• user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:2402c233776cea1e7d837baf4b3e3f15' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '<!--paging_filter--><p align=\"center\">\n<iframe height=\"1\" scrolling=\"no\" width=\"1\" frameBorder=\"0\" src=\"/truehitsstat.php?pagename=เทคโนโลยีสารสนเทศ ชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น\" marginHeight=\"0\" marginWidth=\"0\"></iframe>\n</p>\n<p align=\"center\">\n<img border=\"0\" width=\"493\" src=\"/library/ipst/roomnet/roomnet46/IT46_4/logo.jpg\" height=\"59\" />\n</p>\n<p>\n<b><a href=\"/node/4042\"><img border=\"0\" width=\"60\" src=\"/files/u9/home.jpg\" height=\"60\" /></a> <a href=\"/node/40452\"><img border=\"0\" width=\"123\" src=\"/files/u9/sec01-002.gif\" height=\"35\" /></a></b>\n</p>\n<p>\n<strong><img border=\"0\" width=\"16\" src=\"/library/ipst/roomnet/roomnet46/IT46_2/cicon11.gif\" height=\"16\" /> หน่วยส่งออก</strong>\n</p>\n<p>\n             หน่วยส่งออกเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญและจำเป็นอย่างหนึ่ง ตัวอย่างเช่น  \n</p>\n<p>\n<strong>1. จอภาพ (monitor)</strong> มีลักษณะเป็นจอภาพเหมือนจอโทรทัศน์ทั่วไป การส่งออกของข้อมูลจะปรากฏบนจอภาพ ซึ่งแสดงได้ทั้งตัวอักษร ตัวเลข เครื่องหมายพิเศษ และยังสามารถแสดงรูปภาพได้ด้วย จอภาพ มี 2 แบบคือ ซีอาร์ที (Cathode Ray Tube : CRT) ใช้เทคโนโลยีของหลอดรังสีอิเล็กตรอน เช่นเดียวกับจอโทรทัศน์ในการทำให้เกิดภาพ และจอแบบแอลซีดี (Liquid Crystral Display : LCD) ใช้เทคโนโลยีของการบรรจุของเหลวไว้ภายในจอ เช่นเดียวกับหน้าปัดนาฬิกาในระบบตัวเลข การแสดงผลบนจอภาพจะแสดงด้วยจุดเล็กๆ ตามแนวนอนและแนวตั้ง แต่เดิมจอภาพแสดงผลได้เพียงสีเดียว พัฒนาการต่อมาทำให้การแสดงผลเป็นสีหลายสีได้ นอกจากนี้ยังมีความละเอียดมากขึ้น เช่น จอภาพที่ใช้กับคอมพิวเตอร์ในปัจจุบัน แสดงผลในภาวะกราฟิกได้อย่างน้อยในแนวนอน 1024 จุด ในแนวตั้ง 768 จุด และแสดงสีได้ถึงล้านสีขนาดของจอภาพจะวัดความยาวตามเส้นทแยงมุม จอภาพโดยทั่วไปจะมีขนาด 15 นิ้ว หรือ 17 นิ้ว การแสดงผลของจอภาพควบคุมโดยแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งอยู่ภายในเครื่องคอมพิวเตอร์  \n</p>\n<p>\n      ชนิดของจอภาพ มี 2 ชนิด\n</p>\n<p>\n<strong>จอภาพชนิด CRT</strong> \n</p>\n<p>\n<img border=\"0\" align=\"left\" width=\"190\" src=\"/files/u9/crt.jpg\" height=\"190\" />          จอภาพชนิดนี้ มีหลักการทำงานคล้ายเครื่องรับโทรทัศน์ คือ ยิงลำอิเล็กตรอนไปกระทบกับสารเรืองแสง Phosphor ที่ฉาบอยู่ที่ผิวจอภาพด้านในผ่าน &quot;หน้ากาก&quot; ซึ่งเป็นแผ่นโลหะมีรูอยู่ตามจุดของ Phosphor ทำให้เกิดแสงสีต่างๆ ขึ้นบนจอภาพตามแต่รูปแบบของสัญญาณภาพที่ส่งผ่านมาจาการ์ดแสดงผล<br />\n          ในท้องตลาดไปปัจจุบันยังคงนิยมใช้จอภาพชนิดนี้ เนื่องจากมีราคาถูก แต่มีข้อเสียคือ มีความหนาและน้ำหนักมาก โดยหน้าจอจะมีความโค้งทำให้เกิดการสะท้อนของแสงมากทำให้ปวดตาได้ง่าย แต่โดยรุ่นใหม่จะมีการออกแบบให้มีความแบนราบมากขึ้นได้แก่จอภาพตระกูล Trinitron ของโซนี่ เป็นต้น ซึ่งจอภาพประเภทนี้ จะให้ภาพที่มีความคมชัดและสว่างมากกว่า เดิม\n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\n<br />\n         <br />\n<strong>จอภาพชนิด LCD</strong>\n</p>\n<p>\n<img border=\"0\" align=\"left\" width=\"200\" src=\"/files/u9/lcd.jpg\" height=\"200\" />          จอภาพ LCD (Liquid Cystal isplay) เป็นจอภาพแบบแบนมีขนาดเล็กบางและน้ำหนักเบา มีหลักการทำงานคือ ภายในจะมีหลอดฟลูออเรสเซนต์  ทำหน้าที่ใช้แสงสว่างออกมาผ่านชั้นของผนึกเหลวที่เรียกว่า Liquid Crystal และผ่าน polarizer เพื่อให้แสงในแนวต่างๆ ผ่านมาตามการบิดตัวของแสงโดยผ่านฟิลเตอร์สีอีกชั้นหนึ่ง ทำให้เกิดเป็นจุดสีแดงต่อ ้ เนื่องกัน ออกมาเป็นภาพสีบนหน้าจอ<br />\n           สำหรับจอ LCD ในปัจจุบันมักเป็นแบบ TFT (Thin-Film Transistor) เพราะจะให้ภาพที่มีความสว่างสีสันสดใส และคมชัดกว่าจอ LCD แบบ STN  แต่เดิมจอภาพชนิดนี้จะมีใช้เฉพาะในเครื่องโน๊ตบุ๊ค แต่ปัจจุบันมีใช้กันในเครื่องแบบตั้งโต๊ะกันแล้ว โดยมีขนาดใหญ่ถึง 22&quot; หรือมากกว่า สำหรับเครื่องโน๊ตบุ๊คจะมีขนาดใหญ่สุดประมาณ 19&quot;<br />\n          ในท้องตลาดไปปัจจุบันยังคงนิยมใช้จอภาพชนิดนี้ เนื่องจากมีราคาถูก แต่มีข้อเสียคือ มีความหนาและน้ำหนักมาก โดยหน้าจอจะมีความโค้งทำให้เกิดการสะท้อนของแสงมากทำให้ปวดตาได้ง่าย แต่โดยรุ่นใหม่จะมีการออกแบบให้มีความแบนราบมากขึ้นได้แก่จอภาพตระกูล Trinitron ของโซนี่ เป็นต้น ซึ่งจอภาพประเภทนี้จะให้ภาพที่มีความคมชัดและสว่างมากกว่าเดิม\n</p>\n<p>\n<strong>2. เครื่องพิมพ์ (printer)</strong>  เครื่องพิมพ์ที่ใช้กับคอมพิวเตอร์มีหลายประเภทตามเทคโนโลยีการพิมพ์ เครื่องพิมพ์เป็นอุปกรณ์ส่งออกที่พิมพ์ลงบนกระดาษ เครื่องพิมพ์ที่ใช้กับคอมพิวเตอร์มีดังนี้  \n</p>\n<p>\n<img border=\"0\" align=\"left\" width=\"167\" src=\"/library/ipst/roomnet/roomnet46/IT46_4/clip0079.gif\" height=\"111\" /> <strong>เครื่องพิมพ์แบบจุด (dot matrix printer)</strong> เป็นเครื่องพิมพ์ที่มีหัวยิงเป็นเข็มขนาดเล็ก พุ่งไปชนแผ่นผ้าหมึก เพื่อให้หมึกติดบนกระดาษเป็นจุดเล็กๆ หลายๆ จุดเรียงกันเป็นตัวหนังสือหรือรูปภาพ หัวเข็มที่ใช้ยิงไปยังผ้าหมึกมีจำนวนหลายหัว โดยปกติใช้ขนาด 24 หัวเข็ม ซึ่งจัดวางเรียงกันในแนวตั้ง ทำให้ได้ตัวหนังสือที่ละเอียดพอควร \n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\n<strong><img border=\"0\" vspace=\"5\" align=\"left\" width=\"63\" src=\"/library/ipst/roomnet/roomnet46/IT46_4/clip0047.gif\" hspace=\"5\" height=\"63\" />เครื่องพิมพ์เลเซอร์ (laser printer)</strong> เป็นเครื่องพิมพ์ที่ให้ความคมชัดและความละเอียดสูง การพิมพ์จะใช้หลักการทางแสง ปกติมีความละเอียดไม่น้อยกว่า 600 จุดต่อนิ้ว เครื่องพิมพ์เลเซอร์จึงเป็นเครื่องพิมพ์ที่เหมาะกับงานพิมพ์ที่ต้องการคุณภาพ พัฒนาการทางเทคโนโลยีทำให้เครื่องพิมพ์ชนิดนี้ได้รับความนิยมสูงขึ้น เพราะเมื่อเทียบประสิทธิภาพต่อราคาแล้วเครื่องพิมพ์ชนิดนี้เหมาะที่จะใช้ในสำนักงาน แต่ไม่สามารถพิมพ์สำเนากระดาษคาร์บอนได้ \n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\n<strong><img border=\"0\" align=\"left\" width=\"150\" src=\"/library/ipst/roomnet/roomnet46/IT46_4/clip0081.jpg\" height=\"116\" /> เครื่องพิมพ์แบบพ่นหมึก (inkjet printer)</strong> เป็นเครื่องพิมพ์ที่ใช้วิธีการพ่นหมึกและผสมสีจากแม่สีสามสีคือแดง เหลืองและน้ำเงิน โดยจะผสมสีให้ได้สีตามความต้องการและพ่นหมึกเพื่อให้ติดบนกระดาษ   ในปัจจุบันเครื่องพิมพ์แบบพ่นหมึกเป็นที่นิยมกันมาก เนื่องจากสามารถพิมพ์รูปภาพออกมาเป็นสีที่สวยงาม\n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\n<strong><img border=\"0\" align=\"left\" width=\"73\" src=\"/library/ipst/roomnet/roomnet46/IT46_4/clip0043.gif\" height=\"83\" />เครื่องพิมพ์รายบรรทัด (line printer)</strong> เครื่องพิมพ์ชนิดนี้มีความเร็วในการพิมพ์สูงมาก สามารถพิมพ์ได้หลายร้อยบรรทัดต่อนาที กล่าวคือ มีความเร็วในการพิมพ์ได้ถึง 2000 บรรทัดต่อนาที ลักษณะการพิมพ์มีหลายแบบ บางแบบใช้พิมพ์ด้วยแถบโซ่ตัวอักษรที่หมุนอยู่ และมีคันเคาะตัวอักษรในตำแหน่งที่กำหนด บางแบบใช้หัวยิงแบบจุด แต่มีจำนวนหัวยิงเป็นจำนวนมากเพื่อให้พิมพ์ได้เร็ว เครื่องพิมพ์ชนิดนี้จึงเหมาะกับศูนย์คอมพิวเตอร์ที่ต้องพิมพ์รายงานเป็นจำนวนมาก และพิมพ์อย่างต่อเนื่อง\n</p>\n', created = 1714804542, expire = 1714890942, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:2402c233776cea1e7d837baf4b3e3f15' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.

