• user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:8c5eca5de83eb035aa6e6f720cbe2a05' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '<!--paging_filter--><p align=\"center\">\n<img border=\"0\" width=\"520\" src=\"/files/u19975/_____________________________________________3.jpg\" height=\"68\" />\n</p>\n<p align=\"center\">\n<img border=\"0\" width=\"301\" src=\"/files/u19975/img77.jpg\" height=\"196\" />\n</p>\n<p>\n          นางสีดาได้ให้นางข้าหลวงไปบอกพระลักษมณ์ พระรามเล่าความรู้สึกให้ฟัง พระลักษมณ์ค้นห้องดูพบรูปทศกรรฐ์ แล้วนำไปให้พระรามดู นางสีดาคิดว่าถ้าอยู่เฉยนางกำนัลทั้งหลายจะเดือดร้อน จึงทูลความจริงแก่พระราม พระรามโกรธหาว่านางสีดาแพศยา ให้นำไปฆ่า พระลักษมณ์ได้ลอบพานางออกไปจากเมืองในตอนค่ำ และพระลักษมณ์กลัวพระรามรู้ก็ใช้พระขรรค์ฆ่านาง แต่นางสีดาไม่ตาย พระลักษมณ์จึงให้พระนางหนีไป ส่วนตนจะกลับเข้าเมืองก่อนเวลาเช้า <br />\n          ฝ่ายพระอินทร์เห็นเรื่องราวทั้งหมด จึงคิดช่วยทั้งนางสีดาและพระลักษมณ์ ได้บันดาลให้มีเนื้อทราย นอนตายอยู่ระหว่างทางที่พระลักษมณ์จะผ่านกลับเมือง พระลักษมณ์ได้ควักดวงใจเนื้อทรายไปถวายพระราม\n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p align=\"center\">\n<strong>กำเนิดพระมงกุฎ พระลบ</strong>\n</p>\n<p align=\"center\">\n<img border=\"0\" width=\"230\" src=\"/files/u19975/img97.jpg\" height=\"259\" />\n</p>\n<p>\n          ส่วนนางสีดาได้เดินทางมาพบกับพระอินทร์ที่แปลงเป็นควายมาคอยนางสีดา เห็นนางสีดาเดินร้องไห้มา จึงถามเหตุ นางสีดาเล่าให้ฟังแล้วขอให้ ควายแปลงพาไปหาฤาษีเพื่อขอพึ่ง ควายแปลงได้พานางไปพบกับฤาษีชื่อวัชมฤค ฤาษีได้รับเลี้ยงนางไว้ โดยเนรมิตกุฏีให้หลังหนึ่ง จนนางสีดาคลอดโอรสทิ้งไว้ในเปล แล้วไปฝากฤาษีให่ช่วยดูแล แล้วตนจะไปอาบน้ำ แต่ไปเห็นลิงแม่ลูก จึงได้คิดถึงโอรสกลับไปเอามาไม่บอกฤาษี ฤาษีลืมตาไม่เห็นโอรสก็จะทำพิธีไฟชุบโอรสให้ใหม่ โดยวาดรูปกุมารในกระดานเพื่อทำพิธี เมื่อเห็นนางสีดาพาโอรสกลับมา ก็จะลบรูปกุมารในกระดาน นางสีดาขอให้ชุบขึ้น เพื่อเป็นเพื่อนเล่นของโอรส เมื่อชุบได้แล้ว ฤาษีได้ตั้งชื่อพระโอรสว่า มงกุฎ ส่วนโอรสที่ชุบขึ้นให้ชื่อว่า ลบ ทั้งสองเรียนวิชากับฤาษีจนจบ และฤาษีได้เอาไม้ไผ่อ่อนมาเหลาเป็นคันศรและลูกศร องค์ละสามเล่ม แล้วให้ฝึกหัดยิงจนเกิดความชำนาญ ต่อมาฤาษีคิดจะตั้งพิธีชุบศรให้\n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p align=\"center\">\n<strong>เสี่ยงม้าอุปการ</strong> \n</p>\n<p align=\"center\">\n<img border=\"0\" width=\"250\" src=\"/files/u19975/img87.jpg\" height=\"230\" />\n</p>\n<p>\n          วันหนึ่งพระมงกุฎกับพระลบ ลาฤาษีและพระมารดา ไปเที่ยวป่า แล้วชวนกันประลองศรเกิดเสียงสนั่นไปทั่ว พระรามได้ยิน รู้ว่าคงจะมีผู้มีบุญมาทดลองฤทธิ์ และโหรประจำราชสำนักได้ทูลให้ปล่อยม้าอุปการไปเสี่ยงทาย พร้อมกับให้หนุมานตามสะกดรอยไป หากใครจับไปขี่ย่อมแปลว่าคิดขบถให้จับตัวมาถวาย    พระรามเห็นด้วยจึงให้ไปเชิญพระพรตและพระสัตรุตมา แล้วให้ตามม้าอุปการไปด้วย <br />\n          ฝ่ายนางสีดาตั้งแต่พระมงกุฎและพระลบ ขอไปเที่ยวป่า แล้วไปประลองศรก็ร้อนรุ่มใจ คิดว่าอาจมีกษัตริย์ผู้มีฤทธิ์เกิดความริษยามาจับตัวไปได้ ก็ห้ามไม่ให้ทั้งสองไปเที่ยวป่าอีก แต่โอรสทั้งสองไม่เชื่อ ลาไปป่าอีก ขณะที่กำลังเที่ยวป่าอยู่ พระมงกุฎเห็นม้าอุปการหน้าดำตัวขาวตลอดหาง เท้ามีสีแดง ก็บอกพระลบว่าเป็นม้าประหลาด ให้ช่วยกันจับ จับได้แล้วก็พบสาสน์แขวนคอม้า เมื่ออ่านแล้วก็รู้ว่าเป็นสาสน์ของพระรามที่ปล่อยม้ามา หากใครพบให้มาบูชาม้าอุปการ แต่หากใครนำไปขี่จะถูกฆ่าตาย ก็โมโหมาก ก็จับม้าอุปการขี่ หนุมานซึ่งสะกดรอยตามมาเห็นคิดว่า สองกุมารน่าจะเป็นลูกกษัตริย์เมืองใดเมืองหนึ่ง จะฆ่าเสียก็ได้ แต่กลับแผลงฤทธิ์เข้าจับ ถูกพระมงกุฎตีด้วยศรสิ้นสติ แล้วสองกุมารก็ขี่ม้าเล่นต่อไป <br />\n          เมื่อหนุมานฟื้นก็คิดอุบายโดยแปลงเป็นลิงป่าเข้าไปตีสนิท พอได้โอกาสจะเข้าจับถูกตีด้วยศรล้มลง แล้วทั้งสองโอรสเอาเถาวัลย์มัดหนุมานและสักหน้าด้วยยางไม้เขียนเป็นคำสาป หนุมานแก้ไม่หลุดเดินกลับไปหาทัพพระพรตและพระสัตรุต เล่าเรื่องให้ฟัง พระพรตเอาพระขรรค์ตัดเถาวัลย์ก็ไม่ขาด เมื่อเห็นคำสาปบนหน้าผาก ก็รู้ว่าแก้ไม่ได้ จึงพากันกลับไปเฝ้าพระราม พระรามแก้มัดให้เถาวัลย์จึงหลุดออก หนุมานเล่าให้ฟัง พระรามโกรธมาก    ให้หนุมานไปทูลพระพรตและพระสัตรุต ให้ไปจับตัวทั้งสองมาลงโทษให้ได้\n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p align=\"center\">\n<strong>พระมงกุฎถูกจับ</strong> \n</p>\n<p align=\"center\">\n<img border=\"0\" width=\"334\" src=\"/files/u19975/img98.jpg\" height=\"193\" />\n</p>\n<p>\n          เมื่อทัพของพระพรตและพระสัตรุต พร้อมด้วยหนุมานไปพบกับพระมงกุฎและพระลบ ทั้งสองจึงว่าม้านี้ไม่มีใครเลี้ยงดู