• user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:780ce6a9449604ac1337d6aa01d37224' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '<!--paging_filter--><p align=\"center\">\n<span style=\"color: #ccffcc; background-color: #000000\"><strong><img border=\"0\" src=\"/sites/all/modules/tinymce/tinymce/jscripts/tiny_mce/plugins/emotions/images/smiley-innocent.gif\" alt=\"Innocent\" title=\"Innocent\" /><span style=\"color: #99ccff\">   อารยธรรมในยุคโบราณ</span>   <img border=\"0\" src=\"/sites/all/modules/tinymce/tinymce/jscripts/tiny_mce/plugins/emotions/images/smiley-innocent.gif\" alt=\"Innocent\" title=\"Innocent\" /></strong></span>\n</p>\n<p>\n<strong><span style=\"color: #ff6600\"><span class=\"style16\">อารยธรรมอียิปต์</span></span></strong>\n</p>\n<p><strong><span style=\"color: #ff6600\"><span class=\"style16\"></span></span></strong></p>\n<div align=\"center\">\n<img width=\"250\" src=\"http://www.lks.ac.th/lalita/images/data/egyptmastabas.jpeg\" height=\"157\" />\n</div>\n<div align=\"center\">\n</div>\n<div align=\"center\">\nภาพ:  <a href=\"http://www.lks.ac.th/lalita/index.html\">http://www.lks.ac.th/lalita/index.html</a>\n</div>\n<div align=\"center\">\n</div>\n<p></p>\n<div>\n<br />\n<span class=\"style3\"><span style=\"font-size: small\"> </span></span>    <span style=\"color: #000000\"> <span class=\"style3\"><span style=\"font-size: small\">อียิปต์เป็นแหล่งอารยธรรมสมัยโบราณ ศูนย์กลางของอารยธรรมอยู่ที่ลุ่มแม่น้ำไนล์ มีปราการธรรมชาติเป็นทะเลทราย ล้อมรอบ เป็นสังคมเกษตรกรรมที่พัฒนามาจนเป็นเมือง  (โมนิส) ขยายพื้นที่เพาะปลูก  สร้างเขื่อน  กษัตริย์ที่ขึ้นปกครอง เรียกว่า ฟาโรห์ เป็นกึ่งกษัตริย์กึ่งเทพเจ้า</span></span> </span>\n</div>\n<p></p>\n<p>\n<span class=\"style3\"><span style=\"font-size: small\"><span style=\"color: #000000\"></span></span></span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #000000\"><span class=\"style3\"><strong><span style=\"color: #ff9900\"><span style=\"color: #ff9900\">อารยธรรมเมโสโปเตเมีย</span></span></strong></span> </span>\n</p>\n<p><span class=\"style3\"><strong><span style=\"color: #ff9900\"></span></strong></span></p>\n<p align=\"center\">\n<img width=\"180\" src=\"http://www.lks.ac.th/lalita/images/data/meso2.jpg\" height=\"163\" />\n</p>\n<p align=\"center\">\nภาพ: <a href=\"http://www.lks.ac.th/lalita/index.html\">http://www.lks.ac.th/lalita/index.html</a>\n</p>\n<p>\n<br />\n<span class=\"style10\"><span style=\"font-size: small; color: #000000\">    