ส่งงานครูสายพิน โรงเรียนแม่ลาววิทยาคม เลขที่ 17 ม 6/1 งานที่ 2
งานครั้งที่ 2 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/1
การวิเคราะห์คุณค่าของวัฒนธรรมท้องถิ่น
การวิเคราะห์คุณค่าของวัฒนธรรมท้องถิ่นภาคเหนือ
ตอนที่ ๑ คำชี้แจง ให้นักเรียนร่วมกันวิเคราะห์วัฒนธรรมท้องถิ่นในภาคเหนือตามหัวข้อที่กำหนดให้
๑. การทำบุญทอดผ้าป่าแถว
บริเวณแหล่งวัฒนธรรม : ในเขตตัวอำเภอและอำเภอรอบนอกของจังหวัดกำแพงเพชร….
ลักษณะของวัฒนธรรม: ในวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 12 ในเวลา 19.00 น. ชาวบ้านจะนำองค์ผ้าป่าเข้าวัด นำผ้าพาดใต้กิ่งไม้พอถึงเวลามรรคนายกจะป่าวร้องให้เจ้าของผ้าไปจับสลากรายนามพระภิกษุเมื่อได้ชื่อแล้วเจ้าภาพแล้วจะนำชื่อมากลัดติดกับผ้าที่ห้อยอยู่ใต้กิ่งไม้ของตนและพากันไปหลบอยู่ในเงามืดเผ้าดูด้วยความสงบว่าพระภิกษุใดจะมาชักผ้าป่าของตน เมื่อพระภิกษุชักผ้าป่าเรียบร้อยแล้วพระภิกษุทุกรูปจะไปนั่งรวมกัน แล้วให้ศีลพระพุทธมนต์ อวยชัยให้พร เมื่อเสร็จสิ้น มหรสพก็จะเริ่มทันที
คุณค่าของวัฒนธรรม : พุทธศาสนิกชนได้ใกล้ชิดศาสนามากขึ้น
๒. ประเพณีเลี้ยงข้าวแลงขันโตก หรือ กิ๋นข้าวแลงขันโตก
บริเวณแหล่งวัฒนธรรม :ภาคเหนือตอนบน
ลักษณะของวัฒนธรรม : เป็นงานเลี้ยงอาหารเย็นแบบ หรูหราของชาวเหนือ โดยเจ้าของบ้านอละแขกจะแต่งกายแบบล้านนา ซึ่งจะมีขบวนแห่ขันโตกแห่ น้ำหน้าและกับข้าวที่เตรียมไว้ทั้งหมดก็เป็นอาหารของทางภาคเหนือ
คุณค่าของวัฒนธรรม : ทำให้เกิดความกลมเกลียวใน ครอบครัว หมู่ญาติ และคนรู้จักมากขึ้น และเป็นการอนุรักษ์วัฒนธรรมไทย
๓. ทำบุญตานก๋วยสลาก หรือ กิ๋นก๋วยสลาก
บริเวณแหล่งวัฒนธรรม : ทางภาคเหนือของไทย
ลักษณะของวัฒนธรรม : ทำในช่วง ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 ถึง แรม 15 ค่ำ เดือน 12 โดยในช่วงนี้ชาวบ้านมักว่างจากงาน และจะมีวันแรก ที่ เรียกหว่า วันดา ซึ่งผู้หญิงตจะอยู่บ้านเพื่อเตรียมงาน และเตรียมกับข้าว ขนม ฯลฯ และก๋วยสลากจะมี 2 ชนิด 1 )เป็นก๋วยเล็กจะมียอดเงินไม่มากนัก 2)เป็นก๋วยสลากโจ้ก จะมียอดเงิน มากตามกำลังศรัทธา
คุณค่าของวัฒนธรรม : เป็นการทำบุญ ทำให้จิตใจของผู้ที่ได้ทำแล้ว ผ่องใส และมีความสุข
๔. งานบวชลูกแก้ว หรือ ปอยส่างลอง
บริเวณแหล่งวัฒนธรรม : จังหวัดแม่ฮ่องสอน
