สงครามเย็น
สงครามเย็น – การเกิดและการดับของสงครามเย็น ตอนที่ 1 |
แก้ไขโดย ทอทหาร | |
วันศุกร์ที่ 12 ตุลาคม พ.ศ.2550 | |
เป็นที่ทราบกันดีว่าหลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 ยุติลง การเผชิญหน้ากันระหว่างฝ่ายพันธมิตรกับฝ่ายอักษะได้แปรเปลี่ยนไปเป็นการเผชิญหน้ากันระหว่างอุดมการณ์ทางการเมือง 2 ค่ายคือ ประชาธิปไตยกับคอมมิวนิสต์ และการเผชิญหน้านี้เองจะถูกเรียกว่า “สงครามเย็น (Cold War)” ถึงแม้ปัจจุบันสภาวะของสงครามเย็นได้ยุติลงด้วยความสูญเสียในระดับที่น้อยกว่าการสูญเสียในสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยสงครามโลกครั้งที่สองนั้นมีการสูญเสียชีวิตถึง 72 ล้านคน (รวมทั้งพลเรือนและทหารแยกฝ่ายสัมพันธมิตรสูญเสีย 61 ล้านคน และฝ่ายอักษะสูญเสีย 11ล้านคน) ในขณะที่สงครามเย็นมีการสูญเสียชีวิตคนไปหลายล้านคน (สงครามเกาหลี สงครามเวียดนาม สงครามสหภาพโซเวียต-อัฟกานิสสถาน ฯลฯ รวมแล้วก็หลายล้านคนแต่ไม่ถึง 72 ล้านคน) แต่การสูญเสียในสงครามเย็นก็สามารถกล่วได้ว่ามีการสูญเสียในระดับที่สูงคือระดับที่เป็นหลักล้านชิวิตเหมือนกัน
ในช่วงสงครามเย็นนั้นไม่เพียงแต่จะมีการสูญเสียชีวิตไปในระดับที่เป็นหลักหลายล้านคนแล้ว สิ่งที่จะนำไปสู่ความหายนะของมวลมนุษย์ชาติ ด้วยความเสี่ยงที่เกือบจะเกิดการโจมตีจากแต่ละฝ่ายด้วยอาวุธนิวเคลียร์หลายครั้ง ดังเช่น กรณีวิกฤตการขีปนาวุธคิวบาในห้วง 14 – 28 ต.ค.2505 (Cuban Missile Crisis) หรือกรณีของเรือดำน้ำ B-59 ชั้น Foxtrot ของสหภาพโซเวียต ที่เกือบจะทำการยิงขีปนาวุธติดหัวรบนิวเคลียร์เนื่องจากเข้าใจว่าเกิดสงครามระหว่างสหภาพโซเวียตกับสหรัฐฯในวันที่ 27 ต.ค.2505 ในห้วงเวลาเดียวกันกับวิกฤตการขีปนาวุธคิวบา ซึ่งก็นับว่าเป็นความโชคดีของมวลมนุษย์ชาติที่ยังคงสามารถดำรงเผ่าพันธุ์เอาไว้ได้ เพราะความเสี่ยงที่เกิดจากกระบวนการตัดสินใจกดปุ่มปล่อยอาวุธของคนเพียงไม่กี่คนเท่านั้น
|