บริเวณเมโสโปเตเมียก็น่าจะมีชื่ออย่างเดียวกัน ว่าเป็น“ของขวัญแห่งลุ่มแม่น้ำไทกริส- ยูเฟรติส” แม่น้ำ ทั้งสองมีต้นกำเนิดบริเวณที่ราบสูง อาร์มาเนียน ไหลมาทางตะวันออกเฉียงใต้ สู่อ่าวเปอร์เซียปัจจุบันนี้แม่น้ำทั้งสองไหลมา รวมกันที่บัสรา(Basra) ในสมัยโบราณนั้น จะไหลตัดเดลต้าออกจากกัน โคลนตมที่แม่น้ำ ทั้งสองพัดมาทับถมกันนั้นเป็นดินสมบูรณ์ซึ่งม ีประโยชน์ต่อการเกษตรกรรมเป็นอย่างยิ่ง ทำให้ดินแดนนี้มีชื่อว่า “ ดินแดนระหว่างแม่น้ำ” คือ “เมโสโปเตเมีย”</span></span>\n</p>\n<p></p>\n<p>\n<span class=\"style10\"><span style=\"font-size: small; color: #000000\"></span></span>\n</p>\n<p>\n<span><span style=\"font-size: small; color: #000000\"></span><span class=\"style6\"><span style=\"color: #ff6600\"><strong><span style=\"color: #ff9900\">อารยธรรมโรมัน</span></strong></span></span></span>\n</p>\n<p><span><span class=\"style6\"><span style=\"color: #ff6600\"><strong></strong></span></span></span></p>\n<div align=\"center\">\n<img width=\"126\" src=\"http://www.lks.ac.th/lalita/images/data/framecaesar.jpg\" height=\"176\" />\n</div>\n<p align=\"center\">\nภาพ: <a href=\"http://www.lks.ac.th/lalita/index.html\">http://www.lks.ac.th/lalita/index.html</a>\n</p>\n<p>\n<br />\n<span class=\"style10\"><span style=\"font-size: small\">   <span style=\"color: #000000\">โรมันเป็นพวก อินโดยูโรเปียน ย้ายเข้ามาอยู่ใน  แหลมอิตาลี กลุ่มที่อพยพเข้ามา เรียกรวมๆว่า  อิตาลิก ( Italic) แต่กลุ่มคนที่สำคัญส่วนใหญ่ คือ พวกลาติน ซึ่งเอาชนะชาว พื้นเมือง<em>อีทรัสกัส</em> และสร้างอาณาจักรโรมขึ้นมา รวมทั้งกรุงโรม</span></span></span>\n</p>\n<p align=\"left\">\n<span class=\"style10\"><span style=\"font-size: small\"><span style=\"color: #000000\"><span class=\"style55\"><span style=\"color: #000000\">1. โรมันเป็นพวก อินโดยูโรเปียน ย้ายเข้ามาอยู่ใน แหลมอิตาลี กลุ่มที่อพยพเข้ามา เรียกรวมๆว่า อิตาลิก ( Italic) แต่กลุ่มคนที่สำคัญส่วนใหญ่คือ พวกลาติน ซึ่งเอาชนะชาวพื้นเมือง<em>อีทรัสกัส</em> และสร้างอาณาจักรโรมขึ้นมา รวมทั้งกรุงโรมด้วย </span></span></span></span></span></p>\n<p>2. ชาวโรมันมีนิสัยเด่น คือ ชอบทำการรบ และการปกครอง เป็นพวกมีวินัย เป็นนักคิด นักปฏิบัติ </p>\n<p>3. การปกครองของโรมันแบ่งออกเป็น 2 ยุค ได้แก่ <br />\n    3.1 <em>โรมันในสมัยสาธารณรัฐ</em> <br />\n           •  มีผู้นำคนสำคัญ คือ <a target=\"_blank\" href=\"http://www.lks.ac.th/lalita/romun02.html\"><u><span style=\"color: #000000\">จูเลียส ซีซ่า </span></u></a><span style=\"color: #000000\">( Julius Caesar) มีความสามารถด้านการรบมากสามารถแผ่ขยายอณาเขต รบชนะ กรีก อียิปต์ เอเชียไมเนอร์ แอฟริกา และ เสปน ได้หมด <br />\n    3.2 <em>โรมันในสมัย