พิพิธภัณฑ์วอลท์ ดิสนีย์ เรื่องราวของชายที่กลายเป็นแบรนด์

ที่มา http://forums.212cafe.com/nokbook/board-3/topic-179.html

ชื่อ 'วอลท์ ดิสนีย์' ถือเป็นแบรนด์สินค้าดังระดับโลก มีทั้งสตูดิโอภาพยนตร์ และสวนสนุกที่ตั้งชื่อตามชายผู้นี้

ล่าสุดครอบครัวของเขายังมีแผน เปิดตัวพิพิธภัณฑ์แห่งใหม่ เพื่อบอกเล่าเรื่องราวของนักบุกเบิกโลกภาพยนตร์การ์ตูน บุคคลที่พวกเขาระบุว่า กลายเป็นคนที่แทบจะไม่มีใครคิดว่ามีตัวตนอยู่จริง

มูลนิธิตระกูลวอลท์ ดิสนีย์ องค์กรไม่หวังผลกำไร ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2538 เพื่อส่งเสริมการให้ความรู้ และการศึกษาเกี่ยวกับดิสนีย์ มีแผนที่จะเปิดพิพิธภัณฑ์ตระกูลวอลท์ ดิสนีย์ ที่นครซานฟรานซิสโก  ในวันที่ 1 ตุลาคมปีนี้

"เรื่องราวของพ่อฉันถือเป็นแรงบันดาลใจ ฉันอยากให้ผู้คนเข้าใจในตัวท่าน และวิธีที่ท่านทำงาน" ไดแอน ดิสนีย์ บุตรสาวของดิสนีย์ ระบุ

แน่นอนว่าเมื่อเข้าใจแล้ว ก็ต้องสนุกสนานไปด้วย

"พิพิธภัณฑ์ของเราจะเป็นแหล่งบันเทิงด้วย ซึ่งนี่คือสิ่งที่ประกอบกันเป็นพ่อของฉัน"   

นับแต่ที่ดิสนีย์เสียชีวิตด้วยวัย 65 ปี เมื่อปี 2509 ตัวตนของเขาก็เริ่มเลือนหายไป โดนคนรุ่นใหม่บางกลุ่มคิดว่า 'วอลท์ ดิสนีย์' เป็นแค่เพียงชื่อที่ตั้งขึ้นมาสำหรับบริษัทเท่านั้น หรือแม้กระทั่งคนที่รู้ที่มาที่ไป ก็ไม่มีใครทราบเรื่องที่ชัดเจน

"บางทีชื่อของพ่อฉันอาจจะเป็นหนึ่งในชื่อ ที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันดีทั่วโลก ในฐานะแบรนด์หรือเครื่องหมายการค้า ส่วนการเป็นบุคคลนั้นกลับสูญหายไป"

ขณะที่ ริชาร์ด เบเนฟิลด์ ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์แห่งใหม่กล่าวว่า ผู้คนที่จดจำได้ก็จะจดจำเฉพาะสิ่งที่เป็นพิเศษของดิสนีย์ในความคิดของตัวเอง โดยไม่ได้เรื่องราวที่ปะติดปะต่อกัน 

พิพิธภัณฑ์แห่งใหม่ซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้างนี้มีเนื้อหาแบ่งออกเป็น 10 ส่วน ตามรอยชีวิตของวอลท์ ดิสนีย์ ตั้งแต่แรกเกิดในชิคาโกและการใช้ชีวิตวัยเด็กที่มิสซูรี จนกระทั่งย้ายมายังแคลิฟอร์เนียในช่วงทศวรรษ 1920 สถานที่ที่เขาแต่งงาน และเริ่มการงานด้านการ์ตูน พร้อมคิดค้นตัวการ์ตูน 'มิคกี้ เมาส์'

สิ่งของที่จะจัดแสดงไว้ในพิพิธภัณฑ์ดังกล่าว ประกอบด้วยภาพร่างการ์ตูนตั้งแต่สมัยเริ่มแรก บทภาพยนตร์  กล้อง  และรางวัลต่างๆ ที่ดิสนีย์คว้ามา รวมถึง รางวัลออสการ์กิติมศักดิ์ เมื่อปี 2482 สำหรับภาพยนตร์การ์ตูนเรื่องยาวเรื่องแรกของเขา 'สโนวไวท์ กับคนแคระทั้ง 7'

นอกจากนี้ ยังมีการเผยแพร่โมเดลภาพจำลองสวนสนุกดิสนีย์แลนด์ ที่วอลท์ ดิสนีย์คิดฝันเอาไว้ ซึ่งมีความแตกต่างจากสวนสนุกที่เปิดขึ้นในแคลิฟอร์เนีย เมื่อปี 2498 ค่อนข้างมากทีเดียว รวมถึงแบบจำลองรถไฟลิลี แบล์ ที่วิ่งอยู่บนรางความยาวครึ่งไมล์รอบๆ บ้านของเขาในฮอลลีวูด งานอดิเรกที่กลายเป็นแรงบันดาลใจในการก่อตั้งสวนสนุกดิสนีย์ แลนด์

