การรักษาดุลยภาพด้วยฮอร์โมน
การควบคุมการหลั่งฮอร์โมน(Control of Hormone Secretion)
การควบคุมการหลั่งฮอร์โมนจากต่อมไร้ท่อส่วนใหญ่เป็นกลไกแบบตอบสนองกลับ
(feedback mechanism) ซึ่งอาจจะเป็นไปในทางบวก (กระตุ้น) เรียกว่า positive feedback
หรืออาจจะเป็นไปในทางลบ (ยับยั้ง) เรียกว่า negative feedback
การควบคุมการหลั่งฮอร์โมนแบ่งเป็น 3 แบบ
1. ฮอร์โมนควบคุมการหลั่งของโทรฟิกฮอร์โมน
2. การเปลี่ยนแปลงทางสรีรของร่างกายควบคุมการหลั่งฮอร์โมน
3. สารเคมี ควบคุมการหลั่งฮอร์โมน
ฮอร์โมนควบคุมการหลั่งของโทรฟิกฮอร์โมน (Hormonal control of tropic hormone secretion)
ลักษณะการหลั่ง tropic hormones มีต่อมไร้ท่อเป็นอวัยวะเป้าหมายซึ่งจะสร้างฮอร์โมนกลับไปควบคุมการหลั่งของ tropic hormones
ในเพศหญิง ฮอร์โมน FSH, LH เป็น tropic hormones การหลั่งของฮอร์โมนในกลุ่มนี้ถูกควบคุมโดยฮอร์โมน estrogen และ progesterone ที่สร้างมาจากรังไข่
ที่มา:http://www.lks.ac.th/bioweb/picbio/b71.JPG
ในเพศชายฮอร์โมน FSH, LH (ICSH) เป็น gonadotropic hormones หลั่งออกมาจากต่อมใต้สมองส่วนหน้า การหลั่งของฮอร์โมนกลุ่มนี้ถูกควบคุมโดยฮอร์โมน testosterone ที่สร้างมาจาก Leydig cells ที่อยู่ในลูกอัณฑะ การทำงานของ testosterone จะเป็นแบบ feedback mechanism เพื่อควบคุมการสร้างอสุจิและสร้างฮอร์โมน FSH, LH
การเปลี่ยนแปลงทางสรีรของร่างกายควบคุมการหลั่งฮอร์โมน(The physiological change control of hormone secretion)
ที่มา:http://www.lks.ac.th/bioweb/picbio/b72.JPG
การเปลี่ยนแปลงทางสรีรของร่างกาย (ระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงหรือต่ำ) จะเป็นตัวกระตุ้นหรือยับยั้งต่อมไร้ท่อให้สร้างและหลั่งฮอร์โมนออกมา ตัวอย่างเช่น กลุ่มเซลล์ในตับอ่อนเรียกว่า
beta–cells of islet of Langerhans ซึ่งทำหน้าที่เป็นต่อมไร้ท่อ ที่สร้างและหลั่งฮอร์โมน
insulin ออกมา
สารเคมีควบคุมการหลั่งฮอร์โมน (Chemical substance control of hormone secretion)
ที่มา:http://www.lks.ac.th/bioweb/picbio/b73.JPG
การเปลี่ยนแปลงการทำงานของสรีรของร่างกาย (ความดันเลือดต่ำ) ทำให้เกิดสภาวะที่ไปกระตุ้นเนื้อเยื่อที่ไม่ใช่ต่อมไร้ท่อ (Juxtaglomerular cells) ให้สร้างและปล่อยสารเคมี (renin) ออกมาสู่กระแสเลือด และ renin ถูกเปลี่ยนไปเป็น angiotensin ซึ่งไปกระตุ้นให้ต่อมหมวกไปชั้นนอก (adrenal cortex) หลั่งฮอร์โมน aldosterone ออกมาสู่กระแสเลือด ทำให้เกิดการดูดซึมกลับของ Na+ และน้ำจากหลอดไตตรงบริเวณ distal convoluted tubule เข้าสู่เส้นเลือดฝอยตรงบริเวณนั้น ทำให้ความดันเลือดสูงซึ่งจะไปยับยั้งการปล่อย renin ออกมา
ที่มา:http://www.lks.ac.th/bioweb/picbio/b74.JPG
สร้างโดย:
อาจารย์ที่ปรึกษา : อ.จุฑารัตน์ จริงธนสาร ผู้จัดทำ : นส.วิศัลยา ชินกาญจนโรจน์์