• user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:5fea319c590f3ec6161a7edb2977ab2b' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '<!--paging_filter--><div style=\"text-align: center\">\n<span style=\"color: #ffffff\">.</span>\n</div>\n<div style=\"text-align: center\">\n<span style=\"color: #ffffff\">.</span>\n</div>\n<div style=\"text-align: center\">\n<span style=\"color: #ffffff\">.</span>\n</div>\n<div style=\"text-align: center\">\n<span style=\"color: #ffffff\">.</span>\n</div>\n<div style=\"text-align: center\">\n<span style=\"color: #ffffff\">.</span>\n</div>\n<div style=\"text-align: center\">\n<img border=\"0\" src=\"/files/u7190/Untitled-5.gif\" height=\"238\" width=\"500\" />\n</div>\n<div style=\"text-align: left\">\n<img border=\"0\" src=\"/files/u7190/17.gif\" align=\"left\" height=\"600\" width=\"85\" /><img border=\"0\" src=\"/files/u7190/17_1.gif\" align=\"right\" height=\"600\" width=\"85\" />\n</div>\n<div style=\"text-align: left\">\n</div>\n<div style=\"text-align: left\">\n</div>\n<div style=\"text-align: center\">\n<br />\n<strong><span style=\"color: #ea60a5\">อารยธรรมแคลเดียน</span></strong>\n</div>\n<div style=\"text-align: left\">\n<br />\n<span style=\"color: #89481a\"><strong>1. สถาปัตยกรรม</strong> </span>\n</div>\n<div style=\"text-align: left\">\n<span style=\"color: #89481a\"></span>\n</div>\n<div style=\"text-align: left\">\n<strong><br />\n<span style=\"color: #89481a\">          สถาปัตยกรรมของชาวแคลเดียนนั้นเจริญมากที่สุดในสมัยของพระเจ้าเนบูคัดเนซซาร์ มีดังนี้</span></strong>\n</div>\n<div style=\"text-align: left\">\n</div>\n<p><strong></strong></p>\n<div style=\"text-align: left\">\n<br />\n          <span style=\"color: #ea60a5\">1.1 สวนลอยแห่งบาบิโลน (The Hanging Garden of Babylon) สวนลอยนี้พระเจ้าเนบูคัดเนซซาร์ทรงกำหนดให้สร้างขึ้นเพื่อมอบให้กับมเหสีผู้เป็นเจ้าหญิงแห่งจักรวรรดิมีเดียน สวนนี้จะสร้างเป็นชั้น ๆ สูงขึ้นไป ในแต่ละชั้นจะปลูกไม้ดอกมากมาย ทำให้เวลามองไกล ๆ เห็นเป็นสวนลอยสูงขึ้นจากพื้นดิน ส่วนน้ำที่ใช้รดต้นไม้จะถูกลำเลียงมาจากแม่น้ำยูเฟรตีส จุดประสงค์ในการสร้างสวนลอยแห่งนี้เพื่อให้พระมเหสีคลายความคิดถึงบ้านเกิดของพระนาง นักโบราณคดีได้จัดให้สวนลอยแห่บาบิโลนเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคโบราณ</span>\n</div>\n<div style=\"text-align: left\">\n</div>\n<div style=\"text-align: left\">\n</div>\n<div style=\"text-align: left\">\n\n</div>\n<div style=\"text-align: center\">\n</div>\n<div style=\"text-align: center\">\n<img border=\"0\" src=\"/files/u7190/_____________________________________________2.jpg\" alt=\"ที่มา : http://atcloud.com/stories/31872\" align=\"right\" height=\"154\" width=\"235\" /><img border=\"0\" src=\"/files/u7190/61_MesopotamiaHangingGardens.jpg\" alt=\"ที่มา : http://home.comcast.net/~DiazStudents/whistory_units1.htm\" align=\"left\" height=\"170\" width=\"230\" />\n<div>\n\n</div>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<div style=\"text-align: center\">\n<span style=\"color: #ea60a5\"><strong>สวนลอยแห่งบาบิโลน (The Hanging Garden Of Babylon) \n<div style=\"text-align: center\">\n</div>\n<p style=\"text-align: left\">\n<strong><br />\n          <span style=\"color: #89481a\">1.2 ประตูอิชตาร์ (The Ishtar Gate) จุดประสงค์ในการสร้างเพื่อถวายแก่มหาเทวีอิชตาร์ (Ishtar) อันเป็นเทวีประจำเมือง