ต่อมใต้สมองส่วนหน้า ( anterior pituitary )
รีลีสซิ่งฮอร์โมน ( releasing hormone ) ที่สร้างจากนิวโรซีครีทอรีเซลล์ ( neurosecretory cell)
ที่มีตัวเซลล์อยู่ที่สมองส่วนไฮโพทาลามัสเสียก่อนสร้างและหลั่งฮอร์โมน 7 ชนิด คือ
กระตุ้นการเจริญเติบโตสั่งเคราะห์ฮอร์โมนจากเลือกต่อมหมวกไต คือ ฮอร์โมนคอร์ติซอลกระตุ้นการกระจาย
ตัวของเมลานินใต้ผิวหนัง กระตุ้นการสลายตัวของ ไขมัน กระตุ้นการส่งผ่านกรดอะมิโนและกลูโคสที่กล้ามเนื้อ
ควบคุมการเจริญเติบโตตามปกติของร่างกาย ลดการสะสมไขมันรักษาระดับน้ำตาลกลูโคสให้คงที่
อวัยวะเป้าหมาย : อวัยวะทุกส่วนของร่างกาย ได้แก่ กระดูก กล้ามเนื้อที่เป็นส่วนประกอบของร่างกายทั้งหมด
โดยฮอร์โมนจะมีผลทำให้เซลล์เพิ่มการนำกรดอะมิโนเข้าสู่เซลล์และเพิ่มการสังเคราะห์โปรตีนของเซลล์
หน้าที่ : ควบคุมการเจริญเติบโตของร่างกายทั่วๆไป
ความผิดปกติ
1. ฮอร์โมนมากเกินไป
- เด็ก ทำให้การเจริญเติบโตของร่างกายสูงผิดปกติเรียกว่า ไจแอนทิซึม( gigantism) พบในวัยรุ่น
ไม่ค่อยพบในวัยเด็ก อาจเกิดจากการที่มีเนื้องอกของเซลล์ที่สร้างฮอร์โมน หรือของไฮโพทาลามัส
ทำให้มีการสร้าง ฮอร์โมนมากกว่าปกติ
ที่มา:http://www.pibul.ac.th/vichakan/sciweb/Biology42042/Hormone/Hormone/image/hormone/Gigantism.PNG
และกระดูกแก้มยังตอบสนองต่อฮอร์โมนนี้อยู่ทำให้เกิดความผิดปกติของกระดูกตามบริเวณใบหน้า
นิ้วมือ นิ้วเท้า เรียกอาการดังกล่าวนี้ว่า "อะโครเมกาลี"( acromegaly )
ที่มา:http://www.pibul.ac.th/vichakan/sciweb/Biology42042/Hormone/Hormone/image/hormone/acromegaly.PNG
2.ฮอร์โมนน้อยเกินไป
- เด็ก ทำให้การเจริญเติบโตของร่างกายน้อยผิดปกติเกิดลักษณะเตี้ยแคระเรียกว่า Dwarfism
ที่มา:http://www.pibul.ac.th/vichakan/sciweb/Biology42042/Hormone/Hormone/image/hormone/pitu11.PNG
- ผู้ใหญ่ จะไม่มีอาการปรากฏเด่นชัดแต่พบว่าระดับน้ำตาลกลูโคสในเลือดจะต่ำกว่าคนปกติ
ทำให้ร่างกายไม่สามารถทนต่อความเครียดต่างๆทางอารมณ์ได้และสมองอาจได้รับอันตราย
จากการขาดน้ำตาลกลูโคสไปเลี้ยงหากเป็นมากอาจถึงแก่ชีวิตได้
กระตุ้นต่อมน้ำนมให้สร้างน้ำนมในผู้หญิงที่ตั้งครรภ์และขณะเลี้ยงทารกและพบว่าขณะที่ทารกดูดนมแมจะมีการกระตุ้น่
ให้หลั่งฮอร์โมนนี้เพิ่มมากขึ้นทำให้มีน้ำนมเลี้ยงทารกตลอดเวลาแต่ถ้ามารดาที่ไม่ให้นมทารกการหลั่งฮอร์โมนนี้จะ
น้อยลงมีผลทำให้ต่อมน้ำนมหยุดสร้างน้ำนม
กระตุ้น และควบคุมการเจริญเติบโตและสร้างฮอร์โมนเพศหญิงของรังไข่ การตก ไข่ (Ovalation)
การสร้างเชื้ออสุจิในเพศชาย
6.LH
ที่มา:http://www.pibul.ac.th/vichakan/sciweb/Biology42042/Hormone/Hormone/image/hormone/interstitial-cell.PNG
ในผู้ชาย
อวัยวะเป้าหมาย : กลุ่มเซลล์อินเตอร์สติเชียล ( interstitial cell ) หรือ เซลล์เลย์ดิก (leydig cell)ที่แทรกอยู่
ระหว่างหลอดสร้างอสุจิ
หน้าที่ : กระตุ้นให้ กลุ่มเซลล์อินเตอร์สติเชียล หรือ เซลล์เลย์ดิกสร้างฮอร์โมนเพศชาย คือเทสโทสเทอโรน
ที่มา:http://www.pibul.ac.th/vichakan/sciweb/Biology42042/Hormone/Hormone/image/hormone/follicle.PNG
ในผู้หญิง
อวัยวะเป้าหมาย : ฟอลลิเคิล ( follicle ) ในรังไข่
หน้าที่ :กระตุ้นการตกไข่จากฟอลลิเคิลและกระตุ้นให้เกิดคอร์ปัสลูเทียมและสร้างฮอร์โมนโพรเจสเทอโรน
ทำหน้าที่ร่วมกับฮอร์โมนอีสโทรเจนทำให้มีการเปลี่ยนแปลงที่รังไข่และมดลูกเพื่อรอรับการฝังตัวของเอ็มบริโอ
ที่มา:http://www.pibul.ac.th/vichakan/sciweb/Biology42042/Hormone/Hormone/image/hormone/follicle.PNG
7. TSH หลั่ง มากตอนกลางคืนขณะหลับ ลดลงหลังตื่น กระตุ้นและควบคุมการทำงานของต่อมไทรอยด์ โดยกระตุ้น
การเจริญเติบโตของต่อมให้มีการสร้างและการหลั่งฮอร์โมนจากต่อมคือ T3 และ T4 กระตุ้นการสลายไขมัน
จากเนื้อเยื่อไขมัน
ที่มา:http://www.pibul.ac.th/vichakan/sciweb/Biology42042/Hormone/Hormone/image/hormone/Thyroid-Gland.PNG
อาจกล่าวได้ว่า