ในวันที่ 16-19 พฤศจิกายน 2552 นี้เยาวชนเทศบาลโกตาบารู อำเภอรามันจังหวัดยะลาได้เข้าอบรมในโครงการพัฒนาขีดความสามารถขององค์กรเยาวชนระดับอบต. 3 จังหวัดชายแดภาคใต้ เพื่อสันติสุข  นำทีมโดยนายอุสมาน บาหะประธานองค์กรเยาวชนรุ่นที่ 5 เยาวชนจำนวน 6 คน  พี่เลี้ยง 3คน จากครูกศน. และอบต. ที่มูลนิธิสุข-แก้ว แก้วแดง ตำบลลำพะยา อำเภอเมือง จังหวัดยะลา  ประกอบด้วย

1 . ชื่อนายอุสมาน บาเหะ

2. ชื่อนายมาหะมะ อาบูบากา

3. ชื่อนายอาสมิง ลาบือแบ4. ชื่อนายฮารีฟ อาเปาะอารี

5. ชื่อนายอุสมัน มะรอซี

6. ชื่อนายซูลัน ดามิ

7. ชื่อนายสมะแอ มะแซ

8. ชื่อนายแวบือราเเฮง  เปาะโน

9. ชื่อนางสาวนูรฮายาตี  แอบากอ

โครงการพัฒนาขีดความสามารถขององค์กรเยาวชระดับอบต. 3 จังหวัดชายแดภาคใต้ เพื่อสันติสุข มีการอบรม 4 วัน 3 คืน ด้วยกันจะมีการเรียนการสอนในรายวิชาต่างๆเพื่อจัดตั้งองค์กรเยาวชนระดับอบต.เช่น

1. การจัดองค์กร

2. การหากลุ่มสมาชิก

3. การเขียนโครงการ 4. การบริหารงบประมาณ 5. จิตสาธารณะ 6. อบต.ของเรา เป็นต้น  

วันแรกของการอบรมมีการจัดตั้งองค์กร ซึ่งจัดตั้งโดยมูลนิธิสุขแก้ว แก้วแดง เป็นองค์กรเยาวชนเทศบาลตำบลโกตาบารู มีรายละเอียดดังนี้

1 . ชื่อนายอุสมาน บาเหะ ประธาน

2.ชื่อนายมาหะมะ อาบูบากา รองประธาน

3.ชื่อนายอาสมิง ลาบือแบ  เลขานุการ   

หลังจากผ่านการอบรมกลุ่มเยาวชนแต่ละ อบต.กลับไปจัดตั้งองค์กร โดยทางมูลนิธิสุข-แก้ว แก้วแดงได้ออกแบบกิจกกรม เพื่อบริหารองค์กรให้เข็มแข็ง ผ่านกิจกรรม ศิลปะ วัฒนธรรมท้องถิ่นของตัวเอง เช่น ดีเกฮูลู อานาซีด รอเง็ง มโนราห์  เป็นต้น และที่สำคัญที่สุดในการดูแลศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่นเหล่านี้ คือ การเรียนรู้ ต้องเรียนรู้ก่อน ถึงจะดูแลวัฒนธรรมตนเองได้ เป็นที่มาของกิจกรรม 

