ใบงานที่5 และ ใบงานที่ 6

user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:538888ed25d1736199819bf8df4c61c3' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '\nใบงานที่ 5\n\n\nเรื่อง \nการติดต่อสื่อสารผ่านเครือข่าย\n\n<o:p> </o:p> \n\nคำชี้แจง : ให้นักเรียนตอบคำถามต่อไปนี้ \n\n\n1.ให้นักเรียนอธิบายการติดต่อสื่อสารโดยผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์ \n\n\nการที่ระบบเครือข่ายมีบทบาทและความสำคัญเพิ่มขึ้น \nเพราะไมโครคอมพิวเตอร์ได้รับการใช้งานอย่างแพร่หลาย จึงเกิดความต้องการที่จะเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์เหล่านั้นถึงกับเพื่อเพิ่มขีดความสามารถของระบบให้สูงขึ้น \nเพิ่มการใช้งานด้านต่าง ๆ และลดต้นทุนระบบโดยรวมลง \nมีการแบ่งใช้งานอุปกรณ์และข้อมูลต่าง ๆ ตลอดจนสามารถทำงานร่วมกันได้ \n\n<o:p> </o:p> \n\nสิ่งสำคัญที่ทำให้ระบบข้อมูลมีขีดความสามารถเพิ่มขึ้น \nคือ การโอนย้ายข้อมูลระหว่างกัน และการเชื่อมต่อหรือการสื่อสาร \nการโอนย้ายข้อมูลหมายถึงการนำข้อมูลมาแบ่งกันใช้งาน \nหรือการนำข้อมูลไปใช้ประมวลผลในลักษณะแบ่งกันใช้ทรัพยากร เช่น แบ่งกันใช้ซีพียู \nแบ่งกันใช้ฮาร์ดดิสก์ แบ่งกันใช้โปรแกรม และแบ่งกันใช้อุปกรณ์อื่น ๆ \nที่มีราคาแพงหรือไม่สามารถจัดหาให้ทุกคนได้ \nการเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์เป็นเครือข่ายจึงเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานให้กว้างขวางและมากขึ้นจากเดิม \n\n<o:p> </o:p> \n\n \n"ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ หรือระบบเน็ตเวิร์ค \nคือกลุ่มของคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่างๆ ที่ถูกนำมาเชื่อมต่อกันเพื่อให้ผู้ใช้ในเครือข่ายสามารถติดต่อสื่อสาร \nแลกเปลี่ยนข้อมูล และใช้อุปกรณ์ต่างๆ ในเครือข่ายร่วมกันได้" \nเครือข่ายนั้นมีหลายขนาด \nตั้งแต่ขนาดเล็กที่เชื่อมต่อกันด้วยคอมพิวเตอร์เพียงสองสามเครื่อง \nเพื่อใช้งานในบ้านหรือในบริษัทเล็กๆ ไปจนถึงเครือข่ายขนาดใหญ่ที่เชื่อมต่อกันทั่วโลก \nส่วน Home \nNetwork หรือเครือข่ายภายในบ้าน ซึ่งเป็นระบบ LAN (Local \nArea Network) ที่คุณผู้อ่านจะได้พบต่อไปนี้ \nเป็นระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กๆ หมายถึงการนำเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ \nมาเชื่อมต่อกันในบ้าน สิ่งที่เกิดตามมาก็คือประโยชน์ในการใช้คอมพิวเตอร์ด้านต่างๆ \nเช่น\n\n<o:p> </o:p> \n\n1. การใช้ทรัพยากรร่วมกัน หมายถึง การใช้อุปกรณ์ต่างๆ เช่น \nเครื่องพิมพ์ร่วมกัน กล่าวคือ มีเครื่องพิมพ์เพียงเครื่องเดียว \nทุกคนในเครือข่ายสามารถใช้เครื่องพิมพ์นี้ได้ ทำให้สะดวกและประหยัดค่าใช้จ่าย \nเพราะไม่ต้องลงทุนซื้อเครื่องพิมพ์หลายเครื่อง (นอกจากจะเป็นเครื่องพิมพ์คนละประเภท) \n\n\n<o:p> </o:p> \n\n2. การแชร์ไฟล์ \nเมื่อคอมพิวเตอร์ถูกติดตั้งเป็นระบบเน็ตเวิร์คแล้ว \nการใช้ไฟล์ข้อมูลร่วมกันหรือการแลกเปลี่ยนไฟล์ทำได้อย่างสะดวกรวดเร็ว \nไม่ต้องอุปกรณ์เก็บข้อมูลใดๆ ทั้งสิ้นในการโอนย้ายข้อมูลตัดปัญหาเรื่องความจุของสื่อบันทึกไปได้เลย \nยกเว้นอุปกรณ์ในการจัดเก็บข้อมูลหลักอย่างฮาร์ดดิสก์ \nหากพื้นที่เต็มก็คงต้องหามาเพิ่ม\n\n<o:p> </o:p> \n\n3. การติดต่อสื่อสาร \nโดยคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อเป็นระบบเน็ตเวิร์ค \nสามารถติดต่อพูดคุยกับเครื่องคอมพิวเตอร์อื่น โดยอาศัยโปรแกรมสื่อสารที่มีความสามารถใช้เป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ได้เช่นเดียวกัน \nหรือการใช้อีเมล์ภายในก่อให้เครือข่าย Home Network หรือ Home \nOffice จะเกิดประโยชน์นี้อีกมากมาย\n\n<o:p> </o:p> \n\n4. การใช้อินเทอร์เน็ตร่วมกัน \nคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องที่เชื่อมต่อในระบบ เน็ตเวิร์ก \n\n\nสามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตได้ทุกเครื่อง โดยมีโมเด็มตัวเดียว \nไม่ว่าจะเป็นแบบอนาล็อกหรือแบบดิจิตอลอย่าง ADSL ยอดฮิตในปัจจุบัน\n\n<o:p> </o:p> \n\nระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งขององค์กร \nสถาบันการศึกษาและบ้านไปแล้วการใช้ทรัพยากรร่วมกันได้ทั้งไฟล์ เครื่องพิมพ์ \nต้องใช้ระบบเครือข่ายเป็นพื้นฐาน ระบบเครือข่ายจะหมายถึง การนำคอมพิวเตอร์ตั้งแต่ \n2 เครื่องขึ้นไปมาเชื่อมต่อกันเพื่อจะทำการแชร์ข้อมูล และทรัพยากรร่วมกัน เช่น \nไฟล์ข้อมูลและเครื่องพิมพ์ ระบบเครือข่ายสามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ด้วยกันคือ\n\n<o:p> </o:p> \n\n1. LAN (Local Area Network) ระบบเครื่องข่ายท้องถิ่น \nเป็นเน็ตเวิร์คในระยะทางไม่เกิน 10 กิโลเมตร \nไม่ต้องใช้โครงข่ายการสื่อสารขององค์การโทรศัพท์ \nคือจะเป็นระบบเครือข่ายที่อยู่ภายในอาคารเดียวกันหรือต่างอาคาร ในระยะใกล้ๆ\n\n<o:p> </o:p> \n\n2. MAN (Metropolitan Area Network) ระบบเครือข่ายเมือง \nเป็นเน็ตเวิร์คที่จะต้องใช้โครงข่ายการสื่อสารขององค์การโทรศัพท์ \nหรือการสื่อสารแห่งประเทศไทย เป็นการติดต่อกันในเมือง เช่น \nเครื่องเวิร์กสเตชั่นอยู่ที่สุขุมวิท \nมีการติดต่อสื่อสารกับเครื่องเวิร์กสเตชั่นที่บางรัก\n\n<o:p> </o:p> \n\n3. WAN (Wide Area Network) ระบบเครือข่ายกว้างไกล \nหรือเรียกได้ว่าเป็น World Wide ของระบบเน็ตเวิร์ค \nโดยจะเป็นการสื่อสารในระดับประเทศ ข้ามทวีปหรือทั่วโลก จะต้องใช้มีเดีย (Media) \nในการสื่อสารขององค์การโทรศัพท์ หรือ การสื่อสารแห่งประเทศไทย \n(คู่สายโทรศัพท์ dial-up / คู่สายเช่า Leased line / \nISDN) (integrated Service Digital Network สามารถส่งได้ทั้งข้อมูล \nเสียง และภาพในเวลาเดียวกัน)\n\n<o:p> </o:p> \n\nอ้างอิง : <a href=\"http://web.ku.ac.th/schoolnet/snet1/hardware/network.html\">http://web.ku.ac.th/schoolnet/snet1/hardware/network.html</a> <a href=\"http://web.ku.ac.th/schoolnet/snet1/network/network/index.html\">http://web.ku.ac.th/schoolnet/snet1/network/network/index.html</a> \n\n<o:p> </o:p> \n\n2.ให้นักเรียนบอกอุปกรณ์สื่อสารสำหรับเชื่อมโยงเครือข่ายพร้อมรูปภาพประกอบ \n\n\nการเชื่อมต่อในความหมายของระบบเครือข่ายท้องถิ่น \nไม่ได้จำกัดอยู่ที่การเชื่อมต่อระหว่างเครื่องไมโครคอมพิวเตอร์ \nแต่ยังรวมไปถึงการเชื่อมต่ออุปกรณ์รอบข้าง \nเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าทำให้การทำงานเฉพาะมีขอบเขตกว้างขวางยิ่งขึ้น \nมีการใช้เครื่องบริการแฟ้มข้อมูลเป็นที่เก็บรวบรวมแฟ้มข้อมูลต่างๆ \nมีการทำฐานข้อมูลกลาง มีหน่วยจัดการระบบสื่อสารหน่วยบริการใช้เครื่องพิมพ์ \nหน่วยบริการการใช้ซีดี หน่วยบริการปลายทาง \nและอุปกรณ์ประกอบสำหรับต่อเข้าในระบบเครือข่ายเพื่อจะทำงานเฉพาะเจาะจงอย่างใดอย่างหนึ่ง \nในรูป เป็นตัวอย่างเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่จัดกลุ่มเชื่อมโยงเป็นระบบ \n\n\n\n\n\nเครือข่ายคอมพิวเตอร์ก่อให้เกิดความสามารถในการปฏิบัติการร่วมกัน \nซึ่งหมายถึงการให้อุปกรณ์ทุกชิ้นที่ต่ออยู่บนเครือข่ายทำงานร่วมกันได้ทั้งหมดในลักษณะที่ประสานรวมกัน \nโดยผู้ใช้เห็นเสมือนใช้งานในอุปกรณ์เดียวกัน \nจึงเป็นวิธีการในการนำเอาอุปกรณ์ต่างชนิดจำนวนมาก มารวมกันเป็นเสมือนระบบเดียวกัน \nทั้ง ๆ ที่อุปกรณ์เหล่านั้นอาจจะมาจากต่างยี่ห้อ ต่างบริษัท ก็ได้ \n\n<o:p> </o:p> \n\nหากผู้ใช้มีความคิดที่จะนำเอาเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลมาต่อเป็นระบบ \nโดยใช้ขีดความสามารถเดิมที่มีอยู่ สามารถทำได้ด้วยวิธีการง่าย ๆ ดังนี้ \n\n<o:p> </o:p> \n\n1) การต่อเชื่อมผ่านช่องทาง COM1 COM2 และ LPT เป็นวิธีที่นำคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ต่อผ่านช่องทาง COM1 \nหรือ COM2 เพื่อการเคลื่อนย้ายข้อมูลระหว่างนั้น \nในกรณีนี้ใช้โปรแกรมอรรกประโยชน์ (utility program) บางตัวก็สามารถสำเนาแฟ้มข้อมูลระหว่างกัน \nหรือส่งออกไปยังเครื่องพิมพ์ร่วมกันได้ รูปแบบการต่อระบบโดยอาศัย COM1 COM2 และ LPT การต่อในลักษณะนี้ใช้ช่องทาง \nRS232 และมีการส่งข้อมูลแบบอนุกรม \nปัจจุบันสามารถทำการรับส่งข้อมูลถึงกันได้เร็วถึง 38.4 กิโลบิตต่อวินาที \nการจัดการระบบง่าย ๆ นี้ไม่จำเป็นต้องลงทุนอะไรมาก \nแต่ประโยชน์ที่ได้จะอยู่ในวงจำกัด โดยเฉพาะในเรื่องการโอนย้ายแฟ้มข้อมูลระหว่างกัน \n\n\n<o:p> </o:p> \n\n2) การต่อเชื่อมเข้ากับบัฟเฟอร์เครื่องพิมพ์ การแบ่งกันใช้เครื่องพิมพ์เป็นวิธีการใช้ทรัพยากรเครื่องพิมพ์ให้เกิดประโยชน์มากยิ่งขึ้น \nการใช้เครื่องพิมพ์ที่มีราคาแพง มีคุณภาพดี เช่น เครื่องพิมพ์ความเร็วสูง \nเครื่องพิมพ์เลเซอร์ เครื่องพิมพ์ที่พิมพ์สีได้ เป็นต้น \nการใช้เครื่องพิมพ์ร่วมกันวิธีหนึ่งก็คือ การต่อเข้ากับบัฟเฟอร์ของเครื่องพิมพ์ \nซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ใช้เก็บข้อมูลที่ส่งมาจากเครื่องคอมพิวเตอร์หลายเครื่อง \nแล้วจัดการส่งงานทยอยพิมพ์เรียงกันไป \nเครื่องพิมพ์ที่ต่อกับบัฟเฟอร์จะต่อผ่านช่องทางขนานเหมือนการต่อทั่วไป อย่างไรก็ดี \nบัฟเฟอร์ของเครื่องพิมพ์บางรุ่นสามารถต่อกับเครื่องพิมพ์ได้หลายเครื่อง \n\n<o:p> </o:p> \n\n3) \nการเชื่อมต่อโดยใช้ระบบสลับสายข้อมูล เป็นวิธีการต่อขยายระบบโดยใช้ระบบง่าย \nๆ ที่ใช้มือช่วย ระบบสลับสายข้อมูลทำหน้าที่เหมือนชุมสายโทรศัพท์ระบบเก่า \nที่ต้องมีพนักงานรับโทรศัพท์คอยสลับสายให้ใช้งานตามความต้องการ เช่น ใช้สายยูทีพี \nโดยให้หัวต่อเป็นแบบ RJ45 การสลับสายจะเชื่อมตัวระหว่างหัวต่อ RJ45 ที่มารวมกันไว้อยู่บนแผงร่วมกัน \nส่วนของแผงนี้จะเป็นเสมือนส่วนที่รวมสาย ปัจจุบันมีแผงสลับสายข้อมูลให้ผู้ใช้เลือกใช้ทั้งอีเธอร์เน็ตแบบเท็นเบสที \nหรือแบบอนุกรมผ่านช่องทาง RS232 \nการใช้ระบบสลับสายข้อมูลเป็นการเชื่อมเครือข่ายคอมพิวเตอร์แบบง่าย ๆ \nแต่สามารถปรับเปลี่ยนระบบได้อย่างรวดเร็วและสะดวกต่อการใช้งาน \n\n<o:p> </o:p> \n\n4) การเชื่อมต่อผ่านระบบผู้ใช้หลายคนหลายช่องทาง ระบบผู้ใช้หลายคนขนาดเล็กที่อยู่บนไมโครคอมพิวเตอร์มีหลายระบบ \nเช่น ระบบยูนิกซ์ ระบบเอสซีโอ \nระบบดังกล่าวสามารถต่อเชื่อมขยายเข้ากับสถานีย่อยได้มาก \nเป็นระบบที่ใช้งานร่วมกันได้ในราคาประหยัด มีซอฟต์แวร์สนับสนุนอยู่มากเช่น \nระบบจัดการฐานข้อมูลที่มีระบบรักษาความปลอดภัย ข้อเด่นของระบบผู้ใช้หลายคนในเครื่องคอมพิวเตอร์พีซีที่เห็นได้ชัด \nได้แก่ ระบบปฏิบัติการยูนิกซ์ ซึ่งเป็นระบบที่ให้ผู้ใช้งานพร้อมกันได้หลายคน \nหลายงาน มีการพัฒนาซอฟต์แวร์ประยุกต์และซอฟต์แวร์ระบบสื่อสารไว้มาก \nมีระบบรักษาความปลอดภัยที่ดี มีการต่อช่องทางเข้าออกไปได้หลายแบบ เช่น \nแบบเป็นสถานีปลายทาง RS232 ผ่านทางเส้นใยนำแสง \nอีกทั้งมีระบบเครือข่ายท้องถิ่นที่เชื่อมต่อตามมาตรฐานสากล \nทำให้การทำงานของระบบประสบผลสำเร็จ \n\n<o:p> </o:p> \n\nอ้างอิง : <a href=\"http://web.ku.ac.th/schoolnet/snet1/hardware/connect/connect.html\">http://web.ku.ac.th/schoolnet/snet1/hardware/connect/connect.html</a>\n\n\n \n\n\n \n\n\n \n\n\n \n\n<hr />\n\n \n\n\n \n\n\n \n\n\n \n\n\nใบงานที่ 6\n\n\nเรื่อง \nการค้นหาโดยใช้เทคโนโลยี\n\n<o:p> </o:p> \n\nคำชี้แจง : ให้นักเรียนตอบคำถามต่อไปนี้ \n\n\n1.ให้นักเรียนบอกความหมายและประเภทของการค้นหาอย่างละเอียด \n\n\n\n \nเมื่อข่าวสารข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตมีมากมาย \nทำให้ระบบการค้นหาเป็นเรื่องที่สำคัญมากยิ่งขึ้น เมื่อผู้ใช้อินเทอร์เน็ตต้องการเครื่องมือในการค้นหา \nจึงมีผู้พัฒนาระบบค้นหาข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตที่เรียกว่า Search Engine และสร้างสถานีบริการไว้บนอินเทอร์เน็ต \n\n\nการพิมพ์ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์มีอัตราที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว \nเชื่อกันว่าข้อมูลข่าวสารที่จัดพิมพ์ในรูป Web หรือโฮมเพ็จเพื่อเผยแพร่บนอินเทอร์เน็ต \nมีมากกว่า 1000 ล้านหน้า (1000 หน้า URL \nreference) เมื่อข้อมูลข่าวสารบนอินเทอร์เน็ตมีมากมายเช่นนี้ \nทำให้ระบบการค้นหาเป็นเรื่องที่สำคัญมากยิ่งขึ้น \nเมื่อผู้ใช้อินเทอร์เน็ตต้องการเครื่องมือในการค้นหา จึงมีผู้พัฒนาระบบค้นหาข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตที่เรียกว่า \nSearch Engine และสร้างสถานีบริการไว้บนอินเทอร์เน็ต \n\n\nสถานีบริการที่ใช้ในการค้นหาข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตที่รู้จักกันดีมีหลายแห่ง \nเช่น yahoo.com, \naltavista.com excite.com, webcrawler.com เป็นต้น \nสถานีบริการเหล่านี้จึงเป็นที่รู้จักและใช้ประโยชน์กันอย่างกว้างขวาง โดยผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทุกคนรู้จักกันดี \nแต่หากพิจารณาข้อมูลที่อยู่บนอินเทอร์เน็ตกว่าหนึ่งพันล้านหน้า \nระบบการค้นหาที่ให้บริการอยู่นี้ยังไม่สามารถเก็บดัชนีค้นหาและให้การค้นหาได้ครบทุกแห่ง \nจากการประมาณการของสถานีค้นหาที่ใหญ่ที่สุด เช่น yahoo.com หรือ \naltavista.com จะค้นหาข้อมูลได้ไม่ถึงครึ่งของเอกสารที่มีอยู่ในอินเทอร์เน็ต \n\n\n\nหากนำข้อมูลของหนังสือทุกเล่มจากห้องสมุดรัฐสภาอเมริกันมาเก็บรวมกันในรูปดิจิตอล \nมีผู้คำนวณดูว่าถ้าจะเก็บในรูป ASCII จะได้ประมาณ 20 เทราไบต์ (โดยมีหนังสือในห้องสมุดประมาณ 20 ล้านเล่ม) \nและข้อมูลในอินเทอร์เน็ตที่เรียกดูได้ทั้งหมดจะรวมกัน น่าจะอยู่ที่ประมาณ 14 เทราไบต์ อัตราการเพิ่มของข้อมูลที่มีมากกว่า 20 เปอร์เซ็นต์ต่อปี \nดังนั้นในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า \nข้อมูลที่เก็บในอินเทอร์เน็ตที่เรียกดูได้แบบสาธารณะน่าจะมีมากกว่า 100 เทราไบต์ \n\n\nหลักการของเครื่องค้นหาที่สำคัญคือโปรแกรมหุ่นยนต์ \nที่จะทำงานอัตโนมัติ และวิ่งเข้าไปซอกแซกในอินเทอร์เน็ต \nพร้อมคัดลอกข้อมูลมาจัดทำดัชนี \nและจัดโครงสร้างไว้ในฐานข้อมูลเพื่อจะเอื้อประโยชน์ให้ผู้เรียกค้นดูได้ \nโปรแกรมหุ่นยนต์นี้จะต้องทำงานเป็นระยะและวนกลับมาปรังปรุงข้อมูลใหม่ \nเพราะข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตมีการเปลี่ยนแปลงเร็วมาก\n\n\n \n\n\nการค้นหาข้อมูล(search engine)\n\n\n ปัจจุบันนี้ \nเสิร์ช เอ็นจิ้น (search engine) กลายมาเป็นสิ่ง จำเป็น \nสำหรับการท่องโลกอินเตอร์เน็ต เพราะหาก ไม่มีบริการ ช่วยค้นหาข้อมูล เหล่านี้ เราต้องใช้เวลานับหลายชั่วโมง \nหรือเป็นวัน ที่จะค้นหาข้อมูล ที่เราต้องการ จะใช้งานครบ ซึ่งเสิร์ช เอ็นจิ้น \nก็มีมากมาย หลายเจ้า ให้เราได้เลือกใช้งาน กัน ซึ่ง แต่ละเจ้า ก็มีวิธี การที่ \nใช้ค้นหาาข้อ มูล ที่แตกต่างกัน เราสามารถแบ่ง เว็บไซต์ ที่ให้บริการค้นหาข้อมูล \nออกเป็น ประเภทใหญ่ ๆ ได้ 2 ประเภท ได้แก่ \n\n\n1.การบริการค้นหาโดยใช้ อินเด็กซ์ (index)\n\n\nเราคง เคยได้ยินชื่อ เสิร์ช \nเอ็นจิ้น อย่าง อัลตาวิสต้า (AltaVista/www.altavista.digital.com) และฮ็อทบ็อท \n(HotBot/www.hotbot.com) ทั้งสอง เป็นตัวอย่างของเสิร์ช \nเอ็นจิ้นนี้ หลักการคือ เขาจะมีโปรแกรมตัวหนึ่ง เป็นตัวสแกน ไปตามเว็บไซต์ต่าง ๆ \nเรียกว่า โปรแกรม สไปเดอร์ การค้นหา ข้อมูลโดยใ ช้ อินเด็กซ์ \n\n<o:p> </o:p> \n\n2.การบริการค้นหา ข้อมูลตามหมวดหมู่ (directory) \n\n\n\nเสิร์ช เอ็นจิ้น ชื่อดังอีก 2 ตัว \nได้แก่ ยาฮู (Yahoo!/www.yahoo.com)และแมกเจลแลน (Magellan/www.magellan.com) \nเลือกใช้เทคนิคนี้ โดยใช้มนุษย์ เป็นคนจัดหมวดหมู่ ของเว็บไซต์ \nและคอย ปรับปรุงให้ขอมูล ทันสมัยอยู่เสมอ เนื่องจากบัญชี รายชื่อเว็บไซต์ \nได้ผ่านการจัด หมวดหมู่โดยมนุษย์ ดังนั้น ในรายชื่อก็จะมี รายละเอียด คร่าว ๆเกี่ยวกับเว็บไซต์ \nที่เพิ่มเติม ลงไป ข้อของการค้นหาแบบนี้คือ จะสามารถตีกรอบผลลัพธ์ ออกมาตรง \nกับความ ต้องการ มากขึ้น เช่น เราลองใส่คำว่า "Spider" ในยาฮู! ค้นหาดู เราจะได้รายการของ หมวดหมู่ออกมา\n\n\n \n\n\n \n\n\nอ้างอิง : \n<a href=\"http://www.ku.ac.th/magazine_online/search_engine.html\">http://www.ku.ac.th/magazine_online/search_engine.html</a>\n\n\n <a href=\"http://www.geocities.com/teach_m02/in7pag4.html\">http://www.geocities.com/teach_m02/in7pag4.html</a>\n\n\n \n\n\n \n\n\n \n\n\n \n\n\n2.ให้นักเรียนบอกเทคนิคในการค้นหาข้อมูล โดยใช้ www.google.co.th \n\n<o:p> </o:p> \n\nวิธีที่หนึ่ง \n\n\nพิมพ์คำเหล่านี้ ใน Google Search\n\n\n(1) " parent directory " /spectralab 4.3213/ -xxx \n-html -htm -php -shtml -opendivx -md5 -md5sums\n\n\n(2) " parent directory " DVDRip -xxx -html -htm -php -shtml -opendivx \n-md5 -md5sums\n\n\n(3) " parent directory "Xvid -xxx -html -htm -php -shtml -opendivx -md5 -md5sums\n\n\n(4) " parent directory " Gamez -xxx -html -htm -php -shtml -opendivx \n-md5 -md5sums\n\n\n(5) " parent directory " MP3 -xxx -html -htm -php \n-shtml -opendivx -md5 -md5sums\n\n\n(6) " parent directory " Name of Singer or album -xxx -html -htm -php \n-shtml -opendivx -md5 -md5sums \n\n<o:p> </o:p> \n\nหมายเหตุ ให้คุณ<st1:personname ProductID=\"เปลี่ยน คำที่ตามหลัง\" w:st=\"on\">เปลี่ยน คำที่ตามหลัง</st1:personname> \nparent \ndirectory เช่น MP3 Gamez appz DVDRip เป็นสิ่งที่คุณอยากได้ แล้วก้อค้นหา คุณจะพบกับ ความมหัศจรรย์ใน Google \n\n\n<o:p> </o:p> \n\nวิธีที่สอง \n\n\nพิมพ์คำต่อไปนี้ใน Google \n\n\n?intitle:index.of? mp3\n\n\nจากนั้นแค่เพิ่มชื่อ เพลง อัลบั้ม นักร้อง ลงไป เช่น ?intitle:index.of? \nmp3 myfavoritesongs \n\n<o:p> </o:p> \n\nวิธีที่สาม \n\n\nพิมพ์คำต่อไปนี้ใน Google \n\n<o:p> </o:p> \n\ninurl:micr0s0f filetype:iso \n\n\n\nจากนั้น ก้อเปลี่ยน คำว่า micr0s0f \nกับคำว่า iso เป็นคำที่คุณต้องการ เช่น inurl:myc0mpany filetype:zip \n\n<o:p> </o:p> \n\nเพิ่มเติม \n\n<o:p> </o:p> \n\n1.Google จะใช้ and (และ) อยู่ในประโยคเสมอ \nเช่น ค้นหา harvest moon back to nature Google จะค้นหาแบบ harvest \nAND moon AND back... (พูดง่ายๆคือค้นหาแบบแยกคำ) \n\n<o:p> </o:p> \n\n2. การใช้ OR (หรือ) คือการให้ Google หาข้อมูลมากขึ้นจาก \nคำA และ คำB (พูดง่ายๆ คือนำผลที่ได้ \nมารวมกันรวมกัน) วิธีใช้ พิมพ์ OR ด้วยตัวใหญ่ระหว่างคำที่ต้องการ \nเช่น vacation <st1:city w:st=\"on\">london</st1:city> OR <st1:city w:st=\"on\">paris</st1:city> \nคือหาทั้งใน <st1:city w:st=\"on\">London</st1:city> และ <st1:city w:st=\"on\"><st1:place w:st=\"on\">Paris</st1:place></st1:city> \n\n\n<o:p> </o:p> \n\n3. Google จะละคำทั่วๆไป (เช่น the, to, of) และตัวอักษรเดี่ยว เพราะจะทำให้ค้นหาช้าลง \nแต่ถ้าคำพวกนั้นสามารถช่วยให้หาข้อมูลง่ายขึ้น ก็ต้องใช้เครื่องหมาย + ช่วยโดยนำไปอยู่หน้าคำนั้น \n(ต้องเว้นวรรคก่อนด้วย) เช่น back +to nature หรือ final \nfantasy +x \n\n<o:p> </o:p> \n\n4. Google สามารถกันขอบเขตการค้นหาให้เล็กลงด้วยการใช้ Advanced \nSearch หรือ การค้นหา แบบพิเศษ ใน Google ภาษาไทย \n\n\n<o:p> </o:p> \n\n5. Google สามารถตัดคำพ้องรูปได้โดยใช้เครื่องหมาย - ช่วยโดยการนำไปอยู่คำที่จะตัด \nเช่น คำว่า bass มี 2 ความหมายคือ เกี่ยวกับปลา \nและดนตรีเราจะตัดที่มีความหมายเกี่ยวกับดนตรีออกโดยพิมพ์ bass -music หมายความว่า bass ที่ไม่มีคำว่า music นอกจากนี้มันยังสามารถตัดอย่างอื่นได้อีก เช่น "front mission \n3" -filetype pdf หมายความว่า \nเรื่องเกี่ยวกับ front mission 3 แต่ไม่แสดงไฟล์ PDF \n\n<o:p> </o:p> \n\n6. การค้นหาแบบทั้งวลี (คือการค้นหาทั้งกลุ่มคำ) ให้ใช้เครื่องหมาย " \n" เช่น "Breath of fire IV" \n\n<o:p> </o:p> \n\n7. Google สามารถแปลเว็บภาษา Italian, French, Spanish, \nGerman, และ Portuguese เป็น ภาษาอังกฤษได้ (โดยคลิ้กที่คำว่า \n"Translate this page" ด้านข้างชื่อเว็บ) \n\n<o:p> </o:p> \n\n8. Google สามารถหาไฟล์ในรูปแบบอื่นๆที่ไม่ใช่ HTML \nได้ ประเภทไฟล์ที่รองรับคือ \n\n\nAdobe Portable Document Format (นามสกุลของไฟล์ pdf)\n\n\nAdobe PostScript (นามสกุลของไฟล์ ps)\n\n\nLotus 1-2-3 (นามสกุลของไฟล์ wk1, \nwk2, wk3, wk4, wk5, wki, wks, wku)\n\n\nLotus WordPro (นามสกุลของไฟล์ lwp)\n\n\nMacWrite (นามสกุลของไฟล์ mw)\n\n\nMicrosoft Excel (นามสกุลของไฟล์ xls)\n\n\nMicrosoft PowerPoint (นามสกุลของไฟล์ ppt)\n\n\nMicrosoft Word (นามสกุลของไฟล์ doc)\n\n\nMicrosoft Works (นามสกุลของไฟล์ wks, wps, wdb)\n\n\nMicrosoft Write (นามสกุลของไฟล์ wri)\n\n\nRich Text Format (นามสกุลของไฟล์ rtf)\n\n\nText (นามสกุลของไฟล์ ans หรือ txt) \n\n\n<o:p> </o:p> \n\nวิธีใช้ filetype:นามสกุลของไฟล์ เช่น "Chrono \nCross" filetype:pdf หมายความว่าเอกสารของ Chrono Cross \nที่เป็น PDF และมันยังมีความสามารถดูไฟล์เหล่านั้นในรูปแบบของ \nHTML ได้ (โดยคลิ้ก View as HTML หรือ \nรูปแบบ HTML ใน Google ไทย) \n\n<o:p> </o:p> \n\n9. Google สามารถเก็บ Cached ของเว็บที่จะเข้าชมไว้ได้ \n(โดยคลิ้กที่ Cached หรือ ถูกเก็บไว้ ใน Google ภาษาไทย) ประโยชน์ของมันคือช่วยให้เราสามารถเข้าเว็บบางเว็บที่อาจโดนลบไปแล้ว \nโดยข้อมูลที่ได้เป็นข้อมูลก่อนถูกลบ (ใหม่สุดที่มันจะมีได้) \n\n<o:p> </o:p> \n\n10.Google สามารถค้นหาหน้าที่คล้ายกัน (โดยคลิ้ก Similar \npages หรือ หน้าที่คล้ายกัน ใน Google ภาษาไทย) \nโดยจะค้นหาข้อมูลที่คล้ายๆ กันให้เรา เช่น ถ้าเรากำลังหาข้อมูลการวิจัย \nความสามารถนี้จะช่วยให้หาข้อมูลได้มากมายในเวลาที่รวดเร็วโดยไม่ต้องเป็นห่วงเรื่อง \nkeyword \n\n<o:p> </o:p> \n\n11.Google สามารถค้นหา link ทั้งหมดที่เชื่อมไปยังเว็บนั้นได้ \nวิธีใช้ link:ชื่อ URL เช่น link:www.google.com \nแต่คุณไม่สามารถใช้ความสามารถนี้ร่วมกับการหาแบบอื่นๆ ได้ \n\n<o:p> </o:p> \n\n12.Google สามารถค้นหาเว็บที่จำเพาะเจาะจงได้ โดยพิมพ์ \nคำที่คุณต้องการเจาะจง site:ชื่อ URL เช่น \nถ้าคุณต้องการหาเว็บเกี่ยวกับการเข้า (admission) มหาวิทยาลัย \nStanford ให้พิมพ์ admission site:www.stanford.edu \n\n<o:p> </o:p> \n\n13.ถ้าคุณมีเวลาน้อย (และคิดว่าโชคดี) Google มีบริการการค้นหาด่วน (ชื่อบริการ I\'m Feeling Lucky) โดยที่ Google จะนำเว็บที่อยู่ลำดับแรกของการค้นหา \nส่งให้คุณเลย (link ไปเว็บนั้นให้เสร็จ) เช่น คุณต้องการค้นหาเว็บมหาวิทยาลัย \nStanford อย่างด่วนให้พิมพ์ Stanford แล้วกด \nI\'m Feeling Lucky หรือ ใช่เลย! เจอแน่ๆ ใน Google ไทย \n\n<o:p> </o:p> \n\n14.Google สามารถหาแผนที่ของสหรัฐอเมริกาได้โดยพิมพ์ \nที่อยู่ ชื่อถนน พร้อมด้วยชื่อรัฐ เช่น 165 University Ave <st1:city w:st=\"on\"><st1:place w:st=\"on\">Palo Alto</st1:place></st1:city> CA Google จะจัดการส่งแผนที่คุณภาพสูงมาให้คุณ \n\n<o:p> </o:p> \n\n15.Google สามารถหาเบอร์โทร (เฉพาะอเมริกา) หรือพิมพ์เบอร์โทรแล้วหาบริษัทได้โดยพิมพ์\n\n\nfirst name (or first initial), last name, city (state is optional)\n\n\nfirst name (or first initial), last name, state\n\n\nfirst name (or first initial), last name, area code\n\n\nfirst name (or first initial), last name, zip code\n\n\nphone number, including area code\n\n\nlast name, city, state\n\n\nlast name, zip code\n\n\nแล้วแต่ว่าคุณจะใช้แบบไหน \n\n<o:p> </o:p> \n\n16.Google สามารถค้นหา Catalog สินค้าได้ \n(เข้าไปที่ http://catalogs.google.com)\n\n\n17.Google สามารถเก็บข้อมูลลักษณะการใช้ที่คุณต้องการได้โดยเข้าไปที่ \nPreferences หรือ ตัวเลือก ใน Google ไทย \n\n\n<table cellPadding=\"0\" cellSpacing=\"0\" border=\"1\" style=\"border-collapse: collapse; border: medium none\" class=\"MsoTableGrid\">\n<tbody>\n<tr>\n<td style=\"padding-bottom: 0cm; padding-left: 5.4pt; width: 213.05pt; padding-right: 5.4pt; padding-top: 0cm; border: windowtext 1pt solid\" vAlign=\"top\" width=\"284\">\n\n คำที่ช่วยในการหาข้อมูลคีย์ที่ใช้\n \n</td>\n<td style=\"border-bottom: windowtext 1pt solid; border-left: medium none; padding-bottom: 0cm; padding-left: 5.4pt; width: 213.05pt; padding-right: 5.4pt; border-top: windowtext 1pt solid; border-right: windowtext 1pt solid; padding-top: 0cm\" vAlign=\"top\" width=\"284\">\n\n สิ่งที่จะได้\n \n</td>\n</tr>\n<tr>\n<td style=\"border-bottom: windowtext 1pt solid; border-left: windowtext 1pt solid; padding-bottom: 0cm; padding-left: 5.4pt; width: 213.05pt; padding-right: 5.4pt; border-top: medium none; border-right: windowtext 1pt solid; padding-top: 0cm\" vAlign=\"top\" width=\"284\">\n\n คำที่ต้องการค้นหา\n \n</td>\n<td style=\"border-bottom: windowtext 1pt solid; border-left: medium none; padding-bottom: 0cm; padding-left: 5.4pt; width: 213.05pt; padding-right: 5.4pt; border-top: medium none; border-right: windowtext 1pt solid; padding-top: 0cm\" vAlign=\"top\" width=\"284\">\n\n แน่นอนไม่ต้องบอกก็รู้อยู่แล้ว\n \n</td>\n</tr>\n<tr>\n<td style=\"border-bottom: windowtext 1pt solid; border-left: windowtext 1pt solid; padding-bottom: 0cm; padding-left: 5.4pt; width: 213.05pt; padding-right: 5.4pt; border-top: medium none; border-right: windowtext 1pt solid; padding-top: 0cm\" vAlign=\"top\" width=\"284\">\n\n Top ten, Top hits + คำที่ต้องการ\n \n</td>\n<td style=\"border-bottom: windowtext 1pt solid; border-left: medium none; padding-bottom: 0cm; padding-left: 5.4pt; width: 213.05pt; padding-right: 5.4pt; border-top: medium none; border-right: windowtext 1pt solid; padding-top: 0cm\" vAlign=\"top\" width=\"284\">\n\n จะได้เครื่องมือ สถิติ หรือข้อมูลที่อยู่ในกระแส รวมถึงแหล่งข้อมูล\n \n</td>\n</tr>\n<tr>\n<td style=\"border-bottom: windowtext 1pt solid; border-left: windowtext 1pt solid; padding-bottom: 0cm; padding-left: 5.4pt; width: 213.05pt; padding-right: 5.4pt; border-top: medium none; border-right: windowtext 1pt solid; padding-top: 0cm\" vAlign=\"top\" width=\"284\">\n\n Free download + ชื่อซอฟต์แวร์\n \n</td>\n<td style=\"border-bottom: windowtext 1pt solid; border-left: medium none; padding-bottom: 0cm; padding-left: 5.4pt; width: 213.05pt; padding-right: 5.4pt; border-top: medium none; border-right: windowtext 1pt solid; padding-top: 0cm\" vAlign=\"top\" width=\"284\">\n\n จะได้ซอฟต์แวร์ที่ต้องการ หลายครั้งจะแถม Spyware ด้วยระวัง\n \n</td>\n</tr>\n<tr>\n<td style=\"border-bottom: windowtext 1pt solid; border-left: windowtext 1pt solid; padding-bottom: 0cm; padding-left: 5.4pt; width: 213.05pt; padding-right: 5.4pt; border-top: medium none; border-right: windowtext 1pt solid; padding-top: 0cm\" vAlign=\"top\" width=\"284\">\n\n