นางสร้อยฟ้าศรีมาลาลุยไฟ,นางสร้อยฟ้าลุยไฟแพ้,ประหารชีวิตเถรขวาด,พลายชุมพลได้เป็นหลวงนายฤทธิ์
เมื่อถึงวันพิธี เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้ว นางสร้อยฟ้าและนางศรีมาลาเริ่มลุยไฟ
นางสร้อยฟ้าลุยไฟแพ้
ทุกคนเมื่อเห็นประจักษ์เช่นนั้น ต่างก็พากันโกรธแค้น นางสร้อยฟ้าด้วยประการต่าง ๆ สมเด็จพระพันวษา กริ้วนางสร้อยฟ้ายิ่งนัก จึงตรัสสั่งพระยายมราช เอาตัวนางสร้อยฟ้าไปฆ่า ผ่าอกด้วยขวาน ประจานไว้ ไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง นางสร้อยฟ้าจึงวิงวอนนางศรีมาลา ให้ทูลขอโทษ โดยขอให้เห็นแก่ลูกที่ตนท้องได้เจ็ดเดือน จะพลอยตายไปด้วย นางทองประศรีได้ฟังก็สงสาร จึงขอร้องให้นางศรีมาลาช่วยนางสร้อยฟ้า นางศรีมาลาได้ฟังก็ใจอ่อน และบอกว่าตนมิได้พยาบาท แล้วจึงกราบทูลขอโทษให้นางสร้อยฟ้า เพื่อช่วยชีวิตลูกพระไวยที่อยู่ในครรภ์นางสร้อยฟ้า
สมเด็จพระพันวษาทรงทราบก็คลายพิโรธ พระราชทานอภัยโทษให้ แล้วให้ขับไปจากเมือง แล้วทรงตรัสขอบใจศรีมาลาที่ไม่จองเวร มีสัตย์ธรรมสูง แล้วพระราชทานรางวัลนางศรีมาลา ที่มีความชอบ ออกไปพาขุนแผนกับพลายชุมพลมาได้
ประหารชีวิตเถรขวาด
สมเด็จพระพันวษาโสมนัสยิ่งนัก ตรัสสั่งให้จมื่นศรีเสาวรักษ ์เอาตัวเถรขวาดไปซักถาม แล้วตรัสกับพระกาญจน์บุรีว่า พลายชุมพลนี้ไม่เสียทีที่เลี้ยงไว้ พอเป็นคู่กับพระไวยในงานราชการได้ แล้วเสด็จกลับวัง จมื่นศรีเสาวรักษ์เอาตัวเถรขวาดมาสอบถาม เถรขวาดไม่ยอมรับว่าผู้ใดใช้มา จึงให้ผูกเถรขวาดไว้กับขื่อคา แล้วซักถามเถรขวาดได้รับความเจ็บปวด จึงสารภาพทั้งหมดว่า ตนอาฆาตพลายชุมพลแต่ครั้งก่อน จึงตามมาล้างแค้น จมื่นศรีจึงให้เสมียนเขียนคำสารภาพของเถรขวาด แล้วนำขึ้นกราบทูล สมเด็จพระพันวษาทรงทราบเรื่องแล้ว จึงตรัสถามพระยาอนุชิตว่า ครั้งนั้นบอกว่าเถรขวาดกับเณรจิ๋วตายแล้ว มาครั้งนี้ยังไม่ตายจะว่าอย่างไร พระยาอนุชิตจึงกราบทูลว่า เมื่อผู้คุมมารายงานว่าตาย ตนจึงให้นำไปทิ้งที่ป่าช้า โดยมิทันได้พิจารณา
สมเด็จพระพันวษาจึงตรัสว่า ตั้งแต่นี้ไปถ้าคนโทษนั้นถึงตาย ให้มีหมายบอกมหาดเล็ก และตำรวจออกไปตรวจก่อน พร้อมทั้งกลาโหมและมหาดไทย แล้วจึงให้เอาศพไปป่าช้า แล้วตรัสสั่งให้ เจ้ากระทรวง ลูกขุน ศาลหลวงพร้อมกันปรึกษาโทษเถรขวาด ทุกฝ่ายเห็นควรให้ประหาร พระองค์จึงตรัสสั่งให้พลายชุมพล เอาตัวเถรขวาดไปประหาร ขุนแผนก็ส่งดาบฟ้าฟื้นให้พลายชุมพล ใช้ประหารเถรขวาด
พลายชุมพลได้เป็นหลวงนายฤทธิ์
วันรุ่งขึ้นเมื่อสมเด็จพระพันวษาออกว่าราชการ พระองค์เห็นว่าพลายชุมพลมีความชอบ ที่ปราบจระเข้ได้ ควรพระราชทานยศศักดิ์ให้รับราชการ ให้เป็นที่ หลวงนายฤทธิ์ รับใช้ใกล้พระองค์ แล้วให้กรมเมืองทหาร ไปจัดการหาที่ปลูกเรือนให้อยู่ พร้อมทั้งพระราชทานรางวัล พลายชุมพลและพระไวย ก็กลับมาแจ้งให้ขุนแผนทราบ เป็นที่ยินดีปรีดาทั่วหน้า อยู่กันด้วยความเป็นสุขสืบต่อมา