หน่วยส่งออก

รูปภาพของ ssspoonsak

หน่วยส่งออก

             หน่วยส่งออกเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญและจำเป็นอย่างหนึ่ง ตัวอย่างเช่น  

1. จอภาพ (monitor) มีลักษณะเป็นจอภาพเหมือนจอโทรทัศน์ทั่วไป การส่งออกของข้อมูลจะปรากฏบนจอภาพ ซึ่งแสดงได้ทั้งตัวอักษร ตัวเลข เครื่องหมายพิเศษ และยังสามารถแสดงรูปภาพได้ด้วย จอภาพ มี 2 แบบคือ ซีอาร์ที (Cathode Ray Tube : CRT) ใช้เทคโนโลยีของหลอดรังสีอิเล็กตรอน เช่นเดียวกับจอโทรทัศน์ในการทำให้เกิดภาพ และจอแบบแอลซีดี (Liquid Crystral Display : LCD) ใช้เทคโนโลยีของการบรรจุของเหลวไว้ภายในจอ เช่นเดียวกับหน้าปัดนาฬิกาในระบบตัวเลข การแสดงผลบนจอภาพจะแสดงด้วยจุดเล็กๆ ตามแนวนอนและแนวตั้ง แต่เดิมจอภาพแสดงผลได้เพียงสีเดียว พัฒนาการต่อมาทำให้การแสดงผลเป็นสีหลายสีได้ นอกจากนี้ยังมีความละเอียดมากขึ้น เช่น จอภาพที่ใช้กับคอมพิวเตอร์ในปัจจุบัน แสดงผลในภาวะกราฟิกได้อย่างน้อยในแนวนอน 1024 จุด ในแนวตั้ง 768 จุด และแสดงสีได้ถึงล้านสีขนาดของจอภาพจะวัดความยาวตามเส้นทแยงมุม จอภาพโดยทั่วไปจะมีขนาด 15 นิ้ว หรือ 17 นิ้ว การแสดงผลของจอภาพควบคุมโดยแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งอยู่ภายในเครื่องคอมพิวเตอร์  