ระบบปฏิบัติการ + สิ่งที่ต้องการค้นหา\n \n</td>\n<td style=\"border-bottom: windowtext 1pt solid; border-left: medium none; padding-bottom: 0cm; padding-left: 5.4pt; width: 213.05pt; padding-right: 5.4pt; border-top: medium none; border-right: windowtext 1pt solid; padding-top: 0cm\" vAlign=\"top\" width=\"284\">\n\n จะได้เครื่องมือต่างๆที่ใช้กับระบบปฏิบัติการที่เราเลือก\n \n</td>\n</tr>\n<tr>\n<td style=\"border-bottom: windowtext 1pt solid; border-left: windowtext 1pt solid; padding-bottom: 0cm; padding-left: 5.4pt; width: 213.05pt; padding-right: 5.4pt; border-top: medium none; border-right: windowtext 1pt solid; padding-top: 0cm\" vAlign=\"top\" width=\"284\">\n\n Thai + หัวข้อที่ต้องการ\n \n</td>\n<td style=\"border-bottom: windowtext 1pt solid; border-left: medium none; padding-bottom: 0cm; padding-left: 5.4pt; width: 213.05pt; padding-right: 5.4pt; border-top: medium none; border-right: windowtext 1pt solid; padding-top: 0cm\" vAlign=\"top\" width=\"284\">\n\n เราจะได้ข้อมูลเกี่ยวกับไทยๆ\n \n</td>\n</tr>\n<tr>\n<td style=\"border-bottom: windowtext 1pt solid; border-left: windowtext 1pt solid; padding-bottom: 0cm; padding-left: 5.4pt; width: 213.05pt; padding-right: 5.4pt; border-top: medium none; border-right: windowtext 1pt solid; padding-top: 0cm\" vAlign=\"top\" width=\"284\">\n\n ใช้คำใน Top Web site\n \n</td>\n<td style=\"border-bottom: windowtext 1pt solid; border-left: medium none; padding-bottom: 0cm; padding-left: 5.4pt; width: 213.05pt; padding-right: 5.4pt; border-top: medium none; border-right: windowtext 1pt solid; padding-top: 0cm\" vAlign=\"top\" width=\"284\">\n\n เช่นเราไปที่ www.download.com และไปดูเครื่องมือ \n หรือสิ่งที่ต้องการแล้วนำมาค้นหา\n \n</td>\n</tr>\n<tr>\n<td style=\"border-bottom: windowtext 1pt solid; border-left: windowtext 1pt solid; padding-bottom: 0cm; padding-left: 5.4pt; width: 213.05pt; padding-right: 5.4pt; border-top: medium none; border-right: windowtext 1pt solid; padding-top: 0cm\" vAlign=\"top\" width=\"284\">\n\n ชื่อบุคคล\n \n</td>\n<td style=\"border-bottom: windowtext 1pt solid; border-left: medium none; padding-bottom: 0cm; padding-left: 5.4pt; width: 213.05pt; padding-right: 5.4pt; border-top: medium none; border-right: windowtext 1pt solid; padding-top: 0cm\" vAlign=\"top\" width=\"284\">\n\n เราจะพบเกียรติประวัติ ความดัง และข้อมูลส่วนตัวของบุคคลนั้นๆ เช่น \n ชื่อ Hacker ที่โปรดปราน หรือ Winnie the pooh เป็นต้น\n \n</td>\n</tr>\n<tr>\n<td style=\"border-bottom: windowtext 1pt solid; border-left: windowtext 1pt solid; padding-bottom: 0cm; padding-left: 5.4pt; width: 213.05pt; padding-right: 5.4pt; border-top: medium none; border-right: windowtext 1pt solid; padding-top: 0cm\" vAlign=\"top\" width=\"284\">\n\n ระบุ Signature ต่างของ Antivirus\n \n</td>\n<td style=\"border-bottom: windowtext 1pt solid; border-left: medium none; padding-bottom: 0cm; padding-left: 5.4pt; width: 213.05pt; padding-right: 5.4pt; border-top: medium none; border-right: windowtext 1pt solid; padding-top: 0cm\" vAlign=\"top\" width=\"284\">\n\n เป็นการหา Signature ของ Antivirus\n \n</td>\n</tr>\n<tr>\n<td style=\"border-bottom: windowtext 1pt solid; border-left: windowtext 1pt solid; padding-bottom: 0cm; padding-left: 5.4pt; width: 213.05pt; padding-right: 5.4pt; border-top: medium none; border-right: windowtext 1pt solid; padding-top: 0cm\" vAlign=\"top\" width=\"284\">\n\n Trend, Statistic, Penetration + คำที่ต้องการ\n \n</td>\n<td style=\"border-bottom: windowtext 1pt solid; border-left: medium none; padding-bottom: 0cm; padding-left: 5.4pt; width: 213.05pt; padding-right: 5.4pt; border-top: medium none; border-right: windowtext 1pt solid; padding-top: 0cm\" vAlign=\"top\" width=\"284\">\n\n เป็นการหาข้อมูลเพื่อดูการแนวโน้ม หรือเอกสารในการอ้างอิง \n หรือบรรยาย\n \n</td>\n</tr>\n<tr>\n<td style=\"border-bottom: windowtext 1pt solid; border-left: windowtext 1pt solid; padding-bottom: 0cm; padding-left: 5.4pt; width: 213.05pt; padding-right: 5.4pt; border-top: medium none; border-right: windowtext 1pt solid; padding-top: 0cm\" vAlign=\"top\" width=\"284\">\n\n Security + คำที่ต้องการ\n \n</td>\n<td style=\"border-bottom: windowtext 1pt solid; border-left: medium none; padding-bottom: 0cm; padding-left: 5.4pt; width: 213.05pt; padding-right: 5.4pt; border-top: medium none; border-right: windowtext 1pt solid; padding-top: 0cm\" vAlign=\"top\" width=\"284\">\n\n ดูข้อมูลเกี่ยวกับความปลอดภัย\n \n</td>\n</tr>\n<tr>\n<td style=\"border-bottom: windowtext 1pt solid; border-left: windowtext 1pt solid; padding-bottom: 0cm; padding-left: 5.4pt; width: 213.05pt; padding-right: 5.4pt; border-top: medium none; border-right: windowtext 1pt solid; padding-top: 0cm\" vAlign=\"top\" width=\"284\">\n\n Software, Tools+ คำที่ต้องการ\n \n</td>\n<td style=\"border-bottom: windowtext 1pt solid; border-left: medium none; padding-bottom: 0cm; padding-left: 5.4pt; width: 213.05pt; padding-right: 5.4pt; border-top: medium none; border-right: windowtext 1pt solid; padding-top: 0cm\" vAlign=\"top\" width=\"284\">\n\n เป็นการค้นหาเครื่องมือ\n \n</td>\n</tr>\n<tr>\n<td style=\"border-bottom: windowtext 1pt solid; border-left: windowtext 1pt solid; padding-bottom: 0cm; padding-left: 5.4pt; width: 213.05pt; padding-right: 5.4pt; border-top: medium none; border-right: windowtext 1pt solid; padding-top: 0cm\" vAlign=\"top\" width=\"284\">\n\n Competition+ คำที่ต้องการ\n \n</td>\n<td style=\"border-bottom: windowtext 1pt solid; border-left: medium none; padding-bottom: 0cm; padding-left: 5.4pt; width: 213.05pt; padding-right: 5.4pt; border-top: medium none; border-right: windowtext 1pt solid; padding-top: 0cm\" vAlign=\"top\" width=\"284\">\n\n ดูเว็บเกี่ยวกับคู่แข่ง\n \n</td>\n</tr>\n<tr>\n<td style=\"border-bottom: windowtext 1pt solid; border-left: windowtext 1pt solid; padding-bottom: 0cm; padding-left: 5.4pt; width: 213.05pt; padding-right: 5.4pt; border-top: medium none; border-right: windowtext 1pt solid; padding-top: 0cm\" vAlign=\"top\" width=\"284\">\n\n Ranking+คำที่ต้องการ\n \n</td>\n<td style=\"border-bottom: windowtext 1pt solid; border-left: medium none; padding-bottom: 0cm; padding-left: 5.4pt; width: 213.05pt; padding-right: 5.4pt; border-top: medium none; border-right: windowtext 1pt solid; padding-top: 0cm\" vAlign=\"top\" width=\"284\">\n\n ดูข้อมูลของซอฟต์แวร์\n \n</td>\n</tr>\n<tr>\n<td style=\"border-bottom: windowtext 1pt solid; border-left: windowtext 1pt solid; padding-bottom: 0cm; padding-left: 5.4pt; width: 213.05pt; padding-right: 5.4pt; border-top: medium none; border-right: windowtext 1pt solid; padding-top: 0cm\" vAlign=\"top\" width=\"284\">\n\n Event\n \n</td>\n<td style=\"border-bottom: windowtext 1pt solid; border-left: medium none; padding-bottom: 0cm; padding-left: 5.4pt; width: 213.05pt; padding-right: 5.4pt; border-top: medium none; border-right: windowtext 1pt solid; padding-top: 0cm\" vAlign=\"top\" width=\"284\">\n\n ดูเกี่ยวกับเหตุการณ์ในหัวข้อที่ค้นหา\n \n</td>\n</tr>\n</tbody>\n</table>\n<o:p> </o:p> \n\nอ้างอิง : <a href=\"http://www.sapaan.net/forum/internet-community/a1ooae1eoeiauaa1-google/?PHPSESSID=002abf7931fa33f7a3cf3e8bc6968d87\">http://www.sapaan.net/forum/internet-community/a1ooae1eoeiauaa1-google/?PHPSESSID=002abf7931fa33f7a3cf3e8bc6968d87</a>\n\n\n <a href=\"http://www.itcomcenter.com/tips-view.asp?id=66&groupid=1&forward=1\">http://www.itcomcenter.com/tips-view.asp?id=66&groupid=1&forward=1</a>\n\n<o:p> </o:p> \n', created = 1727479831, expire = 1727566231, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:538888ed25d1736199819bf8df4c61c3' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.

