โรคเอดส์ ความรู้เรื่องโรคเอดส์ เอดส์หรือโรคเอดส์เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสไปทำลายระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำให้ร่างกายเสี่ยงต่อการติดเชื้อฉวยโอกาส องค์การอนามัยโลกได้นิยามการวินิจฉัยโรคเอดส์ใหม ่เพื่อประโยชน์ในการวินิจฉัยและการรักษา การวินิจฉัยผู้ที่ติดโรคเอดส์ในผู้ที่อายุมากกว่า 18 ปีซึ่งต้องมีเกณฑ์ดังนี้ · ตรวจเลือดพบภูมิ antibody ต่อเชื้อโรคเอดส์สองครั้งด้วยวิธีที่ต่างกันและหรือ · การตรวจพบเชื้อโรคเอดส์ในเลือด (HIV-RNA or HIV-DNA) และต้องมีการตรวจยืนยันอีกครั้งสำหรับเด็กอายุน้อยกว่า18ปี การวินิจฉัยโรคเอดส์มีเกณฑ์ดังนี้ · การตรวจพบเชื้อโรคเอดส์ในเลือด (HIV-RNA or HIV-DNA) และต้องมีการตรวจยืนยันอีกครั้ง จะไม่ใช้การตรวจภูมิมายืนยันการวินิจฉัยโรคการวินิจฉัย Primary infection องค์กรควบคุมโรคติดต่อของประเทศอเมริกา(CDC)ได้ให้คำนยามไว้ดังนี้ · เป็นการติดเชื้อโรคเอดส์ในทารก เด็กหรือผู้ใหญ่ ซึ่งอาจจะไม่มีอาการหรือมีอาการกลุ่ม acute
retroviral syndrome เช่น ไข้หลังจากได้รับเชื้อ 2-4 สัปดาห์ ต่อมน้ำเหลืองโต เจ็บคอ มีแผลที่ปากหรืออวัยวะเพศ หรืออาจจะมีเยื่อหุ้มสมองหรือสมองอักเสบ และอาจจะมีการติดเชื้อฉวยโอกาศ ที่สำคัญคือการที่ว่าพบว่าพึ่งจะมีภูมิ antibody ต่อโรคเอดส์หรือตรวจพบตัวเชื้อโรคเอดส์(HIV-RNA or HIV-DNA) โดยที่ตรวจไม่พบภูมิการวินิจฉัยผู้ป่วยโรคเอดส์ชนิด advance (advanced HIV infection) · ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคเอดส์ระยะที่3หรือ4และหรือ· CD4<350 cell/mmmในผู้ใหญ่ และหรือ o %CD4+ <30 ในเด็กอายุน้อยกว่า 12 เดือนo %CD4+ <25 ในเด็กอายุ 12–35 เดือนo %CD4+ <20 ในเด็กอายุ 36–59 เดือนการประเมินความรุนแรงของโรคเอดส์ก่อนการรักษา การประเมินความรุนแรงหรือระยะของโรคจะมีประโยชน์ในการประเมินก่อนการรักษาและประเมินเพื่อติดตามผลการรักษา และเป็นเกณฑ์ในการตัดสินใจให้ยาต้านไวรัสหรือการให้ยาเพื่อป้องกันการติดเชื้อฉวยโอกาส การประเมินความรุนแรงของโรคแบ่งเป็น การประเมินความรุนแรงจากอาการของโรค
ตารางประเมินความรุนแรงจากอาการของโรค |
อากาของผู้ป่วยโรคเอดส์ |
เกณฑ์ความรุนแรงตามองค์การอนามัยโรค WHO |
ไม่มีอาการ |
1 |
มีอาการน้อย |
2 |
มีอาการโรคเอดส์Advanced symptoms |
3 |
มีอาการรุนแรง Severe symptoms |
4 |