      ชนิดของจอภาพ มี 2 ชนิด

จอภาพชนิด CRT 

          จอภาพชนิดนี้ มีหลักการทำงานคล้ายเครื่องรับโทรทัศน์ คือ ยิงลำอิเล็กตรอนไปกระทบกับสารเรืองแสง Phosphor ที่ฉาบอยู่ที่ผิวจอภาพด้านในผ่าน "หน้ากาก" ซึ่งเป็นแผ่นโลหะมีรูอยู่ตามจุดของ Phosphor ทำให้เกิดแสงสีต่างๆ ขึ้นบนจอภาพตามแต่รูปแบบของสัญญาณภาพที่ส่งผ่านมาจาการ์ดแสดงผล
          ในท้องตลาดไปปัจจุบันยังคงนิยมใช้จอภาพชนิดนี้ เนื่องจากมีราคาถูก แต่มีข้อเสียคือ มีความหนาและน้ำหนักมาก โดยหน้าจอจะมีความโค้งทำให้เกิดการสะท้อนของแสงมากทำให้ปวดตาได้ง่าย แต่โดยรุ่นใหม่จะมีการออกแบบให้มีความแบนราบมากขึ้นได้แก่จอภาพตระกูล Trinitron ของโซนี่ เป็นต้น ซึ่งจอภาพประเภทนี้ จะให้ภาพที่มีความคมชัดและสว่างมากกว่า เดิม

 


        
จอภาพชนิด LCD

          จอภาพ LCD (Liquid Cystal isplay) เป็นจอภาพแบบแบนมีขนาดเล็กบางและน้ำหนักเบา มีหลักการทำงานคือ ภายในจะมีหลอดฟลูออเรสเซนต์  ทำหน้าที่ใช้แสงสว่างออกมาผ่านชั้นของผนึกเหลวที่เรียกว่า Liquid Crystal และผ่าน polarizer เพื่อให้แสงในแนวต่างๆ ผ่านมาตามการบิดตัวของแสงโดยผ่านฟิลเตอร์สีอีกชั้นหนึ่ง ทำให้เกิดเป็นจุดสีแดงต่อ ้ เนื่องกัน ออกมาเป็นภาพสีบนหน้าจอ
           สำหรับจอ LCD ในปัจจุบันมักเป็นแบบ TFT (Thin-Film Transistor) เพราะจะให้ภาพที่มีความสว่างสีสันสดใส และคมชัดกว่าจอ LCD แบบ STN  แต่เดิมจอภาพชนิดนี้จะมีใช้เฉพาะในเครื่องโน๊ตบุ๊ค แต่ปัจจุบันมีใช้กันในเครื่องแบบตั้งโต๊ะกันแล้ว โดยมีขนาดใหญ่ถึง 22" หรือมากกว่า สำหรับเครื่องโน๊ตบุ๊คจะมีขนาดใหญ่สุดประมาณ 19"
          ในท้องตลาดไปปัจจุบันยังคงนิยมใช้จอภาพชนิดนี้ เนื่องจากมีราคาถูก แต่มีข้อเสียคือ มีความหนาและน้ำหนักมาก โดยหน้าจอจะมีความโค้งทำให้เกิดการสะท้อนของแสงมากทำให้ปวดตาได้ง่าย แต่โดยรุ่นใหม่จะมีการออกแบบให้มีความแบนราบมากขึ้นได้แก่จอภาพตระกูล Trinitron ของโซนี่ เป็นต้น ซึ่งจอภาพประเภทนี้จะให้ภาพที่มีความคมชัดและสว่างมากกว่าเดิม

2. เครื่องพิมพ์ (printer)  เครื่องพิมพ์ที่ใช้กับคอมพิวเตอร์มีหลายประเภทตามเทคโนโลยีการพิมพ์ เครื่องพิมพ์เป็นอุปกรณ์ส่งออกที่พิมพ์ลงบนกระดาษ เครื่องพิมพ์ที่ใช้กับคอมพิวเตอร์มีดังนี้  

