวยากรณ์ทางภาษา ใครก็ตามที่ได้เจอกับ tense แบบจังๆมักพูดเป็นเสียงเดียวกันเลยว่า tense เป็นเรื่องที่ยากเย็นเเสนเข็ญ ทุกครั้งที่เราจะต้องใช้ประโยคภาษาอังกฤษในการสื่อสารมักจะต้องมีโครงสร้างของ tense เข้ามาเกี่ยวข้องอยู่เสมอ
เป็นไปได้ไหมที่จะทำให้ tense ที่เคยเป็นของที่ยากหนักหนา กลับกลายเป็นเรื่องง่ายๆขึ้นมา คำตอบก็คือ...เราสามารถทำได้ หากเราใช้ "วิธี และมุมมอง"ที่แตกต่างไปจากเดิม วิธีการที่ว่าคือ เราใช้วิธีเเยกเรียนทีละ tense โดยไม่เปรียบเทียบให้เห็นความสัมพันธือันเกี่ยวเนื่องอิงอาศัย ส่วนมุมมองนั้นก็คือ เราไปมองว่า tense กับ เวลาเป็นเรื่องเดียวกันโดยไม่ให้ความสนใจกับคุณสมบัติอย่างอื่นที่มีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าความคิดเรื่องเวลา
เมื่อเอ่ยถึงคำว่า tense แล้วหลับตาลงใครๆก็คงนึกถึงรูปของคำกริยาท่เปลี่ยนแปลงไปตามเวลาที่การกระทำหรือเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้น เหตุหารณืใดที่เกิดขึ้นในปัจจุบันก็ใช้คำกริยาในรูปของ Present หากเกิดในอดีตก็ใช้กริยารูป Past และหากเกิดขึ้นในอนาคตก็ใช้กริยารูป Future ไปตามบทบาทหน้าที่ แต่ความจริงในโลกของภาษาไม่เป็นเช่นนั้นเสมอไป เพราะ tense ยังมีอีกหลายหน้าตาและอีกหลายบทบาท การเป็น ปัจจุบัน อดีต และอนาคต
เป็นเพียงบทบาทส่วนหนึ่งของ tense เท่านั้นเอง
จริงๆแล้ว ชื่อเเละหน้าตาของ tense ไม่ใช่ปัญหาใหญ่โตอะไรมากมายหากแต่เป็นบทบาทในด้านการสื่อความหมายของมันที่เราจำเป็นต้องรู้และเลือกใช้ให้เป็นต่างหาก ขอเน้นหนักๆตรงนี้ว่า แม้ tense จะมีนัยยะเกี่ยวโยงกับเวลา เเต่ เวลา ก้ไม่ใช่เงื่อนไขทั้งหมดที่เราใช้เป็นเกณฑืการตัดสิน แม้โดยทั่วไปเวลา จะเป็นส่วนสำคัญในการพิตารณา เเต่ก็ยังมีเกณฑ์อย่างอื่นอีกที่เข้ามามีบทบาทต่อการเลือกใช้ tense ผู้พูดจะเลือกใช้ tense ตามความรู้สึกนึกคิดและความเข้าใจ
ทีเขามีต่อเหตุการณ์นั้นๆ เป็นสำคัญ...ภายใต้เงื่อนไขเเห่งธรรมชาติหรือสันดานของ tense ที่จะนำมาใช้เป็นเครื่องมือ