ลักษณะของวัฒนธรรม: เป็นงานที่คนสมัยก่อนจัดขึ้นเพื่อให้บุตรหลานของตนได้ศึกษาพระธรรม วันแรก นำเด็กที่บวชไปเข้าพิธีโกนแต่ไม่โกนคิ้ว แต่งหน้าทาปาก สวมเครื่องประดับให้สวยงาม ประดับด้วยมวยผมของบรรพบุรุษอย่างสวยงาม และนำเด็กที่เรียกว่า ส่างลอย ไปขอขมาตามบ้าน ญาติผู้ใหญ่ที่นับถือ วันที่ 2 มีการแห่ส่างลองไปกับเครื่องไทยทานไปตามถนนต่างๆ โดยขี่ม้า หรือ คอคน วันที่ 3 จะแห่ตามถนน และไปรวมตัวที่วัด
คุณค่าของวัฒนธรรม : ทำให้เด็กสมัยใหม่ได้ใกล้ชิดกับศาสนามากขึ้น
๕. งานสมโภชพระพุทธชินราช
บริเวณแหล่งวัฒนธรรม : จังหวัดพิษณุโลก
ลักษณะของวัฒนธรรม: เมื่อพระมหากษัตริย์เสด็จมานมัสการพระพุทธชินราชแล้ว ทรงโปรดเกล้าฯ ให้มีงานฉลองสมโภชพระพุทธชินราช ๓ วัน ๕ วันและ ๗ วัน ต่อมาทางจังหวัดพิษณุโลกได้ริเริ่มกำหนดเป็นงานประจำปีขึ้น เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๗๗ โดยกำหนดเอาวันเพ็ญเดือนสามเป็นต้นไปมีการฉลอง ๗ วัน ๗ คืน เพื่อให้ประชาชนได้มานมัสการพระพุทธชินราช เพื่อเป็นสิริมงคล และพักผ่อนหย่อนใจด้วยการชมมหรสพ เลือกซื้อสินค้าพื้นบ้านจากจังหวัดพิษณุโลกและจังหวัดต่าง ๆ กลับบ้านไปเป็น ที่ระลึกและใช้ในครอบครัว การจัดงานสมโภชมีพิธีทางศาสนา มีมหรสพทั้งดนตรี ภาพยนตร์ ลิเก และการละเล่นพื้นเมือง
คุณค่าของวัฒนธรรม :เป็นการพักผ่อนจิตใจโดยการเข้าวัดทำให้เกิดความรักในศาสนาและประเพณี
ตอนที่ ๒ คำชี้แจง ให้นักเรียนแสวงหาความรู้และภาพประกอบของวัฒนธรรมท้องถิ่นในภาคเหนือที่ตนสนใจ
และนำมาวิเคราะห์ตามหัวข้อที่กำหนด ดังนี้
๑. ชื่อวัฒนธรรม : แห่สลุงหลวง
๒. เป็นวัฒนธรรมของ: จังหวัดลำปาง
๓. ลักษณะสำคัญ : ก่อนวันสงกรานต์ คือในวันที่ 12 เมษายน ขาวลำปางจะจัดขบวนแห่งที่เรียกว่า สลุงหลวง หรือขันเงินใบใหญ่ นำน้ำจากแหล่งน้ำสำคัญไปสรงพระเจ้าแก้ว วัดพระธาตุลำปางหลวง ที่อัญเชิญมาให้ประชาชนได้ร่วมกันสรงน้ำในช่วงวันขึ้นปีใหม่ไทย
๔. เป็นวัฒนธรรมที่มีคุณค่า: ทำให้คนในสังคมมีความรักใคร่สามัคคีกันมากขึ้น
คำชี้แจง ให้นักเรียนร่วมกันวิเคราะห์วัฒนธรรมท้องถิ่นในภาคกลางตามหัวข้อที่กำหนดให้
๑.ประเพณี รับบัวโยนบัว
บริเวณแหล่งวัฒนธรรม :สมุทรปราการ
ลักษณะของวัฒนธรรม :ทุกวันขึ้น 14 ค่ำ เดือน 11 ชาวบางพลีจะนิมนต์หลวงพ่อโต ขึ้นเรือ แล่นไปตามแม่น้ำเพื่อให้ชาวบ้านได้นมัสการกันริมคลองแล้วชาวบ้านก็จะนำดอกบัวที่เด็ดไว้นั้นโยนเบาๆขึ้นบนเรือของหลวงพ่อ
