ทัพไทยกับทัพเชียงใหม่รบกัน,ขุนแผนพลายงามคิดเข้าตีเมืองเชียงใหม่,ขุนแผนพลายงามเข้าวังพระเจ้าเชียงใหม่,ขุนแผน พลายงามยกทัพกลับ

          เมื่อสองทัพเข้าประจันหน้ากัน  แสนตรีเพชรกล้าเข้าต่อสู้กับพลายงาม ต่างฝ่ายต่างใช้คาถาอาคมเข้าต่อสู้กัน  ไม่อาจแพ้ ไม่อาจชนะ  จนทหารของลาวอ่อนกำลังลง  ท้าวกรุงกาฬจึงยกพลเข้าช่วย   ส่วนแสนตรีเพชรกล้านั้นเมื่อเพลี่ยงพล้ำแต่ก็ฆ่าไม่ตาย  ขุนแผนก็บอกให้เอาหลาวมาสวนทวารจนตาย

 

ขุนแผนพลายงามคิดเข้าตีเมืองเชียงใหม่ 

          ฝ่ายขุนแผนเมื่อตีทัพเชียงใหม่แตกพ่ายไปแล้ว  ก็ปรึกษากับพลายงามว่า  ควรจะเข้าประชิดเมืองเชียงใหม่ แล้วเข้าโจมตีไม่ให้ตั้งตัวได้  เพราะหากช้าไปจะขาดเสบียงอาหาร  และควรจะตีให้ได้ภายในสองวัน  คืนนั้นขุนแผนกับพลายงาม ก็ทำพิธีเซ่นไหว้ภูตพรายและเหล่าเทพารักษ์  แล้วบอกว่าขอให้ไปช่วยรบกับผีเมืองและขับไล่ไป   เพราะพระเจ้าเชียงใหม่ เป็นคนไม่มีศีลธรรม
          พระเจ้าเชียงใหม่ถึงกาลที่ชะตาจะขาด  ฝันเห็นผีเมืองไม่อาจสู้ผีป่าได้ ทั้งพระเสื้อเมืองทรงเมือง หอเครื่องเจตคุกก็หนีไปหมด  และทุกคนก็ฝันเช่นเดียวกันหมดทั่วทุกครัวเรือน  แต่ด้วยมานะกษัตริย์พระเจ้าเชียงใหม่ก็ไม่ยอมแพ้

 

ขุนแผนพลายงามเข้าวังพระเจ้าเชียงใหม่

          เมื่อถึงยามสาม ขุนแผนกับพลายงามก็ร่ายเวทย์สะกดทหาร นอกกำแพงเมืองจนหลับไปหมด แล้วทั้งสองก็ขี่คอภูตพรายข้ามกำแพงเมืองไป  สะกดทหารในเมืองแล้วสะเดาะกลอนเข้าไปในวัง   ขุนแผนสั่งให้กุมารทองเข้าไปสะกดพระเจ้าเชียงใหม่  มเหสีและลูกสาว ขุนแผนและพลายงามเดินตรวจตราไปทุกห้องในวัง   จนถึงห้องบรรทมของมเหสี และนางสร้อยฟ้าธิดา
          ฝ่ายขุนแผนและพลายงาม  เมื่อมาถึงห้องบรรทมของพระเจ้าเชียงใหม่ก็เข้าไปเอาดาบและอาวุธข้างตัวมา แล้วสั่งให้ กุมารทองเลิกสะกด  พระเจ้าเชียงใหม่ก็ตื่นขึ้นแล้วควานหาอาวุธแต่ไม่พบ  ก็คิดว่าคราวนี้คงจะตายแน่  ขุนแผนจึงว่า พระพันวษาเห็นพระเจ้าเชียงใหม่ส่งราชสาส์นแสดงถึงความโอหัง  ก็ให้เราซึ่งเป็นทหารมาฆ่าเสีย ฉะนั้นจะยอมให้ฆ่าหรือจะกลับตัวกลับใจเสีย

 

