วิวัฒนาการเงินตรา
เริ่มต้นจากยุคที่คนใช้ชีวิตตามปกติ ไม่ยุ่งยากซับซ้อน การซื้อ
ขายอยู่ในรูปของการแลกเปลี่ยนสิ่งของกับสิ่งของ หรือที่เรียกว่า barter system แต่มักจะมีปัญหามากมาย เช่น ความต้องการของสิ่งที่แลกเปลี่ยน มักไม่ตรงกัน ขาดมาตรการที่จะใช้วัดมูลค่าและมีความยุ่งยากในการเก็บรักษาสิ่งของ รวมทั้ง สังคมมีความซับซ้อน เศรษฐกิจก้าวหน้ามากขึ้น มนุษย์จึงเริ่มมีการคิดค้นใช้เงินตรา เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนสินค้า หรือที่เรียกว่า Money system
เงินในช่วงแรกคือ การเอาวัตถุจริงๆ มาเป็นเงิน เช่น เปลือกหอย
ม้า ข้าวสาร ซึ่งหน้าที่ของเงินตราหลักๆ คือ เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน
เป็นมาตรฐานในการกำหนดราคาหรือเป็นเครื่องสะสมความมั่งคั่ง
สร้อยลูกปัดโบราณใช้แทนเงินตรา
ในอดีต
แหล่งที่มา : http://c.static.fsanook.com/shopping/uploaded/large/2009/11/20/04/6H5AF1258684244-1.jpg
ต่อมามีการเอาวัตถุมีค่า (โลหะมีค่า) มาหล่อเป็นรูปร่างเฉพาะ
ใช้เป็นเงิน เช่น เงินของจีนหรือเงินเหรียญทอง
ในยุคต่อมามีการพัฒนาการมาใช้กระดาษแทนเงิน แต่กระดาษ
ดังกล่าวต้องมีโลหะมีค่าค้ำไว้ เช่น ตั๋วแลกเงินในสมัยของจีนหรือการออกธนบัตร
ต่อมาเป็นการใช้ธนบัตร แต่ว่าไม่ต้องมีโลหะมาค้ำไว้แล้ว เรียกว่า
ระบบ fiat money คือจะพิมพ์ธนบัตรก็ไม่ต้องมีโลหะมาค้ำไว้ แต่ขึ้นกับ
นโยบายของรัฐบาล (ธนาคารกลาง) แต่อย่างไรก็ตาม ปริมาณต้องมีความเหมาะสม
มิเช่นนั้นจะทำให้ เงินของประเทศนั้นๆ ไม่มีเสถียรภาพ
แหล่งที่มา : http://variety.teenee.com/science/img2/21173.jpg
และในปัจจุบัน มนุษย์เริ่มหันมาใช้ electronic money
กันมากขึ้น เช่น บัตร smart card หรือ credit money อาจทำให้ใน
อนาคตไม่มีการใช้เหรียญหรือธนบัตรเป็นสื่อกลางการแลกเปลี่ยนสินค้า
เพราะเปลี่ยนมาเป็นการใช้ electronic money กันหมดก็เป็นได้
แหล่งที่มา : http://www.thainaru.com/images/credit%20card.jpg