อารยธรรมสุเมเรียน(2)
อารยธรรมของชาวสุเมเรียน
7. สถาปัตยกรรม
สถาปัตยกรรมที่เด่นที่สุดคือ วิหารหอคอย หรือ ซิกกูแรท (Ziggurat) สร้างด้วยวัสดุจำพวกอิฐและไม้ มีลักษณะคล้ายปิรามิดของชาวอียิปต์โบราณ แต่ต่างกันตรงส่วนบนโดยซิกกูแรทนั้นจะเป็นพื้นราบคล้ายปิรามิดที่ตัดยอดออก ในระยะแรกซิกกูแรทนั้นมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้เป็นวิหารสำหรับพระเพื่อประกอบพิธีกรรมทางศาสนา ต่อมาซิกกูแรทนี้ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของพระราชวังของกษัตริย์ เช่น ซิกกูรัตที่เมืองอูร์ (Ur) เป็นต้น ซิกกูรัตที่ขุดพบได้ อาทิเช่น "The White Temple" พบที่เมืองอูรุค (Uruk) หรือวาร์กา (Warka) มีอายุประมาณ 3,500 3,000 ปี ก่อนคริสตกาล
8. ประติมากรรม
ส่วนใหญ่เป็นประติมากรรมแบบนูนสูง และลอยตัว โดยปรากฏในรูปของการรับใช้ศาสนาด้วยการปั้นรูปเทพเจ้า นอกจากนี้ยังมีภาพปั้นของคน สัตว์ ฉากการต่อสู้ อีกด้วย
ลักษณะเด่นในงานประติมากรรมของชาวสุเมเรียน คือ เน้นรูปทรงที่มีลักษณะเป็นแบบเรขาคณิตมากกว่าแบบสัจนิยม (Realistic) ส่วนใหญ่จะมีการสลักดวงตาให้ใหญ่มากเพื่อใช้สื่อสารกับเทพเจ้า เนื่องจากชาวสุเมเรียนมีความเชื่อที่ว่า ดวงตาคือหน้าต่างของวิญญาณ (Window of the soul) ถ้าเป็นรูปเทพเจ้าจะมีขนาดใหญ่ และนิยมทาสีดวงตา ส่วนบุคคลสำคัญจะมีขนาดใหญ่ ส่วนตัวประกอบจะมีขนาดเล็กลง มักนิยมใช้สีต่าง ๆ เข้ามาบ้างโดยเฉพาะสีทองและสีฟ้า
งานประติมากรรมที่สำคัญ มีดังนี้
- รูปสลักศีรษะผู้หญิง ขุดพบที่เมืองอูรุค (Uruk) มีอายุประมาณ 3,500 3,000 ปีก่อนคริสตกาล นักโบราณคดีสันนิษฐานว่า ดวงตาและคิ้วนั้นเดิมทำด้วยวัสดุทาสี ส่วนผมทำด้วยทองหรือทองแดง แต่สิ่งเหล่านี้หลุดหายไปหมด เหลือเพียงส่วนที่เป็นโครงหน้าและกะโหลกศีรษะเท่านั้น
- ที่วิหารอาบู (Abu Temple) และ เทลอัสมาร์ (Tell Asmar) มีหลายชิ้น เช่น ประติมากรรมแบบลอยตัว มีอายุประมาณ 2,700 2,500 ปีก่อนคริสตกาล นักโบราณคดีสันนิษฐานว่ามีทั้งรูปเทพเจ้า Abu (เทพเจ้าแห่งพืชผัก), รูปสลักมหามาตาเทวี รูปสลักของพระและบุคคลสำคัญ ฯลฯ รูปสลักเหล่านี้ทำจากยิบซัมผสมกับพวกแร่ไหม้ไฟ เช่น อัสฟัลต์ และปิโตรเลียม
- แพะมีปีกยืนใกล้ต้นไม้ (Billy Goat and Tree) เป็นงานประติมากรรมแบบลอยตัว ทำจากวัสดุพวกไม้ ทาสีทอง พบที่เมืองอูร์ (Ur) สร้างเมื่อประมาณปี 2,600 B.C. ปัจจุบันอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ในกรุงฟิลาเดลเฟีย