• user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:0e6d0bf2a0d123cde8ff659640d71d85' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '<!--paging_filter--><div style=\"text-align: center\">\n<img border=\"0\" width=\"526\" src=\"/files/u20248/ban.gif\" height=\"160\" />\n</div>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\n<a href=\"/node/45238\"><img border=\"0\" align=\"left\" width=\"183\" src=\"/files/u20248/sur1.jpg\" height=\"40\" /></a><a href=\"/node/45257\"><img border=\"0\" width=\"196\" src=\"/files/u20248/surthai-kr.jpg\" height=\"40\" /></a><a href=\"/node/45278\"><img border=\"0\" width=\"158\" src=\"/files/u20248/teenage.jpg\" height=\"40\" /></a><a href=\"/node/50162\"><img border=\"0\" width=\"87\" src=\"/files/u20248/head-sur.jpg\" height=\"40\" /></a>\n</p>\n<p>\n              <a href=\"/node/45291\"><img border=\"0\" width=\"257\" src=\"/files/u20248/choose.jpg\" height=\"40\" /></a><a href=\"/node/47312\"><img border=\"0\" width=\"87\" src=\"/files/u20248/assist.jpg\" height=\"40\" /></a><a href=\"/node/50171\"><img border=\"0\" width=\"87\" src=\"/files/u20248/name.jpg\" height=\"40\" /></a> <a href=\"/node/43028\"><img border=\"0\" width=\"100\" src=\"/files/u20248/home_icon1.gif\" height=\"90\" style=\"width: 86px; height: 73px\" /></a> \n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #808080\">จะทำในรายที่มี ปัญหาจาก เนื้องอก หรือ อุบัติเหตุ หรือ ใบหน้าผิดรูปแต่กำเนิด เป็นส่วนใหญ่ มากกว่า ทำเพื่อความสวยงาม ค่ะ</span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #808080\">การศัลยกรรมเพื่อที่จะลดขนาดโหนกแก้มนั้นสามารถทำได้ ด้วยวิธีการดังนี้</span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #808080\">1. การกรอกระดูก เป็นการทำศัลยกรรมที่ไม่ยุ่งยาก โอกาสมีปัญหาน้อย แต่เนื่องจากกระดูกโหนกแก้มจะมีความหนาไม่มาก ไม่เกิน ครึ่งเซนติเมตร การกรอจะลดขนาดได้น้อยมาก ถ้ากรอลึกกว่าความหนากระดูกจะเข้าโพรงไซนัส ดังนั้นผลสุดท้ายแทบไม่ได้เห็นมีความแตกต่างระหว่างก่อนทำและหลังทำ ยกเว้นในรายที่กระดูกโตจากเนื้องอกของกระดูกโหนกแก้มซึ่งจะมีความหนามาก หมอจะใช้วิธีการกรอซึ่งจะได้ผลในการลดขนาดค่ะ</span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #808080\">2. การตัดกระดูกโหนกแก้มและเลื่อน เป็นการผ่าตัดที่ใหญ่&quot;มาก&quot; และซับซ้อน ก่อนทำจำเป็นต้องมีการตรวจกระดูกใบหน้าด้วยการ x-ray แล้ววัดค่าความยาว ความกว้าง มุมต่างๆ วางแผนโดยละเอียด รวมถึงในระหว่างทำศัลยกรรมด้วย</span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #808080\">เนื่องจากเป็นการผ่าตัด ที่ใหญ่มาก และซับซ้อน และมีโอกาส ที่จะมีผลที่ไม่พึงประสงค์จากการผ่าตัดได้ค่อนข้างมาก</span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #808080\">ดังนั้นการทำศัลยกรรมชนิดนี้ หมอจะใช้เฉพาะแก้ไขในรายที่มีปัญหาจากอุบัติเหตุหรือเด็กที่เป็นแต่กำเนิด