บทคัดย่อ การวิจัยนี้มีจุดมุ่งหมายของการวิจัย 3 ประการคือ 1) เพื่ออธิบายและทำนายพฤติกรรมการรับสื่ออินเทอร์เน็ตอย่างมีวิจารณญาณ ด้วยตัวแปรปัจจัยภายใน-ภายนอก ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ในโรงเรียนมัยธยมวัดหนองแขม 2) เพื่อศึกษาปฏิสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยภายใน-ภายนอก ที่มีผลต่อพฤติกรรมการรับสื่ออินเทอร์เน็ตอย่างมีวิจารณญาณ 3) เพื่อเปรียบเทียบพฤติกรรมการรับสื่ออินเทอร์เน็ตอย่างมีวิจารณญาณระหว่างนักเรียนที่มีเพศและคะแนนผลการเรียนเฉลี่ยสะสมต่างกันกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยคือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ในโรงเรียนมัธยมวัดหนองแขม จำนวน 50 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลในการวิจัยครั้งนี้ได้แก่ แบบสอบถามเกี่ยวกับรายละเอียด ส่วนตัวของผู้ตอบแบบสอบถามและแบบวัดตัวแปรต่างๆ ได้แก่ พฤติกรรมการรับสื่ออินเทอร์เน็ตอย่างมีวิจารณญาณ การคิดอย่างมีเหตุผล การควบคุมตนเอง ความรับผิดชอบต่อสังคม เจตคติต่อพฤติกรรมการรับสื่ออินเทอร์เน็ตอย่างมีวิจารณญาณ การได้รับตัวแบบจากครอบครัว การได้รับตัวแบบจากเพื่อน การได้รับตัวแบบจากครู การได้รับการสนับสนุนทางสังคมจากครอบครัว การได้รับการสนับสนุนทางสังคมจากเพื่อน การได้รับการสนับสนุนทางสังคมจากครู และการได้รับการสนับสนุนทางสังคมจากสื่อ การวิเคราะข้อมูลใช้สถิติพื้นฐาน การทดสอบค่าที การวิเคราะห์ความแปรปรวนแบบสองทาง (Two-way Analysis of Variance) และการวิเคราะห์ถดถอยพหุคูณแบบเพิ่มตัวแปรทีละตัว (Stepwise Multiple Regression Analysis)
ผลการวิจัยพบว่า
1. ตัวแปรวิจัยปัจจัยภายใน ซึ่งได้แก่ การคิดอย่างมีเหตุผล ความรับผิดชอบต่อสังคม ตัวแปรปัจจัยภายนอก ซึ่งได้แก่ การได้รับตัวแบบจากเพื่อน การได้รับการสนับสนุนทางสังคมจากครูและการได้รับการสนับสนุนทางสังคมจากสื่อ สามารถร่วมกันทำ นายพฤติกรรมการรับสื่ออินเทอร์เน็ตอย่างมีวิจารณญาณ ได้ร้อยละ 39.00
2. พบปฏิสัมพันธ์ระหว่างการควบคุมตนเองและการได้รับตัวแบบจากครอบครัวที่ส่งผลต่อพฤติกรรมการรับสื่ออินเทอร์เน็ตอย่างมีวิจารณญาณ ของนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 4 ในโรงเรียนมัธยมวัดหนองแขม คือ ในกลุ่มนักเรียนที่มีการควบคุมตนเองมาก นักเรียนที่ได้รับตัวแบบจากครอบครัวมากมีพฤติกรรมการรับสื่ออินเทอร์เน็ตอย่างมีวิจารณญาณมากกว่านักเรียนที่ได้รับตัวแบบจากครอบครัวน้อย อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05
3. นักเรียนที่มีภูมิหลังแตกต่างกัน มีพฤติกรรมการรับสื่ออินเทอร์เน็ตอย่างมีวิจารณญาณแตกต่างกัน ได้แก่
3.1 นักเรียนหญิงมีพฤติกรรมการรับสื่ออินเทอร์เน็ตอย่างมีวิจารณญาณมากกว่านักเรียนชาย อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05
3.2 นักเรียนที่มีคะแนนผลการเรียนเฉลี่ยสะสมมาก มีพฤติกรรมการรับสื่ออินเทอร์เน็ตอย่างมีวิจารณญาณมากกว่านักเรียนที่มีคะแนนผลการเรียนเฉลี่ยสะสมน้อย อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05