สาเหตุของสงคราม II
3. ลัทธินิยมทางทหาร
การแข่งขันกันสะสมกำลังและอาวุธ เพื่อสร้างแสนยานุภาพทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ ทำให้มหาอำนาจต่างไม่ไว้ใจ
ซึ่งกันและกัน ใน ค.ศ. 1933 เยอรมนีได้ยกเลิกสนธิสัญญาแวร์ซาย ซึ่งทำไว้ในฐานะประเทศผู้แพ้สงครามโดยการเริ่มลงมือเกณฑ์
ทหาร สร้างป้อมปราการสองฝั่งแม่น้ำไรน์ และปรับปรุงกองทัพทุกเหล่า จนมีกองทัพอากาศที่เกรียงไกร นอกจากนี้เยอรมนียัง
สามารถสร้างอาวุธที่ทันสมัยและพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ ได้อย่างรวดเร็วด้วย
4. มหาอำนาจแบ่งออกเป็นสองฝ่าย
คือ ฝ่ายอักษะ (Axis) ประกอบด้วยเยอรมนี อิตาลี และญี่ปุ่น ซึ่งดำเนินนโยบายต่างประเทศไปในทำนองเดียวกัน คือ
การรุกรานและขยายอำนาจตรงข้ามกับฝ่ายพันธมิตร (Allies) ซึ่งเป็นฝ่ายประชาธิปไตยตะวันตก ได้แก่ อังกฤษ ฝรั่งเศส และสหรัฐ
อเมริกา ที่ดำเนินนโยบายต่างประเทศที่แตกต่างกัน โดยเฉพาะอังกฤษพยายามใช้นโยบายรอมชอม ทำให้เยอรมนียิ่งฮึกเหิมที่จะ
ขยายอำนาจต่อไป
สมรภูมิแมนจูเรีย
http://www.tanarmy.com/image/manchuria/old-189.jpg
5. ความอ่อนแอขององค์การสันนิบาตชาติ
องค์การสันนิบาตชาติไม่สามารถหยุดยั้งการรุกรานของมหาอำนาจบางประเทศได้ เช่น ญี่ปุ่นบุกเข้ายึดครองแมนจูเรีย เยอรมนี
เข้ายึดครองแคว้นไรน์ อิตาลีรุกรานอะบิสซิเนีย และในเวลาต่อมา ประเทศดังกล่าวยังได้ลาออกจากการเป็นสมาชิกขององค์การ
สันนิบาตชาติอีกด้วย นอกจากนี้สหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นมหาอำนาจชาติหนึ่งและเป็นผู้ริเริ่มหลักการขององค์การสันนิบาตชาติ แต่ก็ไม่ได้
เป็นสมาชิกขององค์การนี้ จึงทำให้องค์การสันนิบาตชาติไม่มีความเข้มแข็งเท่าที่ควร
อ้างอิง : http://www.ratb.ac.th/webgroup/chumsai/E2.2.html