การประเมินความรุนแรงจากภูมิของร่างกาย ผู้ป่วยที่ติดเชื้อโรคเอดส์จะมีการตอบสนองของเซลล์ CD4 เมื่อโรคเป็นมากเซลล์จะลดลง หากการรักษาได้ผลเซลล์CD 4ก็จะเพิ่มขึ้น แต่จำนวนเซลล์ก็ขึ้นกับอายุดังนั้น
ตารางแสดงความรุนแรงและระดับ CD4 |
|
HIV-associated
immunodeficiency |
จำนวน CD4 ในแต่ละอายุ |
|
<11 เดือน
(%CD4+) |
12–35 เดือน
(%CD4+) |
36 –59 เดือน
(%CD4+) |
>5 ปี (จำนวน cd4/mm3 sinv
%CD4+) |
|
None or not significant |
>35 |
>30 |
>25 |
500 |
|
Mild |
30–35 |
25–30 |
20–25 |
350−499 |
|
Advanced |
25–29 |
20–24 |
15−19 |
200−349 |
|
Severe |
<25 |
<20 |
<15 |
<200 หรือ<15% |
|
การตัดสินใจให้ยารักษาหรือป้องกันการติดเชื้อฉวยโอกาส การเจาะเลือดหาจำนวนเซลล์ CD4จะช่วยในการตัดสินใจให้ยารักษาหรือยาป้องกันโรคติดเชื้อฉวยโอกาส · ผู้ป่วยที่มีความรุนแรง advance หรือ severe ควรจะได้รับยาต้านไวรัสเพื่อรักษาโรคเอดส์· ส่วนผู้ป่วยที่มีอาการน้อยยังไม่สมควรได้รับยารักษาโรคเอดส์การประเมินความรุนแรงของโรคเอดส์โดยอาศัยอาการหรือโรคแทรกซ้อน
ตารางประเมินความรุนแรงจากอาการของโรค |
อากาของผู้ป่วยโรคเอดส์ |
เกณฑ์ความรุนแรงตามองค์การอนามัยโรค WHO |
ไม่มีอาการ |
1 |
มีอาการน้อย |
2 |
มีอาการโรคเอดส์Advanced symptoms |
3 |
มีอาการรุนแรง Severe symptoms |
4 |
การประเมินความรุนแรงจากภูมิของร่างกาย ผู้ป่วยที่ติดเชื้อโรคเอดส์จะมีการตอบสนองของเซลล์ CD4 เมื่อโรคเป็นมากเซลล์จะลดลง หากการรักษาได้ผลเซลล์CD 4ก็จะเพิ่มขึ้น แต่จำนวนเซลล์ก็ขึ้นกับอายุดังนั้น
ตารางแสดงความรุนแรงและระดับ CD4 |
|
HIV-associated
immunodeficiency |
จำนวน CD4 ในแต่ละอายุ |
|
<11 เดือน
(%CD4+) |
12–35 เดือน
(%CD4+) |
36 –59 เดือน
(%CD4+) |
>5 ปี (จำนวน cd4/mm3 sinv
%CD4+) |
|
None or not significant |
>35 |
>30 |
>25 |
500 |
|
Mild |
30–35 |
25–30 |
20–25 |
350−499 |
|
Advanced |
25–29 |
20–24 |
15−19 |
200−349 |
|
Severe |
<25 |
<20 |
<15 |
<200 หรือ<15% |
|
การตัดสินใจให้ยารักษาหรือป้องกันการตอดเชื้อฉวยโอกาส การเจาะเลือดหาจำนวนเซลล์ CD4จะช่วยในการตัดสินใจให้ยารักษาหรือยาป้องกันโรคติดเชื้อฉวยโอกาส · ผู้ป่วยที่มีความรุนแรง advance หรือ severe ควรจะได้รับยาต้านไวรัสเพื่อรักษาโรคเอดส์· ส่วนผู้ป่วยที่มีอาการน้อยยังไม่สมควรได้รับยารักษาโรคเอดส์การประเมินความรุนแรงของโรคเอดส์โดยอาศัยอาการหรือโรคแทรกซ้อน
สร้างโดย:
นางสาววนิดา สัตยาพันธ์ ม.6/7 เลขที่34 / นายนพรุจ กู้หลี ม.6/7 เลขที่9