อยู่ในป่าจับได้ก็ขี่ แล้วก็ไม่ได้เป็นลูกน้องพระราม หากจะจับก็ต้องรบกัน เมื่อรบกันพระมงกุฎต้องศรพระพรตสลบ ส่วนพระลบหนีไปได้ <br />\n          เมื่อพระรามเห็นพระมงกุฎแล้วรู้เรื่องราวทั้งหมดก็โกรธ ให้มัดตัวพระมงกุฎพาไปประจานทั่วเมือง แล้วเอาขึ้นขาหยั่งไว้สามวันให้ประหาร ฝ่ายพระลบหนีไปบอกพระฤาษีกับนางสีดา พระลบจึงขออาสาไปชิงตัวพระมงกุฎกลับ นางสีดาห้าม แต่พระลบไม่ยอม นางสีดาจึงถอดแหวนให้ โดยหาโอกาสให้แหวนนี้แก่พระมงกุฎ <br />\n          เมื่อพระลบตามมาถึงศรีอยุธยา ได้พักอยู่ใต้ต้นไทรใกล้ประตูเมือง แล้วไหว้เทวดาและเสื้อเมืองทรงเมืองให้ช่วยบังไม่ให้ใครเห็น และขอให้พบพี่โดยเร็ว พระอินทร์ได้ให้เทวดาแปลงกายเป็นนางงามกระเดียดหม้อมา เข้ามาถามพระลบ พระลบเล่าให้ฟังว่าจะมาดูกุมารที่ถูกจับ แต่ประตูปิดจึงไม่ได้เห็น นางจึงบอกว่าพระลบมีหน้าเหมือนคนที่ถูกจับ หากใครเห็นเข้าจะเข้าใจผิดได้ แล้วก็บอกว่าตนจะไปตักน้ำให้นักโทษ พระลบอาสาตักน้ำแล้วแอบใส่ แหวนไว้ในหม้อ พร้อมกับอธิษฐานว่า ขอให้แหวนไปสวมที่นิ้วพระมงกุฎ แล้วให้พ้นโทษกลับมาหาพระลบ นางแปลงนำหม้อน้ำไปถึงที่พระมงกุฎถูกจองจำ อ้อนวอนแก่เพชฌฆาตว่าจะนำน้ำมาให้นักโทษ เมื่อได้รับอนุญาตก็นำน้ำไปให้ แล้วแหวนก็สวมที่นิ้งนางขวา ความเจ็บปวดก็หายไป และหลุดจากถูกมัด จากนั้นพระมงกุฎก็หนีไปตามทางที่นางบอกจนไปพบกับพระลบ\n</p>\n<p>\n<a href=\"/node/42963 \"><img border=\"0\" width=\"100\" src=\"/files/u19975/HOME_resize.jpg\" height=\"29\" /></a>  <a href=\"/node/46398 \"><img border=\"0\" width=\"100\" src=\"/files/u19975/_resize_resize_4.jpg\" height=\"28\" /></a>  <a href=\"/node/46400 \"><img border=\"0\" width=\"100\" src=\"/files/u19975/_resize_resize_1.jpg\" height=\"28\" /></a>  <a href=\"/node/46401 \"><img border=\"0\" width=\"100\" src=\"/files/u19975/_resize_resize_2.jpg\" height=\"28\" /></a>  <a href=\"/node/46402 \"><img border=\"0\" width=\"100\" src=\"/files/u19975/_resize_resize_3.jpg\" height=\"28\" /></a>  <a href=\"/node/46404 \"><img border=\"0\" width=\"100\" src=\"/files/u19975/_1_resize_resize.jpg\" height=\"28\" /></a>\n</p>\n<p>\n<a href=\"/node/46409 \"><img border=\"0\" width=\"100\" src=\"/files/u19975/_2_resize_resize.jpg\" height=\"28\" /></a>  <a href=\"/node/46412 \"><img border=\"0\" width=\"100\" src=\"/files/u19975/_3_resize_resize.jpg\" height=\"28\" /></a>  <a href=\"/node/46413 \"><img border=\"0\" width=\"100\" src=\"/files/u19975/_4_resize_resize.jpg\" height=\"28\" /></a>  <a href=\"/node/46414 \"><img border=\"0\" width=\"100\" src=\"/files/u19975/_5__resize_resize.jpg\" height=\"28\" /></a>  <a href=\"/node/46415 \"><img border=\"0\" width=\"100\" src=\"/files/u19975/_6_resize_resize.jpg\" height=\"28\" /></a>  <a href=\"/node/46417 \"><img border=\"0\" width=\"100\" src=\"/files/u19975/_7_resize_resize.jpg\" height=\"28\" /></a>\n</p>\n<p>\n<a href=\"/node/46420 \"><img border=\"0\" width=\"100\" src=\"/files/u19975/_8_resize_resize.jpg\" height=\"28\" /></a>  <a href=\"/node/46422 \"><img border=\"0\" width=\"100\" src=\"/files/u19975/_9_resize_resize.jpg\" height=\"28\" /></a>  <a href=\"/node/46423 \"><img border=\"0\" width=\"100\" src=\"/files/u19975/_10_resize_resize_0.jpg\" height=\"28\" /></a>  <a href=\"/node/46426 \"><img border=\"0\" width=\"100\" src=\"/files/u19975/_11_resize_resize.jpg\" height=\"28\" /></a>  <a href=\"/node/46430 \"><img border=\"0\" width=\"100\" src=\"/files/u19975/_12_resize_resize.jpg\" height=\"28\" /></a>  <a href=\"/node/46432 \"><img border=\"0\" width=\"100\" src=\"/files/u19975/_13_resize_resize_0.jpg\" height=\"28\" /></a>\n</p>\n<p>\n<a href=\"/node/46435 \"><img border=\"0\" width=\"100\" src=\"/files/u19975/_14_resize_resize_0.jpg\" height=\"28\" /></a>  <img border=\"0\" width=\"100\" src=\"/files/u19975/_15_resize.jpg\" height=\"29\" />  <a href=\"/node/47731 \"><img border=\"0\" width=\"100\" src=\"/files/u19975/_16_resize_resize.jpg\" height=\"28\" /></a>  <a href=\"/node/47741 \"><img border=\"0\" width=\"100\" src=\"/files/u19975/_17_resize_resize.jpg\" height=\"28\" /></a>  <a href=\"/node/49061 \"><img border=\"0\" width=\"100\" src=\"/files/u19975/__resize.jpg\" height=\"29\" /></a>\n</p>\n', created = 1715718430, expire = 1715804830, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:8c5eca5de83eb035aa6e6f720cbe2a05' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.