เมื่อ เสาร์, 05/09/2009 - 14:41 | แก้ไขล่าสุด เสาร์, 05/09/2009 - 14:41| โดย

blm17851

ใบงานที่ 5

เรื่อง
การติดต่อสื่อสารผ่านเครือข่าย

คำชี้แจง : ให้นักเรียนตอบคำถามต่อไปนี้

1.ให้นักเรียนอธิบายการติดต่อสื่อสารโดยผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์

การที่ระบบเครือข่ายมีบทบาทและความสำคัญเพิ่มขึ้น
เพราะไมโครคอมพิวเตอร์ได้รับการใช้งานอย่างแพร่หลาย จึงเกิดความต้องการที่จะเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์เหล่านั้นถึงกับเพื่อเพิ่มขีดความสามารถของระบบให้สูงขึ้น
เพิ่มการใช้งานด้านต่าง ๆ และลดต้นทุนระบบโดยรวมลง
มีการแบ่งใช้งานอุปกรณ์และข้อมูลต่าง ๆ ตลอดจนสามารถทำงานร่วมกันได้

สิ่งสำคัญที่ทำให้ระบบข้อมูลมีขีดความสามารถเพิ่มขึ้น
คือ การโอนย้ายข้อมูลระหว่างกัน และการเชื่อมต่อหรือการสื่อสาร
การโอนย้ายข้อมูลหมายถึงการนำข้อมูลมาแบ่งกันใช้งาน
หรือการนำข้อมูลไปใช้ประมวลผลในลักษณะแบ่งกันใช้ทรัพยากร เช่น แบ่งกันใช้ซีพียู
แบ่งกันใช้ฮาร์ดดิสก์ แบ่งกันใช้โปรแกรม และแบ่งกันใช้อุปกรณ์อื่น ๆ
ที่มีราคาแพงหรือไม่สามารถจัดหาให้ทุกคนได้
การเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์เป็นเครือข่ายจึงเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานให้กว้างขวางและมากขึ้นจากเดิม

"ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ หรือระบบเน็ตเวิร์ค
คือกลุ่มของคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่างๆ ที่ถูกนำมาเชื่อมต่อกันเพื่อให้ผู้ใช้ในเครือข่ายสามารถติดต่อสื่อสาร
แลกเปลี่ยนข้อมูล และใช้อุปกรณ์ต่างๆ ในเครือข่ายร่วมกันได้"
เครือข่ายนั้นมีหลายขนาด
ตั้งแต่ขนาดเล็กที่เชื่อมต่อกันด้วยคอมพิวเตอร์เพียงสองสามเครื่อง
เพื่อใช้งานในบ้านหรือในบริษัทเล็กๆ ไปจนถึงเครือข่ายขนาดใหญ่ที่เชื่อมต่อกันทั่วโลก
ส่วน Home
Network หรือเครือข่ายภายในบ้าน ซึ่งเป็นระบบ LAN (Local
Area Network) ที่คุณผู้อ่านจะได้พบต่อไปนี้
เป็นระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กๆ หมายถึงการนำเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์
มาเชื่อมต่อกันในบ้าน สิ่งที่เกิดตามมาก็คือประโยชน์ในการใช้คอมพิวเตอร์ด้านต่างๆ
เช่น

1. การใช้ทรัพยากรร่วมกัน หมายถึง การใช้อุปกรณ์ต่างๆ เช่น
เครื่องพิมพ์ร่วมกัน กล่าวคือ มีเครื่องพิมพ์เพียงเครื่องเดียว
ทุกคนในเครือข่ายสามารถใช้เครื่องพิมพ์นี้ได้ ทำให้สะดวกและประหยัดค่าใช้จ่าย
เพราะไม่ต้องลงทุนซื้อเครื่องพิมพ์หลายเครื่อง (นอกจากจะเป็นเครื่องพิมพ์คนละประเภท)

2. การแชร์ไฟล์
เมื่อคอมพิวเตอร์ถูกติดตั้งเป็นระบบเน็ตเวิร์คแล้ว
การใช้ไฟล์ข้อมูลร่วมกันหรือการแลกเปลี่ยนไฟล์ทำได้อย่างสะดวกรวดเร็ว
ไม่ต้องอุปกรณ์เก็บข้อมูลใดๆ ทั้งสิ้นในการโอนย้ายข้อมูลตัดปัญหาเรื่องความจุของสื่อบันทึกไปได้เลย
ยกเว้นอุปกรณ์ในการจัดเก็บข้อมูลหลักอย่างฮาร์ดดิสก์
หากพื้นที่เต็มก็คงต้องหามาเพิ่ม

