ภาษาไทยเพื่อการเรียนรู้
เรื่องที่ 8 ประโยค
1.เจตนาประโยค มี 3 อย่าง = แจ้งให้ทราบ(บอกเล่า) ถามให้ตอบ(คำถาม) บอกให้ทำ(ให้ทำ)
2.โครงสร้างของประโยค หมายถึง ส่วนประกอบของประโยค คือ ประธาน กริยา กรรม ส่วนขยาย
เช่น พ่อฉันกันข้างเก่งมาก (ประธาน ขยาย(พ่อ) กริยา กรรม ขยาย(กิน) ขยาย(เก่ง))
การเน้นส่วนของประโยค ถ้าเราต้องการเน้นตรงไหน จะเอาส่วนนั้นมาขึ้นต้นประโยค
เช่น กระเป๋าใบนี้ฉันถักเอง (เอากรรมขึ้นประโยค ประธานคือ ฉัน)
ที่โรงอาหารรุ่นพี่ทะเลาะกับรุ่นน้อง(เน้นสถานที่)
3.ชนิดของประโยค มี 3 ชนิด
ประโยคความเดียว : มีประธาน กริยา กรรม อย่างละตัว
ประโยคความซ้อน : มี 2 ประโยคมารวมกัน ใช้คำเชื่อว่า ที่ ซึ่ง อัน ว่า ให้
ประโยคความรวม : มี 2 ประโยคมารวมกันด้วยคำเชื่อคำไดก็ได้ ยกเว้น ที่ ซึ่ง อัน ว่า ให้ (ถ้าใช้ ที่ ซึ่ง อัน ว่า ให้ เชื่อม
จะเป็นประโยคความซ้อนนะ)
เช่น เขาทำการบ้านก่อนนอน (ละ เขานอน)
4.จำนวนประโยค
ปกติจบ 1 ประโยค = นับเป็น 1 ประโยค
ถ้ามีคำเชื่อมเราคือว่าประโยคนั้นยังเป็นประโยคเดียวกับข้างหน้า
เช่นเขากินข้าวแล้ว 1 เขากินข้าแล้ว ตอนนี้เขาเข้านอนแล้ว 2 เขากินข้าวก่อนจะเข้านอน 1 ตะวันบอกละเวงว่าจะไปเมืองนอก ละเวงเลยร้องไห้ 1
5.วลี คือ กลุ่มคำที่ไม่ใช่ประโยค บางทีก้อยาวจนเกือบจะเป็นประโยค แต่ก้อไม่ใช่ประโยค
วิธีดูว่าจะเป็นวลี(ในหนังสือบอกว่าเป็น ประโยคไม่สมบูรณ์)หรือประโยค ลองอ่าน ๆ ไป ถ้าอ่านแล้วเหมือนจะไม่จบ (ประมาณว่ารู้สึกต้องมีอะไรต่อนะ) แสดงว่าเป็นวลี แต่ถ้าอ่านแล้วรู้สึกว่ามันจบก็คือประโยค เช่น
แม้นเราจะอ่านหนังสือสอบมากขนานไหน = วลี (เวลาอ่านรู้สึกว่ามันต้องมีต่อ sure)
เธอวิ่งซะจน = วลี (ซะจน - - อะไรเหรอ อยากรู้จัง -- แสดงว่าต้องมีอะไรต่อนะ)
เธอกลับบ้านไปแล้ว = ประโยค(ก็มันจบนี่)