• user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:962ebb4dc15a36953b06364f889ab15c' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '<!--paging_filter--><div style=\"text-align: center\">\n<img border=\"0\" width=\"526\" src=\"/files/u20248/ban.gif\" height=\"160\" />\n</div>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\n<a href=\"/node/45238\"><img border=\"0\" align=\"left\" width=\"183\" src=\"/files/u20248/sur1.jpg\" height=\"40\" /></a><a href=\"/node/45257\"><img border=\"0\" width=\"196\" src=\"/files/u20248/surthai-kr.jpg\" height=\"40\" /></a><a href=\"/node/45278\"><img border=\"0\" width=\"158\" src=\"/files/u20248/teenage.jpg\" height=\"40\" /></a><a href=\"/node/50162\"><img border=\"0\" width=\"87\" src=\"/files/u20248/head-sur.jpg\" height=\"40\" /></a>\n</p>\n<p>\n              <a href=\"/node/45291\"><img border=\"0\" width=\"257\" src=\"/files/u20248/choose.jpg\" height=\"40\" /></a><a href=\"/node/47312\"><img border=\"0\" width=\"87\" src=\"/files/u20248/assist.jpg\" height=\"40\" /></a><a href=\"/node/50171\"><img border=\"0\" width=\"87\" src=\"/files/u20248/name.jpg\" height=\"40\" /></a> <a href=\"/node/43028\"><img border=\"0\" width=\"100\" src=\"/files/u20248/home_icon1.gif\" height=\"90\" style=\"width: 86px; height: 73px\" /></a> \n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p align=\"center\">\n<img border=\"0\" width=\"200\" src=\"/files/u20248/2.jpg\" height=\"300\" style=\"width: 156px; height: 261px\" />\n</p>\n<p align=\"center\">\nแหล่งที่มา : <a href=\"http://siliconeclub.com/images/stories/surgeryPic/16602_002.jpg\">http://siliconeclub.com/images/stories/surgeryPic/16602_002.jpg</a>\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #808080\">ภาวะการแก่ชรา(Aging Process) เริ่มเมื่ออายุ 30 ปี โดยจะมีส่วนประกอบใหญ่ๆ สองส่วนคือ </span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #808080\">1. ความเสื่อมโดยธรรมชาติและแสงแดดทำให้ ผิวหนังบางลง มีริ้วรอยย่นขนาดเล็กๆ หรือจุดเม็ดสีที่ผิดปกติ <br />\n2. ผิวหนังหย่อนยานลงจากแรงโน้มถ่วงของโลก เห็นได้จากคิ้วที่ตกลงมาพร้อมๆกับหนังตาบน หนังตาล่างและแก้มที่หย่อนลงมาทำให้โหนกแก้มดูต่ำลง เกิดร่องข้างแก้มและจมูก หรือแก้มที่ห้อยลงมาจนมองไม่เห็นขอบของกระดูกขากรรไกรล่าง รวมทั้งคอที่เห็นเป็นสันและไขมันใต้คางที่ย้อยลงมาทำให้คางดูสั้นลงหรือเห็น เป็นสองชั้น</span>\n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\n          <span style=\"color: #808080\">การผ่าตัดดึงหน้าและคอจะช่วยในกรณีที่ 2 นี้โดยการดึงให้ส่วนที่ตกลงมากลับไปอยู่ในที่ที่ควรจะเป็นให้ได้มากที่สุด ร่วมกับการตัดผิวหนังส่วนเกินออก ส่วนริ้วรอยขนาดเล็กๆที่เหลืออยู่และจุดเม็ดสีที่ผิดปกติต้องแก้ไขด้วยวิธี อื่น เช่น การใช้สารเคมี (Chemical Peeling) และการใช้เลเซอร์ เป็นต้น</span>\n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #9a4681\">การผ่าตัด </span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #9a4681\">          การ ผ่าตัดมักจะกระทำโดยการดมยาสลบหรือการทำให้หลับโดยการฉีดยาร่วมกับการฉีดยาชาเฉพาะที่ การผ่าตัดจะพยายามซ่อนแผลให้มองเห็นได้น้อยที่สุด เช่นการดึงหน้าผากก็จะซ่อนแผลเอาไว้หลังไรผม </span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #9a4681\">          โดยในสมัยก่อนแผลผ่าตัดจะยาวจากหูซ้ายถึงหูขวา แต่ในปัจจุบันเราสามารถทำการผ่าตัดผ่านกล้องได้ทำให้แผลผ่าตัดมีขนาดเล็กลง มากและในการผ่าตัดยังสามารถที่จะตัดกล้ามเนื้อที่ทำให้เกิดรอยย่นระหว่างคิ้วได้อีกด้วย </span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #9a4681\">          สำหรับการผ่าตัดดึงหน้าแผลจะอยู่บริเวณหน้าใบหูและอาจจะอ้อมไปหลังใบหู ซึ่งเมื่อแผลหายดีแล้วก็จะมองไม่ค่อยเห็นเช่นกัน ส่วนการผ่าตัดดึงคอมักจะทำไปพร้อมๆกันกับการดึงหน้าแต่ก็อาจจะทำแยกต่างหากได้ โดยจะมีแผลเพิ่มขึ้นบริเวณใต้คางหรือบริเวณไรผมด้านหลัง ในการผ่าตัดดึงคอเราจะเอาไขมันส่วนเกินออกแล้วเย็บกล้ามเนื้อที่แยกออกจนเห็นเป็นสันเข้ามาหากันและตัดหนังส่วนเกินออกทางด้านหลัง </span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #9a4681\">          อย่างไรก็ตามการผ่าตัดก็จะช่วยให้ดีขึ้นในระดับหนึ่งเท่านั้นไม่สามารถทำให้ผิวหนังดู อ่อนเยาว์เหมือนวัยรุ่นได้และเมื่อเวลาผ่านไปอาจจะต้องมารับการผ่าตัดซ้ำอีก เนื่องจากเราไม่สามารถที่จะหยุดยั้งสาเหตุที่กล่าวมาแล้วได้ </span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #9a4681\">          หลังการผ่าตัดอาจจะมีสายระบายเลือดและน้ำเหลืองซึ่งจะเอาออกในวันรุ่งขึ้น หลังการผ่าตัดมักจะไม่ค่อยมีอาการเจ็บปวดเนื่องจากเส้นประสาทที่มาเลี้ยงผิว หนังถูกตัดออกไปทำให้มีอาการชาซึ่งจะเป็นอยู่เพียงชั่วคราวและจะกลับมาเป็นปกติภายใน 1-2 เดือน ในระหว่างนี้จึงควรระมัดระวังในการประคบหรือการล้างหน้าด้วยน้ำอุ่นเนื่องจากอาจเกิดแผลน้ำร้อนลวกได้</span>\n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #4eb162\">ภาวะแทรกซ้อน </span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #4eb162\">1. การติดเชื้อ </span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #4eb162\">2. มีเลือดคั่งในแผล ถ้าเกิดขึ้นจะทำให้มีอาการปวดแผลมากซึ่งโดยปกติหลังการผ่าตัดดึงหน้ามักจะไม่มีอาการปวดแผลดังที่กล่าวมาแล้ว ดังนั้นถ้ามีอาการปวดแผลมากขึ้นหลังการผ่าตัดต้องรีบแจ้งให้แพทย์ทราบโดยทันที </span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #4eb162\">3. กล้ามเนื้อที่ควบคุมการเคลื่อนไหวของใบหน้าไม่ทำงานซึ่งมักจะเป็นชั่วคราวและมักจะกลับมาเป็นปกติภายในสามเดือน เกิดขึ้นเนื่องจากเส้นประสาทได้รับการกระทบกระเทือนจากการผ่าตัด แต่ก็อาจจะเกิดแบบถาวรได้ถ้าเส้นประสาทถูกตัดขาดซึ่งพบได้ค่อนข้างน้อย </span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #4eb162\">4. ผิวหนังตายจากการขาดเลือดโดยมากมักจะเกิดบริเวณหลังใบหูเนื่องจากผิวหนังบาง มีความตึงและอยู่ไกลที่สุด รักษาโดยการทำแผล 2-3 สัปดาห์ก็จะหายได้เอง </span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #4eb162\">5. ผมร่วงบริเวณขมับ อาจเกิดได้ถ้าดึงผิวหนังบริเวณขมับจนตึงเกินไป </span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #4eb162\">6. แผลเป็น พบได้น้อยมักจะพบบริเวณหลังใบหู สามารถแก้ไขโดยการฉีดยาให้แผลเป็นยุบลง</span>\n</p>\n<p align=\"center\">\n<img border=\"0\" width=\"520\" src=\"/files/u20248/33496.gif\" height=\"87\" style=\"width: 408px; height: 62px\" />\n</p>\n<!