ขุนแผน พลายงามยกทัพกลับ 

          เมื่อชนะศึกแล้ว ขุนแผนพระท้ายน้ำและพลายงามก็ปรึกษากันได้ข้อยุติว่า จะแจ้งเรื่องไปยังกรุงศรีอยุธยา เพื่อให้พระพันวษาทรงทราบ หากมีพระราชประสงค์จะให้ทำอย่างไรต่อไป  จึงได้เขียนสารส่งไป
          เมื่อคนนำสารไปถึงอยุธยา ก็นำสารนั้นเสนอเจ้าคุณอธิบดี เพื่อนำเข้ากราบทูลพระพันวษาต่อไป ในสารนั้นได้เล่าถึงขั้นตอนการทัพ ตั้งแต่ต้นจนปลาย เฉพาะเหตุการณ์ที่สำคัญ และขอพระราชบัญชา ในการดำเนินการต่อไป   พระพันวษาทรงทราบเรื่องโดยตลอดแล้ว จึงตรัสสั่งให้ เจ้าพระยาจักรี มีตราสั่งให้ยกกองทัพกลับ ให้ริบสมบัติ ลูกเมีย ข้าทาสเจ้าเชียงใหม่ พร้อมทั้งกวาดต้อนชาวเมืองมาเป็นเชลย โทษตายของเจ้าเชียงใหม่ให้ยกไว้เนื่องจากยอมอ่อนน้อม  สำหรับนางสร้อยฟ้าและนางสร้อยทอง ก็ให้ส่งตัวมาเป็นนางใน และให้จัดเรือกัญญาไปรับขุนแผนและพลายงาม เมื่อขุนแผนได้รับสารแล้ว ก็สั่งการให้เป็นไปตามนั้น  เจ้าเชียงใหม่ทราบคำสั่งก็เสียใจทุกข์ร้อนหนัก แล้วให้ป่าวร้องแจ้งให้ชาวเมือง  แจ้งให้พระมเหสีและบรรดาสนมได้รู้  ทุกคนรู้เรื่องแล้วก็เศร้าโศกเสียใจ ในชะตากรรมที่จะต้องถูกกวาดต้อน พลัดที่นาคาที่อยู่ไปยังกรุงศรีอยุธยา บรรดาผู้คนต่างเตรียมตัวออกเดินทาง มีการจัดหาเสบียงอาหาร  จัดการซ่อนทรัพย์สมบัติ  เมื่อได้เวลาเลิกทัพ กลับอยุธยา ขุนแผนก็ให้จัดแยกกองเดินสองข้าง  เอาพวกครัวเชียงใหม่ที่กวาดต้อนมาอยู่ตอนกลาง ให้กองช้างเดินไปก่อน  และให้พวกชาวเวียงจันทน์ป้องกันซ้ายขวาและด้านหลัง เมื่อตกเย็นก็ปลงทัพ จัดคนนั่งระวังยาม  ชักหนามเป็นวง  ก่อกองไฟ  เพื่อป้องกันอันตราย เมื่อรุ่งเช้าก็พากันหุงข้าวเผาปลา กินกัน เสร็จแล้วก็ออกเดินทางต่อไป

         

         

           

   

สร้างโดย: 
นางสาวรัชนี ทองถาวรีย์

มหาวิทยาลัยศรีปทุม ผู้ใหญ่ใจดี
 

 ช่วยด้วยครับ
นักเรียนที่สร้างบล็อก กรุณาอย่า
คัดลอกข้อมูลจากเว็บอื่นทั้งหมด
ควรนำมาจากหลายๆ เว็บ แล้ววิเคราะห์ สังเคราะห์ และเขียนขึ้นใหม่
หากคัดลอกทั้งหมด จะถูกดำเนินคดี
ตามกฎหมายจากเจ้าของลิขสิทธิ์
มีโทษทั้งจำคุกและปรับในอัตราสูง

ช่วยกันนะครับ 
ไทยกู๊ดวิวจะได้อยู่นานๆ 
ไม่ถูกปิดเสียก่อน

ขอขอบคุณในความร่วมมือครับ

อ่านรายละเอียด

ด่วน...... ขณะนี้
พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 
มีผลบังคับใช้แล้ว 
ขอให้นักเรียนและคุณครูที่ใช้งาน
เว็บ thaigoodview ในการส่งการบ้าน
ระมัดระวังการละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย
อ่านรายละเอียดที่นี่ครับ

 

สมาชิกที่ออนไลน์

ขณะนี้มี สมาชิก 0 คน และ ผู้เยี่ยมชม 427 คน กำลังออนไลน์