คุณค่าและสาระของวันสงกรานต์
แนวทางปฏิบัติในวันสงกรานต์
เพื่อดำรงไว้ซึ่งความหมาย สาระและคุณค่าของวันสงกรานต์ดังกล่าวแล้ว ประกอบกับการเปลี่ยนแปลงของยุคสมัย เราจึงควรเลือกประพฤติปฏิบัติกิจกรรมที่เป็นแก่นแท้หรือที่เป็นเนื้อหาสาระของประเพณีสงกรานต์อย่างแท้จริง กิจกรรมใดที่หลงเหลือแต่เพียงรูปแบบแต่ขาดซึ่งความหมายที่แท้จริง เช่น การก่อพระเจดีย์ทราย ซึ่งปัจจุบันมิได้ทำเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้พระภิกษุสงฆ์ได้นำทรายไปใช้ในการก่อสร้างของวัด หรือการปล่อยนกปล่อยปลา ซึ่งปัจจุบันกลายเป็นธุรกิจเพื่อการซื้อ-ขาย ก็อาจจะมีความจำเป็นต้องยกเลิกหรือปรับเปลี่ยนรูปแบบให้เหมาะสมกับยุคสมัยหากจำเป็นกิจกรรมที่สมควรประพฤติปฏิบัติในวันสงกรานต์ เพื่อสืบทอดความดีงามของคุณค่าของประเพณีนี้ไว้ มีดังนี้
1.การทำบุญตักบาตร หรือนำอาหารไปถวายพระที่วัด ขาดไม่ได้สำหรับพุทธศาสนิกชน เริ่มจากการเตรียมอาหารและสิ่งของถวายพระอย่างดี แต่งตัวด้วยเสื้อผ้าชุดใหม่ บางหมู่บ้านตามต่างจังหวัดจะมีเลี้ยงพระฉันเช้าที่ศาลาการเปรียญพอพระฉันเสร็จ ยถาสัพพีอนุโมทนาแล้ว ชาวบ้านก็กลับบ้านไปสรงนำพระพุทธรูปทีบ้าน เพื่อสืบทอดและทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา และเพื่อกล่อมเกลาจิตใจให้รู้จักการให้ การเสียสละ โดยมิมุ่งหวังสิ่งใดตอบแทน
2.การทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แก่บรรพบุรุษ เพื่อแสดงความกตัญญูต่อผู้มีพระคุณที่ล่วงลับไปแล้ว
3. การสรงน้ำพระ ทั้งพระภิกษุสงฆ์ และพระพุทธรูปเพื่อความเป็นสิริมงคล และแสดงความเคารพต่อปูชนียบุคคลที่ดำรงสืบทอดพระพุทธศาสนา นอกจากจะได้ผลบุญแล้ว ยังถือว่าเป็นการทำความสะอาดหิ้งพระและโกศของบรรพบุรุษไปในคราวเดียวกัน
4.การรดน้ำขอพร หรือ รดน้ำดำหัว สมัยก่อนลูกหลานต้องนำดอกไม้ธูปเทียนและผ้าใหม่สำหรับผลัด รวมทั้งหมากพลูใส่พานไปด้วย เพราะหมากพลูเป็นแสดงความเคารพนับถือและเป็นเครื่องแสดงไมตรีจิตด้วยและยังมีนำส้มป่อยและน้ำอบ
นำส้มป่อยเป็นของใช้แทนสบู่ในสมัยก่อน สำหรับสระผมและชำระร่างกาย ผู้ใหญ่เมื่อรับเครื่องดำหัวแล้ว ต่อจากนั้นก็ให้ศีลให้พรกันตามประเพณี และบางคนยังนำเสื้อผ้าของเขาสำรับหนึ่ง ต่างคนเอาบรรจุลงขันของตน พร้อมด้วยเครื่องบริขารมีกล้วย มีอ้อย มีใบขนุน มีใบแก้ว เป็นต้น
นำไปตั้งที่ลานวัดภายในมณฑล วงด้ายสายสินจน์ แล้วพระสงฆ์ จะประพรมเสื้อผ้าเหล่านั้นด้วยนำมนต์ เพื่อความบริสุทธิ์ของเสื้อผ้าเพื่อใช้ในปีใหม่ เสร็จแล้วนำกลับมาเก็บไว้
เป็นการแสดงความความเคารพและแสดงความกตัญญูกตเวทีต่อผู้มีพระคุณ โดยเฉพาะผู้อาวุโสน้อยพึงปฏิบัติต่อผู้อาวุโสมาก เช่น ลูกกับพ่อ-แม่-ปู่-ย่า-ตา-ยาย พุทธศาสนิกชนต่อพระภิกษุสงฆ์ เป็นต้น เป็นการแสดงความสุภาพอ่อนน้อม อ่อนโยน และขอรับพร ซึ่งผู้อาวุโสกว่าเหล่านั้นจะได้อวยชัยให้พรให้อยู่เย็นเป็นสุข และได้ข้อคิดเตือนใจเพื่อเริ่มต้นปีใหม่อย่างไม่ประมาท
5. การเล่นรดน้ำ เพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างญาติพี่น้องและมิตรสหาย ด้วยการรดน้ำเพียงเล็กน้อยลงที่ไหล่หรือที่มือ พร้อมกับคำอวยพรให้มีความสุข
6. การเล่นรื่นเริงต่าง ๆ เพื่อเชื่อมความสามัคคีและเพื่อความสนุกสนาน รวมทั้งการสืบสานมรดกทางวัฒนธรรมให้คงอยู่ต่อไป
ในแต่ละท้องถิ่นย่อมมีค่านิยมและธรรมเนียมปฏิบัติเกี่ยวกับประเพณีสงกรานต์ที่แตกต่างกันออกไป ก็สมควรให้ปฏิบัติไปตามนั้น เพื่อเป็นการเคารพภูมิปัญญาของบรรพบุรุษที่ได้กลั่นกรองเลือกสรรแล้วว่าเหมาะสมกับท้องถิ่นของตนเอง ดังนั้น การจะเปลี่ยนแปลงใด ๆ จึงขึ้นกับวิจารณญาณของเจ้าของวัฒนธรรมนั้น ๆ โดยตรง ที่จะเลือกรับหรือไม่รับสิ่งที่แตกต่างไปจากเดิม รวมทั้งสิ่งใหม่ ๆ ที่แทรกเข้ามาอย่างไม่หยุดยั้ง