--pagebreak--><!--pagebreak--><p align=\"center\">\n<img border=\"0\" width=\"200\" src=\"/files/u20248/1.jpg\" height=\"138\" />\n</p>\n<p align=\"center\">\nแหล่งที่มา : <a href=\"http://siliconeclub.com/images/stories/surgeryPic/16602_004.jpg\">http://siliconeclub.com/images/stories/surgeryPic/16602_004.jpg</a>\n</p>\n<p>\n          <span style=\"color: #9b457c\">วิธี ดึงหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด(minimal invasive face lift) หมายถึง การดึงหน้าที่ไม่ต้องทำการผ่าตัดใหญ่ มีได้ตั้งแต่การดึงหน้าโดยใช้กล้องเข้ามาช่วยเพื่อลดขนาดแผล หรือเปิดแผลเล็กๆเข้าไปเย็บขึงยกเนื้อเยื่อที่หย่อน</span>\n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\n          <span style=\"color: #008080\">ปัจจุบันที่กำลังเริ่มทดลองทำมากขึ้น คือ การใช้ไหมชื่อ aptos มีข้อดีคือ ทำด้วยการใช้ยาชาเฉพาะที่ ทำที่คลินิกได้ ไม่บวมมาก ไม่มีแผลยาวเหมือนการดึงหน้าด้วยวิธีมาตรฐาน เห็นผลได้ทันที แต่ผลระยะยาวยังไม่สามารถสรุป</span>\n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #666699\">ขั้นตอนคือ ใช้เข็มที่มีรูกลวงสอดเข้าไปผ่านผิวหนังและชั้นเนื้อเยื่อต่างๆที่หย่อน แล้วตามด้วยการสอดไหมที่มีเงี่ยง เหมือนเป็นฟันเลื่อยทิศทางต่างๆ ผ่านรูปลายเข็ม ระหว่างที่สอดไหม แพทย์จะควบคุมหรือจัดรูปทรงของเนื้อเยื่อตามต้องการ เมื่อสอดไหมผ่านเข็มเสร็จ ก็ดึงเข็มออก ไหมจะค้างอยู่ใต้ผิวหนัง เงี่ยงเล็กของไหมจะเกี่ยวเกาะเนื้อเยื่อ แล้วรัดให้เป็นรูปทรงปูดนูนขึ้นค้างตามทิศทางที่แพทย์ควบคุมไว้ </span></p>\n<p>ส่วนใหญ่ต้องใช้ไหมหลายเส้น เพราะเนื้อเยื่อที่ทำการยกมีแรงถ่วงจากความหย่อน ร่วมกับแรงฝืนจากกล้ามเนื้อแสดงสีหน้า การเกี่ยวเกาะด้วยเงี่ยงเล็กมากๆจึงมีการคลายได้ เวลาทำจึงต้องทำเผื่อ \n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #666699\">หลังการทำมีโอกาสเห็นรอยรั้งตามแนวของไหมที่สอด เพราะส่วนใหญ่ไม่ได้ทำการตัดผิวหนังที่หย่อนเกิน และส่วนใหญ่จะมีการคลายตัว จึงต้องทำการดึงรั้งเกินไว้</span>\n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\n          <span style=\"color: #993300\">ผลที่ได้เป็นเพียงการจัดผิวหนังให้ยกนูนในส่วนต่างๆเท่านั้น เช่น แก้มยกสูงขึ้น เป็นต้น ไม่ได้มีผลการแก้ไขความหย่อนของกล้ามเนื้อที่อยู่ด้านใน หรือผิวหนังที่หย่อนเกิน</span>\n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\n         <span style=\"color: #808000\">วิธีนี้เป็นการพัฒนาทางศัลยกรรมตกแต่งดึงหน้าที่น่าสนใจ เพราะทำง่ายมาก สะดวกไม่ยุ่งยากกับหมอและคนไข้ แต่ด้วยเหตุผลบางส่วน ปัจจุบันยังคงเลือกวิธีดึงหน้าแบบมาตรฐานเป็นทางเลือกแรก ถ้ามีคำตอบที่ชัดเจนจากงานวิจัยที่น่าเชื่อถือได้ และสามารถพัฒนารายละเอียดเทคนิกที่มีความคงทนได้แล้ว จึงจะพิจารณานำมาเลือกใช้ในรายที่ต้องการดึงหน้าโดยที่ไม่มีผิวหนังมากเกิน</span>\n</p>\n', created = 1718590567, expire = 1718676967, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:962ebb4dc15a36953b06364f889ab15c' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.