3. การติดต่อสื่อสาร
โดยคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อเป็นระบบเน็ตเวิร์ค
สามารถติดต่อพูดคุยกับเครื่องคอมพิวเตอร์อื่น โดยอาศัยโปรแกรมสื่อสารที่มีความสามารถใช้เป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ได้เช่นเดียวกัน
หรือการใช้อีเมล์ภายในก่อให้เครือข่าย Home Network หรือ Home
Office จะเกิดประโยชน์นี้อีกมากมาย

4. การใช้อินเทอร์เน็ตร่วมกัน
คอมพิวเตอร์ทุกเครื่องที่เชื่อมต่อในระบบ เน็ตเวิร์ก

สามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตได้ทุกเครื่อง โดยมีโมเด็มตัวเดียว
ไม่ว่าจะเป็นแบบอนาล็อกหรือแบบดิจิตอลอย่าง ADSL ยอดฮิตในปัจจุบัน

ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งขององค์กร
สถาบันการศึกษาและบ้านไปแล้วการใช้ทรัพยากรร่วมกันได้ทั้งไฟล์ เครื่องพิมพ์
ต้องใช้ระบบเครือข่ายเป็นพื้นฐาน ระบบเครือข่ายจะหมายถึง การนำคอมพิวเตอร์ตั้งแต่
2 เครื่องขึ้นไปมาเชื่อมต่อกันเพื่อจะทำการแชร์ข้อมูล และทรัพยากรร่วมกัน เช่น
ไฟล์ข้อมูลและเครื่องพิมพ์ ระบบเครือข่ายสามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ด้วยกันคือ

1. LAN (Local Area Network) ระบบเครื่องข่ายท้องถิ่น
เป็นเน็ตเวิร์คในระยะทางไม่เกิน 10 กิโลเมตร
ไม่ต้องใช้โครงข่ายการสื่อสารขององค์การโทรศัพท์
คือจะเป็นระบบเครือข่ายที่อยู่ภายในอาคารเดียวกันหรือต่างอาคาร ในระยะใกล้ๆ

2. MAN (Metropolitan Area Network) ระบบเครือข่ายเมือง
เป็นเน็ตเวิร์คที่จะต้องใช้โครงข่ายการสื่อสารขององค์การโทรศัพท์
หรือการสื่อสารแห่งประเทศไทย เป็นการติดต่อกันในเมือง เช่น
เครื่องเวิร์กสเตชั่นอยู่ที่สุขุมวิท
มีการติดต่อสื่อสารกับเครื่องเวิร์กสเตชั่นที่บางรัก

3. WAN (Wide Area Network) ระบบเครือข่ายกว้างไกล
หรือเรียกได้ว่าเป็น World Wide ของระบบเน็ตเวิร์ค
โดยจะเป็นการสื่อสารในระดับประเทศ ข้ามทวีปหรือทั่วโลก จะต้องใช้มีเดีย (Media)
ในการสื่อสารขององค์การโทรศัพท์ หรือ การสื่อสารแห่งประเทศไทย
(คู่สายโทรศัพท์ dial-up / คู่สายเช่า Leased line /
ISDN) (integrated Service Digital Network สามารถส่งได้ทั้งข้อมูล
เสียง และภาพในเวลาเดียวกัน)

อ้างอิง : http://web.ku.ac.th/schoolnet/snet1/hardware/network.html http://web.ku.ac.th/schoolnet/snet1/network/network/index.html

2.ให้นักเรียนบอกอุปกรณ์สื่อสารสำหรับเชื่อมโยงเครือข่ายพร้อมรูปภาพประกอบ

การเชื่อมต่อในความหมายของระบบเครือข่ายท้องถิ่น
ไม่ได้จำกัดอยู่ที่การเชื่อมต่อระหว่างเครื่องไมโครคอมพิวเตอร์
แต่ยังรวมไปถึงการเชื่อมต่ออุปกรณ์รอบข้าง
เทคโนโลยีที่ก้าวหน้าทำให้การทำงานเฉพาะมีขอบเขตกว้างขวางยิ่งขึ้น
มีการใช้เครื่องบริการแฟ้มข้อมูลเป็นที่เก็บรวบรวมแฟ้มข้อมูลต่างๆ
มีการทำฐานข้อมูลกลาง มีหน่วยจัดการระบบสื่อสารหน่วยบริการใช้เครื่องพิมพ์
หน่วยบริการการใช้ซีดี หน่วยบริการปลายทาง
และอุปกรณ์ประกอบสำหรับต่อเข้าในระบบเครือข่ายเพื่อจะทำงานเฉพาะเจาะจงอย่างใดอย่างหนึ่ง
ในรูป เป็นตัวอย่างเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่จัดกลุ่มเชื่อมโยงเป็นระบบ

เครือข่ายคอมพิวเตอร์ก่อให้เกิดความสามารถในการปฏิบัติการร่วมกัน
ซึ่งหมายถึงการให้อุปกรณ์ทุกชิ้นที่ต่ออยู่บนเครือข่ายทำงานร่วมกันได้ทั้งหมดในลักษณะที่ประสานรวมกัน
โดยผู้ใช้เห็นเสมือนใช้งานในอุปกรณ์เดียวกัน
จึงเป็นวิธีการในการนำเอาอุปกรณ์ต่างชนิดจำนวนมาก มารวมกันเป็นเสมือนระบบเดียวกัน
ทั้ง ๆ ที่อุปกรณ์เหล่านั้นอาจจะมาจากต่างยี่ห้อ ต่างบริษัท ก็ได้

หากผู้ใช้มีความคิดที่จะนำเอาเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลมาต่อเป็นระบบ
โดยใช้ขีดความสามารถเดิมที่มีอยู่ สามารถทำได้ด้วยวิธีการง่าย ๆ ดังนี้

1) การต่อเชื่อมผ่านช่องทาง COM1 COM2 และ LPT เป็นวิธีที่นำคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ต่อผ่านช่องทาง COM1
หรือ COM2 เพื่อการเคลื่อนย้ายข้อมูลระหว่างนั้น
ในกรณีนี้ใช้โปรแกรมอรรกประโยชน์ (utility program) บางตัวก็สามารถสำเนาแฟ้มข้อมูลระหว่างกัน
หรือส่งออกไปยังเครื่องพิมพ์ร่วมกันได้ รูปแบบการต่อระบบโดยอาศัย COM1 COM2 และ LPT การต่อในลักษณะนี้ใช้ช่องทาง
RS232 และมีการส่งข้อมูลแบบอนุกรม
ปัจจุบันสามารถทำการรับส่งข้อมูลถึงกันได้เร็วถึง 38.4 กิโลบิตต่อวินาที
การจัดการระบบง่าย ๆ นี้ไม่จำเป็นต้องลงทุนอะไรมาก
แต่ประโยชน์ที่ได้จะอยู่ในวงจำกัด โดยเฉพาะในเรื่องการโอนย้ายแฟ้มข้อมูลระหว่างกัน

2) การต่อเชื่อมเข้ากับบัฟเฟอร์เครื่องพิมพ์ การแบ่งกันใช้เครื่องพิมพ์เป็นวิธีการใช้ทรัพยากรเครื่องพิมพ์ให้เกิดประโยชน์มากยิ่งขึ้น
การใช้เครื่องพิมพ์ที่มีราคาแพง มีคุณภาพดี เช่น เครื่องพิมพ์ความเร็วสูง
เครื่องพิมพ์เลเซอร์ เครื่องพิมพ์ที่พิมพ์สีได้ เป็นต้น
การใช้เครื่องพิมพ์ร่วมกันวิธีหนึ่งก็คือ การต่อเข้ากับบัฟเฟอร์ของเครื่องพิมพ์
ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ใช้เก็บข้อมูลที่ส่งมาจากเครื่องคอมพิวเตอร์หลายเครื่อง
แล้วจัดการส่งงานทยอยพิมพ์เรียงกันไป
เครื่องพิมพ์ที่ต่อกับบัฟเฟอร์จะต่อผ่านช่องทางขนานเหมือนการต่อทั่วไป อย่างไรก็ดี
บัฟเฟอร์ของเครื่องพิมพ์บางรุ่นสามารถต่อกับเครื่องพิมพ์ได้หลายเครื่อง

3)
การเชื่อมต่อโดยใช้ระบบสลับสายข้อมูล เป็นวิธีการต่อขยายระบบโดยใช้ระบบง่าย
ๆ ที่ใช้มือช่วย ระบบสลับสายข้อมูลทำหน้าที่เหมือนชุมสายโทรศัพท์ระบบเก่า
ที่ต้องมีพนักงานรับโทรศัพท์คอยสลับสายให้ใช้งานตามความต้องการ เช่น ใช้สายยูทีพี
โดยให้หัวต่อเป็นแบบ RJ45 การสลับสายจะเชื่อมตัวระหว่างหัวต่อ RJ45 ที่มารวมกันไว้อยู่บนแผงร่วมกัน
ส่วนของแผงนี้จะเป็นเสมือนส่วนที่รวมสาย ปัจจุบันมีแผงสลับสายข้อมูลให้ผู้ใช้เลือกใช้ทั้งอีเธอร์เน็ตแบบเท็นเบสที
หรือแบบอนุกรมผ่านช่องทาง RS232
การใช้ระบบสลับสายข้อมูลเป็นการเชื่อมเครือข่ายคอมพิวเตอร์แบบง่าย ๆ
แต่สามารถปรับเปลี่ยนระบบได้อย่างรวดเร็วและสะดวกต่อการใช้งาน

4) การเชื่อมต่อผ่านระบบผู้ใช้หลายคนหลายช่องทาง ระบบผู้ใช้หลายคนขนาดเล็กที่อยู่บนไมโครคอมพิวเตอร์มีหลายระบบ
เช่น ระบบยูนิกซ์ ระบบเอสซีโอ
ระบบดังกล่าวสามารถต่อเชื่อมขยายเข้ากับสถานีย่อยได้มาก
เป็นระบบที่ใช้งานร่วมกันได้ในราคาประหยัด มีซอฟต์แวร์สนับสนุนอยู่มากเช่น
ระบบจัดการฐานข้อมูลที่มีระบบรักษาความปลอดภัย ข้อเด่นของระบบผู้ใช้หลายคนในเครื่องคอมพิวเตอร์พีซีที่เห็นได้ชัด
ได้แก่ ระบบปฏิบัติการยูนิกซ์ ซึ่งเป็นระบบที่ให้ผู้ใช้งานพร้อมกันได้หลายคน
หลายงาน มีการพัฒนาซอฟต์แวร์ประยุกต์และซอฟต์แวร์ระบบสื่อสารไว้มาก
มีระบบรักษาความปลอดภัยที่ดี มีการต่อช่องทางเข้าออกไปได้หลายแบบ เช่น
แบบเป็นสถานีปลายทาง RS232 ผ่านทางเส้นใยนำแสง
อีกทั้งมีระบบเครือข่ายท้องถิ่นที่เชื่อมต่อตามมาตรฐานสากล
ทำให้การทำงานของระบบประสบผลสำเร็จ