ที่ลักษณะโหนกแก้มมีการผิดรูปมากเท่านั้นนะคะ</span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #808080\">ศัลยกรรมตัดโหนกแก้มแล้วเลื่อน ไม่แนะนำให้ทำเพื่อความสวยงาม ด้วยเหตุผลที่กล่าวมาแล้ว</span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #808080\">ส่วนวิธีอื่นที่ไม่ใช่การผ่าตัด ใช้ยาทา ยาฉีดฯลฯ ย่อมไม่สามารถทำให้กระดูกลดขนาดได้ค่ะ</span><br />\n \n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<div style=\"text-align: center\">\n<img border=\"0\" width=\"600\" src=\"/files/u20248/w02_033.gif\" height=\"27\" />\n</div>\n<p align=\"center\">\n<span style=\"color: #808080\"><img border=\"0\" width=\"300\" src=\"/files/u20248/1_jpg_3Br_width_415_height_415_3Bfile_49fd2e.jpg\" height=\"250\" /></span>\n</p>\n<p align=\"center\">\n<span style=\"color: #808080\">แหล่งที่มา : </span> <a href=\"http://btgsf1.fsanook.com/weblog/img/entry_gallery/159/796002/29947_001.jpg\">http://btgsf1.fsanook.com/weblog/img/entry_gallery/159/796002/29947_001.jpg</a>\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #808080\">          วัตถุประสงค์ของการผ่าตัดเสริมโหนกแก้มคือเพื่อปรับปรุงโหนกแก้มให้ชัดเจน มีความสมดุลระหว่าง 2 ข้าง และทำให้ใบหน้าดูโดดเด่นยิ่งขึ้น วิธีการเสริมโหนกแก้มที่นิยมทำกันคือใส่ซิลิโคนผ่านเข้าไปทางแนวเส้นผ่าตัด ที่ทำขึ้นภายในช่องปาก หรือใต้ขอบตาล่างซึ่งขนาดและรูปร่างของซิลิโคนขึ้นอยู่กับรูปหน้าของคนไข้ แต่ละคน นอกจากการเสริมโหนกแก้มด้วยซิลิโคนแล้ว ในบางรายยังมีการตัดโหนกแก้มหรือจัดตำแหน่งโหนกแก้มใหม่ให้รับกับใบหน้ามากขึ้น      </span>\n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #993300\"><strong>วิธีการผ่าตัด</strong>  </span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #993300\">          การเสริมโหนกแก้มสามารถทำได้ 2 วิธีด้วยกันคือ สอดซิลิโคนผ่านเข้าไปทางแนวเส้นผ่าตัดที่ทำขึ้นภายในช่องปาก หรือผ่านทางแนวเส้นผ่าตัดที่บริเวณเปลือกตาล่าง วิธีการแรกจะได้รับความนิยมมากกว่าเนื่องจากจะมองไม่เห็นบาดแผลจากการผ่าตัด แต่ถ้าหากมีการผ่าตัดเสริมความงามแบบอื่นร่วมด้วยก็สามารถเลือกใช้แนวเส้น ผ่าตัดนั้นๆแทนได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการพิจารณาความเป็นไปได้ของศัลยแพทย์ผู้ทำการผ่าตัด ในการสอดซิลิโคนผ่านเข้าไปทางช่องปากนั้น ศัลยแพทย์จะทำแนวเส้นผ่าตัดตรงบริเวณรอยต่อระหว่างเหงือกกับเยื่อบุช่องปาก ของริมฝีปากบน จากนั้นจึงทำช่องว่างให้เกิดขึ้นที่ใต้เยื่อหุ้มกระดูกตรงบริเวณกระดูกโหนก แก้มเพื่อสอดซิลิโคนเข้าไป แล้วจึงเย็บปิดปากแผลด้วยไหมละลาย</span>     \n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #008080\"><strong>ผลลัพธ์</strong>  </span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #008080\">          คนไข้จะมีโหนกแก้มที่ดูยกสูงขึ้น ทำให้ใบหน้าดูโดดเด่น อย่างไรก็ตามเป็นธรรมดาที่คนไข้อาจจะรู้สึกปวดแผลหรือมีอาการแทรกซ้อนอื่นๆ ที่ไม่ซับซ้อนภายหลังเสร็จสิ้นการผ่าตัดเสริมโหนกแก้ม อาการเหล่านี้สามารถทำให้หมดไปโดยการรับประทานยาตามคำสั่งแพทย์</span>     \n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #003366\"><strong>ภาวะแทรกซ้อน</strong>  </span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #003366\">          คนไข้อาจจะมีอาการเลือดออก ซึ่งศัลยแพทย์จะป้องกันไว้ล่วงหน้าแล้วโดยการใส่ท่อระบายเลือดและให้คนไข้ ใช้ถุงน้ำแข็งประคบโหนกแก้มทันทีหลังการผ่าตัด การติดเชื้อก็เป็นอีกภาวะแทรกซ้อนที่สามารถพบได้แต่ไม่บ่อยนัก ซึ่งศัลยแพทย์จะให้คนไข้รับประทานยาปฏิชีวนะทั้งก่อนและหลังการผ่าตัดเป็น การป้องกันไว้อยู่แล้ว อย่างไรก็ตามภาวะแทรกซ้อนต่างๆ สามารถลดลงได้จากความชำนาญของศัลยแพทย์ผู้ทำการผ่าตัด</span>    \n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #800080\"><strong>ผลข้างเคียง</strong>  </span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #800080\">          ผลข้างเคียงที่คนไข้สามารถพบ ได้แก่ เกิดอาการบวมช้ำและรู้สึกชาบริเวณโหนกแก้มซึ่งจะค่อยๆบรรเทาลงภายใน 1 ถึง 2 เดือน อาการเหล่านี้สามารถบรรเทาลงได้ด้วยการรับประทานยาตามแพทย์สั่ง นอกจากนี้คนไข้จะประสบปัญหาเคี้ยวอาหารได้ลำบากในช่วง 2 ถึง 3 วันแรกหลังผ่าตัด ความรุนแรงและระยะเวลาของการเกิดผลข้างเคียงจะแตกต่างกันไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้ามีการผ่าตัดอีกชนิดร่วมด้วย</span>     \n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #666699\"><strong>การรักษาพยาบาล</strong>  </span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #666699\">          คนไข้ควรนอนยกศีรษะให้อยู่สูงกว่าลำตัวและประคบโหนกแก้มด้วยถุงน้ำแข็งใน ช่วง 24 ถึง 48 ชั่วโมงแรกหลังผ่าตัด งดรับประทานอาหารอย่างน้อย 24 ชั่วโมงเพื่อป้องกันการกระทบกระเทือนต่อบาดแผลและติดเชื้อ คนไข้จะต้องบ้วนปากด้วยน้ำยาบ้วนปากที่แพทย์จัดให้อย่างสม่ำเสมอ และล้างปากทุกครั้งหลังรับประทานอาหารด้วยไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์เพื่อฆ่า เชื้อโรคในช่วงที่ไหมเย็บยังละลายไม่หมด งดกิจกรรมทุกประเภทที่จะมีผลต่อการเพิ่มความดันเลือด เช่น การวิ่งเหยาะๆ ว่ายน้ำ หรือแม้แต่การก้มตัว ไหมเย็บจะละลายหมดไปภายในระยะเวลา 7 ถึง 10 วันหลังผ่าตัด</span>                  \n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #993366\"><strong>การดูแลบาดแผล</strong> </span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #993366\">          คนไข้จะต้องยกศีรษะให้อยู่สูงกว่าลำตัวในช่วงแรกหลังการผ่าตัดเพื่อป้องกัน อาการบวมที่อาจเกิดขึ้นได้ แพทย์จะแนะนำคนไข้ถึงอาหารและกิจกรรมที่จะต้องงดในช่วงแรก ซึ่งควรจะนำมาปฏิบัติอย่างเคร่งครัดเพื่อไม่ให้เกิดภาวะแทรกซ้อนและผลข้าง เคียงที่รุนแรง นอกจากนี้คนไข้ยังต้องระมัดระวังการขยับปากในช่วงแรกหลังผ่าตัดเพื่อไม่ให้ บาดแผลได้รับความกระทบกระเทือนรุนแรงซึ่งอาจจะส่งผลให้คนไข้ต้องพักฟื้นนาน ขึ้น</span>     \n</p>\n<p align=\"center\">\n<img border=\"0\" width=\"379\" src=\"/files/u20248/w02_019.gif\" height=\"68\" />\n</p>\n', created = 1718593394, expire = 1718679794, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:0e6d0bf2a0d123cde8ff659640d71d85' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.