จักรวรรดิ</em> <br />\n          •  เริ่มต้นขึ้นเมื่อตอนที่ออคตาเวียน ขึ้นปกครองโรม จึงเปลี่ยนการปกครองเป็นระบอบกษัตริย์ และสถาปนาตนเองเป็นกษัตริย์ ชื่อว่า </span><a target=\"_blank\" href=\"http://www.lks.ac.th/lalita/romun03.html\"><u><span style=\"color: #000000\">ออกุสตุส ซีซ่าร์</span></u></a><span style=\"color: #000000\"> <br />\n          •  สมัยออตเตเวียนและจักรพรรดิ์ต่อมาอีก 4 พระองค์ โรมันเจริญสูงสุดและได้ชื่อว่าเป็นสมัยแห่ง “ สันติภาพโรมัน ” <br />\n          •  หลังจากนั้นโรมันก็ถูกชนเยอรมันเผ่า ก๊อด ( Goth) มารุกราน จักรพรรดิ์คอนสแตนติน จึงต้องแยก โรมันออกเป็น 2 ส่วน <br />\n              ( Goth เป็นชื่อเรียกชนเผ่าหนึ่งที่เอยู่ตอนเหนือของยุโรป แบ่งเป็น 2 เผ่า คือ                                          </span>\n</p>\n<p align=\"left\">\n<span class=\"style10\"><span style=\"font-size: small\"><span style=\"color: #000000\"><span class=\"style55\"><span style=\"color: #000000\">                      1. VisiGoth ตะวันตก (อยู่ในแถบฟินแลนด์และ สวีเดน) <br />\n                      2. Ostrogoths ตะวันออก (เยอร์มัน/โปแลนด์) ) <br />\n          •  ฝั่งตะวันตก มีศูนย์กลางอยู่ที่ กรุงโรม <br />\n          •  ฝั่งตะวันออก มีศูนย์กลางอยู่ที่ กรุงคอนสแตนติโนเปิล ( เดิมชื่อ ไบแซนไทน์ ปัจจุบันคือ อิสตันบลู ของตุรกี ) <br />\n</span><em>                    <span style=\"color: #000000\">ค.ศ. 476 กรุงโรมได้ สลายลง เพราะการโจมตีของชนเยอรมัน ติวโตนิก</span></em></span></span></span></span>\n</p>\n<p><strong></strong></p>\n<p>\n<span style=\"color: #ff9900\">อารยธรรมกรีก</span>\n</p>\n<p></p>\n<div align=\"center\">\n<img width=\"275\" src=\"http://www.lks.ac.th/lalita/photo/parthenon.jpg\" height=\"204\" />\n</div>\n<p align=\"center\">\n<strong>ภาพ: <a href=\"http://www.lks.ac.th/lalita/kae.html\">http://www.lks.ac.th/lalita/kae.html</a></strong>\n</p>\n<div>\n<strong>1. การปกครองแบบประชาธิปไตย \n<p>2. ความเจริญด้านวิทยาศาสตร์และการแพทย์สาขาต่างๆ เช่น <br />\n</p></strong>\n</div>\n<ol>\n<li><strong>    2.1 วิชาชีววิทยาเบื้องต้น <br />\n </strong></li>\n<li><strong>    2.2 ริเริ่มการวินิจฉัยโรค และเก็บรายงานประวัติคนไข้ ข้อควรทราบ </strong>\n<p>\n &nbsp;\n </p>\n<p> <strong>3. ผู้ริเริ่มวิชาชีววิทยา คือ อริสโตเติล </strong></p>\n<p> 4. แพทย์กรีกคนแรกที่ค้นพบว่าหัวใจ คืออวัยวะที่ทำหน้าที่สูบฉีดโลหิตคือ อเลเมออน </p>\n<p> 5. ผู้นำทางวิชาการแพทย์ของกรีก คือ เอมพีโดคลีส </p>\n<p> 6. คนแรกที่ริเริ่มทำศัลยกรรม และการใช้ยาบำบัดโรคคือ ฮิพพอคราตีส ผู้ได้รับการยกย่องว่าเป็นบิดาแห่งการแพทย์ </p>\n<p> 7. ความเจริญด้านอักษรศาสตร์ <br />\n </p></li>\n<li><strong>    