การดึงหน้าและคอ

 

                

 

แหล่งที่มา : http://siliconeclub.com/images/stories/surgeryPic/16602_002.jpg

ภาวะการแก่ชรา(Aging Process) เริ่มเมื่ออายุ 30 ปี โดยจะมีส่วนประกอบใหญ่ๆ สองส่วนคือ

1. ความเสื่อมโดยธรรมชาติและแสงแดดทำให้ ผิวหนังบางลง มีริ้วรอยย่นขนาดเล็กๆ หรือจุดเม็ดสีที่ผิดปกติ
2. ผิวหนังหย่อนยานลงจากแรงโน้มถ่วงของโลก เห็นได้จากคิ้วที่ตกลงมาพร้อมๆกับหนังตาบน หนังตาล่างและแก้มที่หย่อนลงมาทำให้โหนกแก้มดูต่ำลง เกิดร่องข้างแก้มและจมูก หรือแก้มที่ห้อยลงมาจนมองไม่เห็นขอบของกระดูกขากรรไกรล่าง รวมทั้งคอที่เห็นเป็นสันและไขมันใต้คางที่ย้อยลงมาทำให้คางดูสั้นลงหรือเห็น เป็นสองชั้น

 

          การผ่าตัดดึงหน้าและคอจะช่วยในกรณีที่ 2 นี้โดยการดึงให้ส่วนที่ตกลงมากลับไปอยู่ในที่ที่ควรจะเป็นให้ได้มากที่สุด ร่วมกับการตัดผิวหนังส่วนเกินออก ส่วนริ้วรอยขนาดเล็กๆที่เหลืออยู่และจุดเม็ดสีที่ผิดปกติต้องแก้ไขด้วยวิธี อื่น เช่น การใช้สารเคมี (Chemical Peeling) และการใช้เลเซอร์ เป็นต้น

 

การผ่าตัด

          การ ผ่าตัดมักจะกระทำโดยการดมยาสลบหรือการทำให้หลับโดยการฉีดยาร่วมกับการฉีดยาชาเฉพาะที่ การผ่าตัดจะพยายามซ่อนแผลให้มองเห็นได้น้อยที่สุด เช่นการดึงหน้าผากก็จะซ่อนแผลเอาไว้หลังไรผม

          โดยในสมัยก่อนแผลผ่าตัดจะยาวจากหูซ้ายถึงหูขวา แต่ในปัจจุบันเราสามารถทำการผ่าตัดผ่านกล้องได้ทำให้แผลผ่าตัดมีขนาดเล็กลง มากและในการผ่าตัดยังสามารถที่จะตัดกล้ามเนื้อที่ทำให้เกิดรอยย่นระหว่างคิ้วได้อีกด้วย

          สำหรับการผ่าตัดดึงหน้าแผลจะอยู่บริเวณหน้าใบหูและอาจจะอ้อมไปหลังใบหู ซึ่งเมื่อแผลหายดีแล้วก็จะมองไม่ค่อยเห็นเช่นกัน ส่วนการผ่าตัดดึงคอมักจะทำไปพร้อมๆกันกับการดึงหน้าแต่ก็อาจจะทำแยกต่างหากได้ โดยจะมีแผลเพิ่มขึ้นบริเวณใต้คางหรือบริเวณไรผมด้านหลัง ในการผ่าตัดดึงคอเราจะเอาไขมันส่วนเกินออกแล้วเย็บกล้ามเนื้อที่แยกออกจนเห็นเป็นสันเข้ามาหากันและตัดหนังส่วนเกินออกทางด้านหลัง