 เครื่องพิมพ์แบบจุด (dot matrix printer) เป็นเครื่องพิมพ์ที่มีหัวยิงเป็นเข็มขนาดเล็ก พุ่งไปชนแผ่นผ้าหมึก เพื่อให้หมึกติดบนกระดาษเป็นจุดเล็กๆ หลายๆ จุดเรียงกันเป็นตัวหนังสือหรือรูปภาพ หัวเข็มที่ใช้ยิงไปยังผ้าหมึกมีจำนวนหลายหัว โดยปกติใช้ขนาด 24 หัวเข็ม ซึ่งจัดวางเรียงกันในแนวตั้ง ทำให้ได้ตัวหนังสือที่ละเอียดพอควร 

 

 

 

เครื่องพิมพ์เลเซอร์ (laser printer) เป็นเครื่องพิมพ์ที่ให้ความคมชัดและความละเอียดสูง การพิมพ์จะใช้หลักการทางแสง ปกติมีความละเอียดไม่น้อยกว่า 600 จุดต่อนิ้ว เครื่องพิมพ์เลเซอร์จึงเป็นเครื่องพิมพ์ที่เหมาะกับงานพิมพ์ที่ต้องการคุณภาพ พัฒนาการทางเทคโนโลยีทำให้เครื่องพิมพ์ชนิดนี้ได้รับความนิยมสูงขึ้น เพราะเมื่อเทียบประสิทธิภาพต่อราคาแล้วเครื่องพิมพ์ชนิดนี้เหมาะที่จะใช้ในสำนักงาน แต่ไม่สามารถพิมพ์สำเนากระดาษคาร์บอนได้ 

 

 เครื่องพิมพ์แบบพ่นหมึก (inkjet printer) เป็นเครื่องพิมพ์ที่ใช้วิธีการพ่นหมึกและผสมสีจากแม่สีสามสีคือแดง เหลืองและน้ำเงิน โดยจะผสมสีให้ได้สีตามความต้องการและพ่นหมึกเพื่อให้ติดบนกระดาษ   ในปัจจุบันเครื่องพิมพ์แบบพ่นหมึกเป็นที่นิยมกันมาก เนื่องจากสามารถพิมพ์รูปภาพออกมาเป็นสีที่สวยงาม

 

 

 

เครื่องพิมพ์รายบรรทัด (line printer) เครื่องพิมพ์ชนิดนี้มีความเร็วในการพิมพ์สูงมาก สามารถพิมพ์ได้หลายร้อยบรรทัดต่อนาที กล่าวคือ มีความเร็วในการพิมพ์ได้ถึง 2000 บรรทัดต่อนาที ลักษณะการพิมพ์มีหลายแบบ บางแบบใช้พิมพ์ด้วยแถบโซ่ตัวอักษรที่หมุนอยู่ และมีคันเคาะตัวอักษรในตำแหน่งที่กำหนด บางแบบใช้หัวยิงแบบจุด แต่มีจำนวนหัวยิงเป็นจำนวนมากเพื่อให้พิมพ์ได้เร็ว เครื่องพิมพ์ชนิดนี้จึงเหมาะกับศูนย์คอมพิวเตอร์ที่ต้องพิมพ์รายงานเป็นจำนวนมาก และพิมพ์อย่างต่อเนื่อง

สร้างโดย: 
ครูพูนศักดิ์ สักกทัตติยกุล โรงเรียนสตรีศรีสุริโยทัย กรุงเทพมหานคร

มหาวิทยาลัยศรีปทุม ผู้ใหญ่ใจดี
 

 ช่วยด้วยครับ
นักเรียนที่สร้างบล็อก กรุณาอย่า
คัดลอกข้อมูลจากเว็บอื่นทั้งหมด
ควรนำมาจากหลายๆ เว็บ แล้ววิเคราะห์ สังเคราะห์ และเขียนขึ้นใหม่
หากคัดลอกทั้งหมด จะถูกดำเนินคดี
ตามกฎหมายจากเจ้าของลิขสิทธิ์
มีโทษทั้งจำคุกและปรับในอัตราสูง

ช่วยกันนะครับ 
ไทยกู๊ดวิวจะได้อยู่นานๆ 
ไม่ถูกปิดเสียก่อน

ขอขอบคุณในความร่วมมือครับ

อ่านรายละเอียด

ด่วน...... ขณะนี้
พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 
มีผลบังคับใช้แล้ว 
ขอให้นักเรียนและคุณครูที่ใช้งาน
เว็บ thaigoodview ในการส่งการบ้าน
ระมัดระวังการละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย
อ่านรายละเอียดที่นี่ครับ

 

สมาชิกที่ออนไลน์

ขณะนี้มี สมาชิก 0 คน และ ผู้เยี่ยมชม 463 คน กำลังออนไลน์