7.1   ร้อยกรอง กรีกเป็นผู้ให้กำเนิดการประพันธ์ประเภทกาพย์ และกลอน(ซึ่งยุโรปรับถ่ายทอดในสมัยต่อมา) กาพย์ที่สำคัญที่ดีเด่นลีลาการใช้ภาษา และสำนวนได้แก่มหาหาพย์ชื่ออีเลียด และโอดีสซี ของกวีเอกชื่อ โอเมอร์ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการสดุดีวีรกรรมของวีรบุรุษ <br />\n </strong></li>\n<li><strong>    7.2   การละคร มีการกำเนิดมาจากการละเล่นเพื่อบูชาเทพเจ้า ภายหลังมีผู้นำมาใช้แสดงละคร <br />\n </strong></li>\n<li><strong>    7.3   โคลงและกลอน กวีกรีกที่มีชื่อเสียง ได้แก่ เฮซอย ได้รับสมญานาณว่า นักประพันธ์ขวัญใจชาวนา พินดาร์ แซฟโฟ เป็นต้น <br />\n </strong></li>\n<li><strong>    7.4    การเขียนประวัติศาสตร์ ปราชญ์กรีกได้รับการยกย่องว่าเป็น บิดาแห่งประวัติศาสตร์ คือ เฮโรโดตุส </strong>\n<p>\n &nbsp;\n </p>\n<p> <strong>8. ความเจริญด้านศิลป์ ศิลปะของกรีกมีชื่อเรื่องความงาม ความละเอียดอ่อนและความประณีต เป็นความเจริญที่มีพร้อมทั้งในด้านสถาปัตยกรรม ประติมากรรมและวิจิตรศิลป์ </strong></p></li>\n<li><strong>9. ด้านคณิตศาสตร์ ปราชญ์กรีกชื่อ ไพธากอรัส เป็นผู้สร้างทฤษฎีบททางเรขาคณิต ที่ว่าพื้นที่จัตุรัสบนด้านทแยงของสามเหลียมมุมฉาก เท่ากับผลบวกของพื้นที่สี่เหลี่ยมจุตุรัสบนด้านที่เหลืออีกสองด้าน\n<p> 10. ด้านภูมิศาสตร์  ปราชญ์กรีกที่ชือ่ เอราทอสทีเทส ใช้ความรู้วิชาตรีโกณมิติคำนวณขนาดของโลกได้ใกล้เคียงกับความเป็นจริง (สมัยปัจจุบัน) มากที่สุดเปฌนคนแรก และต่อมา คลอดอุส ทอเลมี นำผลงานของเอราทอสทีเนสมาใช้ในการทำแผนที่โลก ทำให้ได้แผนที่โลกที่ดีที่สุดมีใช้กันในยุคนั้น </p>\n<p> 11. ด้านปรัชญา ปรัชญาสาขาต่างๆที่กรีกโบราณริเริ่มได้แก่ </p></strong></li>\n<li><strong>      11.1  จักรวาลวิทยา  ความจริงเรื่องโลก <br />\n </strong></li>\n<li><strong>      11.2  ญานวิทยา  ค้นคว้าเรื่องขอบเขต และความสามารถทางความรู้ของมนุษย์ <br />\n </strong></li>\n<li><strong>      11.3  ตรรกวิทยา หลักควบคุมความคิดที่ถูกต้อง <br />\n </strong></li>\n<li><strong>      11.4  จริยศาสตร์ </strong>\n<p>\n &nbsp;\n </p>\n</li>\n</ol>\n<div>\n<strong></strong>\n</div>\n<div>\n<strong><span style=\"color: #ff9900\">สร้างโดย :  นางสาว รังสินี  มานพ  ม.6/1 เลขที่ 17</span></strong>\n</div>\n<div>\n<strong><span style=\"color: #ff9900\"></span></strong>\n</div>\n<div>\n<strong><span style=\"color: #ff9900\">แหล่งอ้างอิง :</span>  </strong><a href=\"http://www.lks.ac.th/lalita/index.html\"><strong>http://www.lks.ac.th/lalita/index.html</strong></a>\n</div>\n<div>\n<br />\n \n</div>\n', created = 1729453913, expire = 1729540313, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:780ce6a9449604ac1337d6aa01d37224' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.