ซึ่งชาวบาบิโลเนียเคารพนับถือเช่นเดียวกับเทพเจ้ามาร์ดุค ประตูนี้มีขนาดสูง 47 ฟุต สร้างประมาณ 604 562 B.C. สร้างจากวัสดุประเภทอิฐและเคลือบสีสวยงามมาก มีการแกะสลักเป็นภาพสัตว์ประหลาดที่เรียกว่า “กริฟฟิน” (Griffin) ซึ่งมีใบหน้าและลำตัวเป็นสิงโตแต่มีปีกเป็นนกอินทรีย์ นอกจากนี้ยังมีลวดลายรูปสัตว์ต่าง ๆ เช่น ม้า วัว สิงโต และมังกร ฯลฯ ประดับอยู่ทั่วไปเป็นระยะ ๆ ปัจจุบันกำแพงอิชต้าถูกเก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑ์เบอร์ลิน (State Museum of Berlin) ประเทศเยอรมัน</span></strong>\n</p>\n<div style=\"text-align: left\">\n</div>\n<p><strong> </strong></p></strong> \n<div style=\"text-align: center\">\n<strong><strong>\n<div style=\"text-align: left\">\n</div>\n<div style=\"text-align: left\">\n<img border=\"0\" src=\"/files/u7190/17_1.gif\" align=\"right\" height=\"600\" width=\"85\" /><br />\n<img border=\"0\" src=\"/files/u7190/17.gif\" align=\"left\" height=\"600\" width=\"85\" />\n</div>\n<div style=\"text-align: left\">\n<div style=\"text-align: center\">\n<img border=\"0\" src=\"/files/u7190/59_MesopotamiaIshtar.jpg\" alt=\"ที่มา : http://home.comcast.net/~DiazStudents/whistory_units1.htm\" height=\"211\" width=\"400\" /> \n</div>\n<p></p>\n<div style=\"text-align: center\">\n<span style=\"color: #89481a\">กำแพงอิชต้า (Ishtar Gate)</span> \n</div>\n<div style=\"text-align: left\">\n</div>\n<div style=\"text-align: left\">\n<br />\n         <span style=\"color: #ea60a5\">1.3 ซิกกูแรต (Ziggurat) ซิกกูแรตที่สร้างในสมัยของพระเจ้าเนบูคัดเนซซาร์นั้นเป็นซิกกูแรตที่ใหญ่ที่สุด สร้างขึ้นเพื่อถวายแก่มหาเทพเจ้ามาร์ดุค (Marduk) มีลักษณะเช่นเดียวกับซิกกูแรตของพวกเมโสโปเตเมีย กล่าวคือ เป็นชั้น 7 ชั้น ชั้นบนสุดเป็นลานว่าง ชาวเมโสโปเตเมียเชื่อกันว่าพวกเขาสามารถติดต่อกับมหาเทพได้บนชั้นสุดท้าย</span>\n</div>\n<div style=\"text-align: left\">\n<br />\n<span style=\"color: #89481a\">2. ดาราศาสตร์ </span>\n</div>\n<div style=\"text-align: left\">\n<br />\n<span style=\"color: #89481a\">          แคลเดียนเป็นผู้สืบทอดทางด้านดาราศาสตร์จากสุเมเรียนอย่างแท้จริง โดยผลงานที่พบคือ การคำนวณเวลาในรอบ 1 ปี ได้ใกล้เคียงกับปัจจุบันมากที่สุด คือ 1 ปี มี 365 วัน 6 ชั่วโมง 15 นาที 41 วินาที</span>\n</div>\n<div style=\"text-align: left\">\n<br />\n<span style=\"color: #ea60a5\">3. โหราศาสตร์ </span>\n</div>\n<div style=\"text-align: left\">\n<br />\n<span style=\"color: #ea60a5\"><span style=\"color: #89481a\">          </span>พระจะมีการกำหนดดวงดาวสำคัญทั้งหมด 7 ดวง คือ ดาวพุธ ดาวศุกร์ ดาวอังคาร ดาวพฤหัส ดาวเสาร์ ดวงอาทิตย์ และดวงจันทร์ นอกจากนี้พระยังใช้ดวงดาวในการพยากรณ์ชะตาชีวิตของมนุษย์อีกด้วย</span> \n</div>\n<p>\n<span style=\"color: #ffffff\">.</span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #ffffff\">.</span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #ffffff\"><span style=\"color: #ffffff\">.</span></span> \n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #ffffff\">. </span>\n</p>\n<div style=\"text-align: center\">\n<img border=\"0\" src=\"/files/u7190/Untitled-5_1.gif\" align=\"middle\" height=\"238\" width=\"500\" />\n</div>\n</div>\n<p></p></strong></strong>\n</div>\n<div>\n</div>\n<p></p></span>\n</div>\n</div>\n<p></p>\n', created = 1729542258, expire = 1729628658, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:5fea319c590f3ec6161a7edb2977ab2b' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.