“ องค์กรเยาวชนระดับ อบต. กับการเรียนรู้ในชุมชน “    

ดังนั้น การบริหารจัดการ การเรียนรู้ในชุมชน ขององค์กรเยาวชนระดับ อบต. มีความสำคัญเป็นอย่างมาก เป็นการฝึกกระบวนการเรียนรู้วัฒนธรรมท้องถิ่น การถ่ายทอดภูมิปัญญาของบรรพบุรุษ การเลือกกิจกรรมการแสดง การสรรหาครูภูมิปัญญาท้องถิ่น การเรียนการสอนในชุมชน ตลอดจนถึงการจัดการแสดง โครงการพัฒนาขีดความสามารถขององค์กรเยาวชนระดับ อบต. 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อสร้างสันติสุข เป็นโครงการที่สร้างองค์กรเยาวชนระดับ อบต. สามารถทำงานร่วมกับ อบต.ขดงตนเอง สร้างจิตสำนึกรักถิ่นฐานบ้านเกิด สร้างความรักสามัคคีในชุมชน สร้างความสุขในปลายด้ามขวานของประเทศ เฉิดเช่นในอดีตที่ผ่านมา  ร่วมกันสืบสานอนุรักษ์วัฒนธรรมท้องถิ่น  ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งมรดกวัฒนธรรมอันดีงามของประเทศไทยเราต่อไป  

1. ก่อนมาอบรม     

ก่อนมาอบรมผมได้รู้อะไรบางอย่างมาแล้วแต่ไม่มาก   สิ่งที่ผมรู้ก็คือไปอบรมที่มูลนิธิสุข-แก้ว   แก้วแดงแต่ไม่รู้ที่ไหนและวันไปวันกลับของการอบรม   แล้วก็ผมคิดว่ามูลนิธิสุข-แก้ว   แก้วแดงเป็นโรงแรม ไม่รู้ว่าอบรมเรื่องอะไร   เพื่ออะไร   เมื่อไหร่   และทำไม   จากนั้นผมคิดว่าอบรมในครั้งนี้เป็นเรื่องเกี่ยวต่างๆ ที่มักจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับเยาวชนหรือไม่ก็เหตุการณ์ความไม่สงบใน   3   จังหวัดชายแดนภาคใต้และในการอบรมครั้งนี้น่าจะไม่มีกิจกรรมต่างๆให้พวกเราเล่น   น่าจะเป็นการบรรยายเกี่ยวกับเรื่องที่เราอบรมมากกว่า   แล้วก็ไม่คิดว่าจะมีพี่เลี้ยวด้วยเพราะเรามีพี่เลี้ยงไปกับเราด้วยสุดท้ายผมคิดว่าหลังจากเสร็จการอบรมในครั้งนี้ผมคิดว่ากลับไปก็ไม่ทำอะไรพูดง่ายๆก็คือว่าจบในการอบรมของโครงการนี้

2. ระหว่างการอบรม

     แรกๆถึงสถานที่อบรมต่างกับผมคิดอย่างสิ้นเชิง   อย่างเช่นสถานที่ก่อนมาผมคิดว่าเป็นโรงแรมแต่ที่ไหนได้เป็นภูเขามีที่พักเล็กๆเป็นห้องธรรมดา   แต่ที่ผมรู้สึกแปลกใจก็มี   2   อย่างก็คือในการอบรมครั้งนี้มีสมาชิกผู้หญิงด้วย   และอบรมครั้งนี้ไม่ใช่อบรมเรื่องที่เคยอบรมมา   ณ   ที่อื่นๆ   แต่อบรมที่นี่อบรมเรื่องการทำโครงการระหว่างการอบรมผมรู้สึกปลื้มใจอย่างมากเพราะอบรมที่นี่ไม่เหมือนกับอบรม   ณ   ที่อื่นๆ   อบรมในครั้งนี้ผมได้ประโยชน์มาก   ได้ทั้งความรู้   ความสามัคคี   ความรักความผูกพันต่อเพื่อนและความสนุก   อบรมโครงการนี้ดีมากดีทั้งการอบรมทำโครงการ   การทำกิจกรรมเพราะการที่เราจะทำสิ่งเหล่านี้ได้ต้องทำหลายคน   ทำคนเดียวไม่ได้   การที่เราทำหลายๆคนเราก็ได้ความสามัคคีความรักความผูกพันซึ้งกันและกัน

 3. หลังการอบรม

ทางองค์เยาวชนเทศบาลตำบลโกตาบารูได้จัดการเรียนรู้เรื่องการทำเว็บบล็อกเพื่อที่จะไปดำเนินการต่อไป  ได้ศึกษาประวัติเมืองโกตาบารู