อารยธรรมในยุคโบราณ

Innocent   อารยธรรมในยุคโบราณ   Innocent

อารยธรรมอียิปต์


      อียิปต์เป็นแหล่งอารยธรรมสมัยโบราณ ศูนย์กลางของอารยธรรมอยู่ที่ลุ่มแม่น้ำไนล์ มีปราการธรรมชาติเป็นทะเลทราย ล้อมรอบ เป็นสังคมเกษตรกรรมที่พัฒนามาจนเป็นเมือง  (โมนิส) ขยายพื้นที่เพาะปลูก  สร้างเขื่อน  กษัตริย์ที่ขึ้นปกครอง เรียกว่า ฟาโรห์ เป็นกึ่งกษัตริย์กึ่งเทพเจ้า

อารยธรรมเมโสโปเตเมีย

ภาพ: http://www.lks.ac.th/lalita/index.html


    บริเวณเมโสโปเตเมียก็น่าจะมีชื่ออย่างเดียวกัน ว่าเป็น“ของขวัญแห่งลุ่มแม่น้ำไทกริส- ยูเฟรติส” แม่น้ำ ทั้งสองมีต้นกำเนิดบริเวณที่ราบสูง อาร์มาเนียน ไหลมาทางตะวันออกเฉียงใต้ สู่อ่าวเปอร์เซียปัจจุบันนี้แม่น้ำทั้งสองไหลมา รวมกันที่บัสรา(Basra) ในสมัยโบราณนั้น จะไหลตัดเดลต้าออกจากกัน โคลนตมที่แม่น้ำ ทั้งสองพัดมาทับถมกันนั้นเป็นดินสมบูรณ์ซึ่งม ีประโยชน์ต่อการเกษตรกรรมเป็นอย่างยิ่ง ทำให้ดินแดนนี้มีชื่อว่า “ ดินแดนระหว่างแม่น้ำ” คือ “เมโสโปเตเมีย”

อารยธรรมโรมัน

ภาพ: http://www.lks.ac.th/lalita/index.html


   โรมันเป็นพวก อินโดยูโรเปียน ย้ายเข้ามาอยู่ใน  แหลมอิตาลี กลุ่มที่อพยพเข้ามา เรียกรวมๆว่า  อิตาลิก ( Italic) แต่กลุ่มคนที่สำคัญส่วนใหญ่ คือ พวกลาติน ซึ่งเอาชนะชาว พื้นเมืองอีทรัสกัส และสร้างอาณาจักรโรมขึ้นมา รวมทั้งกรุงโรม

1. โรมันเป็นพวก อินโดยูโรเปียน ย้ายเข้ามาอยู่ใน แหลมอิตาลี กลุ่มที่อพยพเข้ามา เรียกรวมๆว่า อิตาลิก ( Italic) แต่กลุ่มคนที่สำคัญส่วนใหญ่คือ พวกลาติน ซึ่งเอาชนะชาวพื้นเมืองอีทรัสกัส และสร้างอาณาจักรโรมขึ้นมา รวมทั้งกรุงโรมด้วย

2. ชาวโรมันมีนิสัยเด่น คือ ชอบทำการรบ และการปกครอง เป็นพวกมีวินัย เป็นนักคิด นักปฏิบัติ