ศัลยกรรมโหนกแก้ม

 

                

 

จะทำในรายที่มี ปัญหาจาก เนื้องอก หรือ อุบัติเหตุ หรือ ใบหน้าผิดรูปแต่กำเนิด เป็นส่วนใหญ่ มากกว่า ทำเพื่อความสวยงาม ค่ะ

การศัลยกรรมเพื่อที่จะลดขนาดโหนกแก้มนั้นสามารถทำได้ ด้วยวิธีการดังนี้

1. การกรอกระดูก เป็นการทำศัลยกรรมที่ไม่ยุ่งยาก โอกาสมีปัญหาน้อย แต่เนื่องจากกระดูกโหนกแก้มจะมีความหนาไม่มาก ไม่เกิน ครึ่งเซนติเมตร การกรอจะลดขนาดได้น้อยมาก ถ้ากรอลึกกว่าความหนากระดูกจะเข้าโพรงไซนัส ดังนั้นผลสุดท้ายแทบไม่ได้เห็นมีความแตกต่างระหว่างก่อนทำและหลังทำ ยกเว้นในรายที่กระดูกโตจากเนื้องอกของกระดูกโหนกแก้มซึ่งจะมีความหนามาก หมอจะใช้วิธีการกรอซึ่งจะได้ผลในการลดขนาดค่ะ

2. การตัดกระดูกโหนกแก้มและเลื่อน เป็นการผ่าตัดที่ใหญ่"มาก" และซับซ้อน ก่อนทำจำเป็นต้องมีการตรวจกระดูกใบหน้าด้วยการ x-ray แล้ววัดค่าความยาว ความกว้าง มุมต่างๆ วางแผนโดยละเอียด รวมถึงในระหว่างทำศัลยกรรมด้วย

เนื่องจากเป็นการผ่าตัด ที่ใหญ่มาก และซับซ้อน และมีโอกาส ที่จะมีผลที่ไม่พึงประสงค์จากการผ่าตัดได้ค่อนข้างมาก

ดังนั้นการทำศัลยกรรมชนิดนี้ หมอจะใช้เฉพาะแก้ไขในรายที่มีปัญหาจากอุบัติเหตุหรือเด็กที่เป็นแต่กำเนิด ที่ลักษณะโหนกแก้มมีการผิดรูปมากเท่านั้นนะคะ

ศัลยกรรมตัดโหนกแก้มแล้วเลื่อน ไม่แนะนำให้ทำเพื่อความสวยงาม ด้วยเหตุผลที่กล่าวมาแล้ว

ส่วนวิธีอื่นที่ไม่ใช่การผ่าตัด ใช้ยาทา ยาฉีดฯลฯ ย่อมไม่สามารถทำให้กระดูกลดขนาดได้ค่ะ
 

 

แหล่งที่มา :  http://btgsf1.fsanook.com/weblog/img/entry_gallery/159/796002/29947_001.jpg