          อย่างไรก็ตามการผ่าตัดก็จะช่วยให้ดีขึ้นในระดับหนึ่งเท่านั้นไม่สามารถทำให้ผิวหนังดู อ่อนเยาว์เหมือนวัยรุ่นได้และเมื่อเวลาผ่านไปอาจจะต้องมารับการผ่าตัดซ้ำอีก เนื่องจากเราไม่สามารถที่จะหยุดยั้งสาเหตุที่กล่าวมาแล้วได้

          หลังการผ่าตัดอาจจะมีสายระบายเลือดและน้ำเหลืองซึ่งจะเอาออกในวันรุ่งขึ้น หลังการผ่าตัดมักจะไม่ค่อยมีอาการเจ็บปวดเนื่องจากเส้นประสาทที่มาเลี้ยงผิว หนังถูกตัดออกไปทำให้มีอาการชาซึ่งจะเป็นอยู่เพียงชั่วคราวและจะกลับมาเป็นปกติภายใน 1-2 เดือน ในระหว่างนี้จึงควรระมัดระวังในการประคบหรือการล้างหน้าด้วยน้ำอุ่นเนื่องจากอาจเกิดแผลน้ำร้อนลวกได้

 

ภาวะแทรกซ้อน

1. การติดเชื้อ

2. มีเลือดคั่งในแผล ถ้าเกิดขึ้นจะทำให้มีอาการปวดแผลมากซึ่งโดยปกติหลังการผ่าตัดดึงหน้ามักจะไม่มีอาการปวดแผลดังที่กล่าวมาแล้ว ดังนั้นถ้ามีอาการปวดแผลมากขึ้นหลังการผ่าตัดต้องรีบแจ้งให้แพทย์ทราบโดยทันที

3. กล้ามเนื้อที่ควบคุมการเคลื่อนไหวของใบหน้าไม่ทำงานซึ่งมักจะเป็นชั่วคราวและมักจะกลับมาเป็นปกติภายในสามเดือน เกิดขึ้นเนื่องจากเส้นประสาทได้รับการกระทบกระเทือนจากการผ่าตัด แต่ก็อาจจะเกิดแบบถาวรได้ถ้าเส้นประสาทถูกตัดขาดซึ่งพบได้ค่อนข้างน้อย

4. ผิวหนังตายจากการขาดเลือดโดยมากมักจะเกิดบริเวณหลังใบหูเนื่องจากผิวหนังบาง มีความตึงและอยู่ไกลที่สุด รักษาโดยการทำแผล 2-3 สัปดาห์ก็จะหายได้เอง

5. ผมร่วงบริเวณขมับ อาจเกิดได้ถ้าดึงผิวหนังบริเวณขมับจนตึงเกินไป

6. แผลเป็น พบได้น้อยมักจะพบบริเวณหลังใบหู สามารถแก้ไขโดยการฉีดยาให้แผลเป็นยุบลง

สร้างโดย: 
น.ส.จริยา วัฒนาพงษากุล และ คุรครูขนิษฐา ยั่งยืน โรงเรียนสตรีศรีสุริโยทัย กทม.

มหาวิทยาลัยศรีปทุม ผู้ใหญ่ใจดี
 

 ช่วยด้วยครับ
นักเรียนที่สร้างบล็อก กรุณาอย่า
คัดลอกข้อมูลจากเว็บอื่นทั้งหมด
ควรนำมาจากหลายๆ เว็บ แล้ววิเคราะห์ สังเคราะห์ และเขียนขึ้นใหม่
หากคัดลอกทั้งหมด จะถูกดำเนินคดี
ตามกฎหมายจากเจ้าของลิขสิทธิ์
มีโทษทั้งจำคุกและปรับในอัตราสูง

ช่วยกันนะครับ 
ไทยกู๊ดวิวจะได้อยู่นานๆ 
ไม่ถูกปิดเสียก่อน

ขอขอบคุณในความร่วมมือครับ

อ่านรายละเอียด

ด่วน...... ขณะนี้
พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 
มีผลบังคับใช้แล้ว 
ขอให้นักเรียนและคุณครูที่ใช้งาน
เว็บ thaigoodview ในการส่งการบ้าน
ระมัดระวังการละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย
อ่านรายละเอียดที่นี่ครับ

 

สมาชิกที่ออนไลน์

ขณะนี้มี สมาชิก 0 คน และ ผู้เยี่ยมชม 820 คน กำลังออนไลน์