ข้อมูลทั่วไปของตำบลโกตาบารู1.      สภาพทั่วไป1.1  ประวัติความเป็นมาของชุมชน  รูปแบบการตั้งถิ่นฐาน    ประวัติของตำบลโกตาบารู  คำว่า  โกตา  หรือ กอตอ  ภาษามลายู  หมายถึง วัง  คำว่า บารู  ภาษามลายู  หมายถึง  ใหม่  คำว่า โกตาบารู  หรือ กอตอบารู หมายถึง  หัวเมือง วังใหม่  ความเดิมเมื่อครั้งสมัยที่ชาวมลายูปกครองตนเองจะมีหัวเมืองต่าง ๆ เช่น  หัวเมือง  ปัตตานี  หัวเมืองยาลอ  หรือเมืองยะลา  เมืองรามัน  และเมืองโกตาบารู  ก็เป็นหนึ่ง  ในบรรดา  เจ็ดหัวเมือง  ซึ่งจะมีเจ้าเมืองเป็นคนปกครองเมืองแต่เพียงผู้เดียว  ซึ่งในราชสมัยราชการที่ 5  บรรรดาหัวเมืองในแถบแดนมลายูต้องขึ้นตรงกับเมืองสยาม ราชการที่ 5  จึงได้แต่งตั้งให้เจ้าเมืองโกตาบารู  เป็นเจ้าพระยา   สืบทอดมาจนถึงลูกหลาน  จนมาถึงยุคสุดท้ายคือ  สมัยพระยารัตนภักดีราชบดินทร์วังษา  ในยุคสมัยของพระยารัตนภักดีจะเป็นสมัยที่เจริญที่สุด  จะมีราชพิธีสำคัญต่างๆ ของเมืองโกตาบารู มีขบวนช้างมากมาย โดยจะนำช้างที่เลี้ยงที่ทุ่งปาโล๊ะ  หรือ  ตำบลบาโงย  ในปัจจุบัน  และตำบลบาโงย  นี้แหละที่เจ้าเมืองโกตาบารู  ให้ใช้เป็นแดนประหาร  ในยุคสมัยนโยบาย  “สะโกะเสกอ” หรือสมัย คนละบาท  และปัจจุบัน  สุสานเจ้าเมืองเก่าและลูกหลานของเจ้าเมือง  ก็ยังมีให้เห็นอยู่ที่  หน้าสถานีตำรวจภูธรตำบลโกตาบารู  หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า  สุสานโต๊ะนิ  นั้นเอง1.2  ที่ตั้ง      ตำบลโกตาบารู  ตั้งอยู่ ณ ถนนโกตา - รามัน อำเภอรามัน  จังหวัดยะลา  ห่างจากอำเภอเมืองตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข  4063  ประมาณ  15  กิโลเมตร  และห่างจากอำเภอรามัน  ตามทางหลวงหมาย  4066  ประมาณ  10  กิโลเมตร  คิดเป็นพื้นที่  ร้อยละ  3.36  ของพื้นที่อ. รามัน หรือประมาณ 10,625 ไร่  ถือเป็นเขตเทศบาลตำบลโกตาบารู ทั้งตำบล1.3  อาณาเขตติดต่อ    ตำบลโกตาบารู  มีอาณาเขตติดต่อกับพื้นที่ใกล้เคียง  คือ     ทิศเหนือ  ติดต่อเขตหมู่ที่ 2  ต.บาโงย  อ.รามัน จ.ยะลา    ทิศใต้  ติดต่อภูเขาบือมัง ต.บือมัง และ ต. ยะต๊ะ  อ.รามัน จ.ยะลา    ทิศตะวันออก ติดต่อลำธารกือรีละหมู่ที่ 2 ต. กาลูปัง อ.รามัน   จ.ยะลา    ทิศตะวันตก  ติดต่อ ต.บุดี  อ.รามัน จ.ยะลา