          วัตถุประสงค์ของการผ่าตัดเสริมโหนกแก้มคือเพื่อปรับปรุงโหนกแก้มให้ชัดเจน มีความสมดุลระหว่าง 2 ข้าง และทำให้ใบหน้าดูโดดเด่นยิ่งขึ้น วิธีการเสริมโหนกแก้มที่นิยมทำกันคือใส่ซิลิโคนผ่านเข้าไปทางแนวเส้นผ่าตัด ที่ทำขึ้นภายในช่องปาก หรือใต้ขอบตาล่างซึ่งขนาดและรูปร่างของซิลิโคนขึ้นอยู่กับรูปหน้าของคนไข้ แต่ละคน นอกจากการเสริมโหนกแก้มด้วยซิลิโคนแล้ว ในบางรายยังมีการตัดโหนกแก้มหรือจัดตำแหน่งโหนกแก้มใหม่ให้รับกับใบหน้ามากขึ้น     

 

วิธีการผ่าตัด 

          การเสริมโหนกแก้มสามารถทำได้ 2 วิธีด้วยกันคือ สอดซิลิโคนผ่านเข้าไปทางแนวเส้นผ่าตัดที่ทำขึ้นภายในช่องปาก หรือผ่านทางแนวเส้นผ่าตัดที่บริเวณเปลือกตาล่าง วิธีการแรกจะได้รับความนิยมมากกว่าเนื่องจากจะมองไม่เห็นบาดแผลจากการผ่าตัด แต่ถ้าหากมีการผ่าตัดเสริมความงามแบบอื่นร่วมด้วยก็สามารถเลือกใช้แนวเส้น ผ่าตัดนั้นๆแทนได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการพิจารณาความเป็นไปได้ของศัลยแพทย์ผู้ทำการผ่าตัด ในการสอดซิลิโคนผ่านเข้าไปทางช่องปากนั้น ศัลยแพทย์จะทำแนวเส้นผ่าตัดตรงบริเวณรอยต่อระหว่างเหงือกกับเยื่อบุช่องปาก ของริมฝีปากบน จากนั้นจึงทำช่องว่างให้เกิดขึ้นที่ใต้เยื่อหุ้มกระดูกตรงบริเวณกระดูกโหนก แก้มเพื่อสอดซิลิโคนเข้าไป แล้วจึงเย็บปิดปากแผลด้วยไหมละลาย     

 

ผลลัพธ์ 

          คนไข้จะมีโหนกแก้มที่ดูยกสูงขึ้น ทำให้ใบหน้าดูโดดเด่น อย่างไรก็ตามเป็นธรรมดาที่คนไข้อาจจะรู้สึกปวดแผลหรือมีอาการแทรกซ้อนอื่นๆ ที่ไม่ซับซ้อนภายหลังเสร็จสิ้นการผ่าตัดเสริมโหนกแก้ม อาการเหล่านี้สามารถทำให้หมดไปโดยการรับประทานยาตามคำสั่งแพทย์     

 

ภาวะแทรกซ้อน 

          คนไข้อาจจะมีอาการเลือดออก ซึ่งศัลยแพทย์จะป้องกันไว้ล่วงหน้าแล้วโดยการใส่ท่อระบายเลือดและให้คนไข้ ใช้ถุงน้ำแข็งประคบโหนกแก้มทันทีหลังการผ่าตัด การติดเชื้อก็เป็นอีกภาวะแทรกซ้อนที่สามารถพบได้แต่ไม่บ่อยนัก ซึ่งศัลยแพทย์จะให้คนไข้รับประทานยาปฏิชีวนะทั้งก่อนและหลังการผ่าตัดเป็น การป้องกันไว้อยู่แล้ว อย่างไรก็ตามภาวะแทรกซ้อนต่างๆ สามารถลดลงได้จากความชำนาญของศัลยแพทย์ผู้ทำการผ่าตัด    

 

ผลข้างเคียง 

          ผลข้างเคียงที่คนไข้สามารถพบ ได้แก่ เกิดอาการบวมช้ำและรู้สึกชาบริเวณโหนกแก้มซึ่งจะค่อยๆบรรเทาลงภายใน 1 ถึง 2 เดือน อาการเหล่านี้สามารถบรรเทาลงได้ด้วยการรับประทานยาตามแพทย์สั่ง นอกจากนี้คนไข้จะประสบปัญหาเคี้ยวอาหารได้ลำบากในช่วง 2 ถึง 3 วันแรกหลังผ่าตัด ความรุนแรงและระยะเวลาของการเกิดผลข้างเคียงจะแตกต่างกันไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้ามีการผ่าตัดอีกชนิดร่วมด้วย     