3. การปกครองของโรมันแบ่งออกเป็น 2 ยุค ได้แก่
    3.1 โรมันในสมัยสาธารณรัฐ
           •  มีผู้นำคนสำคัญ คือ จูเลียส ซีซ่า ( Julius Caesar) มีความสามารถด้านการรบมากสามารถแผ่ขยายอณาเขต รบชนะ กรีก อียิปต์ เอเชียไมเนอร์ แอฟริกา และ เสปน ได้หมด
    3.2 โรมันในสมัย จักรวรรดิ
          •  เริ่มต้นขึ้นเมื่อตอนที่ออคตาเวียน ขึ้นปกครองโรม จึงเปลี่ยนการปกครองเป็นระบอบกษัตริย์ และสถาปนาตนเองเป็นกษัตริย์ ชื่อว่า
ออกุสตุส ซีซ่าร์
          •  สมัยออตเตเวียนและจักรพรรดิ์ต่อมาอีก 4 พระองค์ โรมันเจริญสูงสุดและได้ชื่อว่าเป็นสมัยแห่ง “ สันติภาพโรมัน ”
          •  หลังจากนั้นโรมันก็ถูกชนเยอรมันเผ่า ก๊อด ( Goth) มารุกราน จักรพรรดิ์คอนสแตนติน จึงต้องแยก โรมันออกเป็น 2 ส่วน
              ( Goth เป็นชื่อเรียกชนเผ่าหนึ่งที่เอยู่ตอนเหนือของยุโรป แบ่งเป็น 2 เผ่า คือ                                          

                      1. VisiGoth ตะวันตก (อยู่ในแถบฟินแลนด์และ สวีเดน) 
                      2. Ostrogoths ตะวันออก (เยอร์มัน/โปแลนด์) )
          •  ฝั่งตะวันตก มีศูนย์กลางอยู่ที่ กรุงโรม
          •  ฝั่งตะวันออก มีศูนย์กลางอยู่ที่ กรุงคอนสแตนติโนเปิล ( เดิมชื่อ ไบแซนไทน์ ปัจจุบันคือ อิสตันบลู ของตุรกี )
                    ค.ศ. 476 กรุงโรมได้ สลายลง เพราะการโจมตีของชนเยอรมัน ติวโตนิก

อารยธรรมกรีก

ภาพ: http://www.lks.ac.th/lalita/kae.html

1. การปกครองแบบประชาธิปไตย

2. ความเจริญด้านวิทยาศาสตร์และการแพทย์สาขาต่างๆ เช่น

  1.     2.1 วิชาชีววิทยาเบื้องต้น
  2.     2.2 ริเริ่มการวินิจฉัยโรค และเก็บรายงานประวัติคนไข้ ข้อควรทราบ

     

    3. ผู้ริเริ่มวิชาชีววิทยา คือ อริสโตเติล

    4. แพทย์กรีกคนแรกที่ค้นพบว่าหัวใจ คืออวัยวะที่ทำหน้าที่สูบฉีดโลหิตคือ อเลเมออน

    5. ผู้นำทางวิชาการแพทย์ของกรีก คือ เอมพีโดคลีส

    6. คนแรกที่ริเริ่มทำศัลยกรรม และการใช้ยาบำบัดโรคคือ ฮิพพอคราตีส ผู้ได้รับการยกย่องว่าเป็นบิดาแห่งการแพทย์

    7. ความเจริญด้านอักษรศาสตร์

  3.     7.1   ร้อยกรอง กรีกเป็นผู้ให้กำเนิดการประพันธ์ประเภทกาพย์ และกลอน(ซึ่งยุโรปรับถ่ายทอดในสมัยต่อมา) กาพย์ที่สำคัญที่ดีเด่นลีลาการใช้ภาษา และสำนวนได้แก่มหาหาพย์ชื่ออีเลียด และโอดีสซี ของกวีเอกชื่อ โอเมอร์ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการสดุดีวีรกรรมของวีรบุรุษ
  4.     7.2   การละคร มีการกำเนิดมาจากการละเล่นเพื่อบูชาเทพเจ้า ภายหลังมีผู้นำมาใช้แสดงละคร
  5.     7.3   โคลงและกลอน กวีกรีกที่มีชื่อเสียง ได้แก่ เฮซอย ได้รับสมญานาณว่า นักประพันธ์ขวัญใจชาวนา พินดาร์ แซฟโฟ เป็นต้น
  6.     7.4    การเขียนประวัติศาสตร์ ปราชญ์กรีกได้รับการยกย่องว่าเป็น บิดาแห่งประวัติศาสตร์ คือ เฮโรโดตุส

