คนที่ 3 จอมพล แปลก พิบูลสงคราม (แปลก ขีตตะสังคะ)

 


นายกรัฐมนตรีคนที่ 3

จอมพล แปลก พิบูลสงคราม

(แปลก ขีตตะสังคะ) 

ภาพจาก : http://gotoknow.org/file/aree16/P8172667-0.jpg

ระยะเวลาดำรงตำแหน่ง 

 สมัยที่ 1 : คณะรัฐมนตรี คณะที่ 9 : 16 ธันวาคม 2481 - 6 มีนาคม 2485 

 สมัยที่ 2 : คณะรัฐมนตรี คณะที่ 10 : 7 มีนาคม 2485 - 1 สิงหาคม 2487 

 สมัยที่ 3 : คณะรัฐมนตรี คณะที่ 21 : 8 เมษายน 2491 - 24 มิถุนายน 2492

 สมัยที่ 4 : คณะรัฐมนตรี คณะที่ 22 : 25 มิถุนายน 2492 - 29 พฤศจิกายน 2494

 สมัยที่ 5 : คณะรัฐมนตรี คณะที่ 23 : 29 พฤศจิกายน 2494 - 6 ธันวาคม 2494 

 สมัยที่ 6 : คณะรัฐมนตรี คณะที่ 24 : 6 ธันวาคม 2494 - 23 มีนาคม 2495

 สมัยที่ 7 : คณะรัฐมนตรี คณะที่ 25 : 24 มีนาคม 2495 - 26 กุมภาพันธ์ 2500

 สมัยที่ 8 : คณะรัฐมนตรี คณะที่ 26 : 21 มีนาคม 2500 - 16 กันยายน 2500

ประวัติ 

จอมพล แปลก พิบูลสงคราม เกิดเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2440 เวลาประมาณ 07.10 น. 

ณ บ้านแพ ปากคลองบางเขน อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี

เป็นบุตรของนายขีดกับนางสำอาง ขีตตะสังคะ

สมรสกับท่านผู้หญิงละเอียด (พันธุ์กระวี) 

เริ่มการศึกษาที่โรงเรียนกลาโหมอุทิศ วัดเขมาภิรตาราม จังหวัดนนทบุรี

ต่อมาได้เข้าเรียนในโรงเรียนนายร้อย ทหารบกจนกระทั่งสำเร็จการศึกษาเมื่ออายุ 19 ปี

ได้รับยศร้อยตรี และประจำการที่กองพลที่ 7 จังหวัดพิษณุโลก

ต่อมาสามารถสอบเข้าโรงเรียนเสนาธิการได้เป็นที่ 1

และได้ไปศึกษาต่อที่โรงเรียนเสนาธิการทหารบก ประเทศฝรั่งเศส จนสำเร็จการศึกษา และกลับมารับราชการต่อไป 

เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2475 พันตรี หลวงพิบูลสงคราม ได้เข้าร่วมกับคณะราษฎร

เปลี่ยนแปลงการปกครอง โดยเป็นกำลังสำคัญสายทหาร 

ในปี พ.ศ. 2477 ได้เลื่อนยศเป็นพันเอก และดำรงตำแหน่งรองผู้บัญชาการทหารบก 

พันเอก หลวงพิบูลสงคราม เข้าดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อจากพันเอก พระยาพหลพลพยุหเสนา

เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2481 โดยการลงมติของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร

และในช่วงที่ดำรงตำแหน่งก็ได้เลื่อนยศเป็นพลตรี

จนกระทั่งในวันที่ 28 กรกฎาคม 2484 ได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ

แต่งตั้งพลตรีหลวงพิบูลสงคราม เป็นจอมพล แปลก พิบูลสงคราม 

ตลอดเวลาที่บริหารประเทศ จอมพล แปลก พิบูลสงคราม

ได้สร้างผลงานเกี่ยวกับนโยบายสร้างชาติและการปลูกฝังความรู้สึกชาตินิยมให้แก่ประชาชนอย่างมากมาย

