ปฎิวัติทางวิทยาศาสตร์
การปฏิวัติวิทยาศาสตร์
การปฏิวัติทางวิทยาศาสตร์ความหมายของการ “การปฏิวัติทางวิทยาศาสตร์” การปฏิวัติทางวิทยาศาสตร์ คือ การพัฒนาความเจริญหน้าในวิทยาการของโลกตะวันตก ในคริสต์ศตวรรษที่ 17 มีการค้นคว้าแสวงหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับธรรมชาติ โลก และจักรวาล ทำให้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์เจริญรุ่งเรือง เป็นผลให้ชาติตะวันตกพัฒนาความเจริญก้าวหน้าในด้านต่างๆ อย่างรวดเร็ว ปัจจัยที่ก่อให้เกิดการปฏิวัติทางวิทยาศาสตร์
1.การฟื้นฟูศิลปะวิทยาการ ทำให้มนุษย์เชื่อมั่นในความสามารถของตน มีอิสระทางความคิด หลุดพ้นจากการครอบงำของคริสตจักร และมุ่งมั่นที่จะเอาชนะธรรมชาติเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต และความเป็นอยู่ของตนให้ดีขึ้น
2.การพัฒนาเทคโนโลยีในดินแดนเยอรมันตอนใต้ โดยเฉพาะการประดิษฐ์เครื่องพิมพ์แบบใช้วิธีเรียงตัวอักษร กูเตนเบิร์ก ในปี ค.ศ. 1448 ทำให้สามารถพิมพ์หนังสือเผยแพร่ความรู้ต่างๆ ได้อย่างกว้างขวาง
3.การสำรวจทางทะเลและการติดต่อกับโลกตะวันออก ตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่16 เป็นต้นมาทำให้อารยธรรมความรู้ต่างๆ จากจีน อินเดีย อาหรับ และเปอร์เซีย เผยแพร่เข้ามาในสังคมตะวันตกมากขึ้นความสำคัญของการปฏิวัติทางวิทยาศาสตร์
1.ทำให้มนุษย์เชื่อมั่นในสติปัญญาและความสามารถของตน เชื่อมั่นในความมีเหตุผล และนำไปสู่การแสวงหาความรู้โดยไม่มีสิ้นสุด
2.ก่อให้เกิดความรู้และความเจริญก้าวหน้าในด้านวิทยาการด้านต่างๆ และทำให้วิทยาศาสตร์กลายเป็นศาสตร์ที่มีความสำคัญโดยเน้นศึกษาเรื่องราวของธรรมชาติ
3.ทำให้เกิดการค้นคว้าทดลองและแสวงหาความรู้ด้านต่างๆ ซึ่งนำไปสู่การประดิษฐ์คิดค้นสิ่งใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง และเป็นพื้นฐานของการปฏิวัติอุตสาหกรรมในสมัยต่อมา
4.ทำให้ชาวตะวันตกมีทัศนคติเป็นนักคิดชอบสังเกต ชอบซักถาม ชอบค้นคว้าทดลอง เพื่อหาคำตอบ และนำความรู้ที่ได้รับไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อการดำรงชีวิต การปฏิวัติทางวิทยาศาสตร์ในระยะแรกการปฏิวัติทางวิทยาศาสตร์ในระยะแรก เป็นการค้นพบความรู้ทางดาราศาสตร์ ทำให้เกิดคำอธิบายเกี่ยวกับปรากฏการณ์ทางธรรมชาติต่างๆ ซึ่งเป็นการท้ายความเชื่อดั้งเดิมของคริสต์ศาสนา
สรุปได้ดังนี้
1.การค้นพบทฤษฏีระบบสุริยจักรวาลของนิโคลัส โคเปอร์นิคัส ( nicholaus Copernicus ) ชาวโปแลนด์ ในต้นคริสต์ศตวรรษที่ 17 สาระสำคัญ คือ ดวงอาทิตย์เป็นศูนย์กลางของจักรวาล โดยมีโลกและดาวเคราะห์ดวงอื่นๆ โคจรโดยรอบ ทฤษฏีของโคเปอร์นิคัสขัดแย้งกับหลักความเชื่อของคริสตจักรอยากมาที่เชื่อว่าโลกเป็นศูนย์กลางของจักรวาล แม้จะถูกประณามอย่างรุนแรง แต่ถือว่าเป็นความคิดของโคเปอร์นิคัสเป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิวัติทางวิทยาศาสตร์ ทำให้ชาวตะวันตกให้ความสนใจเรื่องราวลี้ลับของธรรม
2. การประดิษฐ์กล้องจุลทรรศน์ ( Telescope ) ของกาลิเลโอ ชาวอิตาลีในปี ค.ศ.1609 ทำให้ความรู้เรื่องระบบสุริยจักรวาลชัดเจนยิ่งขึ้น เช่น ได้เห็นจุดดับในดวงอาทิตย์ได้สังเกตการณ์เคลื่อนไหวของดวงดาว และได้เห็นพื้นขรุขระของดวงจันทร์ เป็นต้น
3. การค้นพบทฤษฏีการโคจรของดาวเคราะห์ ของโจฮันเนส เคปเลอร์ ( johannees kepler )ชาวเยอรมันในช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่17 สรุปได้ว่า เส้นทางโคจรของดาวเคราะห์ รวบดวงอาทิตย์เป็นรูปไข่ หรือวงรี มิใช่เป็นวงกลมตามทฤษฏีของโคเปอร์นิคัส การเสนอวิธีสร้างความรู้แบบวิทยาศาสตร์