คุณค่าของวัฒนธรรม :ทำให้ชาวบ้านมีความตระหนักถึงความสำคัญของศาสนา
๒.ประเพณี การทำขวัญข้าว
บริเวณแหล่งวัฒนธรรม: ภาคกลาง
ลักษณะของวัฒนธรรม: นิยมทำกันในวัน แรม 1 ค่ำ เดือน 11 ผู้ที่จะเรียกขวัญ เป็นผู้หญิงซึ่งจะแต่งกายสวยงามในที่นาของตน ก็จะปักเรือนขวัญข้าวลงในนา จากนนั้นนำผ้าซิ่นไปพาดต้นข้าว เอา ขนมนมเนย ของเค็ม เครื่องประดับของหอมต่างๆ ฯลฯ เหล่นนั้นลงไปในเรือนขวัญข้าวจากนั้นจุดธูป 8 ดอก เทียน 1 เล่ม และนั่งพนมมือ เรียกขวัญข้าว พอเสร็จก็เก็บของมีค่ากลับบ้านของตนไป
คุณค่าของวัฒนธรรม : ชาวบ้านรู้คุณค่าของข้าวที่ตนเองกิน
๓.ประเพณี การบูชารอยพระพุทธบาท
บริเวณแหล่งวัฒนธรรม: จังหวัดสระบุรี
ลักษณะของวัฒนธรรม: ช่วงขึ้น 1 ค่ำ –แรม 1 ค่ำ เดือน3 ,ขึ้น 1 ค่ำ เดือน 4 – แรม 1 ค่ำ เดือน 4 ชาวบ้านทั่วทุกสารทิศจะมานมัสการรอยพระพุทธบาทในมณฑป
คุณค่าของวัฒนธรรม : เป็นการทำบุญทำให้ประชาชนได้ทำกิจกรรมเกี่ยวกับศาสนาได้มากขึ้น
๔.ประเพณี การทิ้งกระจาด
บริเวณแหล่งวัฒนธรรม : สุพรรณบุรี
ลักษณะของวัฒนธรรม : พิธีทิ้งกระจาดนิยมกระทำกันในเทศกาลกินเจ และในพิธีกงเต็ก พิธีทิ้งกระจาดในงานกงเต็กจะมีการจัดทำรูปขนาดใหญ่เรียกว่า “ไต้ซือเอี๊ย”ซึ่งบนศีรษะมีรูปพระกวนอิม ซึ่งเป็นพระโพธิสัตว์แบ่งภาคมาเกิดเพื่อทำหน้าที่ดูแลมิให้พวกปีศาจแย่งชิงเครื่องเซ่น การประกอบพิธีที่ปฏิบัติกันทั่วไปนั้นจะมีการเชิญเจ้าพ่อ เจ้าแม่ เจ้าปู ที่มาจากที่ต่าง ๆ มายังโรงพิธีและเชิญกระถางธูปจากศาลเจ้าไปร่วมพิธีด้วย การทิ้งกระจาดแบ่งออกได้สองอย่าง คือ
การทิ้งกระจาดฟ้า ซึ่งกระทำโดยจัดสิ่งของที่จะทิ้งไว้บนที่สูงแล้วโยนทิ้งสิ่งของบางอย่างลงมา โยนทิ้งไม้ติ้วมีเบอร์บ้าง อีกอย่างหนึ่งคือการทิ้งกระจาดดิน
เป็นการกำหนดภายหลังต่อจากการทิ้งกระจาดฟ้าแล้ว 10 วัน กระทำโดยจัดสิ่งของวางทิ้งไว้บนดินเพื่อเป็นการทิ้งให้พวกภูตผีปีศาจทั้งหลาย
คุณค่าของวัฒนธรรม : ทำให้เกิดความภาคภูมิใจมนประเพณีของตน และสืบทอดประเพณีต่อไป
๕.ประเพณีถวายสลากภัต
บริเวณแหล่งวัฒนธรรม: จังหวัดสระบุรี
ลักษณะของวัฒนธรรม: มีการถวายอาหารแด่ภิกษุโดยวิธีการจับสลาก แต่มีหลักอยู่ที่การถวายโดยให้ภิกษุจับสลากก่อน ภิกษุรูปใดจับสลากได้ของผู้ใดก็รับอาหารจากผู้นั้น บางแห่งนิยมทำในฤดูกาลที่มีผลไม้ดกและสุก นำมาถวายเป็นสลากภัต ที่นิยมทำในท้องถิ่นสระบุรีคือ สานกระจาดใหญ่ด้วยไม้ไผ่ ประดับกระดาษให้สวยงามนำอาหารหรือเครื่องสมณะอุปโภคบริโภคใส่ลงใน กระจาด หากมีฝีมือยิ่งขึ้นไปก็อาจนำไม้ยาวประมาณ ๖ เมตร มาปักกลางกระจาด ทำเป็นฉัตรหลายชั้นขึ้นไปตกแต่งสวยงาม เมื่อถึงวันงานที่กำหนดก็นำกระจาดหรือต้นสลากนี้ไปรวมกันที่วัด นิมนต์พระมาเทศน์อานิสงส์ จบแล้วกล่าวคำถวายสลากภัตและให้ภิกษุจับสลาก ภิกษุจับได้สลากของผู้ใดก็ลงไปรับการถวายที่กระจาดหรือต้นสลากของผู้นั้น ให้พรและเจ้าภาพก็กรวดน้ำ ศิษย์วัดก็นำสลากภัตนั้นกลับวัดของตน
คุณค่าของวัฒนธรรม :เป็นกิจกรรมที่ทำให้เกิดความสามัคคีกันในหมู่คณะ
คำชี้แจง ให้นักเรียนร่วมกันวิเคราะห์วัฒนธรรมท้องถิ่นในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตามหัวข้อที่กำหนดให้
๑.งานบุญคูนลาน
บริเวณแหล่งวัฒนธรรม: ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ลักษณะของวัฒนธรรม: เป็นการทำขวัญข้าวก่อนที่จะนำข้าวเข้าสู่ยุ้งฉางเมื่อเก็บเกี่ยวข้าวเสร็จชาวนาจะนำข้าวที่มัดไว้นั้นมากองให้สูงจากพื้นลาน เรียกว่า คูนลาน ผู้ที่ได้ข้าวมากมักจะทำบุญที่ลานข้าว ซึ่งถือเป็นงานบุญอย่างหนึ่งของชาวอีสาน
คุณค่าของวัฒนธรรม :ทำให้รู้ถึงบุญคุณข้าว
๒.บุญบั้งไฟ
บริเวณแหล่งวัฒนธรรม : ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ลักษณะของวัฒนธรรม :เดือน เมษายน-พฤษภาคม ซึ่งช่วงนี้ชาวนา จะไถนา เป็นการทำบุญบั้งไปเพื่อขอฝน
คุณค่าของวัฒนธรรม :ทำให้รู้คุณค่าของน้ำที่ตนใช้ไป
๓.ผีตาโขน
บริเวณแหล่งวัฒนธรรม: อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย
ลักษณะของวัฒนธรรม: จัดขึ้นในวันข้างขึ้นเดือน 8 จะทำอยู่ 3 วัน โดยชาวบ้านจะนำรูปหน้ากาก ที่น่าเกลียด น่ากลัวมาสวมใส่โดยแต่งตัวมิดชิดแล้วแห่ เข้าวัด
คุณค่าของวัฒนธรรม : ทำให้มีจิตใจที่เป็นกุศลเนื่องมาจากการทำบุญตามประเพณี
๔.การแห่ปราสาทผึ้ง
บริเวณแหล่งวัฒนธรรม :จังหวัดสกลนคร หนองคาย นครพนม และ เลย
ลักษณะของวัฒนธรรม :วันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 หรือวันออกพรรษา จัดขบวนแห่ปราสาทผึ้งโดยใช้เกวียนลาก มีปราสาทผึ้งและเทพีนั่งอยู่บนเกวียน และในขบวนแห่จะมีการเล่นเครื่องดนตรีอย่างพิณ ฆ้อง กลอง เหล่าผู้เฒ่าผู้แก่และคนหนุ่มสาวจะร่วมเดินในขบวน ถือธูปเทียนแห่รอบพระธาตุเชิงชุมสามรอบ
คุณค่าของวัฒนธรรม :เป็นการทำนุบำรุงศาสนาให้รุ่งเรืองตามประเพณี
๕.ประเพณีไหลเรือไฟ