วอลเทอร์ มิลเลอร์ ประธานบริหารมูลนิธิ หลานตาของวอลท์ ดิสนีย์ กล่าวระหว่างการประกาศเปิดพิพิธภัณฑ์ว่า สิ่งที่เป็นพรสวรรค์อันยิ่งใหญ่ที่สุดของตาเขา นอกเหนือจากเรื่องความบันเทิงอันยิ่งใหญ่ที่ไม่มีใครกังขาแล้ว ก็อาจเป็นเรื่องการทำให้จินตนาการมีชีวิตชีวาขึ้นมา

"ท่านไม่เคยสูญเสียความรู้สึกแบบเด็กๆ ในเรื่องของการอยากรู้อยากเห็น และสงสัยในเรื่องต่างๆ" มิลเลอร์ระบุ

ผลงานสร้างชื่ออื่นๆ ของ วอลท์ ดิสนีย์ รวมถึง ซินเดอเรลลา แบมบี และแมรี่ ป็อปปินส์ ซึ่งเรื่องสุดท้ายนี้เป็นการผสมผสานการแสดงระหว่างคน และตัวการ์ตูน

ผู้ที่เข้าไปชมพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ ยังจะได้รับรู้รูปแบบการโกหกของวอลท์ ดิสนีย์ เมื่อสมัยอายุ 16 ปี ที่ปรับแต่งปีเกิดจากปี 2444 เป็นปี 2443 เพื่อเข้ารับการฝึกอบรมเป็นคนขับรถพยาบาลของหน่วยงานกาชาด ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 ที่ฝรั่งเศส ซึ่งเขาเดินทางไปถึงในช่วงที่สงครามยุติลงพอดี

จุดเด่นอื่นๆ ของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ รวมถึงการเน้นให้เห็นถึงความคิดสร้างสรรของดิสนีย์ ตั้งแต่เรื่องการทำเพลงเข้าจังหวะ ไปจนถึงการลงทุนก้อนโตในด้านเทคนิคสี เพื่อพัฒนากล้อง ที่สามารถเพิ่มความลึกทางมิติให้กับภาพยนตร์การ์ตูนเรื่องสโนไวท์ กับคนแคระทั้ง 7

ทางด้าน จอห์น แลสเตอร์ ผู้ร่วมก่อตั้งพิกซาร์ สตูดิโอภาพยนต์แอนิเมชั่นชื่อดัง แสดงความยินดีกับการตั้งพิพิธภัณฑ์ดังกล่าว โดยระบุว่า พิพิธภัณฑ์นี้ ไม่เพียงแต่จะแสดงให้เห็นชีวิต และการงานอันยอดเยี่ยมของดิสนีย์เท่านั้น แต่ยังแสดงให้เห็นถึงผลกระทบที่เขาทำให้เกิดต่อวงการบันเทิง และภาพยนตร์การ์ตูนด้วย

"ผมคิดว่าพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ จะต้องกลายเป็นหนึ่งในสถานที่ที่จะต้องมาเที่ยวของซานฟรานซิสโกแน่ๆ " แลสเตอร์ระบุ โดยในสมัยเริ่มทำงานนั้น แลสเตอร์เคยเป็นผู้เขียนการ์ตูนให้กับดิสนีย์มาก่อน

แลสเตอร์บอกด้วยว่า สิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ คือ การให้ความรู้ผู้คนเกี่ยวกับชายผู้อยู่เบื้องหลังชื่อวอลท์ ดิสนีย์ บุคคลที่อยู่เบื้องหลังงานอันยิ่งใหญ่นี้ทั้งหมด นอกเหนือจากการได้เรียนรู้ว่า ชายผู้นี้มีความคิดสร้างสรรค์ และเป็นนักประดิษฐ์คิดค้นที่เก่งกาจขนาดไหน

เบเนฟิลด์ ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์ปิดท้ายว่า วอลท์ ดิสนีย์เข้าถึงผู้คน เพราะเขาเป็นนักเล่าเรื่องที่มหัศจรรย์

"และตอนนี้ ก็เป็นทีของเราที่จะเล่าเรื่องของเขาบ้าง บรรยายเรื่องราวของคนๆ หนึ่ง ที่ชื่อของเขามักสร้างความสับสนเรื่องชื่อ และเรื่องแบรนด์ และเพื่อนำเสนอเขาในฐานะมนุษย์ธรรมดาๆ คนหนึ่ง ที่มีวิสัยทัศน์แสนวิเศษ "