ตอนที่ 15 พระรามให้ฆ่านางสีดา,กำเนิดพระมงกุฎ พระลบ,เสี่ยงม้าอุปการ,พระมงกุฎถูกจับ

          นางสีดาได้ให้นางข้าหลวงไปบอกพระลักษมณ์ พระรามเล่าความรู้สึกให้ฟัง พระลักษมณ์ค้นห้องดูพบรูปทศกรรฐ์ แล้วนำไปให้พระรามดู นางสีดาคิดว่าถ้าอยู่เฉยนางกำนัลทั้งหลายจะเดือดร้อน จึงทูลความจริงแก่พระราม พระรามโกรธหาว่านางสีดาแพศยา ให้นำไปฆ่า พระลักษมณ์ได้ลอบพานางออกไปจากเมืองในตอนค่ำ และพระลักษมณ์กลัวพระรามรู้ก็ใช้พระขรรค์ฆ่านาง แต่นางสีดาไม่ตาย พระลักษมณ์จึงให้พระนางหนีไป ส่วนตนจะกลับเข้าเมืองก่อนเวลาเช้า
          ฝ่ายพระอินทร์เห็นเรื่องราวทั้งหมด จึงคิดช่วยทั้งนางสีดาและพระลักษมณ์ ได้บันดาลให้มีเนื้อทราย นอนตายอยู่ระหว่างทางที่พระลักษมณ์จะผ่านกลับเมือง พระลักษมณ์ได้ควักดวงใจเนื้อทรายไปถวายพระราม

