การคุ้มครองผู้บริโภคโดยสังคม

      การคุ้มครองผู้บริโภคโดยสังคมเกิดขึ้นตามแนวคิดการให้เกิดประชาสังคม (Civil Society)ในสังคมโดยประชาชนมีส่วนร่วมในการกำหนดกฎ กติกาและระเบียบของสังคม ซึ่งการคุ้มครองผู้บริโภคโดยสังคมบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ โดยหน่วยของสังคม และโดยพลังสังคม

         1. โดยหน่วยของสังคม คือตัวของผู้บริโภคนั่นเอง เพราะผู้บริโภคก็คือบุคคล บุคคล
ก็คือหน่วยหนึ่งของสังคม การถูกเอารัดเอาเปรียบในการซื้อสินค้าและบริการส่วนใหญ่มีสาเหตุ
มาจากการรู้ไม่เท่าทันผู้ประกอบธุรกิจ จึงถูกหลอกได้ง่ายๆ ดังนั้นผู้บริโภคยุคใหม่จึงต้องปรับตัวให้สามารถดำรงอยู่ในสถานะที่ไม่เสียเปรียบด้วยการปฏิบัติ ดังนี้
                1.1 สนใจศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับสินค้าและบริการที่จะบริโภค
                1.2 หมั่นติดตามความก้าวหน้าของผลิตภัณฑ์ที่ต้องการบริโภค
                1.3 สอบถามข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับสินค้าและบริการที่ต้องการจากหลายๆ   ร้านผู้รู้หรือคนที่รู้จัก
                1.4 ก่อนซื้อควรเปรียบเทียบดูประโยชน์ ปริมาณ และราคา
                1.5 ซื้อสินค้าและบริการด้วยความประหยัด คำนึงถึงประโยชน์ที่ได้รับเป็นสำคัญ
                1.6 รู้จักใช้สินค้าและบริการทดแทนเมื่อสินค้าและบริการนั้นมีราคาแพง
                1.7 ฝึกฝนการวางแผนการใช้จ่ายให้สอดคล้องกับรายได้
                1.8 ตรวจสอบใบเสร็จทุกครั้งเมื่อจ่ายเงิน เพื่อความถูกต้องทั้งปริมาณ 
จำนวนสินค้าและราคา
                1.9 ไม่ควรซื้อหรือใช้บริการร้านที่เอาเปรียบผู้บริโภค
                1.10 อย่าเพิกเฉยหรือนิ่งเงียบเมื่อพบการเอาเปรียบ แต่ควรบอกต่อให้ผู้อื่นทราบ เพื่อที่เขาจะได้ไม่เป็นเหยื่อรายต่อไป
                1.11 ควรมีการวางแผนในการซื้อสินค้าและบริการ
                1.12 ไม่ควรซื้อสินค้าและบริการเกินความจำเป็น หรือเห็นแก่ของลด แลก แจก แถม เพราะจะได้ประโยชน์ไม่คุ้มค่า

           2. โดยพลังสังคม จุดอ่อนของคนไทยที่ทำให้พลังของผู้บริโภคไม่แข็งแกร่งที่จะต่อสู้กับผู้ประกอบธุรกิจที่ขาดคุณธรรม จริยธรรมได้ก็คือ คนไทยยังมีพฤติกรรมต่างคนต่างซื้อ รักสงบ ไม่อยากเอาเรื่องกับใคร คิดว่าฟาดเคราะห์ไปให้อภัย ไม่อยากยุ่งยาก อายเมื่อถูกหลอก 
ไม่กล้าโต้เถียง เห็นว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย จึงต้องยอมให้ผู้ประกอบธุรกิจเอาเปรียบอยู่เสมอ อย่าลืมว่าเสียเปรียบคนละกี่ครั้ง ครั้งละ 1 บาท 1 ล้านคน ก็ 1 ล้านบาท ดั้งนั้นผู้บริโภคควรรวมตัวกันเพื่อให้เกิดพลังต่อรองที่เข้มแข็ง ซึ่งสามารถใช้เป็นพลังหรืออำนาจการต่อรองได้ เช่น การรวมตัวกันไม่ซื้อสินค้าหรือบริการที่แพงเกินไปหรือไม่มีคุณภาพ เป็ต้น เมื่อผู้ประกอบธุรกิจขายสินค้าหรือบริการไม่ได้ เขาก็ต้องปรับปรุงสินค้าและบริการหรือลดราคาลงมา ดังนั้นผลประโยชน์ก็ตกแก่ผู้บริโภคนอกจากนี้การรวมตัวกันเป็นพลังสังคมยังนำไปสู่การรียกร้องความเสียหายอันเกิดจากการบริโภคอีกด้วย ซึ่งจะได้ผลดีกว่าการเรียกร้องเป็นรายบุคคล