     

    8. ความเจริญด้านศิลป์ ศิลปะของกรีกมีชื่อเรื่องความงาม ความละเอียดอ่อนและความประณีต เป็นความเจริญที่มีพร้อมทั้งในด้านสถาปัตยกรรม ประติมากรรมและวิจิตรศิลป์

  7. 9. ด้านคณิตศาสตร์ ปราชญ์กรีกชื่อ ไพธากอรัส เป็นผู้สร้างทฤษฎีบททางเรขาคณิต ที่ว่าพื้นที่จัตุรัสบนด้านทแยงของสามเหลียมมุมฉาก เท่ากับผลบวกของพื้นที่สี่เหลี่ยมจุตุรัสบนด้านที่เหลืออีกสองด้าน

    10. ด้านภูมิศาสตร์  ปราชญ์กรีกที่ชือ่ เอราทอสทีเทส ใช้ความรู้วิชาตรีโกณมิติคำนวณขนาดของโลกได้ใกล้เคียงกับความเป็นจริง (สมัยปัจจุบัน) มากที่สุดเปฌนคนแรก และต่อมา คลอดอุส ทอเลมี นำผลงานของเอราทอสทีเนสมาใช้ในการทำแผนที่โลก ทำให้ได้แผนที่โลกที่ดีที่สุดมีใช้กันในยุคนั้น

    11. ด้านปรัชญา ปรัชญาสาขาต่างๆที่กรีกโบราณริเริ่มได้แก่

  8.       11.1  จักรวาลวิทยา  ความจริงเรื่องโลก
  9.       11.2  ญานวิทยา  ค้นคว้าเรื่องขอบเขต และความสามารถทางความรู้ของมนุษย์
  10.       11.3  ตรรกวิทยา หลักควบคุมความคิดที่ถูกต้อง
  11.       11.4  จริยศาสตร์

     

สร้างโดย :  นางสาว รังสินี  มานพ  ม.6/1 เลขที่ 17
แหล่งอ้างอิง :  http://www.lks.ac.th/lalita/index.html

 

มหาวิทยาลัยศรีปทุม ผู้ใหญ่ใจดี
 

 ช่วยด้วยครับ
นักเรียนที่สร้างบล็อก กรุณาอย่า
คัดลอกข้อมูลจากเว็บอื่นทั้งหมด
ควรนำมาจากหลายๆ เว็บ แล้ววิเคราะห์ สังเคราะห์ และเขียนขึ้นใหม่
หากคัดลอกทั้งหมด จะถูกดำเนินคดี
ตามกฎหมายจากเจ้าของลิขสิทธิ์
มีโทษทั้งจำคุกและปรับในอัตราสูง

ช่วยกันนะครับ 
ไทยกู๊ดวิวจะได้อยู่นานๆ 
ไม่ถูกปิดเสียก่อน

ขอขอบคุณในความร่วมมือครับ

อ่านรายละเอียด

ด่วน...... ขณะนี้
พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 
มีผลบังคับใช้แล้ว 
ขอให้นักเรียนและคุณครูที่ใช้งาน
เว็บ thaigoodview ในการส่งการบ้าน
ระมัดระวังการละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย
อ่านรายละเอียดที่นี่ครับ

 

สมาชิกที่ออนไลน์

ขณะนี้มี สมาชิก 0 คน และ ผู้เยี่ยมชม 359 คน กำลังออนไลน์