 

กำเนิดพระมงกุฎ พระลบ

          ส่วนนางสีดาได้เดินทางมาพบกับพระอินทร์ที่แปลงเป็นควายมาคอยนางสีดา เห็นนางสีดาเดินร้องไห้มา จึงถามเหตุ นางสีดาเล่าให้ฟังแล้วขอให้ ควายแปลงพาไปหาฤาษีเพื่อขอพึ่ง ควายแปลงได้พานางไปพบกับฤาษีชื่อวัชมฤค ฤาษีได้รับเลี้ยงนางไว้ โดยเนรมิตกุฏีให้หลังหนึ่ง จนนางสีดาคลอดโอรสทิ้งไว้ในเปล แล้วไปฝากฤาษีให่ช่วยดูแล แล้วตนจะไปอาบน้ำ แต่ไปเห็นลิงแม่ลูก จึงได้คิดถึงโอรสกลับไปเอามาไม่บอกฤาษี ฤาษีลืมตาไม่เห็นโอรสก็จะทำพิธีไฟชุบโอรสให้ใหม่ โดยวาดรูปกุมารในกระดานเพื่อทำพิธี เมื่อเห็นนางสีดาพาโอรสกลับมา ก็จะลบรูปกุมารในกระดาน นางสีดาขอให้ชุบขึ้น เพื่อเป็นเพื่อนเล่นของโอรส เมื่อชุบได้แล้ว ฤาษีได้ตั้งชื่อพระโอรสว่า มงกุฎ ส่วนโอรสที่ชุบขึ้นให้ชื่อว่า ลบ ทั้งสองเรียนวิชากับฤาษีจนจบ และฤาษีได้เอาไม้ไผ่อ่อนมาเหลาเป็นคันศรและลูกศร องค์ละสามเล่ม แล้วให้ฝึกหัดยิงจนเกิดความชำนาญ ต่อมาฤาษีคิดจะตั้งพิธีชุบศรให้