 

การรักษาพยาบาล 

          คนไข้ควรนอนยกศีรษะให้อยู่สูงกว่าลำตัวและประคบโหนกแก้มด้วยถุงน้ำแข็งใน ช่วง 24 ถึง 48 ชั่วโมงแรกหลังผ่าตัด งดรับประทานอาหารอย่างน้อย 24 ชั่วโมงเพื่อป้องกันการกระทบกระเทือนต่อบาดแผลและติดเชื้อ คนไข้จะต้องบ้วนปากด้วยน้ำยาบ้วนปากที่แพทย์จัดให้อย่างสม่ำเสมอ และล้างปากทุกครั้งหลังรับประทานอาหารด้วยไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์เพื่อฆ่า เชื้อโรคในช่วงที่ไหมเย็บยังละลายไม่หมด งดกิจกรรมทุกประเภทที่จะมีผลต่อการเพิ่มความดันเลือด เช่น การวิ่งเหยาะๆ ว่ายน้ำ หรือแม้แต่การก้มตัว ไหมเย็บจะละลายหมดไปภายในระยะเวลา 7 ถึง 10 วันหลังผ่าตัด                  

 

การดูแลบาดแผล

          คนไข้จะต้องยกศีรษะให้อยู่สูงกว่าลำตัวในช่วงแรกหลังการผ่าตัดเพื่อป้องกัน อาการบวมที่อาจเกิดขึ้นได้ แพทย์จะแนะนำคนไข้ถึงอาหารและกิจกรรมที่จะต้องงดในช่วงแรก ซึ่งควรจะนำมาปฏิบัติอย่างเคร่งครัดเพื่อไม่ให้เกิดภาวะแทรกซ้อนและผลข้าง เคียงที่รุนแรง นอกจากนี้คนไข้ยังต้องระมัดระวังการขยับปากในช่วงแรกหลังผ่าตัดเพื่อไม่ให้ บาดแผลได้รับความกระทบกระเทือนรุนแรงซึ่งอาจจะส่งผลให้คนไข้ต้องพักฟื้นนาน ขึ้น     

สร้างโดย: 
น.ส.จริยา วัฒนาพงษากุล และ คุรครูขนิษฐา ยั่งยืน โรงเรียนสตรีศรีสุริโยทัย กทม.

มหาวิทยาลัยศรีปทุม ผู้ใหญ่ใจดี
 

 ช่วยด้วยครับ
นักเรียนที่สร้างบล็อก กรุณาอย่า
คัดลอกข้อมูลจากเว็บอื่นทั้งหมด
ควรนำมาจากหลายๆ เว็บ แล้ววิเคราะห์ สังเคราะห์ และเขียนขึ้นใหม่
หากคัดลอกทั้งหมด จะถูกดำเนินคดี
ตามกฎหมายจากเจ้าของลิขสิทธิ์
มีโทษทั้งจำคุกและปรับในอัตราสูง

ช่วยกันนะครับ 
ไทยกู๊ดวิวจะได้อยู่นานๆ 
ไม่ถูกปิดเสียก่อน

ขอขอบคุณในความร่วมมือครับ

อ่านรายละเอียด

ด่วน...... ขณะนี้
พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 
มีผลบังคับใช้แล้ว 
ขอให้นักเรียนและคุณครูที่ใช้งาน
เว็บ thaigoodview ในการส่งการบ้าน
ระมัดระวังการละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย
อ่านรายละเอียดที่นี่ครับ

 

สมาชิกที่ออนไลน์

ขณะนี้มี สมาชิก 0 คน และ ผู้เยี่ยมชม 690 คน กำลังออนไลน์