อ้างอิง : http://web.ku.ac.th/schoolnet/snet1/hardware/connect/connect.html

ใบงานที่ 6

เรื่อง
การค้นหาโดยใช้เทคโนโลยี

คำชี้แจง : ให้นักเรียนตอบคำถามต่อไปนี้

1.ให้นักเรียนบอกความหมายและประเภทของการค้นหาอย่างละเอียด

เมื่อข่าวสารข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตมีมากมาย
ทำให้ระบบการค้นหาเป็นเรื่องที่สำคัญมากยิ่งขึ้น เมื่อผู้ใช้อินเทอร์เน็ตต้องการเครื่องมือในการค้นหา
จึงมีผู้พัฒนาระบบค้นหาข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตที่เรียกว่า Search Engine และสร้างสถานีบริการไว้บนอินเทอร์เน็ต

การพิมพ์ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์มีอัตราที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
เชื่อกันว่าข้อมูลข่าวสารที่จัดพิมพ์ในรูป Web หรือโฮมเพ็จเพื่อเผยแพร่บนอินเทอร์เน็ต
มีมากกว่า 1000 ล้านหน้า (1000 หน้า URL
reference) เมื่อข้อมูลข่าวสารบนอินเทอร์เน็ตมีมากมายเช่นนี้
ทำให้ระบบการค้นหาเป็นเรื่องที่สำคัญมากยิ่งขึ้น
เมื่อผู้ใช้อินเทอร์เน็ตต้องการเครื่องมือในการค้นหา จึงมีผู้พัฒนาระบบค้นหาข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตที่เรียกว่า
Search Engine และสร้างสถานีบริการไว้บนอินเทอร์เน็ต

สถานีบริการที่ใช้ในการค้นหาข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตที่รู้จักกันดีมีหลายแห่ง
เช่น yahoo.com,
altavista.com excite.com, webcrawler.com เป็นต้น
สถานีบริการเหล่านี้จึงเป็นที่รู้จักและใช้ประโยชน์กันอย่างกว้างขวาง โดยผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทุกคนรู้จักกันดี
แต่หากพิจารณาข้อมูลที่อยู่บนอินเทอร์เน็ตกว่าหนึ่งพันล้านหน้า
ระบบการค้นหาที่ให้บริการอยู่นี้ยังไม่สามารถเก็บดัชนีค้นหาและให้การค้นหาได้ครบทุกแห่ง
จากการประมาณการของสถานีค้นหาที่ใหญ่ที่สุด เช่น yahoo.com หรือ
altavista.com จะค้นหาข้อมูลได้ไม่ถึงครึ่งของเอกสารที่มีอยู่ในอินเทอร์เน็ต

หากนำข้อมูลของหนังสือทุกเล่มจากห้องสมุดรัฐสภาอเมริกันมาเก็บรวมกันในรูปดิจิตอล
มีผู้คำนวณดูว่าถ้าจะเก็บในรูป ASCII จะได้ประมาณ 20 เทราไบต์ (โดยมีหนังสือในห้องสมุดประมาณ 20 ล้านเล่ม)
และข้อมูลในอินเทอร์เน็ตที่เรียกดูได้ทั้งหมดจะรวมกัน น่าจะอยู่ที่ประมาณ 14 เทราไบต์ อัตราการเพิ่มของข้อมูลที่มีมากกว่า 20 เปอร์เซ็นต์ต่อปี
ดังนั้นในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า
ข้อมูลที่เก็บในอินเทอร์เน็ตที่เรียกดูได้แบบสาธารณะน่าจะมีมากกว่า 100 เทราไบต์

หลักการของเครื่องค้นหาที่สำคัญคือโปรแกรมหุ่นยนต์
ที่จะทำงานอัตโนมัติ และวิ่งเข้าไปซอกแซกในอินเทอร์เน็ต
พร้อมคัดลอกข้อมูลมาจัดทำดัชนี
และจัดโครงสร้างไว้ในฐานข้อมูลเพื่อจะเอื้อประโยชน์ให้ผู้เรียกค้นดูได้
โปรแกรมหุ่นยนต์นี้จะต้องทำงานเป็นระยะและวนกลับมาปรังปรุงข้อมูลใหม่
เพราะข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตมีการเปลี่ยนแปลงเร็วมาก

การค้นหาข้อมูล(search engine)

ปัจจุบันนี้
เสิร์ช เอ็นจิ้น (search engine) กลายมาเป็นสิ่ง จำเป็น
สำหรับการท่องโลกอินเตอร์เน็ต เพราะหาก ไม่มีบริการ ช่วยค้นหาข้อมูล เหล่านี้ เราต้องใช้เวลานับหลายชั่วโมง
หรือเป็นวัน ที่จะค้นหาข้อมูล ที่เราต้องการ จะใช้งานครบ ซึ่งเสิร์ช เอ็นจิ้น
ก็มีมากมาย หลายเจ้า ให้เราได้เลือกใช้งาน กัน ซึ่ง แต่ละเจ้า ก็มีวิธี การที่
ใช้ค้นหาาข้อ มูล ที่แตกต่างกัน เราสามารถแบ่ง เว็บไซต์ ที่ให้บริการค้นหาข้อมูล
ออกเป็น ประเภทใหญ่ ๆ ได้ 2 ประเภท ได้แก่

1.การบริการค้นหาโดยใช้ อินเด็กซ์ (index)

เราคง เคยได้ยินชื่อ เสิร์ช
เอ็นจิ้น อย่าง อัลตาวิสต้า (AltaVista/www.altavista.digital.com) และฮ็อทบ็อท
(HotBot/www.hotbot.com) ทั้งสอง เป็นตัวอย่างของเสิร์ช
เอ็นจิ้นนี้ หลักการคือ เขาจะมีโปรแกรมตัวหนึ่ง เป็นตัวสแกน ไปตามเว็บไซต์ต่าง ๆ
เรียกว่า โปรแกรม สไปเดอร์ การค้นหา ข้อมูลโดยใ ช้ อินเด็กซ์

2.การบริการค้นหา ข้อมูลตามหมวดหมู่ (directory)

เสิร์ช เอ็นจิ้น ชื่อดังอีก 2 ตัว
ได้แก่ ยาฮู (Yahoo!/www.yahoo.com)และแมกเจลแลน (Magellan/www.magellan.com)
เลือกใช้เทคนิคนี้ โดยใช้มนุษย์ เป็นคนจัดหมวดหมู่ ของเว็บไซต์
และคอย ปรับปรุงให้ขอมูล ทันสมัยอยู่เสมอ เนื่องจากบัญชี รายชื่อเว็บไซต์
ได้ผ่านการจัด หมวดหมู่โดยมนุษย์ ดังนั้น ในรายชื่อก็จะมี รายละเอียด คร่าว ๆเกี่ยวกับเว็บไซต์
ที่เพิ่มเติม ลงไป ข้อของการค้นหาแบบนี้คือ จะสามารถตีกรอบผลลัพธ์ ออกมาตรง
กับความ ต้องการ มากขึ้น เช่น เราลองใส่คำว่า "Spider" ในยาฮู! ค้นหาดู เราจะได้รายการของ หมวดหมู่ออกมา

อ้างอิง :
http://www.ku.ac.th/magazine_online/search_engine.html

http://www.geocities.com/teach_m02/in7pag4.html

2.ให้นักเรียนบอกเทคนิคในการค้นหาข้อมูล โดยใช้ www.google.co.th

วิธีที่หนึ่ง

พิมพ์คำเหล่านี้ ใน Google Search

(1) " parent directory " /spectralab 4.3213/ -xxx
-html -htm -php -shtml -opendivx -md5 -md5sums

(2) " parent directory " DVDRip -xxx -html -htm -php -shtml -opendivx
-md5 -md5sums

(3) " parent directory "Xvid -xxx -html -htm -php -shtml -opendivx -md5 -md5sums

(4) " parent directory " Gamez -xxx -html -htm -php -shtml -opendivx
-md5 -md5sums

(5) " parent directory " MP3 -xxx -html -htm -php
-shtml -opendivx -md5 -md5sums

(6) " parent directory " Name of Singer or album -xxx -html -htm -php
-shtml -opendivx -md5 -md5sums

หมายเหตุ ให้คุณเปลี่ยน คำที่ตามหลัง
parent
directory เช่น MP3 Gamez appz DVDRip เป็นสิ่งที่คุณอยากได้ แล้วก้อค้นหา คุณจะพบกับ ความมหัศจรรย์ใน Google

วิธีที่สอง

พิมพ์คำต่อไปนี้ใน Google

?intitle:index.of? mp3

จากนั้นแค่เพิ่มชื่อ เพลง อัลบั้ม นักร้อง ลงไป เช่น ?intitle:index.of?
mp3 myfavoritesongs

วิธีที่สาม

พิมพ์คำต่อไปนี้ใน Google

inurl:micr0s0f filetype:iso

จากนั้น ก้อเปลี่ยน คำว่า micr0s0f
กับคำว่า iso เป็นคำที่คุณต้องการ เช่น inurl:myc0mpany filetype:zip

เพิ่มเติม

1.Google จะใช้ and (และ) อยู่ในประโยคเสมอ
เช่น ค้นหา harvest moon back to nature Google จะค้นหาแบบ harvest
AND moon AND back... (พูดง่ายๆคือค้นหาแบบแยกคำ)

2. การใช้ OR (หรือ) คือการให้ Google หาข้อมูลมากขึ้นจาก
คำA และ คำB (พูดง่ายๆ คือนำผลที่ได้
มารวมกันรวมกัน) วิธีใช้ พิมพ์ OR ด้วยตัวใหญ่ระหว่างคำที่ต้องการ
เช่น vacation london OR paris
คือหาทั้งใน London และ Paris

3. Google จะละคำทั่วๆไป (เช่น the, to, of) และตัวอักษรเดี่ยว เพราะจะทำให้ค้นหาช้าลง
แต่ถ้าคำพวกนั้นสามารถช่วยให้หาข้อมูลง่ายขึ้น ก็ต้องใช้เครื่องหมาย + ช่วยโดยนำไปอยู่หน้าคำนั้น
(ต้องเว้นวรรคก่อนด้วย) เช่น back +to nature หรือ final
fantasy +x