 

เสี่ยงม้าอุปการ 

          วันหนึ่งพระมงกุฎกับพระลบ ลาฤาษีและพระมารดา ไปเที่ยวป่า แล้วชวนกันประลองศรเกิดเสียงสนั่นไปทั่ว พระรามได้ยิน รู้ว่าคงจะมีผู้มีบุญมาทดลองฤทธิ์ และโหรประจำราชสำนักได้ทูลให้ปล่อยม้าอุปการไปเสี่ยงทาย พร้อมกับให้หนุมานตามสะกดรอยไป หากใครจับไปขี่ย่อมแปลว่าคิดขบถให้จับตัวมาถวาย    พระรามเห็นด้วยจึงให้ไปเชิญพระพรตและพระสัตรุตมา แล้วให้ตามม้าอุปการไปด้วย
          ฝ่ายนางสีดาตั้งแต่พระมงกุฎและพระลบ ขอไปเที่ยวป่า แล้วไปประลองศรก็ร้อนรุ่มใจ คิดว่าอาจมีกษัตริย์ผู้มีฤทธิ์เกิดความริษยามาจับตัวไปได้ ก็ห้ามไม่ให้ทั้งสองไปเที่ยวป่าอีก แต่โอรสทั้งสองไม่เชื่อ ลาไปป่าอีก ขณะที่กำลังเที่ยวป่าอยู่ พระมงกุฎเห็นม้าอุปการหน้าดำตัวขาวตลอดหาง เท้ามีสีแดง ก็บอกพระลบว่าเป็นม้าประหลาด ให้ช่วยกันจับ จับได้แล้วก็พบสาสน์แขวนคอม้า เมื่ออ่านแล้วก็รู้ว่าเป็นสาสน์ของพระรามที่ปล่อยม้ามา หากใครพบให้มาบูชาม้าอุปการ แต่หากใครนำไปขี่จะถูกฆ่าตาย ก็โมโหมาก ก็จับม้าอุปการขี่ หนุมานซึ่งสะกดรอยตามมาเห็นคิดว่า สองกุมารน่าจะเป็นลูกกษัตริย์เมืองใดเมืองหนึ่ง จะฆ่าเสียก็ได้ แต่กลับแผลงฤทธิ์เข้าจับ ถูกพระมงกุฎตีด้วยศรสิ้นสติ แล้วสองกุมารก็ขี่ม้าเล่นต่อไป
          เมื่อหนุมานฟื้นก็คิดอุบายโดยแปลงเป็นลิงป่าเข้าไปตีสนิท พอได้โอกาสจะเข้าจับถูกตีด้วยศรล้มลง แล้วทั้งสองโอรสเอาเถาวัลย์มัดหนุมานและสักหน้าด้วยยางไม้เขียนเป็นคำสาป หนุมานแก้ไม่หลุดเดินกลับไปหาทัพพระพรตและพระสัตรุต เล่าเรื่องให้ฟัง พระพรตเอาพระขรรค์ตัดเถาวัลย์ก็ไม่ขาด เมื่อเห็นคำสาปบนหน้าผาก ก็รู้ว่าแก้ไม่ได้ จึงพากันกลับไปเฝ้าพระราม พระรามแก้มัดให้เถาวัลย์จึงหลุดออก หนุมานเล่าให้ฟัง พระรามโกรธมาก    ให้หนุมานไปทูลพระพรตและพระสัตรุต ให้ไปจับตัวทั้งสองมาลงโทษให้ได้