 เช่น การเปลี่ยนชื่อประเทศสยามมาเป็นประเทศไทย

การเรียกร้องดินแดนทางด้านอินโดจีนคืนจากฝรั่งเศส

การปลูกฝังความนิยมไทย และการเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมไทยบางอย่าง

เช่น การให้สตรีเลิกนุ่งโจงกระเบนแล้วหันมาสวมกระโปรงแทน

การให้ประชาชนเลิกกินหมากพลู

การตั้งชื่อผู้ชายให้มีลักษณะเข้มแข็ง ผู้หญิงให้แสดงถึงความอ่อนหวาน

การส่งเสริมการศึกษาวิชาการแก่ประชาชน

โดยเฉพาะได้จัดตั้งมหาวิทยาลัยเฉพาะวิชา

เช่น มหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ (มหิดล) มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และมหาวิทยาลัยศิลปากร เป็นต้น 

เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2484 ญี่ปุ่นยกพลขึ้นบกในประเทศไทย จอมพล แปลก พิบูลสงคราม

ให้ญี่ปุ่นเดินทัพผ่านไทย และในที่สุดได้ทำสัญญาพันธมิตรทางการทหารและเศรษฐกิจกับญี่ปุ่น

ซึ่งเป็นผลให้ภายหลังเมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 เสร็จสิ้นลง จอมพล แปลก พิบูลสงคราม

จึงต้องตกเป็นผู้ต้องหาอาชญากรสงคราม และถูกจับกุมคุมขังเป็นเวลาหลายเดือน

 จอมพล แปลก พิบูลสงคราม ได้บริหารประเทศมาถึง 8 สมัย

จนกระทั่งในวันที่ 16 กันยายน 2500 จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ ซึ่งเป็นผู้บัญชาการทหารบกในขณะนั้น

ได้ทำการรัฐประหาร ทำให้ท่านต้องลี้ภัยการเมืองไปพำนักยังประเทศเขมรเป็นเวลา 2 เดือน

 และย้ายไปพำนักอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา อินเดีย และได้กลับไปพำนักอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น

จนกระทั่งถึงแก่อสัญกรรมด้วยโรคหัวใจวาย ณ บ้านพักที่ตำบลซากามิโอโน ชานกรุงโตเกียว

เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2507 รวมอายุได้ 67 ปี

สร้างโดย: 
คุณครูวิรัติ พนารัตน์ และ นางสาวชวิศา จาตุรมาน โรงเรียนสตรีศรีสุริโยทัย กรุงเทพมหานคร

มหาวิทยาลัยศรีปทุม ผู้ใหญ่ใจดี
 

 ช่วยด้วยครับ
นักเรียนที่สร้างบล็อก กรุณาอย่า
คัดลอกข้อมูลจากเว็บอื่นทั้งหมด
ควรนำมาจากหลายๆ เว็บ แล้ววิเคราะห์ สังเคราะห์ และเขียนขึ้นใหม่
หากคัดลอกทั้งหมด จะถูกดำเนินคดี
ตามกฎหมายจากเจ้าของลิขสิทธิ์
มีโทษทั้งจำคุกและปรับในอัตราสูง

ช่วยกันนะครับ 
ไทยกู๊ดวิวจะได้อยู่นานๆ 
ไม่ถูกปิดเสียก่อน

ขอขอบคุณในความร่วมมือครับ

อ่านรายละเอียด

ด่วน...... ขณะนี้
พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 
มีผลบังคับใช้แล้ว 
ขอให้นักเรียนและคุณครูที่ใช้งาน
เว็บ thaigoodview ในการส่งการบ้าน
ระมัดระวังการละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย
อ่านรายละเอียดที่นี่ครับ

 

สมาชิกที่ออนไลน์

ขณะนี้มี สมาชิก 0 คน และ ผู้เยี่ยมชม 462 คน กำลังออนไลน์