4. Google สามารถกันขอบเขตการค้นหาให้เล็กลงด้วยการใช้ Advanced
Search หรือ การค้นหา แบบพิเศษ ใน Google ภาษาไทย

5. Google สามารถตัดคำพ้องรูปได้โดยใช้เครื่องหมาย - ช่วยโดยการนำไปอยู่คำที่จะตัด
เช่น คำว่า bass มี 2 ความหมายคือ เกี่ยวกับปลา
และดนตรีเราจะตัดที่มีความหมายเกี่ยวกับดนตรีออกโดยพิมพ์ bass -music หมายความว่า bass ที่ไม่มีคำว่า music นอกจากนี้มันยังสามารถตัดอย่างอื่นได้อีก เช่น "front mission
3" -filetype pdf หมายความว่า
เรื่องเกี่ยวกับ front mission 3 แต่ไม่แสดงไฟล์ PDF

6. การค้นหาแบบทั้งวลี (คือการค้นหาทั้งกลุ่มคำ) ให้ใช้เครื่องหมาย "
" เช่น "Breath of fire IV"

7. Google สามารถแปลเว็บภาษา Italian, French, Spanish,
German, และ Portuguese เป็น ภาษาอังกฤษได้ (โดยคลิ้กที่คำว่า
"Translate this page" ด้านข้างชื่อเว็บ)

8. Google สามารถหาไฟล์ในรูปแบบอื่นๆที่ไม่ใช่ HTML
ได้ ประเภทไฟล์ที่รองรับคือ

Adobe Portable Document Format (นามสกุลของไฟล์ pdf)

Adobe PostScript (นามสกุลของไฟล์ ps)

Lotus 1-2-3 (นามสกุลของไฟล์ wk1,
wk2, wk3, wk4, wk5, wki, wks, wku)

Lotus WordPro (นามสกุลของไฟล์ lwp)

MacWrite (นามสกุลของไฟล์ mw)

Microsoft Excel (นามสกุลของไฟล์ xls)

Microsoft PowerPoint (นามสกุลของไฟล์ ppt)

Microsoft Word (นามสกุลของไฟล์ doc)

Microsoft Works (นามสกุลของไฟล์ wks, wps, wdb)

Microsoft Write (นามสกุลของไฟล์ wri)

Rich Text Format (นามสกุลของไฟล์ rtf)

Text (นามสกุลของไฟล์ ans หรือ txt)

วิธีใช้ filetype:นามสกุลของไฟล์ เช่น "Chrono
Cross" filetype:pdf หมายความว่าเอกสารของ Chrono Cross
ที่เป็น PDF และมันยังมีความสามารถดูไฟล์เหล่านั้นในรูปแบบของ
HTML ได้ (โดยคลิ้ก View as HTML หรือ
รูปแบบ HTML ใน Google ไทย)

9. Google สามารถเก็บ Cached ของเว็บที่จะเข้าชมไว้ได้
(โดยคลิ้กที่ Cached หรือ ถูกเก็บไว้ ใน Google ภาษาไทย) ประโยชน์ของมันคือช่วยให้เราสามารถเข้าเว็บบางเว็บที่อาจโดนลบไปแล้ว
โดยข้อมูลที่ได้เป็นข้อมูลก่อนถูกลบ (ใหม่สุดที่มันจะมีได้)

10.Google สามารถค้นหาหน้าที่คล้ายกัน (โดยคลิ้ก Similar
pages หรือ หน้าที่คล้ายกัน ใน Google ภาษาไทย)
โดยจะค้นหาข้อมูลที่คล้ายๆ กันให้เรา เช่น ถ้าเรากำลังหาข้อมูลการวิจัย
ความสามารถนี้จะช่วยให้หาข้อมูลได้มากมายในเวลาที่รวดเร็วโดยไม่ต้องเป็นห่วงเรื่อง
keyword

11.Google สามารถค้นหา link ทั้งหมดที่เชื่อมไปยังเว็บนั้นได้
วิธีใช้ link:ชื่อ URL เช่น link:www.google.com
แต่คุณไม่สามารถใช้ความสามารถนี้ร่วมกับการหาแบบอื่นๆ ได้

12.Google สามารถค้นหาเว็บที่จำเพาะเจาะจงได้ โดยพิมพ์
คำที่คุณต้องการเจาะจง site:ชื่อ URL เช่น
ถ้าคุณต้องการหาเว็บเกี่ยวกับการเข้า (admission) มหาวิทยาลัย
Stanford ให้พิมพ์ admission site:www.stanford.edu

13.ถ้าคุณมีเวลาน้อย (และคิดว่าโชคดี) Google มีบริการการค้นหาด่วน (ชื่อบริการ I'm Feeling Lucky) โดยที่ Google จะนำเว็บที่อยู่ลำดับแรกของการค้นหา
ส่งให้คุณเลย (link ไปเว็บนั้นให้เสร็จ) เช่น คุณต้องการค้นหาเว็บมหาวิทยาลัย
Stanford อย่างด่วนให้พิมพ์ Stanford แล้วกด
I'm Feeling Lucky หรือ ใช่เลย! เจอแน่ๆ ใน Google ไทย

14.Google สามารถหาแผนที่ของสหรัฐอเมริกาได้โดยพิมพ์
ที่อยู่ ชื่อถนน พร้อมด้วยชื่อรัฐ เช่น 165 University Ave Palo Alto CA Google จะจัดการส่งแผนที่คุณภาพสูงมาให้คุณ

15.Google สามารถหาเบอร์โทร (เฉพาะอเมริกา) หรือพิมพ์เบอร์โทรแล้วหาบริษัทได้โดยพิมพ์

first name (or first initial), last name, city (state is optional)

first name (or first initial), last name, state

first name (or first initial), last name, area code

first name (or first initial), last name, zip code

phone number, including area code

last name, city, state

last name, zip code

แล้วแต่ว่าคุณจะใช้แบบไหน

16.Google สามารถค้นหา Catalog สินค้าได้
(เข้าไปที่ http://catalogs.google.com)

17.Google สามารถเก็บข้อมูลลักษณะการใช้ที่คุณต้องการได้โดยเข้าไปที่
Preferences หรือ ตัวเลือก ใน Google ไทย

คำที่ช่วยในการหาข้อมูลคีย์ที่ใช้	สิ่งที่จะได้
คำที่ต้องการค้นหา	แน่นอนไม่ต้องบอกก็รู้อยู่แล้ว
Top ten, Top hits + คำที่ต้องการ	จะได้เครื่องมือ สถิติ หรือข้อมูลที่อยู่ในกระแส รวมถึงแหล่งข้อมูล
Free download + ชื่อซอฟต์แวร์	จะได้ซอฟต์แวร์ที่ต้องการ หลายครั้งจะแถม Spyware ด้วยระวัง
ระบบปฏิบัติการ + สิ่งที่ต้องการค้นหา	จะได้เครื่องมือต่างๆที่ใช้กับระบบปฏิบัติการที่เราเลือก
Thai + หัวข้อที่ต้องการ	เราจะได้ข้อมูลเกี่ยวกับไทยๆ
ใช้คำใน Top Web site	เช่นเราไปที่ www.download.com และไปดูเครื่องมือ หรือสิ่งที่ต้องการแล้วนำมาค้นหา
ชื่อบุคคล	เราจะพบเกียรติประวัติ ความดัง และข้อมูลส่วนตัวของบุคคลนั้นๆ เช่น ชื่อ Hacker ที่โปรดปราน หรือ Winnie the pooh เป็นต้น
ระบุ Signature ต่างของ Antivirus	เป็นการหา Signature ของ Antivirus
Trend, Statistic, Penetration + คำที่ต้องการ	เป็นการหาข้อมูลเพื่อดูการแนวโน้ม หรือเอกสารในการอ้างอิง หรือบรรยาย
Security + คำที่ต้องการ	ดูข้อมูลเกี่ยวกับความปลอดภัย
Software, Tools+ คำที่ต้องการ	เป็นการค้นหาเครื่องมือ
Competition+ คำที่ต้องการ	ดูเว็บเกี่ยวกับคู่แข่ง
Ranking+คำที่ต้องการ	ดูข้อมูลของซอฟต์แวร์
Event	ดูเกี่ยวกับเหตุการณ์ในหัวข้อที่ค้นหา

อ้างอิง : http://www.sapaan.net/forum/internet-community/a1ooae1eoeiauaa1-google/?PHPSESSID=002abf7931fa33f7a3cf3e8bc6968d87

http://www.itcomcenter.com/tips-view.asp?id=66&groupid=1&forward=1

blm17851's blog |

ล็อกอิน เพื่อแสดงความคิดเห็น |

อ่าน 791 ครั้ง

Thaigoodview

ของขวัญ ของที่ระลึก Miori Jung Handmade

ช่วยด้วยครับ
นักเรียนที่สร้างบล็อก กรุณาอย่า
คัดลอกข้อมูลจากเว็บอื่นทั้งหมด
ควรนำมาจากหลายๆ เว็บ แล้ววิเคราะห์ สังเคราะห์ และเขียนขึ้นใหม่
หากคัดลอกทั้งหมด จะถูกดำเนินคดี
ตามกฎหมายจากเจ้าของลิขสิทธิ์
มีโทษทั้งจำคุกและปรับในอัตราสูง

ช่วยกันนะครับ
ไทยกู๊ดวิวจะได้อยู่นานๆ
ไม่ถูกปิดเสียก่อน
ขอขอบคุณในความร่วมมือครับ

อ่านรายละเอียด

ด่วน...... ขณะนี้
พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558
มีผลบังคับใช้แล้ว
ขอให้นักเรียนและคุณครูที่ใช้งาน
เว็บ thaigoodview ในการส่งการบ้าน
ระมัดระวังการละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย
อ่านรายละเอียดที่นี่ครับ

โรงเรียนเครือข่ายจัดกิจกรรม บล็อก(Blog) เครื่องมือสำหรับครูยุคใหม่ เพื่อใช้ในการจัดการเรียนรู้

เปลี่ยนชื่อผู้ใช้งาน/เพิ่มพื้นที่เก็บภาพ

สมาชิกที่ออนไลน์

ขณะนี้มี สมาชิก 0 คน และ ผู้เยี่ยมชม 355 คน กำลังออนไลน์

Copyright © 2000-2024 thaigoodview.com | ออกแบบและพัฒนาระบบโดย ไทยกู๊ดวิวดอทคอม
สงวนสิทธิ์ภายใต้สัญญาอนุญาต Creative Commons Attribution-Noncommercial-Share Alike 3.0 Unported License.
ท่านสามารถนำเนื้อหาไปใช้ แสดง ดัดแปลง เผยแพร่ โดยต้องอ้างอิงที่มา ห้ามใช้เพื่อการค้า และต้องใช้สัญญาอนุญาตชนิดเดียวกันนี้ไปกับงานดัดแปลงต่อยอดที่เผยเผยแพร่ต่อ

ใบงานที่5 และ ใบงานที่ 6

นำทาง

สมาชิกที่ออนไลน์