อารยธรรมแคลเดียน

รูปภาพของ sss27134
.
.
.
.
.

อารยธรรมแคลเดียน

1. สถาปัตยกรรม

          สถาปัตยกรรมของชาวแคลเดียนนั้นเจริญมากที่สุดในสมัยของพระเจ้าเนบูคัดเนซซาร์ มีดังนี้


          1.1 สวนลอยแห่งบาบิโลน (The Hanging Garden of Babylon) สวนลอยนี้พระเจ้าเนบูคัดเนซซาร์ทรงกำหนดให้สร้างขึ้นเพื่อมอบให้กับมเหสีผู้เป็นเจ้าหญิงแห่งจักรวรรดิมีเดียน สวนนี้จะสร้างเป็นชั้น ๆ สูงขึ้นไป ในแต่ละชั้นจะปลูกไม้ดอกมากมาย ทำให้เวลามองไกล ๆ เห็นเป็นสวนลอยสูงขึ้นจากพื้นดิน ส่วนน้ำที่ใช้รดต้นไม้จะถูกลำเลียงมาจากแม่น้ำยูเฟรตีส จุดประสงค์ในการสร้างสวนลอยแห่งนี้เพื่อให้พระมเหสีคลายความคิดถึงบ้านเกิดของพระนาง นักโบราณคดีได้จัดให้สวนลอยแห่บาบิโลนเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคโบราณ
ที่มา : http://atcloud.com/stories/31872ที่มา : http://home.comcast.net/~DiazStudents/whistory_units1.htm

 

สวนลอยแห่งบาบิโลน (The Hanging Garden Of Babylon)


          1.2 ประตูอิชตาร์ (The Ishtar Gate) จุดประสงค์ในการสร้างเพื่อถวายแก่มหาเทวีอิชตาร์ (Ishtar) อันเป็นเทวีประจำเมือง ซึ่งชาวบาบิโลเนียเคารพนับถือเช่นเดียวกับเทพเจ้ามาร์ดุค ประตูนี้มีขนาดสูง 47 ฟุต สร้างประมาณ 604 562 B.C. สร้างจากวัสดุประเภทอิฐและเคลือบสีสวยงามมาก มีการแกะสลักเป็นภาพสัตว์ประหลาดที่เรียกว่า “กริฟฟิน” (Griffin) ซึ่งมีใบหน้าและลำตัวเป็นสิงโตแต่มีปีกเป็นนกอินทรีย์ นอกจากนี้ยังมีลวดลายรูปสัตว์ต่าง ๆ เช่น ม้า วัว สิงโต และมังกร ฯลฯ ประดับอยู่ทั่วไปเป็นระยะ ๆ ปัจจุบันกำแพงอิชต้าถูกเก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑ์เบอร์ลิน (State Museum of Berlin) ประเทศเยอรมัน

 


ที่มา : http://home.comcast.net/~DiazStudents/whistory_units1.htm 

กำแพงอิชต้า (Ishtar Gate) 

         1.3 ซิกกูแรต (Ziggurat) ซิกกูแรตที่สร้างในสมัยของพระเจ้าเนบูคัดเนซซาร์นั้นเป็นซิกกูแรตที่ใหญ่ที่สุด สร้างขึ้นเพื่อถวายแก่มหาเทพเจ้ามาร์ดุค (Marduk) มีลักษณะเช่นเดียวกับซิกกูแรตของพวกเมโสโปเตเมีย กล่าวคือ เป็นชั้น 7 ชั้น ชั้นบนสุดเป็นลานว่าง ชาวเมโสโปเตเมียเชื่อกันว่าพวกเขาสามารถติดต่อกับมหาเทพได้บนชั้นสุดท้าย

2. ดาราศาสตร์

          แคลเดียนเป็นผู้สืบทอดทางด้านดาราศาสตร์จากสุเมเรียนอย่างแท้จริง โดยผลงานที่พบคือ การคำนวณเวลาในรอบ 1 ปี ได้ใกล้เคียงกับปัจจุบันมากที่สุด คือ 1 ปี มี 365 วัน 6 ชั่วโมง 15 นาที 41 วินาที

3. โหราศาสตร์

          พระจะมีการกำหนดดวงดาวสำคัญทั้งหมด 7 ดวง คือ ดาวพุธ ดาวศุกร์ ดาวอังคาร ดาวพฤหัส ดาวเสาร์ ดวงอาทิตย์ และดวงจันทร์ นอกจากนี้พระยังใช้ดวงดาวในการพยากรณ์ชะตาชีวิตของมนุษย์อีกด้วย 

.

.

. 

มหาวิทยาลัยศรีปทุม ผู้ใหญ่ใจดี
 

 ช่วยด้วยครับ
นักเรียนที่สร้างบล็อก กรุณาอย่า
คัดลอกข้อมูลจากเว็บอื่นทั้งหมด
ควรนำมาจากหลายๆ เว็บ แล้ววิเคราะห์ สังเคราะห์ และเขียนขึ้นใหม่
หากคัดลอกทั้งหมด จะถูกดำเนินคดี
ตามกฎหมายจากเจ้าของลิขสิทธิ์
มีโทษทั้งจำคุกและปรับในอัตราสูง

ช่วยกันนะครับ 
ไทยกู๊ดวิวจะได้อยู่นานๆ 
ไม่ถูกปิดเสียก่อน

ขอขอบคุณในความร่วมมือครับ

อ่านรายละเอียด

ด่วน...... ขณะนี้
พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 
มีผลบังคับใช้แล้ว 
ขอให้นักเรียนและคุณครูที่ใช้งาน
เว็บ thaigoodview ในการส่งการบ้าน
ระมัดระวังการละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย
อ่านรายละเอียดที่นี่ครับ

 

สมาชิกที่ออนไลน์

ขณะนี้มี สมาชิก 0 คน และ ผู้เยี่ยมชม 422 คน กำลังออนไลน์