 

พระมงกุฎถูกจับ 

          เมื่อทัพของพระพรตและพระสัตรุต พร้อมด้วยหนุมานไปพบกับพระมงกุฎและพระลบ ทั้งสองจึงว่าม้านี้ไม่มีใครเลี้ยงดู อยู่ในป่าจับได้ก็ขี่ แล้วก็ไม่ได้เป็นลูกน้องพระราม หากจะจับก็ต้องรบกัน เมื่อรบกันพระมงกุฎต้องศรพระพรตสลบ ส่วนพระลบหนีไปได้
          เมื่อพระรามเห็นพระมงกุฎแล้วรู้เรื่องราวทั้งหมดก็โกรธ ให้มัดตัวพระมงกุฎพาไปประจานทั่วเมือง แล้วเอาขึ้นขาหยั่งไว้สามวันให้ประหาร ฝ่ายพระลบหนีไปบอกพระฤาษีกับนางสีดา พระลบจึงขออาสาไปชิงตัวพระมงกุฎกลับ นางสีดาห้าม แต่พระลบไม่ยอม นางสีดาจึงถอดแหวนให้ โดยหาโอกาสให้แหวนนี้แก่พระมงกุฎ
          เมื่อพระลบตามมาถึงศรีอยุธยา ได้พักอยู่ใต้ต้นไทรใกล้ประตูเมือง แล้วไหว้เทวดาและเสื้อเมืองทรงเมืองให้ช่วยบังไม่ให้ใครเห็น และขอให้พบพี่โดยเร็ว พระอินทร์ได้ให้เทวดาแปลงกายเป็นนางงามกระเดียดหม้อมา เข้ามาถามพระลบ พระลบเล่าให้ฟังว่าจะมาดูกุมารที่ถูกจับ แต่ประตูปิดจึงไม่ได้เห็น นางจึงบอกว่าพระลบมีหน้าเหมือนคนที่ถูกจับ หากใครเห็นเข้าจะเข้าใจผิดได้ แล้วก็บอกว่าตนจะไปตักน้ำให้นักโทษ พระลบอาสาตักน้ำแล้วแอบใส่ แหวนไว้ในหม้อ พร้อมกับอธิษฐานว่า ขอให้แหวนไปสวมที่นิ้วพระมงกุฎ แล้วให้พ้นโทษกลับมาหาพระลบ นางแปลงนำหม้อน้ำไปถึงที่พระมงกุฎถูกจองจำ อ้อนวอนแก่เพชฌฆาตว่าจะนำน้ำมาให้นักโทษ เมื่อได้รับอนุญาตก็นำน้ำไปให้ แล้วแหวนก็สวมที่นิ้งนางขวา ความเจ็บปวดก็หายไป และหลุดจากถูกมัด จากนั้นพระมงกุฎก็หนีไปตามทางที่นางบอกจนไปพบกับพระลบ

         

         

         

       

สร้างโดย: 
นางสาวอนุสรา สังข์จันทร์

มหาวิทยาลัยศรีปทุม ผู้ใหญ่ใจดี
 

 ช่วยด้วยครับ
นักเรียนที่สร้างบล็อก กรุณาอย่า
คัดลอกข้อมูลจากเว็บอื่นทั้งหมด
ควรนำมาจากหลายๆ เว็บ แล้ววิเคราะห์ สังเคราะห์ และเขียนขึ้นใหม่
หากคัดลอกทั้งหมด จะถูกดำเนินคดี
ตามกฎหมายจากเจ้าของลิขสิทธิ์
มีโทษทั้งจำคุกและปรับในอัตราสูง

ช่วยกันนะครับ 
ไทยกู๊ดวิวจะได้อยู่นานๆ 
ไม่ถูกปิดเสียก่อน

ขอขอบคุณในความร่วมมือครับ

อ่านรายละเอียด

ด่วน...... ขณะนี้
พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 
มีผลบังคับใช้แล้ว 
ขอให้นักเรียนและคุณครูที่ใช้งาน
เว็บ thaigoodview ในการส่งการบ้าน
ระมัดระวังการละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย
อ่านรายละเอียดที่นี่ครับ

 

สมาชิกที่ออนไลน์

ขณะนี้มี สมาชิก 0 คน และ ผู้เยี่ยมชม 421 คน กำลังออนไลน์