บริเวณแหล่งวัฒนธรรม: จังหวัดนครพนม ศรีสะเกษ มหาสารคามและอีกหลายจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ลักษณะของวัฒนธรรม นิยมทำกันในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 (วันออกพรรษา)เรือไฟ ทำจากต้นกล้วยและลำไม้ไผ่ที่หาได้มาจัดทำเป็นโครงเรือไฟง่าย ๆ พอที่จะทำให้ลอยน้ำได้ การประดับตกแต่งเรือไฟภายในเรือไฟจะประดับด้วยดอกไม้ ธูป เทียน ตะเกียง ขี้ไต้ สำหรับจุดให้สว่างไสว ก่อนจะปล่อย เรือไฟลงกลางลำน้ำโขง
คุณค่าของวัฒนธรรม: เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจให้แก่ประชาชน เป็นกิจกรรมที่ทำให้ชาวบ้านเกิดความรักษ์ในวัฒนธรรมของตน :ทำให้ประชาชนเกิดความศรัทธาในศาสนามากขึ้น
คำชี้แจง ให้นักเรียนร่วมกันวิเคราะห์วัฒนธรรมท้องถิ่นในภาคใต้ตามหัวข้อที่กำหนดให้
๑. ประเพณีลากพระ
บริเวณแหล่งวัฒนธรรม: ชาวภาคใต้
ลักษณะของวัฒนธรรม: เริ่มทำในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 ประชาชนจะเข้าวัดเพื่อตักบาตร เรียงไว้ตรงหน้าพระที่ลาก เมื่อภิกษุฉันเสร็จ ก็จะนิมนต์นั่งประจำเรือพระ แล้วชาวบ้านก็จะลากพระไปประชาชนที่รออยู่ก็จะนำต้ม มาแขวนที่ล้อเลื่อนตลอดทาง
คุณค่าของวัฒนธรรม : ผู้คนเกิดความสามัคคี เป็นการอนุรักษ์วัฒนธรรม
๒. ประเพณีสารทเดือนสิบ
บริเวณแหล่งวัฒนธรรม: จังหวัด นครศรีธรรมราช
ลักษณะของวัฒนธรรม: ชาวบ้านจะทำบุญให้แก่ผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว
คุณค่าของวัฒนธรรม :เป็นการอนุรักษ์ให้คนรุ่นหลังได้สืบทอดวัฒนธรรมต่อไป
๓. การรำโนรา
บริเวณแหล่งวัฒนธรรม : ภาคใต้
ลักษณะของวัฒนธรรม: โนราเป็นการแสดงเพื่อความบันเทิง
คุณค่าของวัฒนธรรม :เพื่อแสดงความกตัญญูรู้คุณต่อครู หรือเพื่อพิธีแก้บน
๔. เทศกาลกินเจ
บริเวณแหล่งวัฒนธรรม: ชาวภูเก็ต
ลักษณะของวัฒนธรรม: ชาวภูเก็ตถือศีลโดยการกินผัก
คุณค่าของวัฒนธรรม : เป็นการอนุรักษ์วัฒนธรรมของท้องถิ่นให้คงอยู่
๕ ประเพณีแห่ผ้าขึ้นธาตุ
บริเวณแหล่งวัฒนธรรม: จังหวัดนครศรีธรรมราช
ลักษณะของวัฒนธรรม: งานประเพณีสำคัญที่จัดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี เพื่อนมัสการองค์พระบรมธาตุเมืองนครศรีธรรมราชในงานมีการกวนข้าวมธุปายาส ประกวดผ้าพระบฏและโคมประดับ และมีการแห่ผ้าขึ้นธาตุไปตามถนนแล้วนำไปห่มองค์พระธาตุเป็นการสักการบูชา
คุณค่าของวัฒนธรรม: เป็นการอนุรักษ์วัฒนธรรมของท้องถิ่นให้คงอยู่